ตอนที่ฮั่วอวี่ซานชูมือขึ้นมา ในใจเฉียวสือเนี่ยนก็รู้ทันทีว่าไม่ค่อยดีแล้ว สายตาของฮั่วเยี่ยนฉือถมึงทึงขึ้นมาอย่างที่คิดเลย รอยยิ้มก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ หายไปเช่นเดียวกันเฉียวสือเนี่ยนรู้ดีว่าตัวเธอเองทำไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรนักในเรื่องนี้ เธอจึงรีบเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นทันที “อวี่ซาน ถ้าหนูชอบก็กินเยอะ
เมื่อได้ยินคำถามของเฉียวสือเนี่ยน หัวใจของฮั่วเยี่ยนฉือจู่ ๆ ก็รู้สึกตื่นตะหนกขึ้นมาอีกครั้งดังนั้นเมื่อคืนเขาเลือกที่จะไม่ฟังคำตอบ ก็เป็นเพราะกลัวว่าจะได้ยินผลลัพธ์ที่เขาไม่ต้องการจากปากของเฉียวสือเนี่ยน“เนี่ยนเนี่ยน ฉัน...”“ฉันจะตอบคุณก็ได้” เฉียวสือเนี่ยนขัดคำพูดของฮั่วเยี่ยนฉือ และเอ่ย “หากโม
ฮั่วเยี่ยนฉือเป็นคนส่งข้อความมา เขาบอกเธอว่าสองวันนี้ซ่งชิงชวนไปเมืองเป่ยเฉิงอีกแล้ว คงจะหาเวลามาตามตื้อเธอไม่ได้อีกเรื่องนี้เมื่อวานเฉียวสือเนี่ยนก็รู้จากปากของซ่งม่านแล้วฮั่วเยี่ยนฉือจงใจส่งข้อความมาแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร มันก็เห็นค่อนข้างชัดเจนหลังจากที่ฮั่วเยี่ยนฉือจากไปในคืนนั้น สองวันมานี้เ
เฉียวสือเนี่ยนกังวลว่าหลีพัวถิงจะหกล้ม จึงเดินเข้าไปประคองเขาไว้“คุณท่านหลี เดินช้า ๆ นะคะ เดี๋ยวฉันไปส่งคุณขึ้นรถ” เฉียวสือเนี่ยนกล่าวเสียงเบาถึงอย่างไรหลีพัวถิงต้องมาดื่มเยอะเพราะเธอ เฉียวสือเนี่ยนจะนิ่งดูดายก็ไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวสือเนี่ยน บนใบหน้าสง่าของหลีพัวถิงก็เผยรอยยิ้มซาบซึ้งออ
เมื่อเห็นคนที่มาไม่มีท่าทีที่เป็นมิตรต่อพวกเขา ในใจของเฉียวสือเนี่ยนก็พวยพุ่งด้วยลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างเธอป้องปากตะโกนเรียกคนขับรถและบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหน้า แต่ผู้ชายหนึ่งในนั้นกลับเข้ามาบีบคอเธอไว้ด้วยความรวดเร็ว!ความรู้สึกหายใจไม่ออกเข้าจู่โจม จนเฉียวสือเนี่ยนพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะคนร้ายที่เ
เพราะไม่รู้ว่าคนเข้ามาเป็นใคร และก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์อะไร เฉียวสือเนี่ยนจึงตัดสินใจแกล้งสลบไว้ก่อน“เอี๊ยด” เสียงประตูไม้เปิดดังขึ้น กลิ่นคาวเหม็นโชยเข้ามา น่าจะมีคนเข้ามาอย่างน้อยสองคน หนึ่งในพวกเขาใช้เท้าเขี่ยหลีซูเหยียนที่อยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะพูดเสียงแหลม “ยานี่ใช้ได้ผลดีจริง ๆ ดูสิสองสาวย
ภายใต้แสงจากโคมไฟ เฉียวสือเนี่ยนเห็นว่าอีกฝ่ายหยิบกระดาษ A4 ที่มีข้อความพิมพ์อยู่บนนั้นออกมาหลายใบ“นี่เป็นสัญญา” ชายผู้มีรอยบากยื่นกระดาษให้หลีพัวถิง “ประธานหลีช่วยเซ็นสัญญามอบโครงการนี้ให้พวกเราด้วย”หลีพัวถิงมองดูเอกสาร มันเป็นโครงการสำคัญของตระกูลหลีในเมืองกั่งเฉิง ซึ่งหากเกิดปัญหาจะส่งผลเสียต่อ
อย่างไรหลีพัวถิงก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี เขากุลีกุจอเดินเข้าไป เป็นคนที่ลงน้ำไปก่อนหน้านี้ที่ตามหาหลีซูเหยียนเจอโชคดีที่ช่วยได้เร็ว หลีซูเหยียนจึงยังไม่ถูกคลื่นทะเลซัดหายไปหลีพัวถิงพูดกับฮั่วเยี่ยนฉือด้วยท่าทางร้อนรนใจเล็กน้อย “เยี่ยนฉือ เนี่ยนเนี่ยนตกใจแย่แล้ว คุณพาเธอไปจากที่นี่ก่อน”ฮั่วเยี่ยนฉือถึ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั