หนึ่งเดือนผ่านไป...... โรงหมอเริ่มเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการไปได้เดือนเศษ วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนของหมอหญิงอัฉริยะ นางจึงใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุด ไปกับการพักผ่อนหย่อนใจหนึ่งวันเต็มๆ โดยไม่คิดจะขยับเขยื้อนตัวออกจากหอนอน ในช่วงนี้แผ่นมาร์คหน้าสมุนไพร กลายเป็นที่นิยมในบรรดาหมู่หญิงสาว รวมไปจนถึงหมู
*......* หรงหรงรีบดึงแผ่นมาร์คหน้าออกไปจากใบหน้าอันนวลผ่อง นางดันตัวเองให้อยู่ในท่านั่ง พร้อมกับหันไปมองสิ่งที่อยู่ในมือมารดา เมื่อสังเกตุดูดีๆ สายตาหรงหรงแทบจะตาถลนออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้างของนางในบัดดล.... หรงหรงรีบลุกเดินไปคว้าเศษผ้าออกจากมือโม่เฉินและมารดาอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้ทั้งสองคนอยา
ณ ภูเขาลูกหนึ่ง....... นกพิราบสื่อสารบินมายังภูเขาลูกหนึ่งเพื่อส่งจดหมายเร่งด่วน ภายในภูเขาลูกนี้ยังมีเรือนหลังหนึ่งถูกสร้างเอาไว้อย่างลึกลับ เรือนหลังนี้ดูคล้ายกับเขาวงกต และยังติดตั้งกับดักไว้อีกหลายจุด เพื่อป้องกันศัตรูลอบโจมตี ซึ่งในแต่ละจุด ยังมีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ยืนเฝ้าเวรยามกันอย่างหนาแน่
คำถามนี้สตรีตรงหน้าราวกับโดนไฟช็อต นางอึ้งไปสามวิ ในหัวนางยังคงคิดหาคำตอบไม่ได้.... "วันนี้ท่านไปกินอะไรผิดสำแดงมาอย่างนั้นหรือ....? หรงหรงพยายามรีบเปลี่ยนเรื่อง "ตอบให้ตรงคำถาม....แล้วคิดให้ดีๆก่อนที่จะตอบ..." โม่เฉินแสดงสีหน้าจริงจังขึ้นมา เพื่อรอคำตอบ "จู่จู่ท่านก็มาถามคำถามกระทันหันกับข้าเ
"คุกเข่า...!!!" หรงหรงเข็นรถเข็นเข้ามาพร้อมกับโม่เฉินได้ไม่ทันไร ก็ได้ยินเสียงหญิงชราออกคำสั่งขึ้นทันที่ หรงหรงทำตามคำสั่งมารดาโดยไม่ปริปาก แต่ที่นางรู้สึกไม่ยุติธรรมกับตัวเอง คือนางต้องคุกเข่าอยู่เพียงคนเดียว ทั้งๆเรื่องนี้ นางไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนแท้ๆ แต่อีกคนกับนั่งอยู่บนรถเข็นได้อย่างสบายใจ
สมปรารถนากับผีน่ะซิ..... บุรุษเจ้าเล่ห์คนนี้ต่างหาก ที่สมปรารถนาอยู่เพียงคนเดียว... เมื่อเห็นว่ามารดากำลังเข้าข้างโม่เฉิน หรงหรงยิ่งรู้สึกโกรธเคืองบุรุษเจ้าเล่ห์คนนี้เพิ่มทวีคูณ.... "ไอ๋หย๋า...พวกท่านสองคน เหตุใดวันนี้ถึงได้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยขึ้นมา ข้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก ตอนนี้กลายเป็นคนห
"นี้....เจ้าทำอะไรกับพวกข้ากันแน่..." อี้ฟูกัดฟันกรอดเอ่ยขึ้นมา อย่างโกรธแค้น "พิษที่อยู่ในตัวพวกเจ้า กำลังจะออกฤทธิ์ในไม่ช้า..." หรงหรงพูดออกไปด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย "พิษ...นี้เจ้าถึงกับวางพิษพวกข้าทุกคน เจ้าช่างเป็นสตรีที่อำมหิตเลือดเย็นจริงๆ" อี้ฟูตะโกนด่าออกไปอย่างสุดเสียง เมื่อได้รู้ว่าตนเองก
"ทุกคนต่างแยกย้ายกลับเรือนไปหมดแล้ว เจ้าอ้วน...ตอนนี้เหลือเจ้าเพียงคนเดียว เจ้ายังจะรออะไรอยู่อีก รีบกลับเรือนเจ้าไปได้แล้ว ข้าจะรีบปิดประตูเรือน..." หรงหรงขมวดคิ้วมองไปที่อี้ฟู แล้วรีบไล่ตะเพิดให้เขากลับเรือนไป "หรงหรง เจ้า..เจ้าช่วยข้าถอนพิษได้หรือไม่...? เมื่อเห็นว่ามีเพียงเขากับหมอหญิงอยู่กันแ
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ