อวี้ชางจ้องมองใบหน้าอดีตคนรักนิ่ง นางนั้นได้มาเกิดใหม่ในร่างคุณหนูต้วนผู้นี้ได้สองปีมาแล้ว นับจากนางเสียชีวิตลงไปไม่นานนัก อยู่ๆวัหนึ่งนขณะที่นางกำลังเดินวนเวียนในหมอกควันสีขาวอยู่นั้น ก็มีลำแสงที่สว่างมากพวยพุ่งเข้ามาหานางและนางก็วูบหมดสติไป
แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็มาอยู่ในร่างของคุณหนูต้วนเย่วชิงผู้นี้ ที่นางนั้นร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งนางเป็นไข้และเป็นลมชักโดยที่ไม่มีใครเห็น ทำให้ชักจนหมดสติไป และวิญญาณของท่านหญิงอวี้ชางที่อธิษฐานจิตขอให้ได้พบกับคนรักของนางอีกครั้งก็มาเข้าร่างคุณหนูผู้นี้ในทันที
โดยที่ความทรงจำครั้งอดีตชาติที่เป็นท่านหญิงอวี้ชางยังอยู่ครบ แต่ไม่มีความทรงจำของคุณหนูต้วนอยู่เลย และนับจากที่นางได้มาเข้าร่างของคุณหนูต้วนผู้นี้ นางก็ปรับตัวและใช้ชีวิตเป็นคุณหนูผู้นี้จนเคยชินแล้ว นางมีโอกาสได้พบบิดาของคุณหนูผู้นี้เพียงไม่นานนัก แต่นางก็พยายามทำตัวให้เป็นบุตรสาวที่ดี เพราะนางสงสารเขามากที่ไม่รู้ว่าบุตรสาวตัวจริงของเขานั้นเสียชีวิตไปแล้ว และนางก็ไม่อาจจะบอกใครถึงเรื่องนี้ได้ เพราะแม้บอกไปแล้วใครจะเชื่อนางกัน แต่แล้วหลังจากบิดากลับไปทำงานที่จวนของแม่ทัพจางแล้ว วันหนึ่งก็มีคนมารับตัวของนางมาที่จวนใหม่แห่งนี้ และได้พบกับอดีตคนรักคือคุณชายจางหย่งเล่อ
และทันทีที่ได้รับรู้ว่ารองแม่ทัพต้วนที่เป็นบิดาของคุณหนูต้วนผู้นี้เสียชีวิตไปแล้ว นางก็เสียใจมาก เสียใจแทนพวกเขาพ่อลูก แต่ก็ไม่ถึงกับจะต้องร้องไห้จนหมดสติดังเช่นที่แสดงต่อหน้าชายคนรัก แต่ที่นางร้องไห้มากมายนั้นก็เพราะดีใจที่ได้พบหน้าชายคนรักของนางอีกครั้งและดีใจที่นางจะได้เข้ามาอยู่ในจวนของเขา ได้หวนคืนกลับมาอยู่ใกล้ๆเขาอีกครั้งอย่างแทบไม่เชื่อว่าจะมีวันที่เป็นไปได้อีก ตอนนี้อดีตคนรักของนางได้รับพระราชทานจวนใหม่หลังใหญ่มาก และได้เลื่อนยศขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคตะวันออกแล้ว
นางดีใจมากและต้องการใกล้ชิดกับอดีตคนรัก แต่ไม่รู้จะทำเช่นไร จะเข้าไปกอดเขาก็ไม่กล้า จึงได้แกล้งร้องไห้จนสลบไป และขอโทษขอโพยรองแม่ทัพต้วนกับคุณหนูต้วนอยู่ในใจที่นางทำเช่นนี้ เมื่อนางเป็นลมหมดสติลงตรงหน้าของเขา แม่ทัพจางก็จำต้องช้อนอุ้มตัวของนางขึ้นแนบอกแล้วพาเดินมายังเรือนหลังเล็กนี้ ระหว่างนี้อดีตท่านหญิงอวี้ชางก็ลอบสูดดมกลิ่นกายของชายคนรักและซุกหน้าของนางแนบอกแกร่งของเขาอย่างโหยหาเหลือเกิน พี่หย่งเล่อยอดรัก ข้ากลับมาแล้ว และข้าจะไม่จากท่านไปที่ใดอีก พี่หย่งเล่อยอดรักของอวี้ชาง นางรำพึงในใจขณะที่แนบร่างเข้ากับร่างแกร่งของอดีตคนรักให้มากที่สุด
“ ฟื้นแล้วหรือเยว่ชิง ต่อไปข้าจะรับอุปการะเจ้า แต่จะให้เรียกท่านพ่อก็คงจะไม่เหมาะนัก เพราะบิดาของเจ้านั้นมีวัยที่มากกว่าข้าเกือบสิบปี ถ้าเช่นนั้นให้เจ้าเรียกข้าว่าท่านอาก็แล้วกัน ต่อไปข้ารับเจ้าเป็นหลานสาว ให้เจ้าอาศัยอยู่กับข้าที่นี่ เจ้าอยู่ที่นี่ดังเช่นญาติคนหนึ่ง ไม่ใช่บ่าวไพร่นะ ริมฝีปากอวบอิ่มที่แดงระเรื่อนั้นบุ้ยขึ้นนิดๆ หลานสาวเช่นนั้นหรือ ” ขอบคุณท่านอามากนะเจ้าคะ ที่เมตตาเยว่เอ๋อ " แล้วนางก็เอนกายเข้ากอดรัดเอวเขา แล้วเอนกายพิงอกแกร่งของเขาเอาไว้ แล้วทำทีสะอื้นเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา แต่ใบหน้าหวานกระจ่างนั้นไม่มีน้ำตาแม้สักหยด มีเพียงเสียงสะอื้นเท่านั้น
แม่ทัพหนุ่มขยับตัวด้วยความอึดอัด เขาอยากจะดันร่างอวบของนางออกไป แต่แล้วก็อดสงสารนางขึ้นมาไม่ได้ นางคงจะเสียใจมาก ที่เพิ่งรู้ข่าวว่าบิดาที่พึ่งเพียงคนเดียวของนางนั้นจากไปแล้ว นางกำลังเสียใจ คงจะเคว้งคว้างเพราะอยู่ๆก็ทราบข่าวร้ายของบิดา แม่ทัพหนุ่่มจึงได้ปล่อยให้นางกอดเอวเขาและซุกใบหน้าแนบอกแกร่งของเขาเอาไว้ อวี้ชางในร่างของคุณหนูต้วนยกยิ้มนิดๆ อย่างสมใจ ขออภัยท่านรองแม่ทัพและคุณหนูต้วนด้วยจริงๆ ข้าเพียงแค่ดีใจที่ได้พบคนรักของข้าที่ไม่คาดว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก นางบอกกับพวกเขาอยู่ในใจ
เมื่อร่างอวบอิ่มนั้นกอดรัดเอวเขาเอาไว้เหมือนหาหลักพักพิงอยู่ครู่ใหญ่มาแล้ว แม่ทัพหนุ่มจึงได้ยกมือหนาขึ้นแกะมือบางของนางออกจากเอวสอบของตนเอง เยว่ชิงจึงจำต้องผละออกมาจากอกแกร่งที่แสนจะอุ่นของอดีตคนรัก เขาดึงร่างอวบของนางออกห่างตัวเขา เพราะมันไม่เหมาะสมนักที่ทั้งสองจะโอบกอดกันเนิ่นนานเช่นนี้ เพราะตอนนี้หลานสาวบุญธรรมหมาดๆ ของเขานั้นไม่ใช่เด็กๆแล้ว นางเติบโตเข้าสู่วัยสาวสะพรั่ง แถมยังดูเติบโตจนเกินวัยอีกด้วย
ร่างกายของหลานสาวหมาดๆนั้น อวบอิ่มขาวผ่องและดูงดงามปานจะล่มเมืองนี่ยังขนาดไม่สาวสะพรั่งเต็มที่ยังงามปานนี้ อีกหน่อยจวนของเขาจะต้องมีแต่แม่สื่อเทียวเข้าเทียวออกอย่างแน่นอน ไม่ต้องเกรงเลยสักนิดว่าจะได้อุปการะนางไปตลอดชีวิต เพราะไม่แน่อาจจะแค่เพียงไม่กี่ปีนางก็คงจะออกเรือนไปแล้ว แต่เขาจะทำหน้าที่แทนบิดาของนางอย่างเต็มที่แน่นอน จนกว่านางจะออกเรือนพ้นอกของเขาไป แม่ทัพจางครุ่นคิดขณะที่จ้องมองใบหน้าหวานของหลานสาวที่นัยน์ของนางนั้นจ้องมองเขานิ่ง และดูมีความห่วงหาอาวรณ์ซ่อนในนั้น มัันดูแปลก ๆ แต่แม่ทัพหนุ่มคิดว่าเขาคงจะคิดมากเกินไป นางแค่เพียงยังเศร้าโศกเรื่องบิดาของนางเพียงเท่านั้น สติจึงยังไม่คงที่นัก
“ เอาละ อาจะออกไปก่อน เจ้าควรจะนอนพักผ่อนให้สบายกว่านี้สักนิด เจ้ามีสาวใช้คนสนิทมาด้วยแล้วใช่หรือไม่ ต้องการสาวใช้เพิ่มอีกไหม แต่ไม่ต้องห่วงนะ อาจะให้พ่อบ้านจัดการให้สาวใช้มาทำความสะอาดดูแลเรือนหลังนี้อีกคนหนึ่ง ส่วนสาวใช้ที่ติดตามเจ้ามาให้นางดูแลแค่เพียงเจ้าเท่านั้นก็พอแล้ว ส่วนอาหารก็ไปกินกับอาที่เรือนของอาหรือไม่จะให้สาวใช้ของเจ้าไปยกมาจากในโรงครัวก็ได้ แล้วแต่เจ้าเลย หากต้องการอะไรหรือขาดเหลือสิ่งใดบอกกับอาหรือพ่อบ้านจางได้ อาไปก่อนนะ เจ้าพักผ่อนเถิด " แล้วแม่ทัพหนุ่มก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินออกไปจากห้องนอนของเยว่ชิงทันที ทิ้งให้ดวงตาเรียวยาวที่เปี่ยมไปด้วยน้ำตาคลอตานั้นมองตามแผ่นหลังหนานั้นไป จนลับตา
ผ่านไปแค่เพียงสองปีกว่าๆที่นางไม่ได้พบเขา เขาดูสูงสง่าขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวมากขึ้น พี่หย่งเล่อ ท่านจะรู้ไหมอวี้ชางอยู่ใกล้ๆท่านเพียงแค่นี้ นางมองตามเขาไปจนลับตาแล้ว จึงได้เอนกายพิงพนักหัวเตียง แล้วยกมือบางขึ้นเช็ดน้ำตา นางยิ้มออกมาน้้อยๆ แต่อย่างน้อยที่สุด ตอนนี้ข้ากลับมาแล้ว กลับมาทวงคนรักของข้าคืนแล้ว แต่ เอ….เขามีภรรยาแล้วหรือไม่ มีคนรักใหม่แล้วหรือไม่กัน เรื่องนี้นางต้องรู้ให้ได้
ส่วนแม่ทัพหนุ่มนั้นหลังจากเดินออกมาจากเรือนหลังเล็กของหลานสาวบุญธรรมหมาดๆแล้ว เขาก็รู้สึกว่านางนั้นดูเย้ายวนและมีเสน่ห์จนเกินไป เขาคงจะต้องรักษาระยะห่างจากนางให้มากแล้ว นางเป็นสตรีที่อยู่ในวัยสาวสะพรั่งแล้วไม่ใช่เด็กเล็กๆที่เขาจะใกล้ชิดได้โดยไม่มีผู้คนครหา เขาไม่อยากจะให้นางแปดเปื้อนด้วยเรื่องฉาวโฉ่อันใด อยากจะเตรียมตัวนางให้เพียบพร้อม เพื่อต่อไปจะได้มีบุรุษฐานะดี มีเกียรติมาสู่ขอนาง เขาต้องการส่งนางไปให้สามีที่ดูแลนางได้ และต้องการให้ชีวิตต่อไปของนางมั่นคงที่สุด เพื่อชดเชยให้กับรองแม่ทัพต้วนที่เป็นทั้งสหายผู้พี่และคนสนิทของเขา
“ คุณหนูเจ้าคะ ท่านตื่นแล้วหรือ ชุ่ยเอ๋อเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้แล้วนะเจ้าค่ะ กำลังอุ่นพอดีเลย อาบน้ำกันเลยดีกว่านะเจ้าคะ จะได้รีบแต่งตัว รีบไปสถานศึกษากัน " ร่างอวบอิ่มงดงามของคุณหนูต้วนจึงได้ลุกจากเตียงอันแสนอุ่นของนาง แล้วก็เดินเข้าไปหลังฉากกั้นเพื่ออาบน้ำแต่งกาย เตรียมตัวไปสถานศึกษาที่อีกไม่นานนางก็จะจบการศึกษาแล้วเหลือเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น การย้ายมาอยู่จวนแม่ทัพจางนี้ ทำให้นางไม่ต้องตื่นแต่เช้าเช่นเดิมนัก เพราะว่าสถานศึกษากับจวนแม่ทัพจางนั้นอยู่ไม่ไกลกันมาก นางจึงไม่ต้องเร่งรีบดังเช่นเดิมอีก มีเวลาแต่งกายและกินอาหารตามสบายแล้วค่อยออกไปขึ้นรถม้าที่หน้าประตูจวนเพื่อไปยังสถานศึกษาเมื่ออาบน้ำแต่งกายจนเรียบร้อยแล้ว เยว่ชิงก็กินอาหารเช้าที่เรือนเล็กของนาง โดยมีชุ่ยเอ๋อสาวใช้คนสนิทที่ตามมาจากจวนของบิดาไปยกจากโรงครัวมาให้นาง ตอนเช้านางเร่งรีบจะไปสถานศึกษาจึงคิดว่าจะไม่แวะไปกินอาหารเช้ากับท่านอาหนุ่มหมาดๆของนาง แต่จะไปกินอาหารร่วมกับเขาที่เรือนในตอนเย็นแทนจะได้มีเวลาอยู่กับเขาให้มากขึ้น พี่หย่งเล่อท่านรอข้าหน่อยนะ ข้าจะเรียนจบแล้ว และจะเกี้ยวท่านกลับมาเป็นคนรักของข้าให้ได้ แค่คิดถึงใ
หรือเมื่อวันใดที่เขาไม่ได้ออกไปทำงานนอกจวน นางก็จะทำอาหารหรือขนมหรือไม่ก็ผลไม้ที่เขาชื่นชอบยกมาให้เขาถึงที่ห้องหนังสือ หรือในห้องนั่งเล่นที่เขานั่งอยู่ พร้อมกับป้านน้ำชาที่นางรู้ว่าเขาชอบจิบมัน และนั่นทำให้เริ่มมีเสียงกระซิบกระซาบกันในหมู่สาวใช้และบ่าวบางคนว่าคุณหนูต้วนผู้นี้ทำตัวดังเช่นจะเข้ามาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพกระนั้น เพราะทุกคนต่างรู้ว่านางคือบุตรสาวของรองแม่ทัพต้วนที่หาชีวิตไม่แล้ว ทำให้ท่านแม่ทัพจางรับบุตรสาวของเขามาอุปการะ แต่คุณหนูต้วนที่ทั้งงดงามปานจะล่มเมืองและอยู่ในวัยสาวสะพรั่งก็ทำตัวรู้คุณเกินหน้าที่ คล้ายกับว่านางอยากจะขยับฐานะจากหลานสาวมาเป็นภรรยาของแม่ทัพจางกระนั้น นางปรนนิบัติใกล้ชิดเขาจนเกินงาม และแม่ทัพหนุ่มก็ได้ยินเสียงซุบซิบนั่น และเขาเองก็รู้ดีแก่ใจว่าหลานสาวนอกไส้ผู้นี้ทำตัวเกินเลยไปจนเป็นที่ครหาของคนในจวนแม่ทัพหนุ่่มนอนครุ่นคิดอยู่หลายคืน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบการปรนนิบัติเช่นนี้ของหลานสาว นางทำได้ดีไม่มีที่ติ และดูแลเขาดีมากอย่างที่ไม่เคยมีสตรีใดดูแลเขาได้ดีเช่นนี้มาก่อน และนางทำให้เขาคิดถึงอวี้ชางขึ้นมาจับใจ และเขาคงจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้แล้ว แม่ท
แม้นางจะกลับมาเกิดใหม่แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเลือกที่จะรักคนเดิม เยว่ชิงเดินเล่นอยู่ในสวนที่กว้างขวางของจวนแม่ทัพอย่างไม่มีจุดหมาย นางเดินไปเรื่อยๆ เพื่อครุ่นคิดทำใจเรื่องอดีตคนรักที่เขาเพิ่งบอกกับนางว่ากำลังจะหมั้นหมายกับสตรีอื่น เมื่อเดินวนเวียนอยู่ในสวนเพื่อครุ่นคิดทบทวนตัวเองจนคิดได้ และตกลงใจว่าจะเลิกทำตัววุ่นวายกับอดีตคนรักที่ปัจจุบันนางต้องยอมรับให้ได้ว่าเขาไม่ใช่คนรักของนางอีกต่อไปแล้ว และเมื่อเขาต้องการเริ่มต้นใหม่กับคนอื่น นางควรจะส่งเสริมให้เขาได้ทำเช่นที่ใจของเขาต้องการ นางก็เคยพบสตรีคนนั้นที่ดูแล้วก็เป็นสตรีที่ทันสมัย ปราดเปรียวน่ารัก และนิสัยก็คงจะดีไม่น้อย เยว่ชิงยืนพิงก้อนหินก้อนใหญ่ที่ใช้ตกแต่งในสวนแห่งนี้ แล้วค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งพิงมันเอาไว้ แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างสุดที่จะกลั้นมันเอาไว้ นางอยากจะร้องไห้เสียให้พอ ร้องให้สาแก่ใจ เพื่อที่ต่อไปนางจะไม่ร้องไห้ให้กับอดีตคนรักที่ต่อไปนี้ไม่ใช่คนที่นางควรจะรักอีกแล้ว เยว่ชิงยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลรินอยู่สองข้างแก้มแล้วก็พยายามหยุดสะอื้นไห้ นางคิดได้แล้ว ต่อไปนางจะทำตัวเสียใหม่ ทำตัวเป็นแค่หลานสาวในอุปการะของเ
เขาจึงได้ลุกออกไปเพื่อสอดส่องดูนางกับชายผู้นั้น แต่ไม่ได้เข้าไปในศาลา เพียงแอบมองอยู่ด้านนอก เพื่อจับผิดสตรีในศาลานั่นว่าทำตัวไม่เหมาะสมหรือไม่ ยิ่งเขาเห็นสายตาที่เจ้าหมอนั่นจ้องมองมาที่นี่นางมันดูแวววาวผิดปกติ หรือเจ้าหมอนั่นพึงใจนาง จึงได้หาเรื่องมาจ้างให้นางวาดภาพ จิตรกรอื่นก็มีออกจะมากมาย ใยจึงมาจ้างงานสตรีเช่นนางที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายอะไร เขาพลันรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก อาชีพอื่นก็มีออกจะมากมาย และนางนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำงานเลี้ยงชีพอีกด้วย เขาเองก็พอมีเงินทองเลี้ยงดูนางให้สุขสบายไม่ต้องทำงานสิ่งใดทั้งสิ้นเพียงอยู่เป็นคุณหนูในจวนแม่ทัพเช่นนี้ ทำไมต้องทำงานหาเงินด้วย เขาเองก็ไม่เข้าใจนางนัก แต่คงจะต้องเรียกมาพูดกันให้รู้เรื่องว่านางทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน เมื่อนางไม่ยอมเหยียบย่างมาที่เรือนของเขาเลย แม่ทัพหนุ่มจึงจำต้องไปหานางที่เรือนของนางแทน “ เยว่เอ๋อ เหตุใดถึงไม่ไปกินข้าวกับอาที่เรือน แล้วหมู่นี่เจ้าทำตัวแปลกๆไปนะ ทำไมไม่ไปที่เรือนของอาบ้าง หรือเคยทำสิ่งใดก็ทำไปจะมีใครกล้าปากมากมาว่าเจ้า หากผู้ใดในจวนนี้ว่ากล่าวเจ้าก็บอกอามา อาจะจัดการให้ ” เขาบอกกับนางเช่นนั้
“ ขอบคุณท่านอามาก แต่ข้าขึ้นเองได้เจ้าค่ะ ” แล้วเย่ว์ชิงก็พยายามเดินขึ้นไปด้วยตนเอง นางไม่อยากจะให้มือของนางสัมผัสกับมือของเขา เพราะตอนนี้นางทำใจเรื่องของเขาได้มากแล้ว นางไม่อยากจะรื้อฟื้นความรู้สึกเจ็บปวดนั่นขึ้นมาอีก แม่ทัพหนุ่มรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่หลานสาวไม่ยอมส่งมือของนางมาวางบนมือของเขาเพื่อช่วยพยุงตัวของนางขึ้นไปบนรถม้า นางรังเกียจเขาถึงขนาดนี้เลยหรือ แม่ทัพหนุ่มครุ่นคิดขณะที่เขาเดินตามหลังนางเข้าไปนั่งในรถม้า และทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับนาง แต่แม่ทัพหนุ่มก็ไม่ปริปากอะไร เขาเพียงชำเลืองนางเล็กน้อยวันนี้นางงามมาก งามจนเขาตะลึง เขาแน่ใจมากว่านับจากวันนี้จวนแม่ทัพของเขาคงจะไม่ว่างเว้นจากแม่สื่ออย่างแน่นอน รถม้ายังคงแล่นไปเรื่อยๆ มุ่งตรงไปจวนคหบดีเหลียนที่อยู่ค่อนไปทางนอกเมืองเล็กน้อย เพราะจวนนี้เป็นจวนใหม่ที่สร้างขึ้นมาใหม่อีกหลังของเขา ที่หลังใหญ่กว่าเดิมพื้นที่กว้างขวางกว่าเดิมมาก คุณหนูเหลียนบุตรสาวเพียงคนเดียวของเขามักจะใช้ที่นี่เป็นที่จัดงานเลี้ยงรื่นเริงเพราะบรรยากาศดี สวนกว้างขวางที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามมากนั้น เหมาะแก่การจัดเลี้ยงในสวนทั้งยามบ่ายและยามค่ำคืนที่มองเห็น
“ อ้าว !! นั่นคุณชายเสิ่นใช่หรือไม่ ท่านมาตั้งแต่เมื่อใดกัน ไม่ได้พบกันเสียนาน ท่านพ่อบ่นคิดถึงท่านมาก หากว่างแล้วก็แวะไปหาท่านพ่อที่จวนบ้างนะเจ้าคะ ” คุณหนูเหลียนหันไปเห็นสหายรุ่นน้องของบิดา เขาแม้จะหนุ่มแน่นมีวัยมากกว่านางเพียงแค่ไม่กี่ปี แต่ก็เก่งกาจทางการค้าหาตัวจับยาก แม้แต่บิดาก็ชมเชยเขาอยู่บ่อยครั้ง คุณชายเสิ่นเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาเขายิ้มกว้างให้กับคุณหนูเหลียนซิงซิง แล้วหันไปคารวะท่านอ๋องกับพระชายาและทักทายแม่ทัพจางและหันมาจ้องมองคุณหนูต้วนเยว่ชิงอย่างพินิจและจ้องมองนางอย่างตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ใบหน้าคร้ามคมของเขามีสีแดงระเรื่อเมื่อรู้สึกกว่าตนเองนั้นจ้องมองนางนานไปหน่อย “ คุณหนูผู้นี้มีนามว่าอะไร เราเคยพบกันหรือไม่ ” เขาถามนาง พร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนเป็นหวานฉ่ำยามจ้องมองใบหน้าหวานของเยว่ชิงอย่างพึงใจ เยว่ชิงยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร “ คงไม่เคยพบกันหรอกเจ้าค่ะ ข้ามีนามว่าต้วนเยว่ชิง เป็นบุตรสาวของรองแม่่ทัพต้วน แต่บิดาของข้าเสียชีวิตไปแล้ว ” นางบอกกับเขาไปตามตรง“ เจ้าพักอยู่ในเมืองหลวงนี้หรือ เหตุใดข้าถึงไม่เคยพบเจ้าเลย ” เขายังคงใคร่รู้เรื่องของนาง “ คุณชายเสิ่น ข้าคิดว่า
คืนนั้นแม่ทัพหนุ่มมาดักรอหลานสาวกาฝากของเขาที่ทางเดินระหว่างสวนเพราะนางจะต้องเดินผ่านมาทางนี้เพื่อจะไปที่เรือนของนาง เขายืนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาของใบไม้บดบังแสงสว่าง ผู้ที่เดินมาตามทางเดินจะไม่ทันสังเกตุเห็นเขาอย่างแน่นอน ผ่านไปครู่ใหญ่นางก็เดินตรงมาทางเขาอย่างไม่รู้ชะตากรรมตนเอง ขณะนี้แม่ทัพหนุ่มเมามายไม่น้อยเพราะเมื่อกลับมาถึงที่จวนแม่ทัพ เขาให้สาวใช้ยกสุรามานั่งดื่มที่หน้าเรือนของเขา เพื่อเฝ้ารอแม่หลานสาวตัวดีให้กลับมา แต่เฝ้ารออยู่นานนางก็ไม่กลับมาเส่ียท่ี เขาจึงได้เดินมารอนางที่ริมทางเดินนี้ คืนนี้หากเขาไม่ได้พูดกับนางให้รู้เรื่อง เขาจะต้องบ้าอย่างแน่นอน ยิ่งเขาเห็นนางใกล้ชิดกับเจ้าคหบดีเสิ่นนั่นหัวใจของเขามันร้อนรุ่มอยากจะตรงไปกระชากนางให้ออกมาจากเจ้าหมอนั่น แต่คงจะทำอย่างนั้นต่อหน้าผู้อื่นมิได้ เขากลั้นใจอดทนไว้ ยิ่งนางมาหายไปที่ใดก็ไม่รู้กับเจ้าหมอนั่น คนที่เพิ่งพบกันเสียด้วยซ้ำ โดยไม่มาขออนุญาติเขาก่อนอีกด้วย หากแม่หลานสาวตัวดีมาถึงจวนเมื่อไหร่เขาจะคิดทบต้นทบดอกกับนางอย่างขั้นเด็ดขาดจนนางไปหาบุรุษที่ไหนอีกไม่ได้เลย เมื่ออยากจะได้สามีนัก เขาก็จะเป็นสามีใ
คืนนั้นทั้งคืนแม่ทัพหนุ่มสุขสมยิ่งนัก ยิ่งกว่าที่เคยกับหญิงคณิกาที่เขาเคยผ่านมา และนางคล้ายกับอดีตคนรักของเขามาก มากจนแทบจะเป็นคนเดียวกัน ทั้งลีลารักที่มีเพียงเขาที่เป็นสามีของนางที่รู้ เขาจะเก็บเยว่ชิงไว้เป็นเมียบำเรอลับ ๆ ของเขา แม้อาจจะดูเห็นแก่ตัวเหลือเกินที่คิดเช่นนี้ แต่เขากับเยว่ชิงนั้นมีวัยที่ต่างกันถึงสิบกว่าหนาว เขาเป็นบุรุษที่เคร่งขรึมและหมกมุ่นกับการงาน จนมิเคยมีตาไว้สนใจสตรีใด เมื่อครั้งได้ใกล้ชิดกับท่านหญิงอวี้ชางจนก่อเกิดเป็นความรักต้องห้าม ที่พวกเขามิอาจหักห้ามใจไม่ให้รักกันได้ จึงได้หนีตามกันไปนั้น เพราะเขารักนางจริงๆ รักนางเพียงผู้เดียว แต่เมื่อสูญเสียนางไป เขาก็เหมือนคนไร้หัวใจไปเลย จนน้องสาวของเขามาพูดเตือนสติเขา จึงได้เริ่มเปิดใจให้กับคุณหนูเหลียนที่นางเป็นฝ่ายเข้ามาหาเขาก่อน และเขาก็รู้สึกผิดที่เป็นฝ่ายทำเหมือนเขามีนางเพียงผู้เดียว ทำให้นางมีความหวัง ทำให้นางปักใจคิดว่าเขาจะต้องไปสู่ขอนางมาเป็นฮูหยินของเขาอย่างแน่นอน แม้มีชายอื่นมาสู่ขอนางก็ปฏิเสธไปเสียหมด แล้วเขาจะทำเช่นไรได้ เมื่อครั้งนี้เขากลับเปิดหัวใจที่เคยบอบช้ำจนมันแทบไม่อาจรักใครได้อีกนั้นใ
หลายวันต่อมาเหลียนซิงซิงมาเยี่ยมแม่ทัพหนุ่มที่จวน ขณะที่แม่ทัพจางหย่งเล่อกับภรรยาในความลับที่มีเพียงบ่าวไพร่ในจวนที่เห็นความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปนี้ แต่เบื้องหน้าก็คือหลานสาวในอุปการะของแม่ทัพจาง กำลังนั่งกินอาหารเช้ากันในห้องโถงหน้าเรือนของแม่ทัพหนุ่ม ทั้งสองต่างผลัดกันคีบอาหารให้แก่กัน บรรยากาศนั้นอวลไปด้วยความรักทั้งสองส่งสายตาหวานฉ่ำให้แก่กัน จนสาวใช้ในเรือนต่างก็พากันรับรู้หมดแล้วว่าบัดนี้ความสัมพันธ์ของอาหนุ่มและหลานสาวบุญธรรมที่งดงามปานจะล่มเมืองผู้นี้ พัฒนากลายมาเป็นยิ่งกว่าคนรักแล้ว เพราะบางวันนางก็เข้ามานอนในห้องนอนของท่านแม่ทัพจาง หากนางไม่มาเมื่อเขาอาบน้ำแล้วก็มักจะสวมเสื้อคลุมที่เขามักจะสวมตอนเข้านอน เดินไปที่เรือนหลังเล็กของหลานสาวคนงามและหายเข้าไปในนั้นทั้งคืน จะเดินกลับมาเข้าเรือนของเขาก็เมื่อฟ้าเริ่มจะสางแล้ว และตอนนั้นก็มีแสงแดดส่องรำไรในสวนกว้างหน้าจวนแม่ทัพแล้ว เขาไม่ได้คิดจะปิดบังซ่อนเร้นแต่อย่างใด บ่าวไพร่ในจวนก็ต่างเห็นประจักษ์ด้วยตาของตนเองแต่ไม่มีใครกล้าปริปากพูดอะไรมาก ได้แต่แอบซุบซิบกันเบาๆ ระหว่างกันเท่านั้นเอง และการแสดงออกต่อคุณหนูต้วนก็เปลี่ย
คืนนั้นทั้งคืนแม่ทัพหนุ่มสุขสมยิ่งนัก ยิ่งกว่าที่เคยกับหญิงคณิกาที่เขาเคยผ่านมา และนางคล้ายกับอดีตคนรักของเขามาก มากจนแทบจะเป็นคนเดียวกัน ทั้งลีลารักที่มีเพียงเขาที่เป็นสามีของนางที่รู้ เขาจะเก็บเยว่ชิงไว้เป็นเมียบำเรอลับ ๆ ของเขา แม้อาจจะดูเห็นแก่ตัวเหลือเกินที่คิดเช่นนี้ แต่เขากับเยว่ชิงนั้นมีวัยที่ต่างกันถึงสิบกว่าหนาว เขาเป็นบุรุษที่เคร่งขรึมและหมกมุ่นกับการงาน จนมิเคยมีตาไว้สนใจสตรีใด เมื่อครั้งได้ใกล้ชิดกับท่านหญิงอวี้ชางจนก่อเกิดเป็นความรักต้องห้าม ที่พวกเขามิอาจหักห้ามใจไม่ให้รักกันได้ จึงได้หนีตามกันไปนั้น เพราะเขารักนางจริงๆ รักนางเพียงผู้เดียว แต่เมื่อสูญเสียนางไป เขาก็เหมือนคนไร้หัวใจไปเลย จนน้องสาวของเขามาพูดเตือนสติเขา จึงได้เริ่มเปิดใจให้กับคุณหนูเหลียนที่นางเป็นฝ่ายเข้ามาหาเขาก่อน และเขาก็รู้สึกผิดที่เป็นฝ่ายทำเหมือนเขามีนางเพียงผู้เดียว ทำให้นางมีความหวัง ทำให้นางปักใจคิดว่าเขาจะต้องไปสู่ขอนางมาเป็นฮูหยินของเขาอย่างแน่นอน แม้มีชายอื่นมาสู่ขอนางก็ปฏิเสธไปเสียหมด แล้วเขาจะทำเช่นไรได้ เมื่อครั้งนี้เขากลับเปิดหัวใจที่เคยบอบช้ำจนมันแทบไม่อาจรักใครได้อีกนั้นใ
คืนนั้นแม่ทัพหนุ่มมาดักรอหลานสาวกาฝากของเขาที่ทางเดินระหว่างสวนเพราะนางจะต้องเดินผ่านมาทางนี้เพื่อจะไปที่เรือนของนาง เขายืนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาของใบไม้บดบังแสงสว่าง ผู้ที่เดินมาตามทางเดินจะไม่ทันสังเกตุเห็นเขาอย่างแน่นอน ผ่านไปครู่ใหญ่นางก็เดินตรงมาทางเขาอย่างไม่รู้ชะตากรรมตนเอง ขณะนี้แม่ทัพหนุ่มเมามายไม่น้อยเพราะเมื่อกลับมาถึงที่จวนแม่ทัพ เขาให้สาวใช้ยกสุรามานั่งดื่มที่หน้าเรือนของเขา เพื่อเฝ้ารอแม่หลานสาวตัวดีให้กลับมา แต่เฝ้ารออยู่นานนางก็ไม่กลับมาเส่ียท่ี เขาจึงได้เดินมารอนางที่ริมทางเดินนี้ คืนนี้หากเขาไม่ได้พูดกับนางให้รู้เรื่อง เขาจะต้องบ้าอย่างแน่นอน ยิ่งเขาเห็นนางใกล้ชิดกับเจ้าคหบดีเสิ่นนั่นหัวใจของเขามันร้อนรุ่มอยากจะตรงไปกระชากนางให้ออกมาจากเจ้าหมอนั่น แต่คงจะทำอย่างนั้นต่อหน้าผู้อื่นมิได้ เขากลั้นใจอดทนไว้ ยิ่งนางมาหายไปที่ใดก็ไม่รู้กับเจ้าหมอนั่น คนที่เพิ่งพบกันเสียด้วยซ้ำ โดยไม่มาขออนุญาติเขาก่อนอีกด้วย หากแม่หลานสาวตัวดีมาถึงจวนเมื่อไหร่เขาจะคิดทบต้นทบดอกกับนางอย่างขั้นเด็ดขาดจนนางไปหาบุรุษที่ไหนอีกไม่ได้เลย เมื่ออยากจะได้สามีนัก เขาก็จะเป็นสามีใ
“ อ้าว !! นั่นคุณชายเสิ่นใช่หรือไม่ ท่านมาตั้งแต่เมื่อใดกัน ไม่ได้พบกันเสียนาน ท่านพ่อบ่นคิดถึงท่านมาก หากว่างแล้วก็แวะไปหาท่านพ่อที่จวนบ้างนะเจ้าคะ ” คุณหนูเหลียนหันไปเห็นสหายรุ่นน้องของบิดา เขาแม้จะหนุ่มแน่นมีวัยมากกว่านางเพียงแค่ไม่กี่ปี แต่ก็เก่งกาจทางการค้าหาตัวจับยาก แม้แต่บิดาก็ชมเชยเขาอยู่บ่อยครั้ง คุณชายเสิ่นเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาเขายิ้มกว้างให้กับคุณหนูเหลียนซิงซิง แล้วหันไปคารวะท่านอ๋องกับพระชายาและทักทายแม่ทัพจางและหันมาจ้องมองคุณหนูต้วนเยว่ชิงอย่างพินิจและจ้องมองนางอย่างตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ใบหน้าคร้ามคมของเขามีสีแดงระเรื่อเมื่อรู้สึกกว่าตนเองนั้นจ้องมองนางนานไปหน่อย “ คุณหนูผู้นี้มีนามว่าอะไร เราเคยพบกันหรือไม่ ” เขาถามนาง พร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนเป็นหวานฉ่ำยามจ้องมองใบหน้าหวานของเยว่ชิงอย่างพึงใจ เยว่ชิงยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร “ คงไม่เคยพบกันหรอกเจ้าค่ะ ข้ามีนามว่าต้วนเยว่ชิง เป็นบุตรสาวของรองแม่่ทัพต้วน แต่บิดาของข้าเสียชีวิตไปแล้ว ” นางบอกกับเขาไปตามตรง“ เจ้าพักอยู่ในเมืองหลวงนี้หรือ เหตุใดข้าถึงไม่เคยพบเจ้าเลย ” เขายังคงใคร่รู้เรื่องของนาง “ คุณชายเสิ่น ข้าคิดว่า
“ ขอบคุณท่านอามาก แต่ข้าขึ้นเองได้เจ้าค่ะ ” แล้วเย่ว์ชิงก็พยายามเดินขึ้นไปด้วยตนเอง นางไม่อยากจะให้มือของนางสัมผัสกับมือของเขา เพราะตอนนี้นางทำใจเรื่องของเขาได้มากแล้ว นางไม่อยากจะรื้อฟื้นความรู้สึกเจ็บปวดนั่นขึ้นมาอีก แม่ทัพหนุ่มรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่หลานสาวไม่ยอมส่งมือของนางมาวางบนมือของเขาเพื่อช่วยพยุงตัวของนางขึ้นไปบนรถม้า นางรังเกียจเขาถึงขนาดนี้เลยหรือ แม่ทัพหนุ่มครุ่นคิดขณะที่เขาเดินตามหลังนางเข้าไปนั่งในรถม้า และทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับนาง แต่แม่ทัพหนุ่มก็ไม่ปริปากอะไร เขาเพียงชำเลืองนางเล็กน้อยวันนี้นางงามมาก งามจนเขาตะลึง เขาแน่ใจมากว่านับจากวันนี้จวนแม่ทัพของเขาคงจะไม่ว่างเว้นจากแม่สื่ออย่างแน่นอน รถม้ายังคงแล่นไปเรื่อยๆ มุ่งตรงไปจวนคหบดีเหลียนที่อยู่ค่อนไปทางนอกเมืองเล็กน้อย เพราะจวนนี้เป็นจวนใหม่ที่สร้างขึ้นมาใหม่อีกหลังของเขา ที่หลังใหญ่กว่าเดิมพื้นที่กว้างขวางกว่าเดิมมาก คุณหนูเหลียนบุตรสาวเพียงคนเดียวของเขามักจะใช้ที่นี่เป็นที่จัดงานเลี้ยงรื่นเริงเพราะบรรยากาศดี สวนกว้างขวางที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามมากนั้น เหมาะแก่การจัดเลี้ยงในสวนทั้งยามบ่ายและยามค่ำคืนที่มองเห็น
เขาจึงได้ลุกออกไปเพื่อสอดส่องดูนางกับชายผู้นั้น แต่ไม่ได้เข้าไปในศาลา เพียงแอบมองอยู่ด้านนอก เพื่อจับผิดสตรีในศาลานั่นว่าทำตัวไม่เหมาะสมหรือไม่ ยิ่งเขาเห็นสายตาที่เจ้าหมอนั่นจ้องมองมาที่นี่นางมันดูแวววาวผิดปกติ หรือเจ้าหมอนั่นพึงใจนาง จึงได้หาเรื่องมาจ้างให้นางวาดภาพ จิตรกรอื่นก็มีออกจะมากมาย ใยจึงมาจ้างงานสตรีเช่นนางที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายอะไร เขาพลันรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก อาชีพอื่นก็มีออกจะมากมาย และนางนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำงานเลี้ยงชีพอีกด้วย เขาเองก็พอมีเงินทองเลี้ยงดูนางให้สุขสบายไม่ต้องทำงานสิ่งใดทั้งสิ้นเพียงอยู่เป็นคุณหนูในจวนแม่ทัพเช่นนี้ ทำไมต้องทำงานหาเงินด้วย เขาเองก็ไม่เข้าใจนางนัก แต่คงจะต้องเรียกมาพูดกันให้รู้เรื่องว่านางทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน เมื่อนางไม่ยอมเหยียบย่างมาที่เรือนของเขาเลย แม่ทัพหนุ่มจึงจำต้องไปหานางที่เรือนของนางแทน “ เยว่เอ๋อ เหตุใดถึงไม่ไปกินข้าวกับอาที่เรือน แล้วหมู่นี่เจ้าทำตัวแปลกๆไปนะ ทำไมไม่ไปที่เรือนของอาบ้าง หรือเคยทำสิ่งใดก็ทำไปจะมีใครกล้าปากมากมาว่าเจ้า หากผู้ใดในจวนนี้ว่ากล่าวเจ้าก็บอกอามา อาจะจัดการให้ ” เขาบอกกับนางเช่นนั้
แม้นางจะกลับมาเกิดใหม่แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเลือกที่จะรักคนเดิม เยว่ชิงเดินเล่นอยู่ในสวนที่กว้างขวางของจวนแม่ทัพอย่างไม่มีจุดหมาย นางเดินไปเรื่อยๆ เพื่อครุ่นคิดทำใจเรื่องอดีตคนรักที่เขาเพิ่งบอกกับนางว่ากำลังจะหมั้นหมายกับสตรีอื่น เมื่อเดินวนเวียนอยู่ในสวนเพื่อครุ่นคิดทบทวนตัวเองจนคิดได้ และตกลงใจว่าจะเลิกทำตัววุ่นวายกับอดีตคนรักที่ปัจจุบันนางต้องยอมรับให้ได้ว่าเขาไม่ใช่คนรักของนางอีกต่อไปแล้ว และเมื่อเขาต้องการเริ่มต้นใหม่กับคนอื่น นางควรจะส่งเสริมให้เขาได้ทำเช่นที่ใจของเขาต้องการ นางก็เคยพบสตรีคนนั้นที่ดูแล้วก็เป็นสตรีที่ทันสมัย ปราดเปรียวน่ารัก และนิสัยก็คงจะดีไม่น้อย เยว่ชิงยืนพิงก้อนหินก้อนใหญ่ที่ใช้ตกแต่งในสวนแห่งนี้ แล้วค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งพิงมันเอาไว้ แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างสุดที่จะกลั้นมันเอาไว้ นางอยากจะร้องไห้เสียให้พอ ร้องให้สาแก่ใจ เพื่อที่ต่อไปนางจะไม่ร้องไห้ให้กับอดีตคนรักที่ต่อไปนี้ไม่ใช่คนที่นางควรจะรักอีกแล้ว เยว่ชิงยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลรินอยู่สองข้างแก้มแล้วก็พยายามหยุดสะอื้นไห้ นางคิดได้แล้ว ต่อไปนางจะทำตัวเสียใหม่ ทำตัวเป็นแค่หลานสาวในอุปการะของเ
หรือเมื่อวันใดที่เขาไม่ได้ออกไปทำงานนอกจวน นางก็จะทำอาหารหรือขนมหรือไม่ก็ผลไม้ที่เขาชื่นชอบยกมาให้เขาถึงที่ห้องหนังสือ หรือในห้องนั่งเล่นที่เขานั่งอยู่ พร้อมกับป้านน้ำชาที่นางรู้ว่าเขาชอบจิบมัน และนั่นทำให้เริ่มมีเสียงกระซิบกระซาบกันในหมู่สาวใช้และบ่าวบางคนว่าคุณหนูต้วนผู้นี้ทำตัวดังเช่นจะเข้ามาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพกระนั้น เพราะทุกคนต่างรู้ว่านางคือบุตรสาวของรองแม่ทัพต้วนที่หาชีวิตไม่แล้ว ทำให้ท่านแม่ทัพจางรับบุตรสาวของเขามาอุปการะ แต่คุณหนูต้วนที่ทั้งงดงามปานจะล่มเมืองและอยู่ในวัยสาวสะพรั่งก็ทำตัวรู้คุณเกินหน้าที่ คล้ายกับว่านางอยากจะขยับฐานะจากหลานสาวมาเป็นภรรยาของแม่ทัพจางกระนั้น นางปรนนิบัติใกล้ชิดเขาจนเกินงาม และแม่ทัพหนุ่มก็ได้ยินเสียงซุบซิบนั่น และเขาเองก็รู้ดีแก่ใจว่าหลานสาวนอกไส้ผู้นี้ทำตัวเกินเลยไปจนเป็นที่ครหาของคนในจวนแม่ทัพหนุ่่มนอนครุ่นคิดอยู่หลายคืน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบการปรนนิบัติเช่นนี้ของหลานสาว นางทำได้ดีไม่มีที่ติ และดูแลเขาดีมากอย่างที่ไม่เคยมีสตรีใดดูแลเขาได้ดีเช่นนี้มาก่อน และนางทำให้เขาคิดถึงอวี้ชางขึ้นมาจับใจ และเขาคงจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้แล้ว แม่ท
“ คุณหนูเจ้าคะ ท่านตื่นแล้วหรือ ชุ่ยเอ๋อเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้แล้วนะเจ้าค่ะ กำลังอุ่นพอดีเลย อาบน้ำกันเลยดีกว่านะเจ้าคะ จะได้รีบแต่งตัว รีบไปสถานศึกษากัน " ร่างอวบอิ่มงดงามของคุณหนูต้วนจึงได้ลุกจากเตียงอันแสนอุ่นของนาง แล้วก็เดินเข้าไปหลังฉากกั้นเพื่ออาบน้ำแต่งกาย เตรียมตัวไปสถานศึกษาที่อีกไม่นานนางก็จะจบการศึกษาแล้วเหลือเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น การย้ายมาอยู่จวนแม่ทัพจางนี้ ทำให้นางไม่ต้องตื่นแต่เช้าเช่นเดิมนัก เพราะว่าสถานศึกษากับจวนแม่ทัพจางนั้นอยู่ไม่ไกลกันมาก นางจึงไม่ต้องเร่งรีบดังเช่นเดิมอีก มีเวลาแต่งกายและกินอาหารตามสบายแล้วค่อยออกไปขึ้นรถม้าที่หน้าประตูจวนเพื่อไปยังสถานศึกษาเมื่ออาบน้ำแต่งกายจนเรียบร้อยแล้ว เยว่ชิงก็กินอาหารเช้าที่เรือนเล็กของนาง โดยมีชุ่ยเอ๋อสาวใช้คนสนิทที่ตามมาจากจวนของบิดาไปยกจากโรงครัวมาให้นาง ตอนเช้านางเร่งรีบจะไปสถานศึกษาจึงคิดว่าจะไม่แวะไปกินอาหารเช้ากับท่านอาหนุ่มหมาดๆของนาง แต่จะไปกินอาหารร่วมกับเขาที่เรือนในตอนเย็นแทนจะได้มีเวลาอยู่กับเขาให้มากขึ้น พี่หย่งเล่อท่านรอข้าหน่อยนะ ข้าจะเรียนจบแล้ว และจะเกี้ยวท่านกลับมาเป็นคนรักของข้าให้ได้ แค่คิดถึงใ