ไม่นานนักความกระจ่างก็มาตั้งอยู่ตรงหน้าของเธอ หน้าจอทีวีขนาด 24 นิ้วลิงค์เชื่อมต่อกับแท็บเล็ตของเขาทันทีที่ปลายนิ้วสวยจิ้มตรงนั้นทีตรงนี้ที พลันนั้นสรีระโครงสร้างร่างกายของปาตาโกไททันมาโยรัมก็ปรากฏขึ้นในรูปแบบกราฟฟิก พร้อมกับตำแหน่งที่ขึ้นเป็นจุดสีแดง และเส้นกราฟแสดงผลบอกระดับของอารมณ์ ระดับพลังงานของร่างกาย ความเครียดและความผ่อนคลายแม้กระทั่งตำแหน่งแสดงภาพรวมว่าผลของร่างกายเป็นบวกหรือลบ สุดท้ายคือพีระมิดที่แสดงขึ้นด้านข้างเหมือนกับสีออร่า"คุณเขียนโปรแกรมนี้เองเหรอคะ ดูเทพทรูมากเลยอ่ะ"จ๊วบ!เรียวปากกระจับของเขาฝังลงบนแก้มนุ่มออกแรงบดด้วยความหมั่นเขี้ยวจนเจ้าของพวงแก้มถึงกับจิกตาเขียวปัด"เอ๊ะคุณนี่! เสียงดังไปแล้วนะคะ""ในห้องมีแต่เรากับแมวหนึ่งตัวที่ป่วยอยู่ จะอายอะไร" "คุณไม่อายแต่ฉันอาย คุณดูหน้ามันสิ มันดูตะลึงมากเลย" หญิงสาวบอกแล้วชี้ไปที่หน้าของปาตาโกไททันที่นั่งจ้องเขม็งมาที่มนุษย์อย่างไม่สบอารมณ์นัก "แกป่วยก็นอนพักไปสิ มานั่งจ้องจับผิดอะไรอยู่ได้" เขาตวาดใส่มันแล้วก็กลับไปดูที่หน้าจอทีวีเช่นเดิม"คุณยังจะไปดุมันอีก สรุปแล้วเจ้าเหมียวเป็นอะไรคะ" ดารินธิราสงสารเจ้าเหมียวท
It is during our darkest moments that we must focus to see the light. - aristotleในระหว่างคืนที่มืดมิดที่สุด เราต้องโฟกัสไปที่การมองเห็นแสงสว่างณ BeTheLight Studio at BeTheLight Academyขายาวในชุดกระโปรงเอี๊ยมสีดำกรอมยาวคลุมเข่ากับรองเท้าผ้าใบสีดำธรรมดาที่เพ้นท์ด้วยสีสะท้อนแสงยืนแน่นิ่งให้ช่างแต่งหน้าเติมแต่งใบหน้าให้สดใส ตอนนี้ชีวิตของเธอเหมือนน้ำที่กำลังขึ้นไม่ว่าเธอหยิบจับทำอะไรสินค้าทุกตัวที่สร้างสรรค์มันขึ้นมาล้วนแล้วแต่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทันทีที่แต่งหน้าแต่งตัวเสร็จหญิงสาวจึงเดินเข้ามาภายในสตูดิโอที่รายการชื่อดังช่องหนึ่งของอเมริกาต้องการสัมภาษณ์ถึงความสำเร็จของสถาบันศิลปะและการเต้นรำบีเดอะไลท์ หลังจากที่เธออนุญาตให้ทีมงานสามารถใช้สตูดิโอที่สถาบันถ่ายทำรายการได้ตามใจ เพราะก่อนหน้าที่พวกเขาจะโทรมานัดสัมภาษณ์เธอเลขาคนสนิท 'กุ๊กไก่' นักเรียนแลกเปลี่ยนจากไทยผู้มีใจรักด้านการวาดภาพสีน้ำมันที่อยู่ในช่วงฝึกหัดให้เป็นมือโปรแจ้งเธอว่าบุคคลที่เธอไม่ต้องการพบเจอมีตารางสัมภาษณ์วันเดียวกับเจ้านายสาวของเธอ หญิงสาวก็รีบบอกล่วงหน้าเสียก่อน เพราะเธอรู้ดีว่า พี่เดมี่ ไม่ชอบให้พูดถึงพ่อคนดัง
MagNus Company LTD.ฟากเดียวกันชายหนุ่มผมสีเงินหน้าตาไร้อารมณ์นั่งเขียนโค้ดซับซ้อนที่ชวนให้บอดี้การ์ดของเขาที่ยืนขนาบอยู่ด้านข้างพาลตาเหล่ตาลายไปพร้อมพร้อมกัน ทั้งที่เขาทำได้แค่ยืนมองอย่างเดียวและคอยอ้าปากถามว่า 'คุณแม็กจะรับอะไรเพิ่มมั้ยครับ ชาหรือกาแฟ?' แต่เวลาก็ล่วงเลยผ่านมาสองชั่วโมง บอสหนุ่มหัวสีเงินก็ยังนั่งเงียบอยู่บนโต๊ะทำงานเหมือนเดิมไม่ขยุกขยิกใดๆ"วันนี้ผมมีงานที่ไหนบ้างครับ""คุณแม็กมีงานที่ลินคอร์นเซ็นเตอร์ครับ คุณแม็กจะไปเปลี่ยนชุดก่อนมั้ยครับ""เปลี่ยนสิ.....หรือคุณจะให้ผมชิว ๆ ออกไปในชุดเสื้อฮาวายลายต้นมะพร้าวสีขาวแบบนี้ล่ะคุณฮัลค์"เสียงเข้มตอกกลับบอดี้การ์ดหนุ่มฉายาฮัลค์เขียวจอมมึนที่เขาตั้งให้ จากนั้นจึงกลับมาสนใจงานเขียนโปรแกรมที่ชวนปวดขมองต่ออย่างสบายใจAt Lincon Centerเวลาทุ่มตรงที่รถเทสล่าสีน้ำเงินคันโปรดทะยานเข้ามาถึงจุดรับรถ เพราะแสงสว่างของหอศิลปะการแสดงลินคอร์นเซ็นเตอร์ชวนให้ใบหน้าขาวจัดถึงกับหรี่ตามอง ให้ตายเถอะ เขาไม่ชอบแสงสว่างพวกนี้เลยจริงๆนิ้วเรียวยาวรีบเปิดกล่องเก็บแว่นตากันแสงสีฟ้าอ่อนมาสวมเพื่อบดบังอำพรางความเจิดจ้าของหอศิลปะชื่อดังแห่งนี้ ก่อนขาย
เดมี่ทำหน้าหงิกงอใส่อีกฝ่าย ปากขมุบขมิบสบถด่าไอ้ลูกครึ่งผมสีเงินในใจ "ไม่สวยแต่รวยด้วยล้ำแข้งก็แล้วกัน ไอ้หัวขาวเอ้ย"วินาทีที่หญิงสาวคิดจะหลีกเลี่ยงที่ ๆ คนจอแจพลุกพล่าน และหลีกจากสายตาแน่นิ่งของเขา ทว่านักข่าวที่ทยอยสัมภาษณ์คนดังรายอื่น ๆ เสร็จก็ดันยกทัพแห่กันเข้ามาหาเธอแทน "คุณเดมี่ครับเชิญทางแบล็คดรอปหน่อยครับ ขอสัมภาษณ์หน่อยครับ"เป็นจังหวะเดียวกับดาราเด็กสองคนวิ่งโร่เข้ามาหา ด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ เด็กทั้งสองจึงได้แต่ยืนดูห่าง ๆ เพราะบรรดานักข่าวที่รุมสัมภาษณ์เจ้าของสถาบันด้านศิลปะและการเต้นรำคนดังผลัดกับรับผลัดกันส่งไมค์กันจ้าละหวั่น"คุณเดมี่คะช่วยแจ้งกำหนดการแสดงภาพวาด 4D ที่จะผสานการเต้นรำแต่ละแบบเข้าไปด้วยหน่อยได้ไหมคะ""อ๋อค่ะ กำหนดการแสดงจะมีเดือนหน้านี้ค่ะ รอชมได้เลย ทีมงานของฉันเต็มที่กับงานนี้มากๆ ค่ะ""พวกเราขอให้งานประสบความสำเร็จนะคะ""ขอบคุณพี่ๆ นักข่าวทุกท่านมากค่ะ แล้วก็เราสองคนมาทางนี้สิจ๊ะ" เธอกวักมือเรียกดาราเด็กสองคนที่ยืนจด ๆ จ้อง ๆอยู่นานสองนาน เพราะสังเกตุเห็นอยู่ก่อนแล้วว่าแฟนคลับตัวน้อยต้องการเข้ามาถ่ายรูปด้วย แต่เพราะคนจำนวนมากที่ล้อมวงเข้ามาทำให้ยากที
ไม่นานน้าดิวก็โดนพาต้วไปสถานบำบัดด้วยฝีมือของคนที่เกลียดเธอ"แม่จะให้หนูอยู่เป็นเพื่อนก่อนไหมคะ""ไม่เป็นไรลูก ยัยรุ้งกับยัยปลาเด็กที่ร้านอาหารแม่จะมานอนเป็นเพื่อน หนูกลับไปพักผ่อน และรักษาตัวให้ดีก่อนนะ แล้วแม่จะโทรหา"เดมี่เข้าใจดีที่แม่ไม่อยากให้เธอนอนค้างด้วยเพราะกลัวว่าลูกสาวจะเห็นแม่แอบร้องไห้ร่างไร้เรี่ยวแรงเดินตุปั๊ดตุเป๋ เหมือนคนจิตหลุด ทว่าฝ่ามืออ่อนล้าของเธอกลับโดนแรงฉุดของใครสักคนรั้งไว้ เธอเหลือบมองเจ้าของฝ่ามือนั้นอย่างอ่อนเพลีย และเจ็บร้าวระบมไปทั้งหน้า"จะทำร้ายจิตใจอะไรฉันอีกล่ะฮะ!?"ฟูมฟายด้วยหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา และพยายามสลัดมือของชายหนุ่มออก แต่ยิ่งสลัดและใช้มืออีกข้างแกะออกเขาก็ยิ่งบีบข้อมือของเธอรุนแรงขึ้น"ปล่อยสิ ปล่อยฉัน"รอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นพลางสลัดทิ้งข้อมือของเธอออกตามที่เธอต้องการ "ปล่อยแล้วไง"เขาเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบไม่แคร์ว่าอีกฝ่ายจะเจ็บหรือไม่ร่างบางเซถลาไปไกลล้มลงกับพื้นสนามหญ้าที่ชุ่มด้วยน้ำค้างยามค่ำคืน "ไอ้คนจัญไร ฮึก! ฮึก! ฮืออออ....ก็แค่นี้เอง สบายมาก"ใบหน้าที่ก้มต่ำอยู่สะอึกสะอื้นพล่านบ่นอย่างหมดอะไรตายอยากเต็มที พาลทำให้หัวใจของคนที่มองด
ชายหนุ่มทุ่มร่างเบาหวิวลงบนเตียงนอนใหญ่ แล้วตะครุบฝ่ามือน้อยๆ ของเธอเอาไว้ไม่ให้ขัดขืน พลางรวบดึงตัวของแม่จอมสะดีดสะดิ้งเข้ามา และรีบพาดขาแกร่งข้างหนึ่งก่ายตัวของหญิงสาวเสมือนว่าเธอคือหมอนข้างส่วนตัว"อ๊อยยย! อึดอัดนะทำอะไรของคุณเนี่ย""เมื่อกี้คุณเรียกผมว่าหลินเย่ซี เมื่อตอนเด็กๆ คุณชอบเรียกผมแบบนั้นใช่ไหมพี่สาว""ไม่ต้องพี่สงพี่สาวเลย มันเป็นอดีตไปแล้ว อย่าลืมสิว่าเราเกลียดกัน""ผมมีค่าลดความเกลียดระหว่างเราให้คุณด้วยนะ""ค่าลดความเกลียด!? พูดอะไรไม่เห็นเก็ทสักนิด""มาเป็นคนของผม"ดารินธิราหันหน้าไปมองหน้าเขาเพื่อขอความกระจ่างแจ้งด้วยความตกใจ"ล้อฉันเล่นปะเนี่ย" "คิดลึกแบบศิลปินอยู่ล่ะสิท่า....ถึงได้มองผมตาหวานเยิ้มแบบนั้น""คิดลกคิดลึกอะไร เปล่าสักหน่อย""งั้นผมจะได้สบายใจ ผมจะจ้างคุณให้มาแกะรูปให้ผมหน่อย""รูปอะไร"ชายหนุ่มผมเงินพาคนช่างซักช่างแซะมาอยู่ในคลังกรุสมบัติจำนวนมากและพยักเพยิดใบหน้าคมขาวไปยังแผนที่ลายแท่งที่ขาดวิ่นยับยู่ยี่อยู่บนโต๊ะไม้มะฮอกกานีตัวใหญ่"คุณสามารถแกะภาพลายแทงพวกนี้แล้วร่างขึ้นมาใหม่ได้ไหม""อืม.....ก็น่าจะได้อยู่ค่ะ แต่มันดูเก่าคร่ำครึไปหน่อย""น่าจะอาย
สถาบัน BetheLightหลังจากเทปรายการชื่อดังที่มาสัมภาษณ์เธอที่สตูดิโอของสถาบันออกอากาศ สายโทรศัพท์ก็โทรเข้ามาจนแทบไหม้กุ๊กไก่จึงอาสาคุยแทนเธอขนาดว่าเสียงแหบเสียงแห้งเลยทีเดียว รวมทั้งแฮชแท็กในโลกออนไลน์ที่พุ่งทะยานจนแทบถล่มทลาย ด้วยน้ำมือเหล่าแอนตี้แฟนของแม็กนัสที่พากันดันแท็ก #DemiAthirdperson หรือเดมี่มือที่สามขึ้นมาเป็นเทรนด์โลกทันที "อีพวกแอนตี้บ้าเอ๊ย! พี่เดมี่ของฉันจะไปเป็นมือที่สามระหว่างแม็กนัสกับนังฟิโอน่าปีศาจได้ยังไง หล่อนนั่นแหละที่เป็นมือที่สามของพี่แม็กนัสกับพี่เดมี่ของฉัน พวกเขารู้จักกันมาตั้งเป็นชาติแล้วมั้ง"เลขาสาวพล่ามอย่างหัวเสียพลางพิมพ์ประโยคช่วยดันแฮชแท็ก #SaveDemi เพื่อเปิดโลกทัศน์ให้ชาวเน็ตแต่ก็ไม่ช่วยอะไรมากนัก"นี่มันเวลางานนะกุ๊กไก่ ปล่อยคนพวกนั้นไปเถอะ สู้ไปก็ปวดหัวเปล่าๆ" "แต่หนูจะสู้เพื่อพี่ค่ะ ส่วนงานขออู้สักประเดี๋ยว" ขานตอบเจ้านายสาวทีกำลังนั่งสเก็ตรูปภาพสีน้ำมันต่อจากศิลปินวาดภาพในบริษัทของเธอหลังจากทีน่า ศิลปินที่เธอส่งไปช่วยงานนิทรรศการมองสื่อผ่านศิลปะ สารภาพความจริงว่าแมวของเธอเป็นคนประทับตราอุ้งเท้าปุกปุยลงบนภาพของฟีโอน่า พาร์สัน และความเป็นจริ
ดวงตาเรียวไล่อ่านข้อความดุเดือดบนโลกออนไลน์ และแท็กที่ร้อนฉ่าในโลกโซเชียลที่เต็มด้วยเนื้อหาของพวกสู่รู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในอดีตเกี่ยวกับ น้าสาวของดารินธิราและหลานสาวของเธอแต่สิ่งที่ทำใหโทสะของเขาระเบิดตู้มออกมาก็คือ เนื้อหาใจความที่กล่าวว่า เดมี่คือมือที่สามที่มาแทรกกลางระหว่างเขากับฟีโอน่า พาร์สัน ฮึ! บ้าเปล่าวะทำไมชาวเน็ตพวกนี้ถึงได้แต่งเรื่องมั่ว ๆ ขึ้นมากันอย่างไม่ละอายใจทั้งที่ตัวของเขาเองก็เพิ่งเจอกับฟีโอน่าอะไรนั่นที่เป็นเจ้าของบริษัทการตลาดคนนั้นเพียงครั้งแรกและครั้งเดียว ที่ลินคอร์นเซ็นเตอร์ "ฮัลค์ ต่อสายหาอีแวน มิตซ์ให้ฉันที""รับทราบครับ"การโทรไปหาพันธมิตรที่มีพระคุณเก่าอย่างซีอีโอผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มชื่อดัง ทำให้การสนทนายืดยาวไปครึ่งชั่วโมง เพราะความสนิทชิดเชื้อดังครอบครัวเดียวกันและบังเอิญที่ว่าสมัยที่เขาลำบากอยู่นั้นก็ได้อีแวนเป็นคนช่วยเหลือไว้หลายครั้ง"ทั้งที่นายเกลียดผู้หญิงคนนั้น แต่ตอนนี้กลับขอร้องให้ฉันทำเรื่องไร้สาระให้เนี่ยนะ ไม่นึกเลยว่านายจะมีมุมนี้นะไอ้หนู""ผมก็แค่อยากแก้ต่างเรื่องที่ไม่ใช่ความจริงก็เท่านั้นเองครับ ยังไงผมต้องขอบคุณ คุณอีแวนมาก""เออ ฉัน
ไม่นานนักความกระจ่างก็มาตั้งอยู่ตรงหน้าของเธอ หน้าจอทีวีขนาด 24 นิ้วลิงค์เชื่อมต่อกับแท็บเล็ตของเขาทันทีที่ปลายนิ้วสวยจิ้มตรงนั้นทีตรงนี้ที พลันนั้นสรีระโครงสร้างร่างกายของปาตาโกไททันมาโยรัมก็ปรากฏขึ้นในรูปแบบกราฟฟิก พร้อมกับตำแหน่งที่ขึ้นเป็นจุดสีแดง และเส้นกราฟแสดงผลบอกระดับของอารมณ์ ระดับพลังงานของร่างกาย ความเครียดและความผ่อนคลายแม้กระทั่งตำแหน่งแสดงภาพรวมว่าผลของร่างกายเป็นบวกหรือลบ สุดท้ายคือพีระมิดที่แสดงขึ้นด้านข้างเหมือนกับสีออร่า"คุณเขียนโปรแกรมนี้เองเหรอคะ ดูเทพทรูมากเลยอ่ะ"จ๊วบ!เรียวปากกระจับของเขาฝังลงบนแก้มนุ่มออกแรงบดด้วยความหมั่นเขี้ยวจนเจ้าของพวงแก้มถึงกับจิกตาเขียวปัด"เอ๊ะคุณนี่! เสียงดังไปแล้วนะคะ""ในห้องมีแต่เรากับแมวหนึ่งตัวที่ป่วยอยู่ จะอายอะไร" "คุณไม่อายแต่ฉันอาย คุณดูหน้ามันสิ มันดูตะลึงมากเลย" หญิงสาวบอกแล้วชี้ไปที่หน้าของปาตาโกไททันที่นั่งจ้องเขม็งมาที่มนุษย์อย่างไม่สบอารมณ์นัก "แกป่วยก็นอนพักไปสิ มานั่งจ้องจับผิดอะไรอยู่ได้" เขาตวาดใส่มันแล้วก็กลับไปดูที่หน้าจอทีวีเช่นเดิม"คุณยังจะไปดุมันอีก สรุปแล้วเจ้าเหมียวเป็นอะไรคะ" ดารินธิราสงสารเจ้าเหมียวท
แม็กนัส ทำท่าทีเป็นรีบทำเป็นดำน้ำนอนอยู่ใต้อ่างจากุชชี่เพื่อแกล้งแหย่เดมี่หลังจากที่เธอบรรจงถอดเสื้อผ้าที่ทั้งเปียกทั้งหนักออกอย่างทุลักทุเล เหลือเพียงแต่ปราการสองชิ้นน้อย ๆ ที่ปกปิดเรือนร่างบางเย้ายวนเอาไว้หญิงสาวค่อย ๆ หันกลับมาเผชิญกับชายหนุ่มในอ่างเก้ ๆกัง ๆ ทว่าพ่อคนเมายากลับไม่ได้นั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้นแต่เขากลับนอนอยู่ใต้ผิวน้ำใสของอ่างน้ำร้อนนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง "แกล้งฉันอีกแล้วใช่ไหมคะ เชิญนอนใต้น้ำนั่นไปเลย ฉันไม่สนใจคุณหรอก" เธอยืนจ้องดูเขาเท้าสะเอวรอคอยว่าเขาจะหมดลมหายใจใต้น้ำเมื่อไหร่ แต่เวลาก็ผ่านไปพักใหญ่แล้วน่าจะเกือบสองนาทีทำไมเขายังไม่ขยับเขยื้อนตัวอีก หรือว่าเขาจะเป็นลมใจใต้น้ำจริง ๆด้วยความตื่นตระหนกตกใจหญิงสาวจึงพุ่งพรวดลงไปในอ่าง งัดล่างของเขาขึ้นมา พอดึงร่างของเขาขึ้นมาพิงกับขอบอ่างได้ ฝ่ามือก็รีบตบ ๆ เรียกสติของเขาให้ตื่นขึ้น "นี่คุณอย่ามาล้อเล่นนะ....เย่ซี! คุณตื่นสิ ไม่งั้นฉันจะโกรธคุณจริง ๆ แล้วนะคะ" ประชดประชันใส่และเตรียมลุกออกจากอ่างสวบ!ทันใดนั้นร่างบางถูกรวบเข้าไปกอดอย่างรวดเร็วทำให้เซถลาล้มลงบนหน้าขาแกร่ง"อย่าโกรธผมนะ....ขอร้อง"คนคนเจ้าเล่ห์พูด
ร่างกายของซุนย่าฉงที่กอดก่ายชายหนุ่มในสระว่ายน้ำอยู่นั้นพยายามจะยั่วยวนให้แม็กนัสตบะแตกสายลับแสนเจ้าเล่ห์จึงได้แต่เล่นไปตามบทบาทเพื่อรอจังหวะเหยื่อตายใจ"เวลาคุณเปียกแล้วเซ็กซี่น่าฟัดไปหมด คุณรู้ไหม..เย่ซี" นางนกต่อพร่ำบอกพลางยกฝ่ามือลูบไล้กล้ามหน้าท้องขาวจั๊วะมือหนาจึงรีบเอื้อมมือคว้าแก้วที่มียาหลอนติดลบ 18+ ยาสูตรพิเศษของสมาคมใช้เพื่อทำให้เหยื่อคิดว่าตนกำลังทำกิจกรรมบนเตียงกับคนที่ตนปรารถนา "ดื่มนี่ก่อนสิ"เขายื่นขอบแก้วแตะลงบนริมฝีปากสีเลือดนกของซุนย่าฉง หญิงสาวเหลือบมองอย่างลังเลแต่ก็ยอมรับแก้วดังกล่าวมาดื่มโดยไม่ปฏิเสธ"ก็ได้ค่ะ"ริมฝีปากบางจิบแต่พองาม พลางส่งกลับไปให้แม็กนัสดื่มสายลับหนุ่มจึงต้องจำใจดื่มพราะซุนย่าถิงกำลังคลางแคลงใจในพฤติกรรมของเขาอยู่เช่นเดียวกัน"ครับดื่มก็ได้ คุณว่าไงผมว่าตาม"เหล้าสีใสถูกกรอกผ่านลำคอลงไป ภายในเสี้ยววินาทีความหนาวสะท้านก็แผ่ซ่านเข้ามาปกคลุมผิวกายอย่างเฉียบพลันแม้ยานี้จะแตกต่างกับยาจำพวกเสียสาวตรงที่ให้ความรู้สึกหนาวสั่น แต่สองสามนาทีถัดมายาหลอนติดลบจะสำแดงฤทธิ์ให้เห็นภาพที่เปี่ยมด้วยกิเลสตัณหาภายในจิตใจและตอนนี้มันก็เกิดขึ้นกับเขาจนไม่อา
รถติดฟิลม์อำพรางไม่ให้คนข้างนอกเห็นมาจอดยังชายหาดแซนดี้ใจกลางเมืองเคปทาวน์ตามนัดของซีอีโอผู้ก่อตั้งนิตยสารโมนาลิซ่าชายหาดแห่งนี้ห่างไกลผู้คนเต็มด้วยคลื่นสีครามน้ำใสอันสุขสงบ และโอบล้อมด้วยทิวเขาเขียวขจีเหมาะแก่การใช้เป็นสถานที่ถ่ายแบบมากที่สุด"สวัดสีค่ะพี่โมนา""มาแล้วเหรอจ๊ะ งั้นมาแต่งหน้าทำผมกันเลย เอ้....ปกติเราแต่งตัวแบบนี้เหรอมันดูจะสุภาพไปหน่อยนะพี่ว่า"เจ้าของนิตยสารสาวเอ่ยถามพลางดึงแขนของดารินธิราให้นั่งลงบนเก้าอี้แต่งตัว"คนโน้นค่ะที่อุตริจัดแจงเสื้อผ้าพวกนี้ให้หนูใส่"โมนาเอี้ยวตัวหันไปมองชายหนุ่มด้านหลังที่พกพาบอดี้การ์ดมาคุมกองถ่ายแบบจำนวนหนึ่งคล้ายกับกำลังคุมนักโทษ"โหว.....นี่เป็นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย""ค่ะ......เป็นเอามาก""โถ ๆ เดมี่ หนูอิศของพี่ก็พอกัน หมอนั่นนะถึงกับประสาทเสียเลยแหละ คิดแล้วก็ขำ เฮ้อ....แล้วถ้าพ่อแฟนอัจฉริยะของเราเห็นชุดถ่ายแบบแต่ละชุดแล้ว จะไม่องค์ลงแย่เลยเหรอ""ช่างเขาเถอะค่ะ จะได้รู้จักมีขันติซะบ้าง แบ่งแยกว่าอะไรคืองานอะไรคือเรื่องส่วนตัว"ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดารินธิราก็ก้าวออกมาจากห้องแต่งตัวเคลื่อนที่ในชุดบีชแวร์สวยสง่าดั่งนางฟ้าที่เดินกรุยกรายอย
ขายาวในเสื้อเชิ้ตสีดำตัวโคร่งนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้วาดรูป หลังจากตื่นนอนภาพเมื่อคืนก็ผุดพรายขึ้นราวกับสตอรี่ที่แสนร้อนรุ่ม ทำให้ต้องควานหากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อกลบภาพอันซาบซ่านดารินธิรารีบไปบอกฮัลค์ให้จัดหาอุปกรณ์วาดรูปให้เธอ ไม่น่าเชื่อว่าภายในกี่นาทีเขาก็กลับมาพร้อมกับสิ่งที่เธอต้องการ ศิลปินสาวจดจ้องใบหน้าสว่างที่คว่ำแนบอยู่กับหมอนอิงใบใหญ่ "น่ารักน่าหยิกเหลือเกิน"กรอบหน้านวลสว่างงดงามกว่าผู้หญิงดึงดูดใจให้เธออยากตวัดปลายดินสอเพื่อสเก็ตรูปของเขายามหลับใหลอีกครั้งรูปเมื่อห้าปีก่อนของเธอถูกเขาทำลาย เป็นรูปที่เธอแอบวาดเขาตอนกำลังป่วยอยู่ในคฤหาสน์อาเวนชี่ จำได้ว่าตอนนั้นแม็กนัสมีไข้สูง หน้าขาว ๆ ของเขาก็กลายเป็นสีแดงจัด วันนั้นน้าสาวของเธอไปงานเลี้ยงกับพ่อของเขา ทำให้น้ากำชับว่าให้เธออยู่คฤหาสน์อาเวนชี่คอยช่วยแม่บ้านใหญ่คอยดูแลคุณหนูแถมคุณหนูที่ว่าก็คือเด็กหนุ่มอายุ 18 ที่ป่วยนอนซมอยู่ ตอนนั้นเธอที่อายุ 21 ปีก็เป็นเหมือนพี่เลี้ยงเด็กไปอีกคนโดยปริยาย ช่วงนั้นเธอกำลังส่งรูปภาพเข้าประกวดเพื่อชิงรางวัลศิลปินแห่งซิลิคอนวัลเล่ย์ รวมทั้งต้องเฝ้าเด็กหนุ่มที่ย้อมผมสีเทาเงินประชดชีวิต
ยามที่เรียวปากกระจับลากไล้ต่ำลงมายังชายโครง ระดมจูบที่กล้ามเนื้อแน่นตึงแข็งแรง และดูเร่าร้อนช่วงเวลาที่ใบหน้าอิ่มสุขร่ายมนต์อยู่บนเวทีที่ลินคอร์นเซ็นเตอร์เมื่อห้าปีก่อนก็ผุดพรายขึ้นมาในความทรงจำของแม็กนัส"ผมเป็นสาเหตุทำให้คุณเลิกเต้นหรือเปล่า" คำถามถูกพ่นออกมารดลงมายังหน้าท้องแบนราบ ดวงตาเรียวคมเหลือบมองใบหน้าที่แหงนหงายมองเพดานห้อง นัยน์ตากลมโตหลุบมองสบตาพลางผลักตัวของชายหนุ่มออกเบา ๆ ค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้น ประคองเต้าเปลือยเปล่าอย่างกระดากอาย เรียวขายาวพับเพียบเบียดเข้าหากันเพราะสายตาร้อนที่สำรวจมองอยู่นั้น มันชวนให้กระอักกระอ่วนและเย็นยะเยือก"ไม่ใช่เพราะคุณ แต่....เพราะฉันในเวลานั้นแค่ไม่อยากเป็นเงาของน้า และไม่อยากให้คุณรังเกียจกันไปมากกว่านี้" "โธ่!...เดมี่"ร่างบางสั่นเทาขณะบอกเล่าเรื่องราวเก็บกดมาทั้งชีวิตถูกรวบเข้าไปโอบกอด ฝ่ามือที่ประคองทรวงอกอยู่นั้นเคลื่อนขยับมาโอบกอดแผ่นหลังกว้างนั้นกลับ "คนที่ผมรังเกียจไม่ใช่คุณ แต่เป็นพ่อผมกับน้าของคุณ"พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดันตัวคนที่กำลังสั่นเทาออก ปลายจมูกโด่งฝังลงบนหัวไหล่มนสูดดมความหอมจากเรือนร่าง เคลื่อนมายังไหปลาร้าคู่สวยพ
ใบหน้าซีดนั่งเงียบมาตลอดทางที่นั่งรถกลับมากับเขา ตอนนี้เธอไม่อาจให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเพราะกลัวว่าจะดูเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายในสายตาของเขากระทั่งเสื้อที่เขาถอดคลุมผิวกายที่สั่นระริกของเธอก็ยังไม่สมควรจะอยู่บนเรือนร่างนี้ด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าเขามาไม่ทัน หรือตัดใจทิ้งเธอไป วินาทีนั้นเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเขาอีกต่อไปแล้ว "ทำไมคุณต้องนั่งห่างผมขนาดนั้นเดมี่""มี่รู้สึกตัวเอง.....สกปรก"ช่างเป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังอย่างเขาหดหู่ใจขึ้นมา ทำไมเธอต้องพูดดูแคลนตัวเองขนาดนี้ เขาไม่เคยมองว่าเธอสกปรกเลยสักนิดหรือเธอเห็นว่าเขาเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบจึงกลัวว่าตนจะไม่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาแม็กนัสพาดารินธิรามาที่พักแห่งใหม่ซึ่งอยู่บนยอดเขาห่างไกลจากอันตราย ซึ่งบนนี้มีกำแพงเขื่อนสูงใหญ่และประตูเหล็กนิรภัยอีกสองชั้นสถานที่แห่งนี้จะใช้เป็นเซฟเฮาส์ทุกครั้งเมื่อมาปฏิบัติภารกิจที่แอฟริกาใต้แต่ด้วยสถานการณ์คับขัน เพราะผู้หญิงของเขาตกเป็นเป้าหมายของพวกกลุ่มเฮริฟ์อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาจำเป็นต้องพาเธอมาซ่อนตัวสักพักร่างบางที่กอดก่ายเสื้อสูทตัวนอกที่เขาใช้คลุมปกปิดความล่อแหลมบนเรือนร่าง ค่อย ๆ ปลดอ
ปลายหมึกปากกาสีดำที่ลากเส้นบนพื้นผิวกระดาษอยู่นั้นผงะเล็กน้อย เมื่อมีบางอย่างถูกโยนลงมาบนโต๊ะที่เธอบรรจงวาดรูปอยู่ดารินธิรามองชุดตรงหน้าเอื้อมหยิบมากางดูอย่างข้องใจ "คุณลูคัสสั่งให้คุณใส่ชุดนี้แล้วลงไปร่วมงานเลี้ยงของโรงแรมกับเขา" "แต่ชุดนี้มันค่อนข้างจะเซ็กซี่เกินไปหน่อยมั้ยคะ""คุณมีหน้าที่ใส่ก็ใส่ไป" ชายชุดดำกำชับแล้วเดินจากไป "เฮ้อ" ดารินธิราถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่นึกถึงคำพูดที่เคยให้สัญญากับเขาไว้ว่าเธอจะใส่ชุดโชว์เนื้อหนังมังสาแบบนี้ให้เขาดูแค่คนเดียวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ถ้าเธอเกิดหยิ่งยโสอยู่ ไม่รู้ว่าจะโดนกระสุนปืนเจาะหัวเมื่อไรถ้าต้องผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ก็คงต้องปล่อยไป เพราะเธอทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากยอมรับชะตากรรมงานเลี้ยงหรูที่ทุกคนมาในธีม 'Midnight' แถมบางคนก็ใส่หน้ากากปิดซะเหลือแต่คอบางคนก็แต่งชุดดำตั้งแต่หัวจรดเท้า สรุปแล้วนี่มันงานอะไรกันแน่ดู ๆ ไปก็คล้ายกับงานรวมตัวของเหล่าวายร้ายยังไงยังงั้น"คุณสวยมาก" "ขอบคุณ" หญิงสาวตอบอย่างกล้ำกลืนทว่ายิ่งเธอทำจองหองใส่เขา มือใหญ่ก็รั้งเอวคอดเข้ามาแนบชิดใบหน้าจิ้มลิ้มจึงสะบัดมองมือที่ทาบกดอยู่บนเอวเปลือยเปล่าของเธออ
จังหวะเดียวกับที่ฮัลค์เดินตามหลังมาแฟนสาวของเจ้านายมา ชายหนุ่มเห็นร่างของดารินธิราถูกหอบหิ้วขึ้นรถตู้คันหนึ่งดวงตาของเขาเบิกกว้างตกใจ เพราะชายฉกรรจ์หนึ่งในนั้นเป็นคนของกลุ่มเฮิรฟ์ เขาจึงเร่งรีบโทรออกหาผู้บังคับบัญชาของตนด้วยความร้อนรน"คุณแม็ก.....พวกเฮิรฟ์จับตัวคุณเดมี่ไปแล้วครับ!"ทันทีที่ได้ยินแบบนัันร่างกายก็คล้ายกับถูกกระแสไฟหลายแสนโวลต์ช็อตลงมาที่กลางใจนี่เขาตกหล่นตรงไหน ถึงได้พลาดพลั้งทำคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตหลุดไปอยู่ในมือของอาชญากรตัวเป้งคู่อริของสมาคมได้โถ่เว้ย!....ทำไมเขาสัพเพร่าแบบนี้ ทั้งที่ผ่านมาฉลาดเป็นกรดมาตลอดแท้ ๆ เป็นอย่างที่พี่อิศกับพี่เซทปรามาสกับเขาไว้ว่า 'ต่อให้เก่งกาจขนาดไหน เมื่อตกอยู่ในห้วงรัก ทุกคนก็มักจะมืดบอดกันทั้งสิ้น'ชายหนุ่มผมเงินประคองสตินึกถึงสิ่งที่จะทำให้เขาตาสว่าง และนึกเรื่องหนึ่งได้ว่า เขามอบแหวนหัวน็อตให้ดารินธิราเอาไว้ เผื่อว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกับเธอ...โชคดีที่แหวนหัวน็อตของเขาฝัง GPS เพื่อใช้สำหรับค้นหาพิกัดเวลาสถานการณ์คับขันแม็กนัสจึงรีบเปิดหาสัญญาณติดตามและเปิดดูพิกัดผ่านโปรแกรมที่เขาเขียนขึ้น ซึ่งสามารถดูผ่านโทรศัพท์ได้อย่างสะดวกรวด