ไม่น่าแปลกที่ฮั่วเยี่ยนฉือปลีกตัวไปไม่ได้ ที่แท้ก็กำลังยุ่งอยู่กับการปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมและเป็นกลางนี่เองลำบากเขาจริง ๆ เลย วัน ๆ ต้องจัดการงานหลวงมากมาย แล้วก็ยังต้องปลีกตัวไปทำงานราษฎร์อีก“คุณผู้หญิงฮั่ว” ป๋ายอีอีเห็นเฉียวสือเนี่ยน ร้องเรียกอย่างมีมารยาททีหนึ่งแล้วก็หันกลับไปพูดกับฮั่
“เมื่อผู้หญิงเริ่มโมโหเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ แต่ถ้าหากไม่อธิบายไม่ง้อ พวกเธอก็จะเอาเรื่องที่โมโหทั้งหมดในอดีตมารวมเข้าด้วยกัน ถึงตอนนั้นก็จะง้อยากมาก ๆ ”อะไรง้อยากง้อไม่ยาก เขาไม่ได้จะง้อสักหน่อยฮั่วเยี่ยนฉือไม่อยากฟังลู่เฉินหนานพูดไร้สาระ ถามอย่างเย็นชา “แผนธุรกิจทำเสร็จหรือยัง? ไปอธิบายให้ทุกคนฟ
“หลานนี่ฉลาดแกมโกงจริง ๆ ” คุณตาดีดหน้าผากของเธอทีหนึ่ง “ยังต้องระวังคุณลุงของหลานอีก”ไม่ระวังได้เหรอ คุณลุงเปลี่ยนผู้บุกเบิกรุ่นก่อนของบริษัทไปหมดคุณตาเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ แต่ว่าก็หลับตาข้างหนึ่งเท่านั้นเฉียวสือเนี่ยนยิ้มหวานยอมรับ “หนูระวังทุกคนค่ะ ไม่ระวังแค่คุณตาเท่านั้น!”“ใช่แล้วค่ะคุณตา ดูเหม
เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกอยู่ตลอดว่า สายตาของฮั่วเยี่ยนฉือแปลก ๆแน่นอนว่าเรื่องนี้ก็แปลกอยู่บ้างเหมือนกันเธอถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยความหวาดระแวง “ฉันไปโกรธอะไรคุณ?”“ถ้าไม่ได้โกรธ แล้วทำไมเธอถึงไม่กลับบ้านเลย?”ไม่กลับบ้านเลยอะไรละนั่น พูดอย่างกับว่าเธอกับเขาเป็นคู่สามีภรรยาที่แยกจากกันไม่ได้แม้แต่วันเดีย
ฮั่วเยี่ยนฉือส่งรูปเจ้าปัญหาให้ป๋ายอีอี “อธิบายที ว่าไอ้รูปนี้มันอะไรกัน?”พอได้ยินแบบนั้น ไม่ใช่แค่ป๋ายอีอีคนเดียวที่ตกใจ เฉียวสือเนี่ยนก็ตกใจเหมือนกันฮั่วเยี่ยนฉือถามเอากับป๋ายอีอีตรง ๆ แบบนี้เลยเหรอ?ป๋ายอีอีในกล้องวิดีโอก็ชะงักเล็กน้อยตอนเห็นรูปถ่าย แล้วก็นึกออก “รูปนี้เป็นรูปที่ฉันลบออกไปจากอิ
“ฉันไม่ได้มีหน้าที่ไปทำเรื่องพวกนี้กับเธอหรอกนะ”เฉียวสือเนี่ยนวางสัมภาระของตนเองลงบนโซฟา “ถ้าจำไม่ผิด เธอเคยพูดไว้นี่ว่าจะไม่มาหาฉันอีก? กลับดี ๆ ล่ะ ฉันไม่ส่ง”ขณะที่เฉิงหว่านซินกำลังจะโมโหอยู่รอมร่อ จู่ ๆ เธอก็เห็นเข้ากับชุดราตรีที่เฉียวสือเนี่ยนซื้อมา กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นทันที “ว้าว ชุดราตร
นี่กดรับสายไปอย่างนั้นเหรอ!!!ทางอีกฝั่งของโทรศัพท์ ดวงตาดำเข้มคู่หนึ่งกำลังจดจ้องเธอ ความล้ำลึกรุนแรงในแววตาไม่แปรเปลี่ยนสมองของเฉียวสือเนี่ยนมึนงงไปชั่วขณะนี่มันเรื่องอะไรกัน?เธอกดตัดสายทิ้งไปชัด ๆ แล้วทำไมถึงกลายเป็นรับสายวิดีโอคอลไปได้!เห็นสายตาของฮั่วเยี่ยนฉือที่กวาดมองตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้
โจวเทียนเฉิงเดินเข้าไปหาฮั่วเยี่ยนฉือ ส่วนเฉียวสือเนี่ยนกับถูหย่าลี่ก็เดินไปทางบริเวณพักผ่อนสำหรับแขกที่อยู่ด้านหน้าพอเห็นถูหย่าลี่ หลายคนก็พากันซุบซิบ“นั่นคุณผู้หญิงเซี่ยจากหมิงเหมาไม่ใช่เหรอ เธอมาได้ยังไงน่ะ?”“คุณผู้หญิงเซี่ยอะไรกันเล่า คนเขาหย่ากันแล้ว ตอนนี้ต้องเป็นประธานถูต่างหาก!”“สงสัยวัน
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั