นางเมิงเคยเป็นบุตรสาวคนเล็กตระกูลผู้ดีมาก่อน และได้ผ่านการอบรมสั่งสอนมารยาทมาเป็นอย่างดี นางจึงเคร่งครัดในกฏระเบียบเป็นอย่างมาก และไม่อาจทนเห็นบุตรสาวถูกตราหน้าว่าเป็นคนเนรคุณคน "หรงเอ๋อร์..รีบเปิดประตูให้ท่านย่าเข้ามาเถิด ประเดี๋ยวนางคงได้หนาวตายขึ้นมาพอดี อย่าได้ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่
แผนที่แม่เฒ่าอิ๋นวางเอาไว้ โดนหรงหรงทำลายทิ้งจนหมดสิ้น ยิ่งทำให้ยายเฒ่าอย่างนาง รู้สึกโมโหจนแทบคลั่ง เมื่อกำจัดศัตรูไปได้อย่างง่ายดาย หรงหรงจึงรีบหันมาประคองมารดา แล้วรีบพานางเข้าไปภายในเรือน "ท่านแม่....ท่านแม่ไม่ต้องกลัวเจ้าคะ.....นางไปแล้วเจ้าคะ นางไปแล้ว..!!!" หรงหรงรีบเอ่ยบอกมารดา เพื่อให้
เมื่อย้อนกลับไปนึกถึงคำพูดแม่เฒ่าเจ้าเล่ห์ขึ้นมา คล้ายกับว่าได้ยินชื่อหมอประจำหมู่บ้านหลุดออกมา ซึ่งนั้นก็คือหมอจ้าว เพราะในความทรงจำเจ้าของร่างเดิม เลือนลางกับชื่อนี้เป็นอย่างมาก.... หรงหรงใคร่อยากจะเห็นใบหน้าคร่าตาของหมอจ้าวคนนี้ขึ้นมาเป็นที่สุด ว่าหมอจ้าวที่ชาวบ้านต่างเคารพยกย่องผู้นี้ จะเก่งกา
"ครั้งนี้ข้าจะไม่ติดใจเอาความ เพราะย่าของเจ้าก็มารับยาจากข้าไปให้แม่เจ้ากินอยู่เป็นประจำ หากวันนี้เจ้าไม่ได้มารับการรักษา ก็จงรีบไสหัวกลับไปสะ อย่ามาทำให้ข้าต้องเสียเวลาในการตรวจรักษาคนไข้คนอื่นๆ..." หมอจ้าวรู้สึกว่ามีคนมาหักหน้าเขาไปต่อหน้าต่อตา เขายังจะทนอยู่เฉยได้อย่างไร หมอจ้าวรีบไล่หรงหรงให้
หลังจากหรงหรงได้เดินทางกลับมาถึงเรือนได้เพียงไม่นาน นางได้เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ให้มารดาและโม่เฉินฟังอย่างละเอียด.... "หรงเอ๋อร์...ลูกคิดดีแล้วหรือ ที่จะเปิดโรงหมอขึ้นที่นี้....? หญิงชราย้ำถามบุตรสาวอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ "ลูกได้ใคร่ครวญมาสักพักแล้วเจ้าคะ อันที่จริง...ถึงหมู่บ้านเราจ
"สาม....วันนี้วันที่สาม " "เช่นนั้นท่านลุงช่วยถอดเสื้อออก แล้วนอนหันหลังให้ข้าสักประเดี๋ยว.." "หรงเอ๋อร์...เจ้าเป็นสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน จะดูรูปร่างบุรุษอื่น ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง.." โม่เฉินรีบเอ่ยค้าน "เงียบปาก ข้าเป็นหมอ หรือว่าท่านเป็นหมอ.....? "ก็ต้องเป็นเจ้า..." "ก็ใช่น่ะสิ ข้าเป็นหม
หนึ่งเดือนผ่านไป...... โรงหมอเริ่มเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการไปได้เดือนเศษ วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนของหมอหญิงอัฉริยะ นางจึงใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุด ไปกับการพักผ่อนหย่อนใจหนึ่งวันเต็มๆ โดยไม่คิดจะขยับเขยื้อนตัวออกจากหอนอน ในช่วงนี้แผ่นมาร์คหน้าสมุนไพร กลายเป็นที่นิยมในบรรดาหมู่หญิงสาว รวมไปจนถึงหมู
*......* หรงหรงรีบดึงแผ่นมาร์คหน้าออกไปจากใบหน้าอันนวลผ่อง นางดันตัวเองให้อยู่ในท่านั่ง พร้อมกับหันไปมองสิ่งที่อยู่ในมือมารดา เมื่อสังเกตุดูดีๆ สายตาหรงหรงแทบจะตาถลนออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้างของนางในบัดดล.... หรงหรงรีบลุกเดินไปคว้าเศษผ้าออกจากมือโม่เฉินและมารดาอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้ทั้งสองคนอยา
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ