สิ้นคำถามของหลีพัวถิง กอปรกับขณะที่คนรับใช้ยังไม่ทันได้ตอบคำถาม หลีซูเหยียนก็พูดออกมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่า “จริงด้วย พี่ฮวน มือเป็นอะไรเหรอคะ!”พี่ฮวนชักมือกลับไปเล็กน้อย แล้วก้มหน้าตอบคำถาม “ขอบคุณคุณท่านหลีกับคุณหนูหลีที่เป็นห่วงนะคะ พอดีเมื่อวานไปที่สวนดอกไม้แล้วไม่ทันระวังเลยโดนกิ่งไม้เกี่ยว
“งั้นเหรอ ได้ครับ”พูดจบ หลีพัวถิงก็วางสาย แล้วกดเปิดไลน์ขึ้นมาอ่านในนั้นมีคลิปเสียงสั้น ๆ ที่เฉียวสือเนี่ยนส่งมาให้เมื่อกดเล่น เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังออกมา[ฉันบอกแล้ว ฉันยอมบอกแล้ว... คนของหลีซูเหยียนให้ฉันมาเล่นงานเธอ... คนของหล่อนเป็นฝ่ายติดต่อฉันมา แล้วรับปากว่าจะให้เงิน
เมื่อก่อนถ้าหลีซูเหยียนน้อยใจและโกรธแบบนี้ หลีพัวถิงก็คงตามไปอย่างเป็นห่วง แล้วปลอบใจเธอดี ๆแต่ตอนนี้ หลีพัวถิงเหมือนถูกสูบพลังไปหมดร่างกาย เขานั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยใจแผลบนแขนเจ็บจนแทบทนไม่ไหว แต่หลีพัวถิงกลับนิ่งไม่ไหวติงภาพท่าทางเชื่อฟังอ่อนหวานของลูกสาวปรากฏตรงหน้าของตัวเองไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่
เมื่อได้ยินข้อสงสัยของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกแปลกใจ“มันก็ดูไม่เข้ากับพฤติกรรมของหลีซูเหยียนจริง ๆ แต่บางทีอาจเป็นเพราะคุณท่านหลีมีท่าทีแข็งกร้าว หลีซูเหยียนก็เลยต้องมาหรือเปล่า?” เฉียวสือเนี่ยนวิเคราะห์เพราะถึงอย่างไรหลีพัวถิงก็เป็นที่พึ่งพิงอันยิ่งใหญ่ของหลีซูเหยียน ต่อให้หลีซูเหยียน
ซ่งชิงชวนดูออกว่าเฉียวสือเนี่ยนกำลังสงสัย จึงพูดขึ้น “จริง ๆ เรื่องความรู้สึกมันไม่มีเหตุผลมาอธิบายได้หรอกนะ”“ผมไม่รู้ว่าไปรู้สึกดีกับคุณตอนไหน ที่ผมพูดถึงเรื่องบาร์ ก็แค่อยากตอบคำถามที่คุณบอกว่าเราไม่ได้สนิทกันลึกซึ้งขนาดนั้น”เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งชิงชวน เฉียวสือเนี่ยนก็เอ่ยขึ้น “ซ่งชิงชวน ในสายต
พอชาร์จแบตเปิดเครื่อง เฉียวสือเนี่ยนก็เห็นว่าเบอร์ล่าสุดที่โทรเข้าเป็นเบอร์ของฮั่วเยี่ยนฉือซึ่งประวัติสนทนา…นานถึงหกชั่วโมง?เมื่อคืนเฉียวสือเนี่ยนนอนหลับสนิท เธอจึงจำไม่ได้ว่าตัวเองรับสายฮั่วเยี่ยนฉือคงเพราะมีสายโทรเข้า เธอจึงเผลอกดรับ จากนั้นฮั่วเยี่ยนฉือก็ลืมวางสายสินะ?เฉียวสือเนี่ยนขี้เกียจคิ
แสงไฟอันสุกสว่างสาดส่องไปทั่วลานโบว์ลิงที่โล่งกว้าง ฮั่วหย่วนเจ๋ออยู่ในชุดลำลองที่ตัดเย็บอย่างดี ในมือเขาถือลูกโบว์ลิงไว้ ร่างกายย่อลงเล็กน้อย จากนั้นก็โยนลูกโบว์ลิงนั้นให้ไถลไปตรงตามเลนโบว์ลิง“ตุบ!”เสียงชนกระแทกที่ชัดเจนดังสะท้อนไปมาภายในลานโบว์ลิง ตามมาด้วยเสียง “โครม ๆ” สองสามที แต่พินโบว์ลิงกล
“แล้วก็อย่าเพิ่งรีบร้อนอาละวาดไป” เฉียวสือเนี่ยนรีบเอ่ยตัดหน้าฮั่วหย่วนเจ๋อ “ฉันไม่ได้กำลังใส่ร้ายหลีซูเหยียนหรอกนะคะ เธอไม่ได้ควบคุมง่ายและไร้เดียงสาอย่างที่เห็นจากภายนอกจริง ๆ”พอเอ่ยจบ เฉียวสือเนี่ยนก็กดเปิดคลิปที่หลีซูเหยียนลากเธอตกน้ำ จากนั้นก็เปิดคลิปเสียงของอิ๋นเสี่ยวซือให้ฮั่วหย่วนเจ๋อฟังเม
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั