เฉียวสือเนี่ยนไม่ลังเล ขึ้นไปนั่งบนรถของซ่งชิงชวนทันทีอย่างแรกเพราะรถของเธอถูกชนท้าย กลัวว่าถ้าขับต่อไปจะเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นจึงไม่อยากเสี่ยงอย่างที่สองเฉียวสือเนี่ยนมีเรื่องอยากให้ซ่งชิงชวนช่วยเมื่อเฉียวสือเนี่ยนขึ้นมานั่งบนรถ ซ่งชิงชวนก็ขั้นมานั่งข้าง ๆ เธอคงเพราะไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ทั้งสอ
โจวหยางอิงให้คำตอบที่หนักแน่นแก่เฉียวสือเนี่ยน “พี่ พี่อยากตรวจสอบใครงั้นเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยน “ใช่ นายส่งช่องทางการติดต่อของ KK มาให้ฉันหน่อยสิ ฉันจะอธิบายให้เขาฟังอย่างละเอียด”โจวหยางอิงไม่ได้ถามอะไรต่ออีก เขารีบทำตามที่เธอบอกทันทีจากนั้นโจวหยางอิงก็บอกเฉียวสือเนี่ยนว่า ผลงานภาพยนตร์ที่เขาร่วมถ่
เฉียวสือเนี่ยนแปลกใจเล็กน้อย นี่คุณลุงโทรศัพท์มาหาฮั่วเยี่ยนฉือเพราะอยากให้เขาช่วยงั้นเหรอ?เฉียวสือเนี่ยน “เรื่องของคุณลุงมีปัญหานิดหน่อย แต่พวกเราจัดการกันเองได้ ไม่ต้องรบกวนคุณหรอก”ฮั่วเยี่ยนฉือตอบกลับตรง ๆ ว่า “เมื่อคืนฉันให้โจวเทียนเฉิงไปตรวจสอบคุณอู๋แล้ว”เฉียวสือเนี่ยน “...” ต้องบอกว่าฮั่วเย
สถานการณ์ในที่เกิดเหตุแย่กว่าที่เฉียวสือเนี่ยนคิดเอาไว้เฉียวกั๋วเซิ่งไม่เพียงแต่จะถูกตีจนหัวแตก แต่ที่มุมปากและเบ้าตายังมีรอยฟกช้ำอยู่ด้วยเธอเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาถือว่าพอใช้ แต่ในตอนนี้เขากำลังมีท่าทีฉุนเฉียว อีกทั้งยังบีบคอคุณลุงไว้แน่นไม่ยอมปล่อย และบังคับให้คุณลุงจ่ายเงินชดเชยตามที่ตัวเอง
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนอย่างตกใจของเฉียวสือเนี่ยน บอดี้การ์ดของฮั่วเยี่ยนฉือก็วิ่งเข้ามาทันที“ประธานฮั่วได้รับบาดเจ็บ ต้องไปโรงพยาบาล!”เมื่อครู่ชายคนนั้นใช้แรงไม่น้อยในการโจมตีเธอ การที่ฮั่วเยี่ยนฉือมาขวางเอาไว้ เดาว่าเขาน่าจะเจ็บหนักทีเดียวโชคดีที่ไม่ได้ฟาดลงบนศีรษะ ไม่อย่างนั้นผลร้ายที่ตามมาคงจะร
เข้าใจผิดแล้วยังไงล่ะ ฮั่วเยี่ยนฉือก็โกหกเธอเหมือนกัน เธอไม่มีทางที่จะขอโทษเฉียวสือเนี่ยนเตือนเฉียวเล่อเยียนว่าห้ามไปรบกวนฮั่วเยี่ยนฉืออีก จากนั้นก็ถามเรื่องสถานการณ์ของผู้ชายคนนั้นเฉียวเล่อเยียนบอกว่าชายคนนั้นถูกคนของฮั่วเยี่ยนฉือนำตัวไปที่สถานีตำรวจแล้ว แต่เฉียวกั๋วเซิ่งไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เ
ซ่งชิงชวนยิ้มอย่างสุขุม “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ หากมีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ช่วย คุณสามารถบอกผมได้”“ค่ะ”เฉียวสือเนี่ยนวางสายไปเมื่อซ่งชิงชวนไม่ได้ปกปิดเรื่องของอู๋เมิ่งเสวี่ย บางทีเขาน่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของคุณลุงนอกจากเรื่องที่โม่ซิวหย่วนชอบเธอและส่งผลกระทบให้ซ่งม่านยกเลิกงานแต่ง เฉียวสือเ
สำหรับคำถามของเฉียวสือเนี่ยน คุณย่าฮั่วก็ทอดถอนลมหายใจออกมาอีกครั้ง “ย่าไม่รู้สถานการณ์โดยรวม อาหรูกับหย่วนเจ๋อล้วนไม่ยอมเอ่ยถึงมันเลย แต่ย่ามั่นใจว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับหย่วนเจ๋อแน่นอน”จุดนี้เฉียวสือเนี่ยนเห็นด้วยเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ เธอจึงไม่กล้าแสดงความคิดเห็นมากนัก
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั