สมปรารถนากับผีน่ะซิ..... บุรุษเจ้าเล่ห์คนนี้ต่างหาก ที่สมปรารถนาอยู่เพียงคนเดียว... เมื่อเห็นว่ามารดากำลังเข้าข้างโม่เฉิน หรงหรงยิ่งรู้สึกโกรธเคืองบุรุษเจ้าเล่ห์คนนี้เพิ่มทวีคูณ.... "ไอ๋หย๋า...พวกท่านสองคน เหตุใดวันนี้ถึงได้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยขึ้นมา ข้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก ตอนนี้กลายเป็นคนห
"นี้....เจ้าทำอะไรกับพวกข้ากันแน่..." อี้ฟูกัดฟันกรอดเอ่ยขึ้นมา อย่างโกรธแค้น "พิษที่อยู่ในตัวพวกเจ้า กำลังจะออกฤทธิ์ในไม่ช้า..." หรงหรงพูดออกไปด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย "พิษ...นี้เจ้าถึงกับวางพิษพวกข้าทุกคน เจ้าช่างเป็นสตรีที่อำมหิตเลือดเย็นจริงๆ" อี้ฟูตะโกนด่าออกไปอย่างสุดเสียง เมื่อได้รู้ว่าตนเองก
"ทุกคนต่างแยกย้ายกลับเรือนไปหมดแล้ว เจ้าอ้วน...ตอนนี้เหลือเจ้าเพียงคนเดียว เจ้ายังจะรออะไรอยู่อีก รีบกลับเรือนเจ้าไปได้แล้ว ข้าจะรีบปิดประตูเรือน..." หรงหรงขมวดคิ้วมองไปที่อี้ฟู แล้วรีบไล่ตะเพิดให้เขากลับเรือนไป "หรงหรง เจ้า..เจ้าช่วยข้าถอนพิษได้หรือไม่...? เมื่อเห็นว่ามีเพียงเขากับหมอหญิงอยู่กันแ
หรงหรงได้แต่มองตามหลังอี้ฟูไปจนสุดสายตา ก่อนจะเหลือบสายตาหันไปมองดูโม่เฉิน และรีบเดินผ่านเขาไปอย่างไม่ใส่ใจ... "ข้าไม่ยักรู้....ว่าภรรยาในอนาคตของข้า จะรู้ทักษะในการใช้พิษ เพื่อเปลี่ยนแปลงคน จากดำให้กลายเป็นขาว..." โม่เฉินวางถ้วยชาในมือลงช้าๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นลอยๆ เพื่อให้สตรีตรงหน้าได้ยิน "หึ... แ
"วันนี้โรงหมอเราปิด ข้าไม่รับแขก ข้ากำลังยุ่งอยู่กับการคัดแยกสมุนไพร ท่านแม่ไปบอกพวกเขาให้มาใหม่ในวันพรุ่งนี้เถอะเจ้าคะ ตอนนี้ข้าไม่ว่าง..." หรงหรงยังคงมุ่งมั่นดูแลสมุนไพรในสวนต่อ "แต่ชายคนนั้นบอกว่าน้องสาวเขากำลังป่วยอยู่ ดูจากรถม้าที่นั่งมา น่าจะมาจากตระกลูที่ฐานะร่ำรวย แต่เหตุใดถึงต้องมารักษาใน
รุ่งสางของอีกวัน....... หรงหรงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อเตรียมตัวขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร เพราะยังขาดตัวยาสำคัญไปหนึ่งชนิด ซึ่งจำเป็นต้องออกไปหาจากหน้าผาสูงชันเพียงอย่างเดียว... "ลูกพี่....ท่านเตรียมสัมภาระ กำลังจะออกเดินทางไปที่ใดหรือ...? อี้ฟูรีบตะโกนถามออกไปอย่างเร็วพลัน เมื่อเห็นสตรีตรงหน้ากำลังส
"โฮ่ง...โฮ่ง...โฮ่ง" เสี่ยวเพ้าหันมาเห่าเสียงดังขู่ใส่อี้ฟูอย่างรำคาญ ทำเอาอี้ฟูที่กำลังจ้องมองเสี่ยวเพ้า ถึงกับสะดุ้งตกใจ "ลูกพี่....ท่านดูสิ เจ้าหมาตัวนี้เหมือนมันกำลังจ้องจะกินข้าเสียให้ได้ แนะ...ยิ่งพูดก็ยิ่งเห่า ท่านเห็นหรือไหม ตอนนี้มันกำลังขู่ข้าอยู่.....? อี้ฟูเริ่มตัวสั่นขึ้นมา เมื่อเห็นว
หรงหรงถึงกับตะลึงกับภาพที่อยู่เบื้องหน้า ฝูงผึ้งจำนวนมหาศาลเกาะเต็มผนังถ้ำจนเป็นก้อนสีดำ แทบจะไม่มีช่องโหว่เผยให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะค่อยๆหมุนคบเพลิงหันไปมองรอบบริเวณอย่างช้าๆ ยิ่งมองยิ่งชวนให้ขนหัวลุก ไม่ว่าจะส่องแสงไฟไปในทิศทางใด ทั่วผนังถ้ำถูกโอบล้อมไปด้วยฝูงผึ้ง ตอนนี้หรงหรงรู้สึกว่าตั
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ
หลังจากพูดคุยกับหญิงชรานานพอสมควร โม่เฉินก็มุ่งหน้าเดินกลับไปห้องของตนเอง แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป เขาก็เห็นสตรีร่างบาง กำลังนั่งรอเขาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย อย่างใจจดใจจ่อ "ตกลงท่านคุยเรื่องอะไรตั้งครึ่งค่อนวันกับท่านแม่กันแน่...? โม่เฉินยังไม่ทันจะปิดประตูห้อง สตรีร่างบางก็ยิงคำถามขึ้นอย่า
หรงหรงเดินนำหน้าเข้ามาก่อน ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยปากพูด หญิงชราก็รีบออกคำสั่ง ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้นทันที "คุกเข่า..." บุตรสาวทำตามคำสั่งมารดาโดยไม่ปริปาก พร้อมกับบุรุษต้นเรื่อง ทั้งสองคนคุกเข่าลงพร้อมกัน โดยไม่ปริปากแม้แต่คนเดียว..... "ท่านพี่ ท่านจงมองดูลูกสาวตัวดีของท่านเอาเถิด พวกเขาส
"ไปเถอะน๊า....เดี๋ยวพอถึงก็รู้เองแหละ..." เสียงถกเถียงของทั้งสองคนดังอยู่ภายในห้อง พลันมีเสียงเคาะประตูแทรกขึ้นมา ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทางเดียวกัน อย่างลุ้นระทึก พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา..... "หรงเอ๋อร์...นั้นลูกตื่นแล้วรึ....? เสียงหญิงชราตะโกนเรียก เมื่อเห็นว่าได้เวลาไปตรวจคนไข้ แต่ยังไม่เห็นแม
"ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก ท่านเกิดปีหมาหรืออย่างไร ร่องรอยพวกนี้ท่านจงใจฝากไว้บนเรือนร่างข้าชัดๆ...." หรงหรงค่อยๆเลื่อนสายตามองไปทั่วเรือนรางของตนเองอย่างอ่อนระทวย ก่อนจะหันไปมองโม่เฉิน ฉายแววตาเขียวปั๊ดใส่เขา "ข้าเกิดปีกระต่าย มิได้เกิดปีหมาเสียหน่อย..." "โม่เฉิน....นี้ท่านกำลังยอกย้อนคำพูดข้าอยู่ส
"อ่ะ...." หรงเอ๋อร์ส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆด้วยความเจ็บ ริมฝีปากหนาเลื่อนลงจากคอไปที่กระดูกไหปลาร้า ร่างกายหรงหรงเหมือนถูกกระตุ้น ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกอดรัดเขาเอาไว้แน่น "หรงเอ๋อร์ รีบปล่อยมือออกบัดเดี๋ยวนี้.." โม่เฉินกำลังจะพูดต่อ แต่ถูกหรงหรงดึงเขาลงมาจูบแทน พลันมุมปากของบุรุษยกยิ้มขึ้นม