ซ่งม่านเป็นคนโทรเข้ามาเธอบอกข่าวบางอย่างให้เฉียวสือเนี่ยนฟัง——แผนการผ่าตัดของโม่ซิวหย่วนถูกกำหนดไว้แล้ว และจะดำเนินการอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้“ฉันไม่ได้ยินข่าวของโม่ซิวหย่วนมานานแล้ว แต่เมื่อกี้ก็ได้ยินพ่อกับแม่พูดถึงฉันเลยรู้”ซ่งม่านกล่าว “ถึงโม่ซิวหย่วนจะจำเธอไม่ได้ และพวกลุงโม่ไม่ให้เธอติด
หลังจากวางสายแล้ว เฉียวสือเนี่ยนก็ทิ้งตัวลงบนเตียงโม่ซิวหลานพูดถูก การอยู่ให้ห่างจากโม่ซิวหย่วนเป็นการแสดงความยินดีที่ดีที่สุดสำหรับโม่ซิวหย่วนแล้วเธอไม่ควรไปรบกวนความสงบนี้เนื่องจากไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ วันรุ่งขึ้นตอนไปทำงานที่อี้หมิง เฉียวสือเนี่ยนจึงไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเท่าไรนักซ่งม่านเข้ามาหา “
ฮั่วเยี่ยนฉือเม้มริมฝีปาก สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงดัน เพียงแค่ประคองแขนของเฉียวสือเนี่ยนช่วยพาเธอลงจากรถเฉียวสือเนี่ยนคุกเข่าเป็นเวลานานจึงเจ็บที่หัวเข่า เธอเลยปล่อยให้ฮั่วเยี่ยนฉือประคองทั้งสองคนเดินเข้ามาในบ้านด้วยกัน ป้าหวังเตรียมกับข้าวร้อนกรุ่นไว้เรียบร้อย “คุณเฉียว กลับมากับคุณฮั่วเหรอคะ? ป้าทำกับ
เมื่อเฉียวสือเนี่ยนหันหน้าไปก็เจอหลีซูเหยียนใบหน้าของหลีซูเหยียนไม่ได้ซีดเซียวเหมือนเมื่อสองวันก่อน หล่อนฟื้นกลับมาเป็นคุณหนูใหญ่ที่สวยหวานอีกครั้งเวลานี้เธอกำลังชี้ไปยังแผ่นเสียงรูปทรัมเป็ต หลีพัวถิงที่ยืนอยู่ใกล้เธอก็มองด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มประดับเมื่อรู้สึกถึงสายตาของเฉียวสือเนี่ยน หลีซูเหยีย
เมื่อได้ยินคำพูดของฟู่เถียนเถียน หัวใจของเฉียวสือเนี่ยนจู่ ๆ ก็รู้สึกขมขื่นเล็กน้อยเธอเอ่ยเยาะเย้ยตัวเอง “ฉันเคยรักไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”เพียงแต่ตอนจบมันน่าอนาจมากก็เท่านั้นเองฟู่เถียนเถียนมองเฉียวสือเนี่ยนอย่างปวดใจ “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโน้มน้าวให้เธอคบกับฮั่วเยี่ยนฉือนะ แต่ถ้าเธอไม่มีแรงจะรักใครแล้วจร
นี่ซ่งชิงชวนจะก่อความวุ่นวายแบบไหนกันแน่?ทั้งการแสดงถึงความรู้สึกดีและทั้งผิดหวัง ถ้าไม่รู้ทัน เธอคงคิดว่าเขามีความรู้สึกลึกซึ้งต่อเธอมาก “สือเนี่ยน ม่านม่านบอกว่าผมคาดเดายากกว่าอาหย่วน จุดนี้ผมยอมรับ ถึงอย่างไรผมก็อายุมากกว่าพวกคุณหลายปี และไม่ค่อยเคยชินกับการแสดงความรู้สึกออกมาสักเท่าไร”ซ่งชิงช
กำลังใจของทุกคนได้รับการกระตุ้นอย่างมากเมื่อกลับถึงคอนโดหมิงเยว่ เฉียวสือเนี่ยนก็รับโทรศัพท์ของฟู่เถียนเถียนฟู่เถียนเถียนทราบข้อมูลของการเปิดทดลองเล่นสาธารณะ เธอจึงบอกเฉียวสือเนี่ยนว่าเธอเพิ่งเสร็จจากการประชุมกับผู้รับผิดชอบอีกหลายคน ก็เลยไม่ได้เข้ามาส่งคำอวยพรด้วยตัวเอง และรอให้ถึงช่วงงานเลี้ยงฉล
เฉียวสือเนี่ยนจำเจ้าของเสียงนี้ได้—— หมอเวินจิ๋งหลี่เขากลับมาจากต่างประเทศแล้วเหรอ?“เนี่ยนเนี่ยน ดึกหน่อยฉันค่อยโทรศัพท์หาเธอนะ” ฟู่เถียนเถียนพูดและวางสายไปเมื่อเห็นเวินจิ๋งหลี่ที่ผอมลง และสีผิวก็เข้มเล็กน้อยอยู่ตรงหน้า ฟู่เถียนเถียนก็แทบจะจำเขาไม่ได้“หมอเวิน คุณอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ฟู่เถียนเถ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั