นางเมิงและบุตรสาว ช่วยกันเข้าครัวทำกับข้าวจึงเสร็จเร็วกว่าทุกวัน อาหารหลายอย่างถูกจัดวางบนจานดูน่ารับประทาน พอถึงเวลาอาหาร ทุกคนก็นั่งล้อมวงกินอาหารพร้อมหน้ากันเป็นครั้งแรก หรงหรงหยิบตะเกียบเป็นคนแรก นางคีบอาหาร และตักน้้ำแกงส่งให้มารดาไปคนแรก "ท่านแม่รีบกินสิเจ้าค่ะ...ผัดผักสดๆ กับน้ำแกงแสนอร่อ
"ได้ ขอบใจหรงเอ๋อร์มาก" โม่เฉินกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ จนหรงหรงถึงกับเผลอไผลไปชั่วขณะ "หยุด...อย่าได้ใช้รอยยิ้มเช่นนี้มาล่อลวงข้า ถึงข้าจะสวยเทียบไม่ได้กับเทพธิดาบนสวรรค์ แต่ข้าก็ไม่คล้อยตามท่านหรอกนะ คิก...คิก....." "อืม..." เป็นครั้งแรกที่หรงหรงเห็นโม่เฉินยิ้มกว้างออกมาเช่นนี้ ใบหน้
บรรยากาศยามรุ่งสาง..... หรงหรงตื่นขึ้นมาเป็นคนแรก นางรีบอาบน้ำแต่งตัวออกเดินทางขึ้นเขาไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ในระหว่างการเดินทาง เมื่อนึกถึงริมฝีปากอ่อนนุ่มที่ถูกสัมผัสเข้าโดยบังเอิญ ใบหน้ารูปไข่เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา สาเหตุเป็นเพราะเมื่อคืนหรงหรงนอนหลับๆตื่นๆ และนอนพลิกตัวไปมาตลอดทั้งคืน จนเผ
ข้อนี้จึงทำให้หรงหรงรู้สึกเข็ดขยาดไปกับความรักหญิงชาย หลังจากหรงหรงดิ่งตัวลงมาได้มากพอสมควร เหมือนว่าโชคจะเข้าข้าง... "ว้าววว....นั้นมันโสมภูเขา...!!!" หรงหรงอุทานออกมาอย่างดีใจ ดวงตานางเบิกโตอย่างไม่เชื่อสายตา นางหยิกไปที่ต้นแขนตัวเองอย่างสุดกำลัง "โอ้ยยยย....เป็นโสมภูเขาจริงๆด้วย ข้าไม่ได้ฝั
ยามโหย่ว(17.00-19.00)....... หรงหรงแบกของพะรุงพะรังกลับมาถึงก็เป็นเวลามื้อค่ำ ร่างบางไม่รอช้า นางรีบนำสมุนไพรที่เก็บได้ออกมาวางอย่างเป็นระเบียบ พร้อมทั้งจัดการแยกโสมภูเขาล้ำค่า และจัดแจงสมุนไพรอื่นอีกมากมาย เพื่อให้ดูเป็นสัดเป็นส่วน กระต่ายน้อยตัวอ้วนพี ถูกจัดการชำแหละเนื้อออกอย่างรวดเร็ว "กลั
"จากที่ฟังท่านแม่เล่ามา ตระกูลของท่านตา ถือว่ามีหน้ามีตาพอสมควร เหตุใดท่านแม่ ถึงยังต้องระหกระเหินมาอยู่ที่เรือนพุพังหลังนี้ได้ล่ะเจ้าคะ......? หรงหรงรู้สึกสงสัยขึ้นมา "อย่าพึ่งพูดแทรก ตั้งใจฟังอย่างเดียวก็พอ" "อ่อ....เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ ลูกขอโทษ" "ส่วน "แม่เฒ่าอิ๋น" นางมีลูกชายอยู่ทั้งหมดสามคน ห
แม่เฒ่าอิ๋น คิดอยากจะหุบเอาที่ดินของลูกสะใภ้ไปเป็นของตนเอง จึงได้วางแผนให้ลูกสะใภ้ดื่มยาพิษในปริมาณน้อย ซึ่งพิษจะตกค้างสะสมไปเรื่อยๆ จนตายไปอย่างแยบยล และยังคิดจะขายหลานสาว เพื่อหวังเงินค่าสินสอด แม่เฒ่าอิ๋นจะได้ไม่ต้องมีภาระในการรับเลี้ยงหรงหรง และหากนางเมิงตายไป แม่เฒ่าอิ๋นก็จะได้หุบเอาสมบัติทุกอย
"เจ้ามิใคร่รู้หรือ ว่าข้าเป็นผู้ใด และมาจากไหน...? "ทำไมต้องอยากรู้ด้วยเล่า หากท่านอยากบอก สักวันหนึ่ง..ท่านก็คงจะบอกข้าเองโดยที่ข้าไม่ต้องเอ่ยถาม..." หรงหรงกล่าวออกไปด้วยความสัตย์จริง "แล้วถ้าเช่นนั้น ใบหน้าข้ายังมีสิ่งใดติดอยู่อีก ใยหรงเอ๋อร์ถึงได้จดจ้องมองข้าอีกด้วยเล่า....? "เปล่า ข้าก็แค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ
หลังจากพูดคุยกับหญิงชรานานพอสมควร โม่เฉินก็มุ่งหน้าเดินกลับไปห้องของตนเอง แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป เขาก็เห็นสตรีร่างบาง กำลังนั่งรอเขาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย อย่างใจจดใจจ่อ "ตกลงท่านคุยเรื่องอะไรตั้งครึ่งค่อนวันกับท่านแม่กันแน่...? โม่เฉินยังไม่ทันจะปิดประตูห้อง สตรีร่างบางก็ยิงคำถามขึ้นอย่า
หรงหรงเดินนำหน้าเข้ามาก่อน ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยปากพูด หญิงชราก็รีบออกคำสั่ง ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้นทันที "คุกเข่า..." บุตรสาวทำตามคำสั่งมารดาโดยไม่ปริปาก พร้อมกับบุรุษต้นเรื่อง ทั้งสองคนคุกเข่าลงพร้อมกัน โดยไม่ปริปากแม้แต่คนเดียว..... "ท่านพี่ ท่านจงมองดูลูกสาวตัวดีของท่านเอาเถิด พวกเขาส
"ไปเถอะน๊า....เดี๋ยวพอถึงก็รู้เองแหละ..." เสียงถกเถียงของทั้งสองคนดังอยู่ภายในห้อง พลันมีเสียงเคาะประตูแทรกขึ้นมา ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทางเดียวกัน อย่างลุ้นระทึก พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา..... "หรงเอ๋อร์...นั้นลูกตื่นแล้วรึ....? เสียงหญิงชราตะโกนเรียก เมื่อเห็นว่าได้เวลาไปตรวจคนไข้ แต่ยังไม่เห็นแม
"ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก ท่านเกิดปีหมาหรืออย่างไร ร่องรอยพวกนี้ท่านจงใจฝากไว้บนเรือนร่างข้าชัดๆ...." หรงหรงค่อยๆเลื่อนสายตามองไปทั่วเรือนรางของตนเองอย่างอ่อนระทวย ก่อนจะหันไปมองโม่เฉิน ฉายแววตาเขียวปั๊ดใส่เขา "ข้าเกิดปีกระต่าย มิได้เกิดปีหมาเสียหน่อย..." "โม่เฉิน....นี้ท่านกำลังยอกย้อนคำพูดข้าอยู่ส
"อ่ะ...." หรงเอ๋อร์ส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆด้วยความเจ็บ ริมฝีปากหนาเลื่อนลงจากคอไปที่กระดูกไหปลาร้า ร่างกายหรงหรงเหมือนถูกกระตุ้น ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกอดรัดเขาเอาไว้แน่น "หรงเอ๋อร์ รีบปล่อยมือออกบัดเดี๋ยวนี้.." โม่เฉินกำลังจะพูดต่อ แต่ถูกหรงหรงดึงเขาลงมาจูบแทน พลันมุมปากของบุรุษยกยิ้มขึ้นม