เพียงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ข้าวของทุกอย่างถูกซื้อมาจนครบ สามพี่น้องเดินถือของอย่างพะรุงพะรัง ทุกนิ้วมือของพวกเขาทั้งสาม ไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับถือของอีกแล้ว "ท่านพี่หญิง นี้ท่านคงไม่ได้กำลังแกล้งพวกข้าอยู่หรอกกระมั้ง ตอนนี้พวกข้าไม่มีนิ้วมือเหลือพอที่จะถือของให้ท่านอีกแล้วนะ....? เจ้าหนึ่งรีบบ่นออ
หรงหรงหยิบห่อผ้าที่นางซื้อไว้สำหรับลุงจางออกมาหนึ่งห่อ ในนั้นมีทั้งเนื้อแห้ง เนื้อเค็ม ปลาแห้ง และขนมเพิ่มอีกสองอย่าง พอสำหรับสองผัวเมียให้กินไปได้ทั้งเดือนในฤดูเหมันต์ "รับนี้ไปสิเจ้าคะ ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากข้า " หรงหรงยื่นห่อผ้าส่งให้ลุงจาง "ขอบใจมากนางหนู ว่าแต่นี้คือสิ่งใด เหตุใดถึงไ
"อืม..ฟังจากน้ำเสียงคงยังไม่น่าจะตายกระมัง ช่างดวงแข็งเสียจริงๆ เจ้าหมาตัวนี้..." "ท่านแม่...!!!" "ได้ๆๆ แม่ไม่พูดแล้วก็ได้ ว่าแต่...เหตุใดรอบนี้ถึงได้ซื้อของกลับมามากกว่าทุกครั้ง...? นางเมิงรีบเปลี่ยนเรื่องถามบุตรสาวทันที "อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะเข้าสู่ต้นฤดูเหมันต์แล้วนะเจ้าคะ ลูกจึงต้องรีบตุนเ
"ข้าเคยอ่านเจอในตำรามาบ้าง ว่ากันว่า...หมาป่าหิมะมันสามารถมอบทั้งชีวิตเพื่อปกป้องผู้เป็นเจ้านาย หากเจ้านายตายจาก มันก็จะตรอมใจตายตาม ข้าคิดว่าเป็นเรื่องหลอกเด็กเสียอีก ไม่เคยคิดว่าจะเป็นจริงเหมือนดั่งในตำราเขียนเอาไว้ พอมาพบเจอกับตัว ข้าถึงได้รู้ว่ามันคือเรื่องจริง..." หรงหรงพูดออกมาเมื่อนึกถึงตำราท
เมื่อโม่เฉินเห็นว่าหรงหรงถืออ่างน้ำเข้ามาด้วย เขาก็ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกอย่างรู้หน้าที่ โดยไม่ต้องให้สตรีตรงหน้าเอ่ยปาก.... หรงหรงนั่งเช็ดตัวให้โม่เฉินด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง แต่ถึงอย่างนั้น นางก็ลงน้ำหนักไปอย่างเบามือ เพราะไม่อยากให้กระทบกระเทือนไปโดนบาดแผลที่พึ่งจะสมานกัน หลังจากเช็ดตัวเสร็จ ฝ่ามือ
หนึ่งเดือนต่อมา.... ทั่วทุกพื้นที่บริเวณถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นไอของเกร็ดน้ำแข็งสีขาว บรรยากาศภายนอกจึงหนาวเหน็บจนสุดขั้ว โชคดีที่ได้ช่างไม้ฉู่กับผู้ช่วยรีบเร่งมือในอาทิตย์สุดท้าย จึงทำให้เรือนหลังใหม่สร้างได้เสร็จก่อนที่หิมะจะตกหนัก เรือนหลังใหม่มีห้องนอนทั้งหมดสี่ห้อง ส่วนห้องนอนห้องสุดท้าย หรงห
นางเมิงเคยเป็นบุตรสาวคนเล็กตระกูลผู้ดีมาก่อน และได้ผ่านการอบรมสั่งสอนมารยาทมาเป็นอย่างดี นางจึงเคร่งครัดในกฏระเบียบเป็นอย่างมาก และไม่อาจทนเห็นบุตรสาวถูกตราหน้าว่าเป็นคนเนรคุณคน "หรงเอ๋อร์..รีบเปิดประตูให้ท่านย่าเข้ามาเถิด ประเดี๋ยวนางคงได้หนาวตายขึ้นมาพอดี อย่าได้ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่
แผนที่แม่เฒ่าอิ๋นวางเอาไว้ โดนหรงหรงทำลายทิ้งจนหมดสิ้น ยิ่งทำให้ยายเฒ่าอย่างนาง รู้สึกโมโหจนแทบคลั่ง เมื่อกำจัดศัตรูไปได้อย่างง่ายดาย หรงหรงจึงรีบหันมาประคองมารดา แล้วรีบพานางเข้าไปภายในเรือน "ท่านแม่....ท่านแม่ไม่ต้องกลัวเจ้าคะ.....นางไปแล้วเจ้าคะ นางไปแล้ว..!!!" หรงหรงรีบเอ่ยบอกมารดา เพื่อให้
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ