เฉียวสือเนี่ยนคิดไม่ถึงว่าคุณลุงจะยังจำเรื่องนี้ได้ ตอนนั้นคุณตาได้เปรยเรื่องนี้ต่อหน้าเขา แต่คุณลุงก็ไม่เชื่อเลยว่าเธอจะมีความสามารถนั้นจริง ๆ เขาเพียงแค่รู้สึกว่าคุณตาลำเอียงอยู่เท่านั้นแต่ตอนนี้คุณลุงกลับเป็นฝ่ายเอ่ยถึงมันเองเสียอย่างนั้น?“เมื่อก่อนนอกจากตามติดฮั่วเยี่ยนฉือแล้ว ก็ไม่เห็นว่าเธอจ
อาจเป็นเพราะดูแลตัวเองดี คุณนายซ่งจึงดูเหมือนว่าจะอายุน้อยกว่าคุณท่านซ่งอยู่บ้าง ทั้งสองกำลังนั่งจิบน้ำชากัน พร้อมกับพูดคุยและหัวเราะด้วยเสียงเบา ส่วนซ่งชิงชวนก็นั่งอยู่ที่ด้านข้างของพวกเขา และพยักหน้าบ้างเป็นครั้งคราวโดยรวมแล้วดูเหมือนเป็นคุณพ่อผู้มีเมตตา คุณแม่ผู้อ่อนโยนและลูกผู้กตัญญู ช่างเป็นฉา
เฉียวสือเนี่ยนคิดว่าคนที่เอาใจใส่และละเอียดอ่อนอย่างซ่งชิงชวน หากเขาคิดที่จะจีบผู้หญิงคนไหนจริง ๆ ก็คงยากที่จะมีใครปฏิเสธได้แต่แน่นอนว่า เฉียวสือเนี่ยนไม่ได้มีความรู้สึกเชิงนั้นกับซ่งชิงชวนเฉียวสือเนี่ยนยิ้มอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะตอบกลับ “ขอบคุณคุณลุงคุณป้าที่เป็นห่วงนะคะ อาหารพวกนี้ฉันชอบมากเลย งั
ฮั่วเยี่ยนฉือสวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็คตามปกติ ในมือของเขากำลังถือโทรศัพท์ ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างเมื่อได้ยินเสียงเธอเปิดประตู เขาจึงเงยหน้าขึ้น“คุณมาที่นี่ทำไม?” เฉียวสือเนี่ยนถามด้วยความสงสัยเพราะปกติแล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือมักจะระวังตัวกับเธอเป็นอย่างมาก หากเธอไม่ได้เชิญ เขาก็แทบจะไม่มาเอง
——หลีซูเหยียนรู้ดีว่าหลีพัวถิงผิดหวังในตัวเธอเพราะเหตุการณ์ในงานเลี้ยงเปิดกิจการ และเธอก็รู้ด้วยว่าหลีพัวถิงจะสงสัยในนิสัยตัวตนของเธอ เพราะฉะนั้นหลี่ซูเหยียนจึงตั้งใจจัดฉากเล่นละครนองเลือดและถูกทำร้ายต่อหน้าพ่อของเธอก่อนอื่นเธอต้องทำให้ทุกคนโยนความผิดไปที่เธอ จากนั้นเธอก็จะทำตัวน่าสงสารจนถึงขีดสุด
สิ่งที่ฮั่วอวี่ซานถ่ายรูปมาคือดอกไม้ที่กำลังผลิบาน ทว่าซุนฮ่าวเหวินก็อยู่ไม่ไกลจากดอกไม้พอดี แม้ว่าจะเห็นหน้าไม่ชัด แต่เฉียวสือเนี่ยนก็มองออกตั้งแต่แวบแรกซุนฮ่าวเหวินกับคุณนายฮั่วสนิทกันเหมือนญาติสนิทมิตรสหาย การที่ฮั่วอวี่ซานไปอยู่กับเขาจึงไม่นับว่าแปลกอะไร“อวี่ซาน คุณอาคนนี้พาหนูไปเที่ยวเหรอ?” เ
ซ่งม่านเป็นคนโทรเข้ามาเธอบอกข่าวบางอย่างให้เฉียวสือเนี่ยนฟัง——แผนการผ่าตัดของโม่ซิวหย่วนถูกกำหนดไว้แล้ว และจะดำเนินการอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้“ฉันไม่ได้ยินข่าวของโม่ซิวหย่วนมานานแล้ว แต่เมื่อกี้ก็ได้ยินพ่อกับแม่พูดถึงฉันเลยรู้”ซ่งม่านกล่าว “ถึงโม่ซิวหย่วนจะจำเธอไม่ได้ และพวกลุงโม่ไม่ให้เธอติด
หลังจากวางสายแล้ว เฉียวสือเนี่ยนก็ทิ้งตัวลงบนเตียงโม่ซิวหลานพูดถูก การอยู่ให้ห่างจากโม่ซิวหย่วนเป็นการแสดงความยินดีที่ดีที่สุดสำหรับโม่ซิวหย่วนแล้วเธอไม่ควรไปรบกวนความสงบนี้เนื่องจากไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ วันรุ่งขึ้นตอนไปทำงานที่อี้หมิง เฉียวสือเนี่ยนจึงไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเท่าไรนักซ่งม่านเข้ามาหา “
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั