เฉียวสือเนี่ยนไม่เพียงแต่รู้สึกว่านี่เป็นปัญหาเท่านั้น แต่ยังมีความอันตรายแฝงอยู่อีกด้วย“ซ่งชิงชวน ฉันขอบคุณมากที่คุณช่วยฉัน แต่ถ้าเป็นเพียงเพราะความอึดอัดเล็กน้อยที่ฉันได้รับ ก็ไม่ควรที่จะให้ตระกูลเหอต้องชดใช้มากขนาดนี้” เฉียวสือเนี่ยนกล่าวถ้าเป็นแบบนี้ ไม่เพียงแต่เธอจะเป็นหนี้บุญคุณซ่งชิงชวน แต่
แม้ว่าฮั่วเยี่ยนฉือจะรู้สึกผิดหวัง แต่หากเทียบกับการที่เฉียวสือเนี่ยนต้องตีตัวออกห่างหรือหลบหน้าเขา เขาก็รู้สึกว่าสถานการณ์ในตอนนี้ก็ไม่แย่นักอย่างน้อยเฉียวสือเนี่ยนยังยอมที่จะไว้ใจเขาเมื่อคิดได้แบบน้้น ความรู้สึกของฮั่วเยี่ยนฉือก็กลับมาเป็นปกติเขาเริ่มคุยกับเฉียวสือเนี่ยนเกี่ยวกับเรื่องของหลีซูเ
ระหว่างทางกลับ ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้ถามอะไรเฉียวสือเนี่ยน และปล่อยให้เธอพักผ่อนอยู่เงียบ ๆ เมื่อกลับมาถึงคอนโดหมิงเยว่ ฮั่วเยี่ยนฉือมองเฉียวสือเนี่ยนที่นอนอยู่เบาะหลัง แม้ร่างกายของเธอจะมีเนื้อหนังมากกว่าแต่ก่อนนิดหน่อย แต่ก็ยังคงบอบบางอยู่บางทีอาจจะเพราะเครียดเรื่องบริษัท คิ้วงามของเธอจึงขมวดแน่นเล
ความออดอ้อนของหลีซูเหยียนทั้งไม่ใกล้ชิดจนเกินไปทั้งรักษาความนุ่มนวลซึ่งกำลังพอเหมาะพอดีตราบใดที่เป็นคนอ่อนโยนต่อผู้หญิง ใคร ๆ ก็ไม่สามารถปฏิเสธคำขอของหล่อนได้ดูสิ มีผู้ชายสองคนที่อยู่ในห้องผู้โดยสารวีไอพีดูเหมือนแทบจะพยักหน้าแทนฮั่วเยี่ยนฉืออยู่แล้ว“ขอโทษด้วย ไม่สะดวก”ฮั่วเยี่ยนฉือกลับเพิกเฉยต่อ
ซ่งม่านไม่ทันระวังตัวว่าจะมีคนมาฉกชิงวิ่งราวตามท้องถนน เธอเลยกำกระเป๋าของตัวเองไว้แน่น พอมีผู้ชายเข้ามากระชากกระเป๋า ตัวของเธอเลยถูกดึงตามไปด้วยจนถลาไปด้านหน้า!“ซ่งม่าน ระวัง!”เมื่อเห็นว่าซ่งม่านใกล้จะล้มอยู่รอมร่อ เฉียวสือเนี่ยนก็ยื่นมือออกไปรั้งตัวหล่อนได้ทันเวลา ทั้งยังสะบัดขาออกไปถีบชายผิวดำคน
ตอนที่เฉียวสือเนี่ยนอยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนซ่งม่านนั้น ทางฮั่วเยี่ยนฉือพอได้รับข่าวก็รีบมาทันที“เนี่ยนเนี่ยนไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ฮั่วเยี่ยนฉือเอ่ยถามด้วยความตื่นตระหนกเฉียวสือเนี่ยนส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นอะไร แต่แผลของซ่งม่านลึกมาก เลือดไหลออกมาไม่น้อย ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย”ฮั่วเยี่ยนฉือสำรวจดูตามตัวเฉ
เห็นสีหน้าเป็นกังวลของเฉียวสือเนี่ยนแล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือเลยอดยื่นนิ้วออกไปนวดคลึงคิ้วของเธอให้ไม่ได้ “ไม่ต้องกังวลมากหรอก คุณซ่งต้องไม่เป็นไรแน่”นิ้วมืออุ่น ๆ สัมผัสลงบนผิวหนัง ทำเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอดึงมือของฮั่วเยี่ยนฉือออก “ฉันเข้าใจแล้ว คุณกลับเถอะ”แม้ว่าปกติแล้วเขาจะมีเวลาได้อย
ทั้งสองคนต่างไม่มีใครยอมใครขณะที่สองศรีพี่น้องกำลังจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร เฉียวสือเนี่ยนที่ฟุบหน้านอนอยู่บนเตียงก็ขยับตัวเล็กน้อยเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกได้ว่ารอบ ๆ ตัวเธอเหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยปกตินัก เธอเลยพยายามฝืนลืมตาขึ้นมาพอจับโฟกัสสายตาได้ เฉียวสือเนี่ยนก็เห็นว่าซ่งม่านไ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั