"แลกกับชีวิตลูกชายท่าน ที่ไม่ต้องติดคุกติดตารางตลอดชีวิต ข้าคิดว่ามันคุ้มนะเจ้าค่ะ...? หรงหรงรีบหยิบยกหาเหตุผลเอามากล่าวอ้าง "ห้าตำลึงทอง มากกว่านั้นข้าให้ไม่ได้จริงๆ" ภรรยานายท่านเซิ๋นยังคงต่อรองราคาต่อ "เก้าตำลึงทอง..." หรงหรงเอ่ยขัด "ไม่ได้ ข้าให้ได้เพียงแค่หกตำลึงทอง.." ภรรยานายท่านเซิ่นยังคง
นางเมิงและบุตรสาว ช่วยกันเข้าครัวทำกับข้าวจึงเสร็จเร็วกว่าทุกวัน อาหารหลายอย่างถูกจัดวางบนจานดูน่ารับประทาน พอถึงเวลาอาหาร ทุกคนก็นั่งล้อมวงกินอาหารพร้อมหน้ากันเป็นครั้งแรก หรงหรงหยิบตะเกียบเป็นคนแรก นางคีบอาหาร และตักน้้ำแกงส่งให้มารดาไปคนแรก "ท่านแม่รีบกินสิเจ้าค่ะ...ผัดผักสดๆ กับน้ำแกงแสนอร่อ
"ได้ ขอบใจหรงเอ๋อร์มาก" โม่เฉินกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ จนหรงหรงถึงกับเผลอไผลไปชั่วขณะ "หยุด...อย่าได้ใช้รอยยิ้มเช่นนี้มาล่อลวงข้า ถึงข้าจะสวยเทียบไม่ได้กับเทพธิดาบนสวรรค์ แต่ข้าก็ไม่คล้อยตามท่านหรอกนะ คิก...คิก....." "อืม..." เป็นครั้งแรกที่หรงหรงเห็นโม่เฉินยิ้มกว้างออกมาเช่นนี้ ใบหน้
บรรยากาศยามรุ่งสาง..... หรงหรงตื่นขึ้นมาเป็นคนแรก นางรีบอาบน้ำแต่งตัวออกเดินทางขึ้นเขาไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ในระหว่างการเดินทาง เมื่อนึกถึงริมฝีปากอ่อนนุ่มที่ถูกสัมผัสเข้าโดยบังเอิญ ใบหน้ารูปไข่เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา สาเหตุเป็นเพราะเมื่อคืนหรงหรงนอนหลับๆตื่นๆ และนอนพลิกตัวไปมาตลอดทั้งคืน จนเผ
ข้อนี้จึงทำให้หรงหรงรู้สึกเข็ดขยาดไปกับความรักหญิงชาย หลังจากหรงหรงดิ่งตัวลงมาได้มากพอสมควร เหมือนว่าโชคจะเข้าข้าง... "ว้าววว....นั้นมันโสมภูเขา...!!!" หรงหรงอุทานออกมาอย่างดีใจ ดวงตานางเบิกโตอย่างไม่เชื่อสายตา นางหยิกไปที่ต้นแขนตัวเองอย่างสุดกำลัง "โอ้ยยยย....เป็นโสมภูเขาจริงๆด้วย ข้าไม่ได้ฝั
ยามโหย่ว(17.00-19.00)....... หรงหรงแบกของพะรุงพะรังกลับมาถึงก็เป็นเวลามื้อค่ำ ร่างบางไม่รอช้า นางรีบนำสมุนไพรที่เก็บได้ออกมาวางอย่างเป็นระเบียบ พร้อมทั้งจัดการแยกโสมภูเขาล้ำค่า และจัดแจงสมุนไพรอื่นอีกมากมาย เพื่อให้ดูเป็นสัดเป็นส่วน กระต่ายน้อยตัวอ้วนพี ถูกจัดการชำแหละเนื้อออกอย่างรวดเร็ว "กลั
"จากที่ฟังท่านแม่เล่ามา ตระกูลของท่านตา ถือว่ามีหน้ามีตาพอสมควร เหตุใดท่านแม่ ถึงยังต้องระหกระเหินมาอยู่ที่เรือนพุพังหลังนี้ได้ล่ะเจ้าคะ......? หรงหรงรู้สึกสงสัยขึ้นมา "อย่าพึ่งพูดแทรก ตั้งใจฟังอย่างเดียวก็พอ" "อ่อ....เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ ลูกขอโทษ" "ส่วน "แม่เฒ่าอิ๋น" นางมีลูกชายอยู่ทั้งหมดสามคน ห
แม่เฒ่าอิ๋น คิดอยากจะหุบเอาที่ดินของลูกสะใภ้ไปเป็นของตนเอง จึงได้วางแผนให้ลูกสะใภ้ดื่มยาพิษในปริมาณน้อย ซึ่งพิษจะตกค้างสะสมไปเรื่อยๆ จนตายไปอย่างแยบยล และยังคิดจะขายหลานสาว เพื่อหวังเงินค่าสินสอด แม่เฒ่าอิ๋นจะได้ไม่ต้องมีภาระในการรับเลี้ยงหรงหรง และหากนางเมิงตายไป แม่เฒ่าอิ๋นก็จะได้หุบเอาสมบัติทุกอย
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ
หลังจากพูดคุยกับหญิงชรานานพอสมควร โม่เฉินก็มุ่งหน้าเดินกลับไปห้องของตนเอง แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป เขาก็เห็นสตรีร่างบาง กำลังนั่งรอเขาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย อย่างใจจดใจจ่อ "ตกลงท่านคุยเรื่องอะไรตั้งครึ่งค่อนวันกับท่านแม่กันแน่...? โม่เฉินยังไม่ทันจะปิดประตูห้อง สตรีร่างบางก็ยิงคำถามขึ้นอย่า
หรงหรงเดินนำหน้าเข้ามาก่อน ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยปากพูด หญิงชราก็รีบออกคำสั่ง ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้นทันที "คุกเข่า..." บุตรสาวทำตามคำสั่งมารดาโดยไม่ปริปาก พร้อมกับบุรุษต้นเรื่อง ทั้งสองคนคุกเข่าลงพร้อมกัน โดยไม่ปริปากแม้แต่คนเดียว..... "ท่านพี่ ท่านจงมองดูลูกสาวตัวดีของท่านเอาเถิด พวกเขาส
"ไปเถอะน๊า....เดี๋ยวพอถึงก็รู้เองแหละ..." เสียงถกเถียงของทั้งสองคนดังอยู่ภายในห้อง พลันมีเสียงเคาะประตูแทรกขึ้นมา ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทางเดียวกัน อย่างลุ้นระทึก พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา..... "หรงเอ๋อร์...นั้นลูกตื่นแล้วรึ....? เสียงหญิงชราตะโกนเรียก เมื่อเห็นว่าได้เวลาไปตรวจคนไข้ แต่ยังไม่เห็นแม
"ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก ท่านเกิดปีหมาหรืออย่างไร ร่องรอยพวกนี้ท่านจงใจฝากไว้บนเรือนร่างข้าชัดๆ...." หรงหรงค่อยๆเลื่อนสายตามองไปทั่วเรือนรางของตนเองอย่างอ่อนระทวย ก่อนจะหันไปมองโม่เฉิน ฉายแววตาเขียวปั๊ดใส่เขา "ข้าเกิดปีกระต่าย มิได้เกิดปีหมาเสียหน่อย..." "โม่เฉิน....นี้ท่านกำลังยอกย้อนคำพูดข้าอยู่ส
"อ่ะ...." หรงเอ๋อร์ส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆด้วยความเจ็บ ริมฝีปากหนาเลื่อนลงจากคอไปที่กระดูกไหปลาร้า ร่างกายหรงหรงเหมือนถูกกระตุ้น ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกอดรัดเขาเอาไว้แน่น "หรงเอ๋อร์ รีบปล่อยมือออกบัดเดี๋ยวนี้.." โม่เฉินกำลังจะพูดต่อ แต่ถูกหรงหรงดึงเขาลงมาจูบแทน พลันมุมปากของบุรุษยกยิ้มขึ้นม