หรงหรงถึงกับตะลึงกับภาพที่อยู่เบื้องหน้า ฝูงผึ้งจำนวนมหาศาลเกาะเต็มผนังถ้ำจนเป็นก้อนสีดำ แทบจะไม่มีช่องโหว่เผยให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะค่อยๆหมุนคบเพลิงหันไปมองรอบบริเวณอย่างช้าๆ ยิ่งมองยิ่งชวนให้ขนหัวลุก ไม่ว่าจะส่องแสงไฟไปในทิศทางใด ทั่วผนังถ้ำถูกโอบล้อมไปด้วยฝูงผึ้ง ตอนนี้หรงหรงรู้สึกว่าตั
"จริงด้วย...แต่เหตุใดผึ้งนางพญาถึงได้เป็นสีเหลืองทองอร่ามเปล่งประกายออกมาทั้งตัวเช่นนี้ ข้าพึ่งจะเคยเห็นเป็นบุญตาครั้งแรก" หรงหรงยังคงเพ่งมองดูสิ่งของในมืออย่างไม่กระพริบตา "ดูท่า...มันจะตายแล้ว เพราะไม่ขยับเขยื้อนเลย....? อี้ฟูมองเห็นผึ้งนางพญานอนแน่นิ่งจึงได้เอ่ยออกไป หรงหรงจึงใช้นิ้วเขี่ยไปที
"เดี๋ยวก่อน ข้ายังมีเรื่องสงสัยอีกมากมาย อย่าพึ่งไป" หรงหรงรีบเรียกตัวเป่าเอาไว้อย่างเร็วพลัน "เรื่องของข้ากับท่าน ขอนายท่านโปรดเก็บเป็นความลับ ข้าพึ่งจะเริ่มฟื้นตัว พลังจิตจึงไม่ค่อยเสถียร ไม่สามารถอยู่พูดคุยกับท่านได้นาน" เสียงตัวเป่าค่อยๆเบาลงไปอย่างช้าๆ "เช่นนั้น ข้าควรทำอย่างไรต่อไปดี...? ห
วันนี้เป็นวันที่สามที่ริเริ่มรักษาแม่นางน้อยจากต่างเมืองในขั้นตอนแรก หรงหรงเดินเข้าไปหยิบอุปกรณ์ในห้องเก็บของ พลันเหลือบไปเห็นเก้าอี้รถเข็นคันเก่า ที่โม่เฉินเลิกใช้ไปนานแล้ววางอยู่ตรงนั้น เพราะโม่เฉินมีเก้าอี้รถเข็นคันใหม่ที่แข็งแรงทนทานกว่า เมื่อหรงหรงฉุกคิดขึ้นมาได้ นางจึงได้นำเก้าอี้รถเข็นออกม
"เจ้าค่ะ..." "อี้ฟู เจ้ามาพอดี ช่วยข้าเฝ้าอยู่ตรงนี้จนกว่าข้าจะรักษาเสร็จ ห้ามให้ผู้ใดเข้าไปข้างในโดยเด็ดขาด หากไม่ได้รับอนุญาติจากข้า.." "ได้ ลูกพี่ ท่านเข้าไปรักษาเถอะ ส่วนข้างนอกไว้เป็นหน้าที่ข้าเอง " อี้ฟูเอามือตบไปที่หน้าอกของตัวเองเบาๆ เขายืดมือออกมาดัดทั้งสิบนิ้วพร้อมกัน เสียงดังเปราะ ยิ่ง
หรงหรงรีบเดินไปหาโม่เฉิน เพื่อบอกให้เขาช่วยดูแลหม้อต้มยาสมุนไพรที่ต้มค้างเอาไว้ เพราะหรงหรงได้คำนวณเวลาเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย จึงได้ไหว้วานโม่เฉินให้เฝ้าระวังเป็นอย่างดี สิ่งใดที่คนรักเอ่ยปาก มีหรือโม่เฉินจะกล้าปฎิเสธได้ลงคอ ส่วนทางด้านหญิงชรา ยังคงนอนอยู่ภายในห้องไม่ขยับเขยื้อนออกไปไหน เนื่องจา
ห้ะ...มีอีกหลายชนิด.......? *.....* ชูหลินถึงกับตาถลนออกมาอย่างตกใจ... "ว่ากันว่าในบรรดาโสมเกือบจะทั้งหมด โสมภูเขาถือว่าเป็นโสมที่หาเจอได้ยากยิ่งนัก และมีราคาค่อนข้างแพง ทำไมท่านหมอถึงได้มีของราคาแพงเช่นนี้ ละเจ้าคะ...? ชูหลินรีบถามออกมาอย่างตื่นเต้น "เรื่องนี้เป็นความลับ คริ...คริ.." หรงหรงห
อี้ฟูรู้สึกจนปัญญากับความเป็นสุภาพบุรุษของโม่เฉินโดยแท้ ทำไมคนหน้าตาดีเช่นเขา ถึงได้ไม่มีไหวพริบด้านสตรีเสียบ้างเลย อี้ฟูเดินผ่านไปผ่านมา โม่เฉินก็ยังนั่งอ่านตำรา แต่ในหัวโม่เฉินกลับคิดเรื่องอื่นมาแทนที่ ก่อนจะหันไปเอ่ยถามอี้ฟู เพราะถึงอย่างไร ประสบการณ์ด้านนี้ อี้ฟูก็ต้องรู้ดีกว่าเขาแน่นอน "เจ้าอ
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ