แรงดึงที่มาอย่างกะทันหันทำให้เฉียวสือเนี่ยนอุทานอย่างตกใจวินาทีต่อมา เธอก็ตกอยู่ในวงแขนกว้างใหญ่ของใครบางคนกลิ่นหอมของซีดาร์ที่คุ้นเคยพลันโชยมา เฉียวสือเนี่ยนหันไป จึงเห็นว่าเป็นฮั่วเยี่ยนฉือเขาน่าจะออกจากลิฟต์มา ขณะนี้ใบหน้าหล่อเหลามอึมครึมเล็กน้อย ดวงตาดำขับจดจ้องโม่ซิวหย่วนอย่างเย็นชา“ใครอนุญ
เมื่อเฉียวสือเนี่ยนหันกลับไป ก็เห็นใบหน้าอ่อนโยนอบอุ่นของอวี๋จิ่งเฉิง“พี่จิ่งเฉิง” เฉียวสือเนี่ยนเรียกอีกฝ่ายยิ้ม ๆอวี๋จิ่งเฉิงพยักหน้า แล้วหันไปมองโม่ซิวหย่วน “เพื่อนของน้องเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยนตอบ “ค่ะชื่อโม่ซิวหย่วน”โม่ซิวหย่วนยื่นมือไปหาอวี๋จิ่งเฉิงอย่างสุภาพ “สวัสดีครับ”อวี๋จิ่งเฉิงเองก็ตอบ
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณตา เฉียวสือเนี่ยนก็แปลกใจเล็กน้อยฮั่วเยี่ยนฉือยังแอบไปเยี่ยมคุณตาอยู่อีกเหรอ?เรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศ T จะบอกให้คุณตารู้ไม่ได้เด็ดขาด เฉียวสือเนี่ยนจึงบอกแค่ว่าก่อนหน้านี้เกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อย ฮั่วเยี่ยนฉือจึงได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้“บาดเจ็บเพราะหลาน?” เฉียวตงไห่ถาม
ฮั่วเยี่ยนฉือกอดเฉียวสือเนี่ยนเอาไว้แน่น เขาพูดเสียงแหบพร่า “เนี่ยนเนี่ยน ฉันรู้ว่าเธอเกลียดฉัน ฉันเองก็เกลียดตัวเองเหมือนกัน ฉันไม่รู้ว่าทำไมก่อนหน้านี้ฉันถึงไม่อดทนเลยสักนิด ทำไมถึงไม่รู้ความรู้สึกตัวเองให้เร็วกว่านี้...”“ฉันผิดไปแล้ว จากนี้ฉันจะรักและทะนุถนอมเธอให้มาก ๆ เนี่ยนเนี่ยน เธออย่ายอมแพ
ความจริงแล้วป๋ายอีอีไม่ได้กลัวฟ่านซู่ฉินหากไม่ใช่เพราะฮั่วเยี่ยนฉือ ตอนที่อยู่ประเทศ T เธอคงไม่ปล่อยให้ฟ่านซู่ฉินมีโอกาสออกจากคุกหรอกแต่ฮั่วเยี่ยนฉือกลับยืนยันหนักแน่นที่จะปกป้องฟ่านซู่ฉินเขาไม่เพียงแต่จะทำการวินิจฉัยสภาพจิตให้แก่ฟ่านซู่ฉิน แต่ยังให้ฟ่านซู่ฉินกับเธออยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชเดียวกัน!
ไม่นานหลังจากนั้น เสียงร้องโหยหวนของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นจากห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาลจิตเวชแห่งหนึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกในโรงพยาบาลจิตเวช เพราะมักจะมีคนที่ได้รับการกระตุ้นจนต้องกรีดร้องอยู่เสมอไม่มีคืนไหนที่จะสงบเลย……วันต่อมา เมื่อเฉียวสือเนี่ยนเพิ่งจะอาบน้ำล้างหน้าเสร็จ เธอก็ได้รับสายโทรศัพท์จากโ
พวกเขาคือซ่งม่านและซ่งชิงชวนสองพี่น้องซ่งม่านสวมชุดทำงานเรียบหรู เธอดูเป็นหญิงสาวที่โตขึ้นกว่าตอนที่เป็นคุณหนูใหญ่ส่วนซ่งชิงชวนสวมสูทที่ตัดเย็บอย่างประณีต สายตาของเขานุ่มลึกและสุขุม บรรยากาศรอบตัว ๆ ตัวเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมของผู้เป็นหัวหน้าคนเมื่อเห็นเธอ สีหน้าของซ่งม่านแสดงออกถึงความประหลาด
เมื่อเห็นฮั่วเยี่ยนฉือในห้องโถงรับรองแขก ซ่งม่านจึงหันมามองเฉียวสือเนี่ยนเฉียวสือเนี่ยนไม่ได้สนใจการเยาะเย้ยจากซ่งม่าน แต่เธอกลับขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัวดูเหมือนว่าโมซิวหย่วนจะพูดถูก ฮั่วเยี่ยนฮือกำลังจะรับผิดชอบการระดมทุนครั้งนี้ด้วยตัวเองฮั่วเยี่ยนฉือดูยุ่งมาก ถึงแม้เขาจะอยู่ในห้องโถงรับรองแขกข
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั