เพราะคราวก่อนที่หลีซูเหยียนถูกเสี่ยวซื่อข่วนในบ้านตระกูลหลี เฉียวสือเนี่ยนเลยได้เจอคุณหมอท่านนี้มาก่อนแล้วคิดดูแล้วหลีซูเหยียนคงได้รับข่าวว่าคุณท่านหลีได้รับบาดเจ็บ เลยรีบวิ่งมาที่โรงพยาบาลโดยไม่สนใจร่างกายของตัวเอง ส่วนคุณหมอประจำบ้านก็ตามมาด้วยความเป็นห่วง“ซูเหยียน หนูมาได้ยังไง พ่อบอกแล้วไม่ใช่
เฉียวสือเนี่ยนบอกไว้ชัดเจนแล้วบนโต๊ะรับประทานอาหารว่าเธอไม่มีทางให้อภัยหลีซูเหยียนหลีพัวถิงไม่แปลกใจกับผลลัพธ์ที่ออกมาแบบนี้เท่าไร เขาไม่ได้เกลี้ยกล่อมอะไรมาก จึงได้แต่พูดออกไปว่า “คุณเฉียว เรื่องที่เกิดขึ้นนับว่ามีความเกี่ยวข้องกับผมอยู่บ้าง ผมไปกับคุณด้วยแล้วกัน”“ไม่เป็นไรค่ะ” เฉียวสือเนี่ยนปฏิเ
อิ๋นเสี่ยวซือได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไป ทว่ายังคงทำเป็นว่าไม่มีใครบงการตนเอง ที่หล่อนไม่อยากให้เฉียวสือเนี่ยนมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข เป็นเพราะหล่อนเกลียดเธอ!เฉียวสือเนี่ยนแค่นเสียงเฮอะอย่างเย็นชา “เธอไม่คิดว่าเหตุผลนี้มันดันทุรังไปหน่อยเหรอ?”“อย่าว่าแต่เธอกับฮั่วเยี่ยนฉือเกี่ยวข้องกันด้วยเรื่องเงินเลย
ระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงตั้งแต่ที่อิ๋นเสี่ยวซือปรากฏตัวอยู่หน้าอี้หมิงจนถึงตอนนี้ แต่ฮั่วเยี่ยนฉือกลับตรวจสอบได้มากมายขนาดนี้เชียว?“อย่างที่เฉียวสือเนี่ยนเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ ถ้าเธอยอมรับ พวกเราจะให้โอกาสเธอได้ผ่อนผันโทษ แต่ถ้าเธอไม่ยอมรับ งั้นเธอก็ค่อยรอออกจากคุกชาติหน้าแล้วกัน” ฮั่วเยี่ยนฉือกล่าว
สิ้นคำถามของหลีพัวถิง กอปรกับขณะที่คนรับใช้ยังไม่ทันได้ตอบคำถาม หลีซูเหยียนก็พูดออกมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่า “จริงด้วย พี่ฮวน มือเป็นอะไรเหรอคะ!”พี่ฮวนชักมือกลับไปเล็กน้อย แล้วก้มหน้าตอบคำถาม “ขอบคุณคุณท่านหลีกับคุณหนูหลีที่เป็นห่วงนะคะ พอดีเมื่อวานไปที่สวนดอกไม้แล้วไม่ทันระวังเลยโดนกิ่งไม้เกี่ยว
“งั้นเหรอ ได้ครับ”พูดจบ หลีพัวถิงก็วางสาย แล้วกดเปิดไลน์ขึ้นมาอ่านในนั้นมีคลิปเสียงสั้น ๆ ที่เฉียวสือเนี่ยนส่งมาให้เมื่อกดเล่น เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังออกมา[ฉันบอกแล้ว ฉันยอมบอกแล้ว... คนของหลีซูเหยียนให้ฉันมาเล่นงานเธอ... คนของหล่อนเป็นฝ่ายติดต่อฉันมา แล้วรับปากว่าจะให้เงิน
เมื่อก่อนถ้าหลีซูเหยียนน้อยใจและโกรธแบบนี้ หลีพัวถิงก็คงตามไปอย่างเป็นห่วง แล้วปลอบใจเธอดี ๆแต่ตอนนี้ หลีพัวถิงเหมือนถูกสูบพลังไปหมดร่างกาย เขานั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยใจแผลบนแขนเจ็บจนแทบทนไม่ไหว แต่หลีพัวถิงกลับนิ่งไม่ไหวติงภาพท่าทางเชื่อฟังอ่อนหวานของลูกสาวปรากฏตรงหน้าของตัวเองไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่
เมื่อได้ยินข้อสงสัยของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกแปลกใจ“มันก็ดูไม่เข้ากับพฤติกรรมของหลีซูเหยียนจริง ๆ แต่บางทีอาจเป็นเพราะคุณท่านหลีมีท่าทีแข็งกร้าว หลีซูเหยียนก็เลยต้องมาหรือเปล่า?” เฉียวสือเนี่ยนวิเคราะห์เพราะถึงอย่างไรหลีพัวถิงก็เป็นที่พึ่งพิงอันยิ่งใหญ่ของหลีซูเหยียน ต่อให้หลีซูเหยียน
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั