ตอนนั้น เฉียวสือเนี่ยนทั้งริษยาทั้งปวดแปลบ เธอหวังไว้มากมายเหลือเกินว่าตัวเธอของจะได้มายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับฮั่วเยี่ยนฉือแบบนั้นบ้างเธอเลยเข้าไปขอร้องคุณย่าฮั่ว ว่าอยากเข้าไปทำงานที่ฮั่ว กรุ๊ป เธอเองก็อยากสร้างธุรกิจออกมาให้ได้เหมือนกัน ทว่าคำขอนี้กลับถูกฮั่วเยี่ยนฉือนำมาใช้เป็นเครื่องมือชวนทะเลา
เฉียวสือเนี่ยนปฏิเสธหลี่ซูเหยียนอย่างสุภาพ บอกว่าตนเองต้องทำงานล่วงเวลาช่วงสุดสัปดาห์หลีซูเหยียนเองก็ไม่ได้ดึงดัน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่าไว้ค่อยนัดกันวันอื่นพอดีกับที่คนขับรถมาถึง เฉียวสือเนี่ยนจึงกล่าวลากับหลีซูเหยียน“คุณซ่งคะ รบกวนคุณไปส่งซ่งม่านกลับบ้านด้วยนะคะ”เฉียวสือเนี่ยนคืนเสื้อค
ลู่เฉินหนานนั่งลงข้าง ๆ โต๊ะทำงาน แล้วยื่นมือออกไปบังหน้าจอไว้ “พี่ฉือ นี่ผมกำลังพูดกับพี่อยู่นะ ไม่ได้ยินเหรอ?”ดวงตาดำขลับของฮั่วเยี่ยนฉือปรายตามองเขาอย่างไม่แยแส “ถ้านายว่านักก็ไปหาคุณฟู่ซะ วิ่งโร่มาเรียกร้องความสนใจจากฉันเพื่ออะไร?”“มาเพราะเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องไม่ได้หรือไงเล่า”ลู่เฉินหนานกล่าว
เฉียวสือเนี่ยนส่งเสี่ยวซื่อคืนให้หลีซูเหยียน “คนที่เสี่ยวซื่อชอบมากกว่าก็คือคุณ ถึงอย่างไรคุณก็เป็นคนที่เก็บมันมา ทั้งยังคอยดูแลเอาใจใส่มันมาตลอด”“บางครั้งใช่ว่าเอาใจใส่แล้วจะได้เรื่องนี่คะ เธอลองดูเสี่ยวซื่อสิ มันไม่ค่อยติดฉันเลย”หลีซูเหยียนพูดไปพลางลูบหัวเสี่ยวซื่อไปพลาง แม้ว่าเสี่ยวซื่อจะไม่ได้
พวกเขาน่าจะเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน เพราะพนักงานกำลังจัดวางอาหารลงบนโต๊ะของพวกเขาเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของเธอ ฮั่วเยี่ยนฉือที่นั่งอยู่ก็เลิกตาขึ้นมอง พอเห็นเธอ ดวงตาดำขลับของเขาก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งสิ้น“ประธานฮั่วคะ บังเอิญจังเลย พวกคุณก็มากินข้าวเหมือนกันสินะคะ!” หลีซูเหยียนพูดขึ้นอย่างประหลา
ของหวานที่เพิ่งตักออกมาจากหม้อหมาด ๆ จึงร้อนเป็นอย่างมากเมื่อช้อนร่วงตก น้ำร้อนจึงกระเด็นโดนมือของหลีซูเหยียน เธอร้อง “อ๊ะ” ออกมาแล้วปล่อยชามทิ้งผลกลับกลายเป็นว่าพอชามของหวานหล่นลงไปในหม้อมน้ำร้อน ๆ ก็กระเด็นออกมามากกว่าเดิม โดนหลังมือของเฉียวสือเนี่ยนและอิ๋นเสี่ยวซืออย่างเป๊ะ ๆ ทั้งสองคนส่งเสียง
“เถียนเถียน ถ้าเธออยากเม้าท์ขนาดนี้ฉันว่าเธอไปเป็นนักข่าวบันเทิงดีกว่านะ เหมาะกับเธอดี”เมื่อถูกเฉียวสือเนี่ยนเย้าแหย่ ฟู่เถียนเถียนก็ไม่ได้หงุดหงิดอะไร “ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ ไม่งั้นเธอซื้อกิจการค่ายบันเทิงมาสักค่ายดีไหม?” “แล้วก็นะ เฉียวสือเนี่ยนเพื่อนรัก ทำไมเธอไม่ยอมตอบคำถามฉันตรง ๆ?” ฟูเถียนเถียนจ
ลิฟต์กำลังเลื่อนลง นอกจากพวกเขาแล้วในลิฟต์ก็ไม่มีคนอื่นเฉียวสือเนี่ยนมองดวงตาสดใสของโจวหยางอิง ในนั้นวูบไหวไปด้วยความหวังราง ๆราวกับว่าขอแค่เธอพยักหน้า เขาก็พร้อมที่จะพูดทุกอย่างที่กักเก็บไว้ออกมาแม้ว่าโจวหยางอิงจะไม่เคยชัดเจนในความรู้สึกของตัวเอง แต่เฉียวสือเนี่ยนก็พอจะสังเกตได้ว่าโจวหยางอิงมีคว