เมื่อเห็นเบอร์ที่โทรมาก็เห็นว่าเป็นโจวหยางอิง ซึ่งไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันแล้ว“พี่ พวกเราผ่านรอบแรกได้อย่างราบรื่น ตอนนี้สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการบันทึกเสียงและภาพได้แล้วครับ!”เมื่อรับสาย โจวหยางอิงก็บอกข่าวดีให้เธอฟังทันทีเฉียวสือเนี่ยนดีใจแทนเขาด้วยเช่นกัน “นี่เป็นแค่ก้าวแรก นายจะต้องผ่านด่
เฉียวสือเนี่ยนเสยผมตัวเองด้วยท่าทางวางมากเท่ “แน่นอนสิ พี่หล่อไหม?”โจวหยางอิงหัวเราะให้กับท่าทางของเฉียวสือเนี่ยน เขาพยักหน้าก่อนจะพูดประจบเธอ “หล่อครับ ทั้งเท่ทั้งหล่อ บอกเลยว่าฝีมือไม่ต่างกับนักตีกลองมืออาชีพ!”“เด็กคนนี้ตาถึงจริง ๆ !” เฉียวสือเนี่ยนตบไหล่โจวหยางอิงเบา ๆ “ปะ พี่เลี้ยงเหล้านายเอง!
“ถามเธออยู่นะ!” ฮั่วเยี่ยนฉือพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวอีกครั้งเฉียวสือเนี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเลียนแบบฮั่วเยี่ยนฉือในเมื่อก่อน “ไม่แน่ใจ อย่ามายุ่งเรื่องของฉันหน่อยเลย”พูดจบ เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่ให้โอกาสฮั่วเยี่ยนฉือได้พูดอะไรอีก ก่อนจะวางสายไปเมื่อนึกถึงสีหน้าโกรธจัดของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือ
หลังจากได้ยินเสียงที่ฟังดูตื่นเต้นของฟู่เถียนเถียน เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ฉันดังอะไรกัน?”เรื่องที่เมาครั้งก่อนมันผ่านไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?“ก็เมื่อวานเธอตีกลองชุดที่บาร์เหล้าไง มีคนโพสต์คลิปออกมา มีคนชมเธอเยอะมากว่า ทั้งสวยทั้งเท่!”ฟู่เถียนเถียนรีบเปิดให้เฉียวสือเนี่ยนดู “ฉันใช้ไอแพด
ฮั่วเยี่ยนฉือคงจะไม่เลวถึงขั้นฉวยโอกาสที่เธอเมาเอาเปรียบเธอหรอกส่วนชุดนอน...เฉียวสือเนี่ยนเดินลงไปชั้นล่าง ก่อนจะถามป้าหวัง “ป้าหวัง เมื่อคืนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันเหรอคะ?”ป้าหวังตอบกลับในขณะที่กำลังเก็บโต๊ะอยู่ “ใช่ค่ะ เมื่อคืนคุณผู้หญิงดื่มหนัก เรียกก็ไม่ตื่น คุณผู้ชายเลยให้ฉันช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อ
เมื่อได้ยินคำถามของลู่เฉินหนาน ฮั่วเยี่ยนฉือก็รู้สึกไม่สบายใจไม่ว่าจะหย่าหรือแต่งงานใหม่ เขาก็รู้สึกสับสนไปหมดหนึ่งเดือนก่อน คืนที่เฉียวสือเนี่ยนพูดเรื่องหย่า เขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นเขาคิดแค่ว่าหากหย่าไป ก็ถือว่าเขาจัดเรื่องวุ่นวายไปได้อีกเรื่องทำไมผ่านมาแค่เดือนเดียวกลับมีความรู้สึกแป
สมองของฮั่วเยี่ยนฉือฉายภาพที่เฉียวสือเนี่ยนพูดกับเขาในสภาพเมามาย น้ำตาไหลอาบหน้า “เธอไม่เสียใจ เธอจะไม่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบ” เธอพูดถึงเรื่องนี้เหรอ?“ตอนนี้ฉันต้องทำยังไง?” ฮั่วเยี่ยนฉือขมวดคิ้วและถามขึ้นเมื่อเห็นว่าในที่สุดพี่ฉือก็ตาสว่าง ลู่เฉินหนานก็รู้สึกปลื้มใจเป็นเท่าตัว“พี่ฉือ คืนนั้นที่งา
เมื่อได้ยินเสียงรอสายโทรศัพท์ หยวนหงจื้อก็รีบยื่นมือไปกดวางสายทันที“พี่เฉียว นี่พี่หมายความว่ายังไง?”เธอควรจะละอายใจกับเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงยังกล้าโทรศัพท์ไปบอกฮั่วเยี่ยนฉือ?เฉียวสือเนี่ยนพูดทีเล่นทีจริง “ไม่ได้อะไรมากหรอก ฉันก็แค่อยากใช้เรื่องนี้ทำให้สามีตื่นเต้นเล่น ๆ ลองใจเขาน่ะ”เมื่อได
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั