เฉียวสือเนี่ยนส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น “ไม่มีปัญหาค่ะ คุณป้า หนูก็แค่สงสัยเลยถามดูน่ะค่ะ”ฟางเชี่ยนหรูนำคำพูดของเฉียวสือเนี่ยนมาคิดอีกรอบ จากนั้นก็ถามอย่างเข้าใจ “สือเนี่ยน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเธอมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลป๋ายใช่ไหม? เธอสงสัยว่าเบื้องหลังเป็นแผนการของพ่อเยี่ยนฉือ พอไปสืบเขาแล้วก็พบว่า
ประตูไม่ได้ปิดสนิท เฉียวสือเนี่ยนจึงเปิดเข้าไป พลันเห็นสภาพเละเทะภายในห้องหมอนอิงบนโซฟาถูกปาทิ้งกระจัดกระจาย มีเศษแก้วและเศษชาหล่นเต็มพรมบนพื้นแจกันดอกไม้ตกอยู่บนพื้น กลีบดอกไม้ร่วงกระจายจนสีของมันที่เคยสดใสขณะนี้ดูเหี่ยวเฉาทันตา บนผนังมีร่องรอยไม่น้อย ดูเหมือนมีวัตถุปาใส่จนเกิดเป็นรอยผมของป้าถาน
ได้หรือไม่ได้ เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่อาจรับประกันแต่เพื่อ M•Q และตระกูลเฉียวแล้ว เธอต้องไปเจออีกฝ่ายเพื่อดูว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์อะไร“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าได้หรือไม่ได้!” ในน้ำเสียงไม่มั่นใจของเฉียวเล่อเยียนปะปนไปด้วยความไม่พอใจ“พ่อคะ พ่อไม่เชื่อใจพวกหนู หรือว่าตัดใจจากผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ก็เลยไ
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เสียงผู้หญิงในห้องก็ดังขึ้น “ใครคะ?”ไม่นานหญิงสาวอายุราวสามสิบต้น ๆ ก็มาปรากฏตรงหน้าเฉียวสือเนี่ยนผู้หญิงคนนั้นอยู่ในเสื้อผ้าตัวหลวมโคร่ง หน้าตาไม่ได้สวยมีมิติเหมือนคุณป้า แต่หน้าตาจิ้มลิ้มอ่อนหวานเหมือนคนแถบเจียงหนานไม่ได้ดูเฉลียวฉลาดเหมือนคุณป้า แต่ดูเป็นผู้หญิงมีสไตล์
เฉียวสือเนี่ยนไม่ลังเล ขึ้นไปนั่งบนรถของซ่งชิงชวนทันทีอย่างแรกเพราะรถของเธอถูกชนท้าย กลัวว่าถ้าขับต่อไปจะเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นจึงไม่อยากเสี่ยงอย่างที่สองเฉียวสือเนี่ยนมีเรื่องอยากให้ซ่งชิงชวนช่วยเมื่อเฉียวสือเนี่ยนขึ้นมานั่งบนรถ ซ่งชิงชวนก็ขั้นมานั่งข้าง ๆ เธอคงเพราะไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ทั้งสอ
โจวหยางอิงให้คำตอบที่หนักแน่นแก่เฉียวสือเนี่ยน “พี่ พี่อยากตรวจสอบใครงั้นเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยน “ใช่ นายส่งช่องทางการติดต่อของ KK มาให้ฉันหน่อยสิ ฉันจะอธิบายให้เขาฟังอย่างละเอียด”โจวหยางอิงไม่ได้ถามอะไรต่ออีก เขารีบทำตามที่เธอบอกทันทีจากนั้นโจวหยางอิงก็บอกเฉียวสือเนี่ยนว่า ผลงานภาพยนตร์ที่เขาร่วมถ่
เฉียวสือเนี่ยนแปลกใจเล็กน้อย นี่คุณลุงโทรศัพท์มาหาฮั่วเยี่ยนฉือเพราะอยากให้เขาช่วยงั้นเหรอ?เฉียวสือเนี่ยน “เรื่องของคุณลุงมีปัญหานิดหน่อย แต่พวกเราจัดการกันเองได้ ไม่ต้องรบกวนคุณหรอก”ฮั่วเยี่ยนฉือตอบกลับตรง ๆ ว่า “เมื่อคืนฉันให้โจวเทียนเฉิงไปตรวจสอบคุณอู๋แล้ว”เฉียวสือเนี่ยน “...” ต้องบอกว่าฮั่วเย
สถานการณ์ในที่เกิดเหตุแย่กว่าที่เฉียวสือเนี่ยนคิดเอาไว้เฉียวกั๋วเซิ่งไม่เพียงแต่จะถูกตีจนหัวแตก แต่ที่มุมปากและเบ้าตายังมีรอยฟกช้ำอยู่ด้วยเธอเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาถือว่าพอใช้ แต่ในตอนนี้เขากำลังมีท่าทีฉุนเฉียว อีกทั้งยังบีบคอคุณลุงไว้แน่นไม่ยอมปล่อย และบังคับให้คุณลุงจ่ายเงินชดเชยตามที่ตัวเอง
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั