ติ๊ด ติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ดดดดดดชีพจรที่เคยดังเป็นจังหวะ ส่งสัญญาณยาวพรืดบ่งบอกชัดเจนว่าการเต้นของหัวใจของคนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้นั้นได้หยุดลงอย่างกะทันหัน พยาบาลและหมอเถื่อนที่สัมผัสได้ว่าหายนะกำลังจะมาถึง เมื่อหนึ่งในคนไข้ที่มาผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกกับหมอกระเป๋าโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บัดนี้การผ่าตัดผิดพลาดจนเสียเลือดมากเกินไปร่างเล็กของ ‘นางสาวบี’ กระตุกช็อกจากอาการเสียเลือดขั้นรุนแรงและเข้าสู่อาการโคม่าในสภาพกึ่งเปลือยคาห้องผ่าตัด เปิดเปลือยอกไข่ดาวสู่สาธารณะชน ซิลิโคนปลอมในมือหมอยังชุ่มเลือด ทั้งพยาบาลและหมอเถื่อนต่างรีบหาทางหนีทีไล่เมื่อเผลอทำให้คนไข้ที่มาศัลยกรรมด้วยเจอพิษมีดหมอกระเป๋าดับอนาถสิ้นใจคาห้องผ่าตัดเล็กๆ แห่งนี้ ด้วยศพนี้อาจจะทำให้ตำรวจรวบตัวเองและจบสิ้นอนาคตหมอศัลยกรรมหน้าใหม่ผู้ร่ำรวย‘ว่าแล้วไง! อีนังผึ้งนี่มันต้องเป็นหมอเถื่อนชัวร์ป้าบ’ กว่าจะรู้สึกตัวว่าวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว นางสาวบีที่นั่งขัดสมาธิล่องลอยอยู่เหนือร่างกายอเนจอนาถที่นอนไร้ลมหายใจอยู่เบื้องล่างตบเข่าฉาด ‘ต้องไปเข้าฝันบอกแม่ไหมเนี่ย แต่ก่อนอื่นต้องไปตามหลอกหลอนอีหมอผึ้งนี่ก่อนเลย’เป็นวิญญาณอาฆาตตั
“บัวงาม นี่เอ็งจำแม่มิได้รึ!”คุณหญิงจันทร์งามทำท่าลมจะจับอีกรอบเมื่อเห็นว่าหลังจากที่บุตรสาวนามว่า ‘บัวงาม’ ล้มป่วยหลังจากข่าวการตายของชายอันเป็นที่รัก นางก็นอนซมไม่ได้สติมาสามวัน จนวันนี้ที่ลูกฟื้นขึ้นมา ดันเกิดอาการความจำเลอะเลือน จนจำแม้กระทั่งมารดาที่เป็นคนเบ่งนางออกมามิได้“ใครคือบัวงามอ่ะป้า ฉันเหรอ?” ว่าพลางชี้ไปที่ตนเอง คุณหญิงจันทร์งามถึงกับรับไม่ได้เดินหนีไปทางอื่นจนเด็กสาวที่นั่งอยู่รั้งไว้ไม่ทัน นางสาวบีขมวดคิ้วยุ่ง ไม่เข้าใจคุณป้าการละคร แต่กลับสากคอ หิวน้ำเหลือเกิน “นี่ พวกพี่ๆ น่ะ มีน้ำไหม ถ้ามีเอามาให้ฉันที”“จะ... เจ้าค่ะคุณบัวงาม” ผู้หญิงผมสั้นนุ่งผ้ารัดอกเหล่านั้นมีท่าทางกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ยอมเอาน้ำใส่ขันมาให้หญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงไม้สักแต่โดยดี แม้ว่านางสาวบีจะสงสัยในชื่อบัวงามที่หลุดออกมาจนนับคำได้ของทั้งสาวใช้และป้าคนเมื่อกี้ เลยได้แต่มองไปรอบๆ ห้องที่ตนอยู่ เครื่องตบแต่งดูไท๊ยไทย โบราณเสียจนต้องพลั้งปากถามออกไป“นี่ ฉันอยู่ที่ไหนเหรอ”“นะ... นี่คุณบัวงามจำกระไรมิได้จริงๆ หรือเจ้าคะ?” นั่นเป็นคำถามที่ดูจะตื่นตระหนกของพวกหล่อน แต่เธอก็พยักหน้ารับตามตรง“อื้ม จำอ
เมื่อหญิงสาวล้มลงอาเจียน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใหญ่ดังขึ้นอย่างหนักแน่น พร้อมกับเสียงเลือดที่หยดลงมาตามทางของร่างนั้นกำลังตรงมาทางหล่อนอย่างเชื่องช้าเป็นจังหวะขนหัวลุก เสียงเหยียบอวัยวะแหลกเหลวของพวกทหารดังจนนึกภาพตามได้เอาเข้าแล้วไง หรือเราไม่ควรเอาตัวเองไปท้าผีเฮี้ยนสมัยโบราณแบบนี้วะนางสาวบีคิดได้แบบนั้นก็สายไปแล้ว ข้อมือเล็กถูกกระชากขึ้นจนลอยเคว้งกลางอากาศแต่ไม่รู้สึกเจ็บ ภาพตรงหน้านั้นชวนให้ตกตะลึงชายตัวใหญ่สูงราวๆ 190 เซนติเมตร ตัวใหญ่กำยำมาก สวมใส่โจงกระเบนเปรอะเลือด ดวงตาสีดำทมิฬไม่มีนัยน์ตาขาวกำลังจ้องมองร่างของเธอที่ห้อยต่องแต่งกลางอากาศอย่างเคียดแค้น ตามร่างกายมีบาดแผลเหวอะหลายจุด รวมถึงดาบขนาดใหญ่ที่ปักคอเกือบขาดวิ่น‘หลับลงแล้วหรือ... อีหญิงชั่ว’ เสียงที่เปล่งออกมานั้นไม่ได้ลอดผ่านปาก แต่ลอดผ่านอวัยวะกล่องเสียงที่ลอดมาทางช่วงลำคอที่หวิดเกือบขาด เสียงนั้นอู้อี้ดูหลอนน่ากลัวมากๆ ‘มึงอย่าเผลอดวงตกเชียว... กูจักตามเอาชีวิตมึงกับเด็กในท้องมึงมาเป็นบริวารกู... อีแพศยา!!’อย่างหลอน นี่ต้องตายด้วยความแค้นขนาดไหน ถึงได้อยากเอาชีวิตทั้งเมียที่รักและลูกที่ไม่ใช่ลูกตัวเองไปอยู่ด้วยขนา
“ได้จ้ะ! จะให้ฉันทำอะไร ฉันยอมหมด” เพราะผีเฮี้ยนตรงหน้านั้นมีแรงอาฆาตสั่งสมมานาน ทำให้นางสาวบีรู้ตัวว่าตนเองไม่สามารถต่อกรกับมันได้แน่ๆ เครื่องมงเครื่องมือหมอผีแบบชาติก่อนก็ไม่มี ไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้ เผลอๆ อาจจะเอาชนะมันไม่ได้ด้วย เลยยอมทำตามที่ผีขุนแสนคำว่ามาแทน เผื่อจะถูกมองว่ามีประโยชน์ และเขาคงจะปล่อยให้ตนเองเป็นอิสระแต่คำขอที่ร้ายกาจนั้นกลับถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากหยักลึกที่แตกระแหงมีคราบเลือด ขุนแสนคำกระตุกยิ้มเหี้ยมยกศีรษะที่ห้อยต่องแต่งกลับมาประกอบดังเดิม‘กลับมาเป็นเมียผีเฮี้ยนอย่างกู ถวายตัวเป็นชู้กูเสียเป็นไง’นางสาวบีอ้าปากค้าง ไอ้ผีนี่มันบ้าไปแล้วแหงๆ สงสัยจะแค้นนางบัวงามมากจนสติสตังไปหมดแล้ว อะไรก็ได้ขอแค่ได้ลบกลิ่นไอชายชั่วออกจากตัวเมียเป็นพอถึงจะมีแรงอาฆาตแค้นเมียตัวเองอย่างแรงกล้า แต่ในขณะเดียวกันก็คลั่งรักไม่ต่าง มาคิดดูดีๆ ก็น่าสงสารนะ คงทำใจไม่ได้ที่เมียตัวเองมีชู้ เลยยอมได้แม้กระทั่งได้ครอบครองเพียงแค่กายหยาบก็ตามแต่... นางสาวบีไม่เคยมีผัว! จะยอมเสียเอกราชด่านแรกให้ผี ก็ออกจะน่าอนาถเกินไปหน่อย“ไม่ค่ะ หนูยังซิง อย่างน้อยถ้าจะเสียซิง ขอเลือกผู้ชายด้วยตัวเองจะดีกว่
“ฉันพร้อมแล้วจ้ะ เริ่มเลยไหม... อึก!” ผีขุนแสนคำไม่พูดพร่ำทำเพลงหรือรอพิธีรีตอง เขาโถมตัวเข้าใส่ร่างกายของนางบัวงามทันที ซุกไซร้อย่างรุนแรงตามซอกคอขาวจนหญิงสาวรู้สึกจั๊กจี้ปนเสียวซ่าน ก็เล่นทั้งกัดทั้งขบทั้งเคล้น ดุดันไม่เบามือกันเลยสักนิดผู้ชายสมัยก่อนมันป่าเถื่อนขนาดนี้เลยเหรอแต่ชอบนะ เอาอีก!“อื้อ! จะ... เจ็บนะ” เสียงหวานสั่นไหวเมื่อผีชายหนุ่มเริ่มฉีกทึ้งผ้ารัดอกออกอย่างเดือดดาลจนเศษผ้าบาดผิวขาวนวลจนเป็นจ้ำ หน้าอกอวบใหญ่สล้างออกมาสัมผัสอากาศภายนอก ปทุมถันสีชมพูอ่อนชูชันรับกับไรขนอ่อนที่ลุกชันเพราะความเหน็บหนาว ถึงมันจะวังเวงกลางป่าช้าแต่ก็แอบเร้าใจดี นางสาวบีรู้สึกเหมือนตัวเองได้พบประสบการณ์ใหม่ในการใช้ชีวิตแบบแอดเวนเจอร์หน่อยๆ เซอร์ไวเวิลนิดๆแต่จะเรียกว่าใช้ชีวิตก็ไม่ได้เพราะเธอขิตไปในโลกเก่าแล้ว ต้องเรียกว่า ประสบการณ์ใหม่ในการใช้ร่างที่มาสิง จะถูกกว่าเรียวปากหยักขบเม้มดูดดึงปลายถันอย่างดุเดือด หญิงสาวรู้สึกได้ถึงสัมผัสใหม่ที่แล่นแปลบมาถึงปลายสมองส่วนกลาง เธอรู้สึกจั๊กจี้ปนเสียววูบวาบ เหมือนอยากจะปัสสาวะออกมาจนน้ำปริ่มนิดๆ เกร็งเท้าไปหมดเพราะเขาเล่นหน้าอกของนางบัวงามที่เชื่อ
ภาพของหญิงสาวยามเมื่อปรนเปรอกายหนาในยามที่ยังรักใคร่กันดีผุดขึ้นมาในเศษเสี้ยวความทรงจำเสมือนก่อนโดนศัตรูเอามีดแทงทะลุคอจนถึงแก่ความตายขุนแสนคำผู้ไร้พ่าย รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง กลับโดนนายทหารกรุงหงสาวดีบั่นคอจนตายอย่างโหดเหี้ยม แค่เพียงดาบที่แทงทะลุอกยังไม่ทำให้ตายได้ในทันที เขายังคงฟาดฟันศัตรูอย่างบ้าคลั่งโดยไม่รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดกับบาดแผลที่อกข้างซ้ายที่ดาบพม่าแทงเฉียดเกือบตัดขั้วหัวใจ จนถูกนายทหารคนสำคัญจากฝ่ายอังวะ นามว่า ‘ตูระเซยะ’ ใช้ดาบปักเข้าที่คอเข้าจุดสำคัญเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของทหารนำทัพอีกฝ่ายเขาตายโดยที่ไม่ได้สั่งเสียอะไรกับเมียรัก แถมยังตายไปโดยไม่รู้ว่าลับหลังเมียได้นอกกายนอกใจไปไม่รู้กี่ครั้งกี่คราตลอดเวลาสองปีที่เคลื่อนทัพปะทะอาณาจักรอังวะ ตลกร้ายดีไม่หยอกที่เมื่อสิ้นชีพไปแล้วถึงได้รู้ความจริงที่เมียที่รักยิ่งกว่าชีวิตปกปิดมาตลอดหลายปีนางบัวงามนั้นวิญญาณหลุดออกจากร่างก่อนที่จะได้พูดคุยกันตามประสาผัวเมีย แน่นอนว่าวิญญาณของเธอคงหลงวนเวียนอยู่ในวัฏจักรสงสาร หรือที่ไหนสักแห่งที่ดวงจิตสุดท้ายก่อนตายนึกถึงดั่งเช่นเขา แน่นอนว่าในทีแรกขุนแสนคำคิดที่จะเจรจากับเมียก่อน
“ฮื้อออ อะ อ๊ะ พี่ผี บะ... เบากับฉันหน่อย อื้ออออ” เสียงหวานครางสูงในลำคอเมื่อความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย เนื่องจากไม่ประสานี่จึงเป็นสัมผัสแปลกใหม่ แต่ร่างกายกลับให้ความรู้สึกคุ้นเคยราวกับเธอเคยร่วมรักกับชายตรงหน้าเมื่อยังมีชีวิตมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแต่ถ้าจะอัดกันเอาๆ เหมือนลูกบาสแบบนี้ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผีนะจะไปรีวิวติดลบในพันติ๊ปให้รู้กันทั่วเลย ผู้ชายยุคกรุงศรีมันรุนแรงกับผู้หญิงทุกคนเลยไหมเนี่ย“มิคณามือเลยสักนิด มึงมีฤทธิ์เดชเพียงแค่นี้ อย่าได้หวังจักทำให้กูพึงใจได้เลย” เสียงหนั่นเนื้อกระทบกันดังก้องในโสตประสาท พร้อมกับเสียงทุ้มเยือกเย็นที่ส่อแววปรามาสไม่จบไม่สิ้น “มิลองไปเขาโรงรับทำชำเราบุรุษไปเป็นโสเภณีดูหรือไร เผื่อจักมีกลเม็ดพิชิตใจชายได้มากกว่านี้”โรงรับทำชำเราบุรุษ? โสเภณี?อ้อ ไอ้ผีหน้าหล่อนี่มันกำลังประชดว่าเธอเด็ดไม่เท่าน้องหรี่ตัวจริงอยู่นี่หว่า“พะ... พูดแบบนี้ต่อยกันดีกว่า อะ อ๊า!” สิ้นประโยคนั้นความอุ่นร้อนก็โอบล้อมภายในท้องน้อยเมื่อชายร่างแกร่งเหนือตัวเสร็จสมดั่งใจหมาย ผีหนุ่มไม่ได้แสดงท่าทางอดกลั้นใดๆ เนื่องจากเมื่อตายเป็นผีแล้วมันไม่มีความรู้สึกถ
“กระผมขออภัย กระผมจักรีบออกจากตัวท่านประเดี๋ยวนี้ขอรับคุณผู้หญิง” ดูท่าทางเลิ่กลั่กเมื่อถูกดุนั่นสิ ชายหนุ่มรีบรุดออกจากกายสาวพร้อมกับล้มลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้นเรือน มองหญิงงามที่ค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้นจัดผมเผ้าตนเองด้วยแววตาหลงใหลแม่ช่างงามเหลือเกิน ท่วงท่ายามตื่นนอนอันแสนน่าดู เพลิดเพลินกับทรวดทรงองค์เอวที่ปรากฎอยู่นอกผ้าห่มกาย ชุดรัดอกและซิ่นบางๆ นั้นเปิดความงามเหมือนยามที่เคยเอานางมาอยู่ใต้ร่าง ยามเมื่อนางอนุญาตให้ละเลียด เขาก็กัดกินนางอย่างหิวกระหาย ราวกับคุณบัวงามที่อยู่ใต้ร่างนั้นคือชิ้นเนื้อชั้นดี ที่สุนัขจรจัดอย่างเขาโหยหามาตลอดคุณบัวงามเคยบอกว่าชอบที่เขาภักดี ซื่อสัตย์ และโง่เขลาเหมือนสัตว์คุณบัวงามอนุญาตให้เขาฉกชิมตัวหล่อนได้ แลกกับการใช้งานเขาจึงได้แต่มาเฝ้ารออย่างมีความหวังว่าวันนี้นางจะใช้งานเขาด้วยอะไรอีก แลกกับการได้เอาหล่อนมาอยู่ใต้ร่างอีกครั้งไอ้ทาสนามว่ากล้าผู้นี้ จะขอถวายตัวรับใช้คุณบัวงาม ด้วยความรักความภักดีไปจนวันตายนางสาวบีที่จัดผมเผ้าเรียบร้อยแต่เห็นว่าทาสชายคนนั้นยังนั่งคุกเข่าจ้องมองเธอไม่ยอมลุกออก เลยทำได้แค่ปรายตาลงมองตาดุราวกับไล่กลายๆหากแต่หมาโง่ของนา
“วันนี้มื้อกลางวันมิเห็นหล่อนกับคุณพี่มาทานข้าว แต่ฉันเตรียมสำรับไว้เผื่อเธอหิวอยู่แล้ว ถ้าหิวก็บอกฉันนะ จักเรียกบ่าวมาจัดสำรับให้ตรงนี้” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่ยืนยิ้มไม่พูดไม่จาอะไร คุณผู้หญิงทองพินจึงถือโอกาสตัดสินใจว่านั่นคือคำอนุญาต รีบกวักมือเรียวเรียกบ่าวนางหนึ่งที่นั่งพับเพียบเฝ้าที่พื้นเรือนข้างๆ พลางกระซิบกระซาบให้ยกถาดสำรับมาวางให้นางบัวงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า บ่าวไพร่มีท่าทีสงบในขณะที่รุดเดินจ้ำก้มหัวนอบน้อมให้เธอและคุณผู้หญิงไปด้านหลัง ซึ่งน่าจะเป็นที่ตั้งของห้องครัวประจำเรือน “ขอโทษที่ทำให้คุณผู้หญิงต้องลำบากนะเจ้าคะ” นางสาวบีพูดอย่าง ถ่อมตน นั่นเพราะอีกอย่างข้าวเมื่อวานที่ตกถึงท้องก็มีแค่ข้าวที่จับมือมาไม่กี่ ก้อนกับน้ำพริกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยิ่งผ่านศึกรักมาอย่างหนักหน่วงเพราะ ขุนแสนคำโคตรดุก็ยิ่งหิวโหยเป็นพิเศษถึงจะแอบหวั่นเกรงถึงบางสิ่งที่คนเป็นเมียหลวงน่าจะใส่ในอาหารตั้งแต่มื้อก่อนก็เถอะ แต่ดวงตาที่จับจ้องราวกับพร้อมรับชมอากัปกิริยาทุกอย่างของหล่อนทำเอาตัวแข็งไม่กล้าขัดขืนหรือปฏิเสธ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงใจดีกับเธอขนาดนั้น แต่ครั้นจะให้ไปหากับข้าวกับปลากินเองก็ใช่ที่
แต่เมื่อมุ่งมั่นจะเดินตรงออกไป กลับถูกคว้าด้วยฝ่ามือหนาของมิ่งขวัญ พลิกตัวหล่อนให้หันกลับมาประจันหน้ากันอีกครั้ง ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่อยากปล่อยเธอไปง่ายๆ สันดานความไม่ยอมแพ้ในเรื่องง่อยๆ ของชายแท้กำลังทำงานตื้อชะมัดเลยไอ้เด็กเวรนี่“คิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงมีโอกาสต่อว่าฉันได้หลายหน พอกันที! ชักเหลือทนกับพฤติกรรมของหล่อนแล้ว!” ต่อล้อต่อเถียงไปก็มากความนัก อีกฝ่ายจึงกระชากแขนหล่อนให้เดินตามไปด้วยกัน “ฉันจักมิพูดพร่ำให้เสียเวลา ฉันจักจับมือหล่อนไปประจันหน้ากับเจ้าคุณแม่ให้รู้แล้วรู้รอดไป หล่อนจักได้รับรู้ถึงความถือดีของตนเองเสียที!”“ปล่อยฉันนะไอ้เด็กบ้า” เอาเข้าไปเถอะ มันจะไม่ยอมลงให้กันจริงๆ ใช่ไหมแต่เมื่อฉุดกระชากลากถูขึ้นเรือนมาได้ ก็พบกับศาลากลางน้ำตรงจุดศนย์กลางะหว่างเรือนไทยใหญ่ที่มีหญิงงามวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังนั่งกรองมาลัยอยู่ด้วยความประณีต มิ่งขวัญสบโอกาสเพราะนั่นคือคุณผู้หญิงทองพินที่เป็นเป้าหมายของตร จึงกึ่งลากกึ่งถูฝ่ายนางบัวงามที่เดินเซซัดตามแรงผู้ชายของเด็กหนุ่มร่างสูงมาต้อยๆ“นี่! ปล่อยฉัน” เมื่อมาถึงตรงหน้าของคุณแม่ เขาก็สะบัดข้อมือหล่อนออกทันที แสดงท่าทางก้าวร้าวอย่าง
“นี่! ทำตัวเป็นโรคจิตไปได้ ไอ้เด็กบ้า” จนในที่สุดนางบัวงามก็ทนไม่ไหว ใช้กำลังที่มีผลักอกเด็กหนุ่มออกอย่างแรง ไม่รู้ว่าตัวจะสูงไปถึงไหน ถึงจะดูผอมไม่ได้ออกทรงกำยำแบบพี่ผี แต่แรงผู้ชายยังไงก็ยังคงเป็นแรงผู้ชาย แรงของเธอส่งเขาถอยหลังไปได้เพียงแค่ก้าวเดียวสั้นๆ เท่านั้น “มาแอบตามดูคนอื่น จิตไม่ปกติหรือไง”เหอะ! ช่างเป็นหญิงที่ปากคอเราะร้ายนักไม่รู้ว่าทำไมยัยผู้หญิงท่าทางกระโดกกระเดกคนนี้ถึงได้ไปต้องตาต้องใจพ่อนัก จนถึงขนาดกกนอนกันตั้งแต่เช้ามืดจนบ่ายไม่ยอมมากินข้าวกินปลา แต่ก็เพราะเหตุผลนั้นเขาจึงจำเป็นต้องตามมาลอบดูว่าหล่อนไปใช้มารยาอีท่าไหน เพราะมื้อกลางวันที่พวกเขากำลังเริงลีลาสวาท มิ่งขวัญแทบทนดูสีหน้าอมทุกข์ของคุณเอื้องน้อยแทบมิไหว มันช่างขัดหูขัดตาสิ้นดีสุดท้ายก็เป็นอากาศอยู่ในเรือนหลังนี้เพราะท่าทางที่ไม่เอาจริงเอาจังสักทีนั่นล่ะ ยัยผู้หญิงคนนั้นกระทำตัวเหมือนเหยื่อทุกลมหายใจเข้าออกจริงๆทั้งๆ ที่ในภวังค์จิตนึกขบฟัน แต่สีหน้าที่แสดงออกต่อผู้หญิงตรงหน้ากลับมีเพียงรอยยิ้มมุมปากราวกับไม่ยี่หระกับวาจาหยาบคายไม่สมหญิงเท่านั้น“ก็แค่เป็นห่วงน่ะ เห็นว่าขลุกอยู่แต่กับตาแก่จอมหมกมุ่นเสียค
คิดถึงเตียงนุ่มๆ คิดถึงห้องแอร์เย็นฉ่ำๆ จังโว้ย!สาวเจ้ายืดตัวบิดขี้เกียจ รู้สึกว่าตั้งแต่ขุนแสนคำพาหล่อนมาที่นี่ก็เอาแต่คลุกตัวอยู่ด้วยกันไม่พัก บางครั้งก็มีท่าทีไม่อยากให้เธอออกจากห้อง ทำเป็นปากแข็งไปอย่างนั้นเอง สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับร่างกายสตรีแต่ตอนนี้เธอก็เหมือนจะแพ้เหมือนกัน ทำไมถึงได้แรงเยอะขนาดนี้นะ ขาสั่นไปหมดแล้วแต่จะให้อยู่เฉยๆ คงจะไม่ไหว เธอในฐานะอนุภรรยาต้องคิดทำการใหญ่อย่างเช่นการเอาใจเมียหลวงทั้งสองเพื่อสืบเรื่องราวภายในบ้านหลังนี้แกรกนางบัวงามเปิดประตูไม้ออก มองซ้ายมองขวาก็ไม่แลเห็นใครอยู่รอบเรือนใหญ่ ดูเหมือนว่าพระยาสิงขรจะสั่งการไม่ให้มีใครเข้ามาวุ่นวายหรือรบกวนเราสองคน อาจจะเพราะว่าเขาเวลาใช้เวลาอยู่ร่วมกับหล่อนค่อนข้างรุนแรงและเสียงดังพอสมควรพูดให้ถูกก็คือ... ไม่อยากให้เมียถูกมองไม่ดีสินะพ่อผีเฮี้ยนของแม่บัวงามนี่มีมุมโรแมนติกบ่อยเสียจริง แต่อย่าคิดว่ามันจะทำให้นาวสาวบีหวั่นไหว แน่นอนว่าเธอเคยเวอร์จิ้นและไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ใครๆ ที่เป็นแบบนี้คงจะคิดว่าหัวใจเธอจะอ่อนแอเพราะอ่อนประสบการณ์แต่ไม่เลยเพราะดีลแรกนั้นสำคัญ และเธอเองก็รู้มาตั้งแต่แร
หญิงนางหนึ่งงดงามเหลือจักกล่าว มีข่าวคราวถึงนางให้โศกศัลย์ด้วยท่านพ่อต้องการเมียมากอนันต์ รับหญิงหม้ายขันหมากมาสู่ขอท่านพี่เป็นเช่นไรในเเดนสรวง คงเย็นยวงมิได้กันเเล้วหนาถ้าได้กลอนนี้เมื่อไรจงตอบมา เเลข้าจักส่งคนไปในเร็ววันลงชื่อลายมือยิ่งยง ผู้เป็นน้องรักของเจ้าคุณพี่เสมอมาไอ้ยิ่งยงมันช่างเจ้าบทเจ้ากลอนมิเคยเปลี่ยนเลยสิหนา คงอยากให้ข้ารู้จนตัวสั่นว่าตนเองนั้นเล่าเรียนได้ระดับสูงถึงเพียงไหนริมฝีปากหยักลึกฉีกยิ้มพลางสอดกระดาษนั้นเผาลงกับไฟตะเกียง กลิ่นกำยานหอมผสมปนเปกับกลิ่นยาสูบจนเกิดกลุ่มควันลอยฟุ้ง ร่างกายเปลือยเปล่าของหญิงสาวนางหนึ่งซุกไซร้อยู่เบื้องบนร่างกายกำยำใหญ่โตของ ‘ยอดหล้า’ พี่ชายคนโต ที่ตอนนี้เพิ่งได้รับตำแหน่งขุนหลวงมาเมื่อไม่นานนัก“จดหมายนั้น... ท่านเผามันทำไมกันหรือเจ้าคะ” หญิงสาวโฉมสะคราญถามถึงแผ่นกระดาษที่เห็นลายมืองดงามที่ค่อยๆ เผาไหม้ไปเป็นเถ้าถ่าน ยอดหล้าหันกลับมาสบหน้าหล่อน พลางส่ายหน้า“กระผมได้รับข่าวเรื่องการหมั้นหมายของคุณแม่คนใหม่ เลยวุ่นวายใจเล็กน้อยขอรับ”“แต่ข่าวลือเรื่องการหมั้นหมายกับเมียหม้ายของขุนหลวงที่ตายในสนามรบคนนั้นกับพ่อของท่านก็เลื่องลืออ
“เดี๋ยวก่อนสิคะ... คุณพี่ แหม”เสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากภายในหอนอนที่ราวกับเป็นเรือนหอของพระยาสิงขรและเมียคนที่สามอย่างออกหน้าออกตานั้นทำให้แม่เอื้องน้อยที่ยืนเงี่ยหูฟังร่วมกับพี่เลี้ยงประจำตัวด้านนอกบานประตูด้วยอารามถือวิสาสะถึงกับเจ็บแปลบปลาบที่อกอิ่มอย่างไม่มีสาเหตุ ดวงหน้าสาวลูกครึ่งซีดเผือดลงถนัดตา เนื่องจากก่อนที่คุณพี่เลือกที่จะหมั้นหมายกับผู้หญิงคนนี้ เขาให้เหตุผลว่าแค่เพียงต้องการดูแลหนึ่งในสิ่งที่อดีตลูกศิษย์นั้นให้ความสำคัญมาก พระยาสิงขรอ้างว่าขุนหลวงที่ตายไปในสงครามคนนั้นมาเข้าฝันว่ายังมีห่วงต่อผู้หญิงคนนี้แต่มันก็ไม่ชอบมาพากลตั้งแต่แรกแล้ว เธอรู้ว่าคุณพี่มีรสนิยมเรื่องกามเพศนั้นรุนแรงจนแม้กระทั่งคุณผู้หญิงยังรับไม่ไหว และเธอเองก็ไม่ใช่คนที่เขาต้องการ เขาจึงมักไปหาเศษหาเลยจากโสเภณีเหล่านั้นนอกบ้านนอกเรือนเสมอ แต่ไม่คิดว่าเขาจะอยากครอบครองแม้กระทั้งเมียของลูกศิษย์ตนเองผู้หญิงคนนี้เอง... ก็อาจพ่ายแพ้ต่อยศถาบรรดาศักดิ์ จนเลือกเข้ามาเป็นอนุภริยาพระยาคราวพ่อก็ได้น่ารังเกียจสิ้นดี สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกกินแม้กระทั่งผู้หญิงของคนที่ปากบอกว่าเอ็นดูมาแต่เด็กหนักหนาจะแก้ตัวว่าลูก
แต่มันก็สายเกินกว่าจะร้องขอชีวิตจากขุนแสนคำได้แล้วเช่นกันนายพลตูระเซยะรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบที่ซึมซาบมาตามผิวหนัง พอก้มลงมองตรงช่วงอกก็เห็นโลหิตสีแดงฉานค่อยๆ ขยายไปตามบาดแผล สัมผัสได้ถึงกระสุนที่ฝังเฉียดก้อนเนื้อที่เต้นตุบๆ อยู่ภายในร่างกายไปเพียงนิ้วเดียวทาบ วินาทีแรกเขาตกใจสุดขีด เพราะตนเองนั้นเป็นนักรบผู้ไร้พ่าย ไม่เคยมีกระสุนไฟหรือดาบพร้าใดที่สามารถเฉียดเนื้อหนังของตนได้มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่กระสุนเฉียดขั้วหัวใจของเขาไปได้เพียงเสี้ยวเดียวกว่าจะรู้สึกตัวทั้งร่างกายก็ชาหนึบไปทั้งตัว กายาใหญ่ค่อยๆ หงายหลังลงไป ร่วงหล่นกระแทกกับพื้นไม้ เลือดมากมายทะลักออกปาก โลหิตเจิ่งนองทั่วบริเวณ ดวงตาที่เหลือกขึ้นบนสบตาเข้ากับร่างใหญ่กำยำของพระยาสิงขรที่ยืนค้ำอยู่เหนือหัว ดวงตาสีหม่นที่หลุบมองลงมานั้นเย็นยะเยือกราวกับกำลังมองสัตว์ร้ายที่ตนเองเพิ่งกำจัดไป“อั่ก... ไอ้” ไม่มีรูปประโยคใดๆ ออกมาจากริมฝีปากที่ซีดเซียวนอกจากเลือดที่ทะลักทะล้นออกมาเต็มอุ้งปากที่เริ่มออกสีคล้ำนางสาวบีเพิ่งเห็นท่าทางของคนที่กำลังอยู่ในอาการโคม่าจากการโดนยิงเป็นครั้งแรก หล่อนค่อยๆ คลานออกมาจากใต้เตียงหลังเกิดเสียงร
ถ้าในฐานะกายหยาบของพระยาสิงขร นางบัวงามไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้าก็จริง แต่สำหรับวิญญาณขุนแสนคำ หล่อนคือไส้ศึกของเขารวมทั้งเป็นเมียของเขาด้วย“กูขอปฏิเสธที่จะยกบัวงามให้ ขอโทษที พอดีผู้หญิงที่ชั่วช้าคนนี้เป็นเมียที่กูหลงจนคลั่งมากเสียจนกู่ไม่กลับแล้ว”นางสาวบีไม่ได้ใจสั่นระรัวให้กับประโยคนั้น เธอไม่ใช่คนโง่งมที่บูชาและจมปลักกับความรัก จริงๆ ก็พอจะเดาได้ว่าขุนแสนคำอาจจะพูดแบบนี้เพื่อแสดงละครตบตาอีกฝ่าย เลยเตรียมสติสตังมาอย่างดี“งั้นรึ งั้นกูจักขอใช้กำลังแย่งมาจากมึงก็แล้วกัน!!”ดวงตาคมคร้ามของนายเหล็กวาวโรจน์พร้อมกับพุ่งตรงเข้าหาพระยาสิงขรในเนื้อที่อันจำกัด แต่มือของชายวัยกลางคนนั้นว่องไวราวกับคาดเดาเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว เขาลั่นไกปืนทันที เฉียดไหล่เปลือยของร่างนายจ้อยไปจนเกิดบาดแผลถลอกเพียงเท่านั้น แต่นั่นส่งผลให้นายเหล็กมาถึงตัวของชายหนุ่มได้จนประชิดตัว เขาก้มหลบด้ามปืนเหล็กที่อีกฝ่ายตวัดจะฟาดแสกหน้า พยายามเข้าประชิดนางบัวงามที่ก้มหมอบอยู่แทบเท้าของพระยาสิงขร แต่ก็โดนขวางทางด้วยร่างกำยำ ชายวัยกลางคนเหวี่ยงหมัดกระแทกครึ่งปากครึ่งจมูกของนายเหล็ก ในขณะที่อีกฝ่ายบิดมือชักด้ามพร้าเข้าฟันแขนแก
“ให้ตายเถิด คิดว่าจักมิพิษสงมากกว่านี้ แต่เนื้อแท้ก็แค่ตาแก่ตัณหากลับเท่านั้น หลงอีนี่จนโงหัวไม่ขึ้น รู้หรือไม่ว่านางกระทำชั่วสิ่งใดลับหลังผัวเก่...!!”ปัง!!“กรี๊ด!”เสียงปืนคาบศิลาดังกึกก้องไปทั่วหอนอนทันทีที่ยังไม่สิ้นคำครหา ส่งผลให้มีเสียงนกกาแตกตื่นรอบบริเวณต้นไม้รอบเรือน บ่าวชายร่างใหญ่ล้มลงหงายท้องตึงสู่พื้นไม้โดยพลัน พร้อมกับเลือดมากมายที่เจิ่งนองออกมาจากศีรษะดวงตาของนางบัวงามเบิกกว้างสุดขีด รีบผลุนผลันถลาลงจาดเตียงนอนเพื่อมองสภาพศพ หากแต่กลับโดนเรียวแขนแกร่งขวางทางเอาไว้“พี่ทำอะไรลงไปเนี่ย!” ร่างเล็กรีบหันไปปรามาสสามีของตนเอง หากแต่สีหน้าของพระยาสิงขรยังคงความเรียบเฉยค่อนไปทางเย็นยะเยือกจนน่าขนลุก ราวกับว่าเขาเพิ่งกำจัดสิ่งที่แสนโสโครกออกไปก็ไม่ปาน“ถ้ายังดูมิออก ก็ตายตามมันไปเสีย” วาจาช่างไร้ความเห็นใจ นางสาวบีกลอกตามองบน อาจจะเพราะชินชากับนิสัยและปากหมาๆ ของขุนแสนคำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่กว่าจะรู้ตัวร่างกายใหญ่โตที่ล้มหงายท้องลงไปนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นนั้นก็หยัดกายขึ้นมายืนเต็มความสูงอีกครั้ง พร้อมๆ กับหน้าผากที่ควรจะเป็นรูโหว่และเลือดทะลั่กกลับมีแค่รอยเขม่าดินปืนเเละแผ