เป็นความไม่ตั้งใจที่เกิดขึ้นในคืนวันนั้น?“ฉันเข้าใจมาตลอดว่า คืนนั้นหมอหนีเพียงแค่คอยดูแลฉันเฉย ๆ เท่านั้น” เวินจิ๋งหลี่ยืนยันในความคิดของฟู่เถียนเถียน “แต่หมอหนีบอกว่าฉันเห็นหล่อนเป็นเธอ พอเข้าห้องไปก็ดึงหล่อนเข้าห้องนอนไปแล้ว...”“ฉันไม่เคยดื่มจนเมามาก่อน ไม่รู้ว่าตัวฉันเองจะทำอะไรลงไปบ้าง วันต่อ
เวินจิ๋งหลี่หยิบโทรศัพท์ออกมา ฟู่เถียนเถียนจึงเหลือบไปเห็นอย่างไม่ได้ตั้งใจสิ่งที่โชว์หราบนหน้าจอคือเบอร์โทรเข้าจากคุณนายเวินไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าโทรมาหาเขาเพราะเรื่องหนีม่านเหยาเวินจิ๋งหลีกดปุ่มปิดเสียง“เถียนเถียน พ่อกับแม่รับปากฉันแล้ว ขอแค่ฉันจดทะเบียนสมรสกับหมอหนี ก็จะไม่มาหาเธออีก”เวินจิ๋
วัยรุ่นไม่กี่คนสร้างบริษัทเกมขึ้นมาแน่นอนว่าไม่ได้มีเงินทุนมากมายขนาดนั้น พวกเขาจึงเลือกสตูดิโอในตึกเก่า ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งตึกนี้ไม่มีบริษัทนิติบุคคล และไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่เฝ้าเวรยาม รถของเฉียวสือเนี่ยนจอดอยู่ในซอย แม้ว่าจะมีไฟตามถนน แต่เทียบกับสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านแล้ว ที่นี่ก็นับ
เมื่อเห็นว่าเฉียวสือเนี่ยนยังคงมองกระจกหลังอยู่ สีหน้าของโม่ซิวหย่วนก็เคร่งขรึมเล็กน้อย “ทำไมฉันรู้สึกว่าทุกครั้งที่หลีซูเหยียนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยต้องเกิดเรื่องไม่ดีทุกครั้งเลยล่ะ?”เฉียวสือเนี่ยนละสายตากลับมา กำลังจะบอกไม่ให้โม่ซิวหย่วนพูดมั่วซั่ว แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าโม่ซิวหย่วนพูดถูกทุกอย่างครั้ง
“ฉันกำลังจะไปที่คอนโดหมิงเยว่พอดี”เขาไม่ให้เวลาเฉียวสือเนี่ยนปฏิเสธ ฮั่วเยี่ยนฉือก็พูดอย่างราบเรียบ “ป้าหวังบอกว่าทำซุปไว้ ให้ฉันเอากลับไปกินด้วย”เดิมทีโม่ซิวหย่วนก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว พอเห็นฮั่วเยี่ยนฉือใช้แม่บ้านของเฉียวสือเนี่ยนมาเป็นข้ออ้าง ก็ยิ่งไม่พอใจ “ไม่จำเป็นต้องให้นายไปส่ง!”“เนี่ยนเนี่
ไม่ใช่แค่เฉียวสือเนี่ยนที่ไม่รู้จุดประสงค์การมาของโม่ซิวหย่วน แม้แต่ซ่งม่านและซ่งชิงชวนเองก็ประหลาดใจกับการโผล่มาของโม่ซิวหย่วนแน่นอนว่าโม่ซิวหย่วนเห็นสองพี่น้องซ่งชิงชวนและซ่งม่าน แต่เขาไม่สนใจ หันไปส่งดอกกุหลาบแดงให้เฉียวสือเนี่ยนแทนเมื่อเห็นดอกกุหลาบสีแดงสวยช่อใหญ่ เฉียวสือเนี่ยนก็แปลกใจ “โม่ซิ
เมื่อได้ยินข้อสงสัยของโม่ซิวหย่วน เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่ได้ปิดบัง “ฉันอยากหาจังหวะทดสอบหลีซูเหยียน”โม่ซิวหย่วนถาม “ทดสอบอะไร?”เฉียวสือเนี่ยนตอบ “ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้หลีซูเหยียนเคยบอกว่ามีคนที่ชอบ แต่เธอมาที่เมืองไห่เฉิงตั้งนานแล้วก็ไม่เคยได้ยินว่าเธอไปหาผู้ชายคนนั้น”คนที่ตกหลุมรักใครสักคนก็มักที่จ
เฉียวสือเนี่ยนพบว่าบริเวณหัวของเสี่ยวซื่อมีผิวหนังบางส่วนไม่มีขน รอยแผลแดงที่ปรากฏขึ้นดูค่อนข้างน่ากลัวเสี่ยวซื่อที่เคยมีขนนุ่มนิ่มและน่ารัก ตอนนี้มันกลับดูผอมกระหร่อง แถมยังกลัวคนมากกว่าเดิมเฉียวสือเนี่ยนยื่นมือเข้าไปใกล้มัน เสี่ยวซื่อก็ตื่นตระหนกจนขนตั้งชันและส่งเสียงขู่เตือนจากลำคอ แววตาของมันเ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั