เฉียวสือเนี่ยนรักษารอยยิ้มบาง ๆ ไว้ “ได้ หวังว่าครั้งนี้จะไม่ทำให้คุณชายโม่ผิดหวัง”ไม่นาน ตำรวจก็เข้ามาเฉียวสือเนี่ยนเป็นฝ่ายชี้แจง ว่าเพื่อนของเธอเป็นคนแจ้งความ และไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอส่วนโม่ซิวหย่วนก็ชี้ไปที่มุมห้องทำงาน “ตรงนี้มีกล้องวงจรปิด และบันทึกเหตุการณ์ทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้ว พว
ฮั่วเยี่ยนฉือเม้มปากบาง ไม่มีท่าทีจะคิดเล็กคิดน้อยกับเฉียวสือเนี่ยนและเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง “สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคำขอที่เมื่อก่อนเธอเคยขอกับฉัน ตอนนี้ฉันให้เธอทำในสิ่งที่ต้องการแล้ว มีตรงไหนที่ผิดเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างไม่พอใจออกมา “คุณก็บอกแล้วว่านั่นคือเมื่อก่อน ตอนนั้
ดวงตาของฮั่วเยี่ยนฉือขรึมลงเล้กน้อย “ทำไมในสายตาของเธอ ฉันถึงเป็นคนที่ใจดำอำมหิตขนาดนี้?”เมื่อได้ยิน เฉียวสือเนี่ยนก็หัวเราะเยาะในใจ ชาติที่แล้วหลังเธอเข้าโรงพยาบาลจิตเวช ฮั่วเยี่ยนฉือก็ไม่เคยไปดูแลตระกูลเฉียวเลยแม้แต่น้อยแม้กระทั่งมีคนที่รู้เหตุการณ์จำนวนมากซ้ำเติมตระกูลเฉียว ทำให้ M•Q ไม่มั่นคงเ
เฉียวสือเนี่ยนเอ่ย “เป็นธรรมดาที่สามีภรรยาทั่วไปจะทะเลาะกันทำสงครามเย็นได้ และตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในระหว่างทำสงครามกัน ฉันเลยไม่อยากเห็นหน้าคุณ”ฮั่วเยี่ยนฉือถาม “ทำไมพวกเราถึงทำสงครามเย็นกัน?”“คุณความจำเสื่อมหรือไง? เมื่อสองวันก่อนใครกันที่เสียมารยาทที่ด้านนอกห้องซ้อม จงใจให้เพื่อนของฉันลำบากใจ?”
ขณะที่ฮั่วเยี่ยนฉือกำลังพูดก็หยิบการ์ดสองใบออกมาวางบนโต๊ะ “ไม่ให้คุณทำงานฟรี ๆ หรอกน่า แบล็กการ์ดใบนี้คุณเอาไปซื้อชุด”ได้เงิน ก็ไม่ใช่ว่าจะพิจารณาไม่ได้อย่างไรเสียเมื่อหย่าร้างแล้ว เธอก็คงไม่ได้ใช้เงินของเขาอีกแล้วอีกทั้งฮั่วเยี่ยนฉือพูดว่าให้ ‘อยู่กินกันแบบสามีภรรยาทั่วไป’ ออกมาแล้ว เธอก็ยากที่จ
เมื่อหลายวันก่อนเฉียวสือเนี่ยนเห็นชายหนุ่มถูกฟ่านซู่ฉินสั่งสอนว่าไม่ควรซื้อนาฬิกาแบรนด์เนม อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเขตเฉิงเป่ย ดูจากรูปลักษณ์ของเขารวมทั้งน้ำเสียงที่พูดกับฟ่านซู่ฉิน มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นลูกชายของฟ่านซู่ฉินเมื่อนึกถึงคำพูดที่เขาพูดกับฟ่านซู่ฉินว่า “ครอบครัวของผู้หญิงคนนั้นรวยมาก
หยวนหงจื้อรีบอธิบาย “ผมไม่ได้มีเจตนาอื่น เพราะพี่เป็นลูกผู้พี่ของเล่อเยียน ผมก็เลยมาหาพี่เพื่ออยากรู้เกี่ยวกับเรื่องของเธอเพิ่มขึ้นหน่อยได้ไหม จะได้เข้ากับสังคมของเธอได้ดีขึ้น”เฉียวสือเนี่ยนถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เธออยากตามจีบเฉียวเล่อเยียน?”หยวนหงจื้อยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ใช่ครับ ถึงแม้ว่าผมกับเ
ไม่น่าแปลกที่ฮั่วเยี่ยนฉือปลีกตัวไปไม่ได้ ที่แท้ก็กำลังยุ่งอยู่กับการปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมและเป็นกลางนี่เองลำบากเขาจริง ๆ เลย วัน ๆ ต้องจัดการงานหลวงมากมาย แล้วก็ยังต้องปลีกตัวไปทำงานราษฎร์อีก“คุณผู้หญิงฮั่ว” ป๋ายอีอีเห็นเฉียวสือเนี่ยน ร้องเรียกอย่างมีมารยาททีหนึ่งแล้วก็หันกลับไปพูดกับฮั่
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั