หลังจากได้ยินเสียงที่ฟังดูตื่นเต้นของฟู่เถียนเถียน เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ฉันดังอะไรกัน?”เรื่องที่เมาครั้งก่อนมันผ่านไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?“ก็เมื่อวานเธอตีกลองชุดที่บาร์เหล้าไง มีคนโพสต์คลิปออกมา มีคนชมเธอเยอะมากว่า ทั้งสวยทั้งเท่!”ฟู่เถียนเถียนรีบเปิดให้เฉียวสือเนี่ยนดู “ฉันใช้ไอแพด
ฮั่วเยี่ยนฉือคงจะไม่เลวถึงขั้นฉวยโอกาสที่เธอเมาเอาเปรียบเธอหรอกส่วนชุดนอน...เฉียวสือเนี่ยนเดินลงไปชั้นล่าง ก่อนจะถามป้าหวัง “ป้าหวัง เมื่อคืนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันเหรอคะ?”ป้าหวังตอบกลับในขณะที่กำลังเก็บโต๊ะอยู่ “ใช่ค่ะ เมื่อคืนคุณผู้หญิงดื่มหนัก เรียกก็ไม่ตื่น คุณผู้ชายเลยให้ฉันช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อ
เมื่อได้ยินคำถามของลู่เฉินหนาน ฮั่วเยี่ยนฉือก็รู้สึกไม่สบายใจไม่ว่าจะหย่าหรือแต่งงานใหม่ เขาก็รู้สึกสับสนไปหมดหนึ่งเดือนก่อน คืนที่เฉียวสือเนี่ยนพูดเรื่องหย่า เขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นเขาคิดแค่ว่าหากหย่าไป ก็ถือว่าเขาจัดเรื่องวุ่นวายไปได้อีกเรื่องทำไมผ่านมาแค่เดือนเดียวกลับมีความรู้สึกแป
สมองของฮั่วเยี่ยนฉือฉายภาพที่เฉียวสือเนี่ยนพูดกับเขาในสภาพเมามาย น้ำตาไหลอาบหน้า “เธอไม่เสียใจ เธอจะไม่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบ” เธอพูดถึงเรื่องนี้เหรอ?“ตอนนี้ฉันต้องทำยังไง?” ฮั่วเยี่ยนฉือขมวดคิ้วและถามขึ้นเมื่อเห็นว่าในที่สุดพี่ฉือก็ตาสว่าง ลู่เฉินหนานก็รู้สึกปลื้มใจเป็นเท่าตัว“พี่ฉือ คืนนั้นที่งา
เมื่อได้ยินเสียงรอสายโทรศัพท์ หยวนหงจื้อก็รีบยื่นมือไปกดวางสายทันที“พี่เฉียว นี่พี่หมายความว่ายังไง?”เธอควรจะละอายใจกับเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงยังกล้าโทรศัพท์ไปบอกฮั่วเยี่ยนฉือ?เฉียวสือเนี่ยนพูดทีเล่นทีจริง “ไม่ได้อะไรมากหรอก ฉันก็แค่อยากใช้เรื่องนี้ทำให้สามีตื่นเต้นเล่น ๆ ลองใจเขาน่ะ”เมื่อได
เฉียวสือเนี่ยนหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะเปิดหาเอกสารออกมาฉบับหนึ่ง “คุ้น ๆ ไหม?”โม่ซิวหย่วนเหลือบมอง “นี่มันสถาบันวิจัยยาที่ฮั่วเยี่ยนฉือลงทุนไม่ใช่เหรอ”เฉียวสือเนี่ยนถาม “ก่อนหน้านี้คุณจงใจพาฉันไปทำลายงานเลี้ยงระหว่างฮั่วเยี่ยนฉือและพวกเขา เพราะสนใจโปรเจกต์นี้ใช่ไหม?”โม่ซิวหย่วนหัวเราะ “คุณผู้หญิง
ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้ป่วยใช่ไหม?ก่อนหน้านี้เขาเหมือนกับเป็นนักบวชที่ไม่กล้าแตะตัวสีกา แม้ว่าเธอจะเคยสวมเสื้อน้อยชิ้นต่อหน้าเขา แต่เขาก็ไม่ชายตามองเลยแม้แต่น้อยแต่ตอนนี้เขากลับพยุงเอวเธอไว้ แถมยังมีสายตาแบบนั้นอีกเฉียวสือเนี่ยนโมโหจนอยากจะสะบัดมือเขาออก ฮั่วเยี่ยนฉือราวกับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเธ
“...ฮั่วเยี่ยนฉือกลั้วหัวเราะ “เธอนี่คิดรอบคอบจริง ๆ”“แน่นอนสิ มีเงินทุนแต่ไม่ใช่งั้นเหรอ ฉันไม่ได้โง่นะ!”เฉียวสือเนี่ยนพูดออกมาอย่างเปิดเผย โดยที่ไม่กลัวว่าฮั่วเยี่ยนฉือจะชิงลงมือก่อนอย่างไรเป้าหมายสุดท้ายของเธอก็คือ ไม่ให้อำนาจผู้ดูแลแทนตกไปอยู่ในมือของหยวนหงจื้อและป๋ายอีอี ส่วนเรื่องอื่นไม่ได้
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั