"โฮ่ง...โฮ่ง...โฮ่ง" เสี่ยวเพ้าหันมาเห่าเสียงดังขู่ใส่อี้ฟูอย่างรำคาญ ทำเอาอี้ฟูที่กำลังจ้องมองเสี่ยวเพ้า ถึงกับสะดุ้งตกใจ "ลูกพี่....ท่านดูสิ เจ้าหมาตัวนี้เหมือนมันกำลังจ้องจะกินข้าเสียให้ได้ แนะ...ยิ่งพูดก็ยิ่งเห่า ท่านเห็นหรือไหม ตอนนี้มันกำลังขู่ข้าอยู่.....? อี้ฟูเริ่มตัวสั่นขึ้นมา เมื่อเห็นว
หรงหรงถึงกับตะลึงกับภาพที่อยู่เบื้องหน้า ฝูงผึ้งจำนวนมหาศาลเกาะเต็มผนังถ้ำจนเป็นก้อนสีดำ แทบจะไม่มีช่องโหว่เผยให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะค่อยๆหมุนคบเพลิงหันไปมองรอบบริเวณอย่างช้าๆ ยิ่งมองยิ่งชวนให้ขนหัวลุก ไม่ว่าจะส่องแสงไฟไปในทิศทางใด ทั่วผนังถ้ำถูกโอบล้อมไปด้วยฝูงผึ้ง ตอนนี้หรงหรงรู้สึกว่าตั
"จริงด้วย...แต่เหตุใดผึ้งนางพญาถึงได้เป็นสีเหลืองทองอร่ามเปล่งประกายออกมาทั้งตัวเช่นนี้ ข้าพึ่งจะเคยเห็นเป็นบุญตาครั้งแรก" หรงหรงยังคงเพ่งมองดูสิ่งของในมืออย่างไม่กระพริบตา "ดูท่า...มันจะตายแล้ว เพราะไม่ขยับเขยื้อนเลย....? อี้ฟูมองเห็นผึ้งนางพญานอนแน่นิ่งจึงได้เอ่ยออกไป หรงหรงจึงใช้นิ้วเขี่ยไปที
"เดี๋ยวก่อน ข้ายังมีเรื่องสงสัยอีกมากมาย อย่าพึ่งไป" หรงหรงรีบเรียกตัวเป่าเอาไว้อย่างเร็วพลัน "เรื่องของข้ากับท่าน ขอนายท่านโปรดเก็บเป็นความลับ ข้าพึ่งจะเริ่มฟื้นตัว พลังจิตจึงไม่ค่อยเสถียร ไม่สามารถอยู่พูดคุยกับท่านได้นาน" เสียงตัวเป่าค่อยๆเบาลงไปอย่างช้าๆ "เช่นนั้น ข้าควรทำอย่างไรต่อไปดี...? ห
วันนี้เป็นวันที่สามที่ริเริ่มรักษาแม่นางน้อยจากต่างเมืองในขั้นตอนแรก หรงหรงเดินเข้าไปหยิบอุปกรณ์ในห้องเก็บของ พลันเหลือบไปเห็นเก้าอี้รถเข็นคันเก่า ที่โม่เฉินเลิกใช้ไปนานแล้ววางอยู่ตรงนั้น เพราะโม่เฉินมีเก้าอี้รถเข็นคันใหม่ที่แข็งแรงทนทานกว่า เมื่อหรงหรงฉุกคิดขึ้นมาได้ นางจึงได้นำเก้าอี้รถเข็นออกม
"เจ้าค่ะ..." "อี้ฟู เจ้ามาพอดี ช่วยข้าเฝ้าอยู่ตรงนี้จนกว่าข้าจะรักษาเสร็จ ห้ามให้ผู้ใดเข้าไปข้างในโดยเด็ดขาด หากไม่ได้รับอนุญาติจากข้า.." "ได้ ลูกพี่ ท่านเข้าไปรักษาเถอะ ส่วนข้างนอกไว้เป็นหน้าที่ข้าเอง " อี้ฟูเอามือตบไปที่หน้าอกของตัวเองเบาๆ เขายืดมือออกมาดัดทั้งสิบนิ้วพร้อมกัน เสียงดังเปราะ ยิ่ง
หรงหรงรีบเดินไปหาโม่เฉิน เพื่อบอกให้เขาช่วยดูแลหม้อต้มยาสมุนไพรที่ต้มค้างเอาไว้ เพราะหรงหรงได้คำนวณเวลาเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย จึงได้ไหว้วานโม่เฉินให้เฝ้าระวังเป็นอย่างดี สิ่งใดที่คนรักเอ่ยปาก มีหรือโม่เฉินจะกล้าปฎิเสธได้ลงคอ ส่วนทางด้านหญิงชรา ยังคงนอนอยู่ภายในห้องไม่ขยับเขยื้อนออกไปไหน เนื่องจา
ห้ะ...มีอีกหลายชนิด.......? *.....* ชูหลินถึงกับตาถลนออกมาอย่างตกใจ... "ว่ากันว่าในบรรดาโสมเกือบจะทั้งหมด โสมภูเขาถือว่าเป็นโสมที่หาเจอได้ยากยิ่งนัก และมีราคาค่อนข้างแพง ทำไมท่านหมอถึงได้มีของราคาแพงเช่นนี้ ละเจ้าคะ...? ชูหลินรีบถามออกมาอย่างตื่นเต้น "เรื่องนี้เป็นความลับ คริ...คริ.." หรงหรงห
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ
หลังจากพูดคุยกับหญิงชรานานพอสมควร โม่เฉินก็มุ่งหน้าเดินกลับไปห้องของตนเอง แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป เขาก็เห็นสตรีร่างบาง กำลังนั่งรอเขาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย อย่างใจจดใจจ่อ "ตกลงท่านคุยเรื่องอะไรตั้งครึ่งค่อนวันกับท่านแม่กันแน่...? โม่เฉินยังไม่ทันจะปิดประตูห้อง สตรีร่างบางก็ยิงคำถามขึ้นอย่า
หรงหรงเดินนำหน้าเข้ามาก่อน ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยปากพูด หญิงชราก็รีบออกคำสั่ง ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้นทันที "คุกเข่า..." บุตรสาวทำตามคำสั่งมารดาโดยไม่ปริปาก พร้อมกับบุรุษต้นเรื่อง ทั้งสองคนคุกเข่าลงพร้อมกัน โดยไม่ปริปากแม้แต่คนเดียว..... "ท่านพี่ ท่านจงมองดูลูกสาวตัวดีของท่านเอาเถิด พวกเขาส
"ไปเถอะน๊า....เดี๋ยวพอถึงก็รู้เองแหละ..." เสียงถกเถียงของทั้งสองคนดังอยู่ภายในห้อง พลันมีเสียงเคาะประตูแทรกขึ้นมา ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทางเดียวกัน อย่างลุ้นระทึก พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา..... "หรงเอ๋อร์...นั้นลูกตื่นแล้วรึ....? เสียงหญิงชราตะโกนเรียก เมื่อเห็นว่าได้เวลาไปตรวจคนไข้ แต่ยังไม่เห็นแม
"ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก ท่านเกิดปีหมาหรืออย่างไร ร่องรอยพวกนี้ท่านจงใจฝากไว้บนเรือนร่างข้าชัดๆ...." หรงหรงค่อยๆเลื่อนสายตามองไปทั่วเรือนรางของตนเองอย่างอ่อนระทวย ก่อนจะหันไปมองโม่เฉิน ฉายแววตาเขียวปั๊ดใส่เขา "ข้าเกิดปีกระต่าย มิได้เกิดปีหมาเสียหน่อย..." "โม่เฉิน....นี้ท่านกำลังยอกย้อนคำพูดข้าอยู่ส
"อ่ะ...." หรงเอ๋อร์ส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆด้วยความเจ็บ ริมฝีปากหนาเลื่อนลงจากคอไปที่กระดูกไหปลาร้า ร่างกายหรงหรงเหมือนถูกกระตุ้น ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกอดรัดเขาเอาไว้แน่น "หรงเอ๋อร์ รีบปล่อยมือออกบัดเดี๋ยวนี้.." โม่เฉินกำลังจะพูดต่อ แต่ถูกหรงหรงดึงเขาลงมาจูบแทน พลันมุมปากของบุรุษยกยิ้มขึ้นม