เห็นสีหน้าเป็นกังวลของเฉียวสือเนี่ยนแล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือเลยอดยื่นนิ้วออกไปนวดคลึงคิ้วของเธอให้ไม่ได้ “ไม่ต้องกังวลมากหรอก คุณซ่งต้องไม่เป็นไรแน่”นิ้วมืออุ่น ๆ สัมผัสลงบนผิวหนัง ทำเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอดึงมือของฮั่วเยี่ยนฉือออก “ฉันเข้าใจแล้ว คุณกลับเถอะ”แม้ว่าปกติแล้วเขาจะมีเวลาได้อย
ทั้งสองคนต่างไม่มีใครยอมใครขณะที่สองศรีพี่น้องกำลังจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร เฉียวสือเนี่ยนที่ฟุบหน้านอนอยู่บนเตียงก็ขยับตัวเล็กน้อยเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกได้ว่ารอบ ๆ ตัวเธอเหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยปกตินัก เธอเลยพยายามฝืนลืมตาขึ้นมาพอจับโฟกัสสายตาได้ เฉียวสือเนี่ยนก็เห็นว่าซ่งม่านไ
เห็นซ่งม่านที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ และเห็นเฉียวสือเนี่ยนที่มีความสงสัย ซ่งชิงชวนก็ยิ้มจาง ๆ “ผมยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่จึงยังสรุปไม่ได้”“แต่ซ่งม่านได้รับบาดเจ็บ ผมในฐานะพี่ชายจะไม่นั่งมองอยู่เฉย ๆ แน่นอน”ซ่งชิงชวนพูด “ผมจะให้คนไปตรวจสอบ หลังจากได้ผลแล้วผมจะตัดสินใจอีกที”ซ่งม่านขมวดคิ้วด
เมื่อเห็นเบอร์โทร เฉียวสือเนี่ยนก็แปลกใจเล็กน้อย เป็นโจวหยางอิงที่โทรมาหลังจากโจวหยางอิงกลับมาที่เมืองไห่เฉิง ก็มีงานหลายอย่างหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด เวลาที่เฉียวสือเนี่ยนได้พบหน้าเขาก็ไม่ได้มีมากนัก กลับกันซ่งม่านมักจะเข้าร่วมงานอีเวนต์ของเขา พวกจึงติดต่อกันมากขึ้นเวลานี้ทำไมโจวหยางอิงถึงโทรหาเธอกั
เฉียวสือเนี่ยนมองซ่งม่านที่กำลังโมโหพลางพูดปลอบใจ “พอแล้ว อย่าโกรธไปเลย ฟังพี่ชายของเธอก่อนสิ เขาไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะไม่ช่วยเธอ”ซ่งม่านยังคงโมโหอยู่ไม่น้อย “ฉันว่าเขาก็แค่หาข้ออ้างเท่านั้นแหละ ยังไงซะ ที่นี่ก็วุ่นวายจะตายไป ถ้าจะสั่งให้คนไปจัดการหลีซูเหยียนสักรอบมันจะเป็นอะไรไป!”เฉียวสือเนี่ยนหั
เฉียวสือเนี่ยนไม่คิดเลยว่าการที่เธอมาต่างแดนแบบนี้ จะทำให้เธอกับซ่งม่านได้เจอคนรู้จักโดยบังเอิญในร้านอาหารที่พวกเธอเลือกแบบสุ่ม ๆ ——หลีซูเหยียนและผู้หญิงที่เธอเคยเจอครั้งหนึ่งในฟาร์มก่อนหน้านี้ หลีซูเหยียนเรียกผู้หญิงคนนั้นว่า “ป้าเซิ่ง” หลีซูเหยียนสวมเดรสกระโปรงยาว ด้านนอกสวมทับด้วยเสื้อโค้ทสุดหร
สายวิดีโอคอลของเฉียวสือเนี่ยนเป็นฮั่วเยี่ยนฉือที่โทรเข้ามาวันนี้เขาไม่อยู่ที่ประเทศ XX พอคำนวณดูเวลาแล้ว เฉียวสือเนี่ยนก็น่าจะทำงานเสร็จแล้ว เขาจึงวิดีโอคอลมาหาเธอหลังจากเฉียวสือเนี่ยนกดรับสาย ฮั่วเยี่ยนฉือมองปราดเดียวก็เห็นเสื้อโค้ทผู้ชายที่คลุมอยู่บนตัวเธอทันที รวมถึงแขนข้างนั้นของผู้ชายที่วางพา
เขาบอกเฉียวสือเนี่ยนว่า “ช่วงนี้ฉันกำลังตรวจสอบเรื่องบางเรื่องอยู่ ซึ่งบางเรื่องก็มีความเกี่ยวข้องกับผู้หญิงแซ่เซิ่งคนนี้ด้วย ไว้รอให้มีผลลัพธ์ที่แน่ชัดแล้ว ฉันค่อยบอกเธออีกที”เฉียวสือเนี่ยนรู้ว่าช่วงนี้ฮั่วเยี่ยนฉือยุ่ง แต่ไม่ได้รู้รายละเอียดชัดเจนว่าเขายุ่งเรื่องอะไรอยู่กันแน่ ถึงกระนั้นก็คิดไม่ถ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั