"ขอบคุณท่านหมอกับพ่อหนุ่มทั้งสามมากเจ้าคะ.." ยายเฒ่ารีบขอบคุณอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินจากไป "คนต่อไป..." น้ำเสียงเจ้าหนึ่งดูกระตือรือร้นดูตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่เป็นอย่างมาก นี้เป็นครั้งแรกที่เขาถือว่าตัวเองทำตัวมีประโยชน์ขึ้นมา "เสียงไอสั่นและมีกลิ่นสาบ เสมหะข้นมาก น่าจะเป็นไข้หวัดร้อนชื้น เอายากลับ
ยังไม่ทันที่พวกเขาสี่คนจะเก็บสัมภาระเสร็จ กลับมีบุรุษสูงวัยคนหนึ่งแต่งตัวดูมีภูมิฐาน กำลังยืนประจันหน้ากับพวกเขาทั้งสี่คนอยู่ ด้านหลังบุรุษสูงวัยยังมีข้ารับใช้อีกสามคนร่างกายกำยำยืนประกบอยู่ด้วย "พวกเจ้าในที่นี้.....ใครที่คือท่านหมอ...? เสียงบุรุษสูงวัยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ หรงหรงฟังจากน
"เชิญท่านหมอและน้องชายทั้งสามตามสบาย...อาหารทุกอย่างถูกจัดวางเอาไว้เรียบร้อย ประเดี๋ยวข้าจะกลับมาใหม่ในภายหลัง.." กล่าวจบอู่ถงก็ขอตัวลาอย่างรู้หน้าที่ และยังกำชับสาวใช้ให้คอยบริการพวกเขา อย่าได้ขาดตกบกพร่อง หรงหรงไม่ได้ตอบกลับ นางเพียงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับจิบน้ำชาที่สาวใช้พึ่งจะเทให้นาง
"อย่าพึ่งให้นางกลับ พานางออกไปรอฟังข่าวที่ห้องรับรองก่อน" ใต้เท้าหนานเฟยรีบสั่งกำชับอู่ถงด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "ขอรับใต้เท้า เชิญท่านหมอตามข้ากลับไปที่ห้องรับรองด้วยขอรับ..." อู่ถงกล่าวอย่างมีมารยาท หรงหรงเดินตามหลังอู่ถงไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด เพราะนางรู้ดีกว่าใคร จึงไม่ได้หวั่นวิตกต่อผลลัพธ์ที่ก
"ต้องขออภัยใต้เท้าด้วย ข้าเป็นหมอที่ไร้ชื่อแซ่ และไปมาอย่างลึกลับ มิชอบเปิดเผยตัวตนให้ผู้ใดรู้ ส่วนเรื่องแต่งงาน ข้ายังไม่เคยคิดมาก่อน ข้าชอบชีวิตอิสระ คงไร้วาสนาต่อบุตรชายของท่าน" หรงหรงเอ่ยตัดบทสนธนาอย่างไร้เยื่อใย "ปัดโธ่เอ่ย...ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก บุตรชายข้าคงไร้วาสนาจริงๆ แล้วข้าจะติดต่อกับท
สายลมพัดชายอาภรณ์สีแดงปลิวสไวไปมา คุณชายหนานเฟิงพึ่งกลับมาจากเที่ยวหอนางโลมเฉกเช่นทุกวัน เหมือนว่าที่นั้นเป็นบ้านอีกหลังของเขาไปโดยปริยาย ทั้งวันเขามักจะคลุกคลีอยู่ในหอนางโลม ร่ำสุราเป็นอาจิน จึงทำให้บุตรชายคนเล็กของใต้เท้าหนานเฟย มีชื่อเสียงฉ่าวโฉ่ไปในทางที่ไม่ดี หากพูดถึงชายหนุ่มเจ้าสำราญ คงจะห
เพียงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ข้าวของทุกอย่างถูกซื้อมาจนครบ สามพี่น้องเดินถือของอย่างพะรุงพะรัง ทุกนิ้วมือของพวกเขาทั้งสาม ไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับถือของอีกแล้ว "ท่านพี่หญิง นี้ท่านคงไม่ได้กำลังแกล้งพวกข้าอยู่หรอกกระมั้ง ตอนนี้พวกข้าไม่มีนิ้วมือเหลือพอที่จะถือของให้ท่านอีกแล้วนะ....? เจ้าหนึ่งรีบบ่นออ
หรงหรงหยิบห่อผ้าที่นางซื้อไว้สำหรับลุงจางออกมาหนึ่งห่อ ในนั้นมีทั้งเนื้อแห้ง เนื้อเค็ม ปลาแห้ง และขนมเพิ่มอีกสองอย่าง พอสำหรับสองผัวเมียให้กินไปได้ทั้งเดือนในฤดูเหมันต์ "รับนี้ไปสิเจ้าคะ ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากข้า " หรงหรงยื่นห่อผ้าส่งให้ลุงจาง "ขอบใจมากนางหนู ว่าแต่นี้คือสิ่งใด เหตุใดถึงไ
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ