พอฟังจบแล้ว โม่ซิวหย่วนก็มองไปที่ซ่งชิงชวนด้วยท่าทางอืดอาดยืดยาด “คุณชายใหญ่ซ่ง ได้ยินแล้วใช่ไหม? ฉันรู้ดีว่าตัวเองชอบอะไร ต่อให้ฉันจะเหลวแหลกแค่ไหนก็ไม่ข้องแวะกับคนของฮั่วเยี่ยนฉือหรอก”“นายมีรสนิยมประหลาด แล้วทำไมต้องลากฉันลงน้ำไปด้วยเล่า?” โม่ซิวหย่วนถาม“นั่นสิ!” หนิงเสี่ยวเยว่พูดคล้อยตามอย่างไม
“ประธานซ่งไม่ต้องกังวล ฉันแค่อยากมาเจอด้วยตัวเอง และยืนยันเสียหน่อย”หนิงเสี่ยวเยว่กล่าวเสริมอย่างลำบากใจเล็กน้อย “ฉันทำแบบนี้เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยไม่แน่นอนใด ๆ ของอาหย่วนในอนาคต ประธานซ่ง คุณน่าจะเข้าใจได้นะ?”ซ่งชิงชวนยิ้ม “เข้าใจได้ครั้บ แต่ช่วงนี้ม่านม่านโกรธผมอยู่ ผมคงรับประกันไม่ได้ว่าเธอจะรับ
เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกว่าช่วงเวลาที่โม่ซิวหย่วนเข้ามาค่อนข้างบังเอิญเกินไปหน่อยขณะที่เธอถูกซ่งชิงชวนทำให้ลำบากใจ เขาก็ได้เข้ามาบางทีซ่งชิงชวนอาจจะเพราะความสงสัย จึงหยั่งเชิงโม่ซิวหย่วนหลายครั้งเขาจงใจพูดเรื่องที่โม่ซิวหย่วนเคยมีความรู้สึกต่อเธออย่างลึกซึ้ง ทั้งยังจงใจพูดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาก
ความสงสัยของเฉียวสือเนี่ยน เฉียวตงไห่ก็ไม่อาจวิเคราะห์สาเหตุได้เช่นกัน“เนี่ยนเนี่ยนวางใจเถอะ ถ้าหลานไม่อยากแต่งงาน ก็ไม่มีใครมาบังคับหลานได้”เฉียวตงไห่พูดอย่างหนักแน่น “ตาจะไม่ให้ใครมารังแกหลานแบบนี้”หลังจากนั้นสามชั่วโมง ฮั่วเยี่ยนฉือก็มาถึงตระกูลเฉียวแล้วเฉียวสือเนี่ยนเห็นเขาเหน็ดเหนื่อยจากการ
เมื่อเผชิญเข้ากับดวงตากลมโตซึ่งมีแต่ความงงงวยของเฉียวสือเนี่ยนแล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือจึงกระแอมไอออกมา “ก็แค่ถามไปงั้น”จากท่าทางแบบนี้ของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนก็พอจะเดาออกได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “อีกไม่นานโม่ซิวหย่วนกับคุณหนิงก็จะหมั้นกันแล้ว ที่เขาไปห้องส่วนตัวก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญ ไม่ได้ตั้งใจ
สร้อยข้อมือที่ฮั่วอวี่ซานชี้เป็นสร้อยข้อมือทองที่ฮั่วเยี่ยนฉือมอบให้เธอ ตอนที่เธอกลับจากเมือง S เฉียวสือเนี่ยนคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าฮั่วอวี่ซานจะตาดีขนาดนี้ ของที่เธอต้องตาเข้าล้วนเป็นของที่คนอื่นให้เฉียวสือเนี่ยนมาทั้งนั้นเดิมทีก็ปฏิเสธไม่ให้สร้อยข้อมือถั่วแดงกับฮั่วอวี่ซานไปแล้วครึ่งหนึ่ง ถ้าคราวนี
เฉียวสือเนี่ยนเงยหน้า โม่ซิวหย่วนก้มหน้าเล็กน้อย เพราะเขาใส่แว่นกันแดดอยู่ เฉียวสือเนี่ยนเลยเดาอารมณ์เขาไม่ออกแต่เฉียวสือเนี่ยนสัมผัสได้ราง ๆ ว่าเหมือนกับโม่ซิวหย่วนกำลังมองข้อมือของเธออยู่เฉียวสือเนี่ยนเองก็ไล่สายตาตามไป บนข้อมือของเธอก็คือสร้อยข้อมือถั่วแดงที่หนิงเสี่ยวเยว่ให้มานั่นเองเฉียวสือเ
เมื่อเผชิญเข้ากับสายตาของเฉียวสือเนี่ยนกับฮั่วอวี่ซาน ท้ายที่สุดฮั่วเยี่ยนฉือก็ไม่อาจปิดบังได้อีกต่อไปเขากระแอมออกมาอีกสองครั้ง แล้วยอมรับออกมาอย่างเคอะเขินอยู่บ้าง “เนี่ยนเนี่ยน รูปนี้อยู่ในอัลบั้มของฉันมานานแล้วจริง ๆ”เฉียวสือเนี่ยนคาดไม่ถึง “คุณได้รูปนี้มาจากไหน? หรือว่าก่อนหน้าที่พวกเราจะเจอกั
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั