“ฉันขอตัวเลยก็แล้วกัน”แพรวาพูดด้วยความรู้สึกจุกในอกพยายามคิดหาคำอธิบายว่าเขาไม่ใช่หยางหลงอย่าคาดหวังอะไร“ผมรู้ว่าคุณมาขอบคุณที่ผมช่วยชีวิต แต่ไม่ต้องกังวลผม ไม่ได้มีอะไรพิเศษเพียงแค่ผ่านไปพบคุณกำลังจมน้ำ”แพรวาหันหลังก่อนที่หยาดน้ำตาจะร่วงริน เดินจ้ำออกจากตรงนั้นเสียงตะโกนไล่หลังดังลั่น“ผมได้ข่าวว่าคุณเพิ่งออกจากโรงพยาบาลทำไมไม่พักผ่อนรีบมาทำไม ผมไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ที่เมืองจีนเราไม่ให้ความสำคัญกับการหวังผลตอบแทนจากการที่ช่วยใคร”ความปีติเกิดขึ้นในใจของแพรวา“ขอบคุณ”แพรวาพึมพำให้พอได้ยิน"คุณ ตั้งใจมาใช่ไหม""ในเมื่อคุณไม่ต้องการคำขอบคุณก็ไม่เป็นไรฉันเพียงแค่อยาก...เห็นหน้าคนที่ช่วยชีวิตก็เท่านั้น""เห็นแล้ว เป็นอย่างไร"คำพูดทีเล่นทีจริงไม่จริงจังนักคล้ายจะหยอกเย้าแพรวาช่างเหมือนหยางหลงยิ่งนักคนคนนี้มีอะไรเกี่ยวพันกับหยางหลงนะ"ไม่มีอะไรก็ในเมื่อที่เมืองจีนเขาไม่ต้องการการตอบแทนอย่างที่คุณว่า ฉันก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล"รอยยิ้มมีเลศนัยแพรวาไม่อาจมองข้าม เหมือนต้องการลองใจแพรวา“แต่ที่นี่ไม่ใช่เมืองจีนตอนนี้ผมไม่อยากได้กระเช้าหรอกนะ แต่อยากได้บางอย่าง”ภาษาไทยแบบยานคาง แพรวานิ่งหย
ร่างของแพรวาถูกเคลื่อนผ่านยังสุสานบรรพชน รายล้อมด้วยทหารและเหล่าองค์รักษ์ หยางหลงปล่อยน้ำตาร่วงรินกำป้ายหยกไว้ในมือแน่นหากร่างของแพรวาสลายไปสิ่งเดียวที่เขาไว้ให้ระลึกถึงนางมีเพียงหยกชิ้นนี้เท่านั้น“ลี่มี่ เฟยลี่ จากข้าไปแล้วใช่ไหม”ลี่มี่สะอื้นไห้สายตาเศร้าหมอง เหอหลงนั่งนิ่งชุดขาวที่สวมใส่เปรอะเปื้อน ใบหน้างดงามราวกับสตรีหม่นหมองไม่สดใสผมยาวสลวยที่เคยถูกรวบอย่างประณีตกับถูกปล่อยให้ตกละลงมารุงรัง“ท่านอย่าทรงเศร้าโศกไปเลยพี่สาวเฟยลี่นางสู่สรวงสวรรค์ รับใช้เง็กเซียนด้วยความสุข รอวันเวลาที่พวกเราจะได้พบเจอนางบ้าง” คำพูดปลอบโยน ไม่ได้ช่วยอะไร เหอหลงเหม่อมองไปไกล“ลี่มี่ มีเพียงเจ้าที่ยังรั้งอยู่ดูแลข้า แม้จะไม่เหลือสิ่งใดให้ผู้ใดย่ำเกรง หากมีสิ่งใดที่ข้าขอ.. ให้เจ้าทำเพื่อข้า”ดวงตาหม่นหมองมองลอดผ่านกรงขังเข้าไปอย่างปวดร้าว ณ.ที่แห่งนี้มีเพียงลี่มี่และเหอหลงนางไม่เพียงแต่ไม่อาจทิ้งเขาแต่จะไม่มีวันที่จะปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวบุรุษหนึ่งที่น่าสงสาร ตัวคนเดียวมาตลอดแม้อ้อมกอดของคนเป็นแม่ยังต้องปล่อยให้หลุดลอยไป“ท่านประสงค์สิ่งใดลี่มี่ไม่อาจขัดพระบัญชา”สุดกลั้นน้ำตา“ตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที
“ฝ่าบาท ได้เวลาแล้ว”หมอหลวง เข้ากระซิบข้างข้างฮ่องเต้ถอยห่างออกมาอย่างอาวรณ์ โหวหยางจื้อให้สัญญาณมือกับทหารคนสนิท แพไม้ไผ่ถูกปล่อยให้ล่องลอยฮ่องเต้ทรุดร่างลง กับพื้นมองตามแพไม้ไผ่ที่ล่องลอยไปสุดสายตากัดฟันข่มความเจ็บปวดภายในใจที่บอบช้ำน้ำตาไหลเป็นสายสนมฮุ่ย พยุงร่างใหญ่“ฝ่าบาทถนอมพระวรกายด้วย” หยางหลงกับปล่อยให้น้ำตาหยดรินลงพื้นไม่อายสายตาใครแพรวาลืมตาตื่นขึ้นจากการ สลบไสลไม่ได้สติ พยายามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเพียงใบหน้าของหยางหลงที่มีหยาดน้ำตาที่ยังอยู่ในความทรงจำ กับเหตุการณ์ที่เหอหลงชักกระบี่ออกจากหน้าอกข้างซ้ายของแพรวาข้างหน้านั่นนางพยาบาล กำลังวัดไข้ และง่วนอยู่กับการวัดความดันโลหิต“คุณพยาบาลขอน้ำหน่อย” พยาบาลหันมาตาเหลือกลาน“คนไข้ฟื้นแล้วตามหมอเร็วตามหมอ”เสียงตะโกนไปยังห้องพยาบาล ที่อยู่ข้างหน้าอาจารย์หมอผมสีดอกเลา เดินแกมวิ่งมาที่เตียง หูฟังสเตโทสโคป ที่หน้าอกข้างซ้ายของแพรวา“ปกติดี คุณพยาบาลแจ้งญาติให้คนไข้ด้วย ยินดีต้อนรับการกลับมาของคุณครับคุณแพรวา”แพรวามองคนนู้นทีคนนี้ที“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรคะ”“คุณคนไข้หลับไปนานที่เดียว หมอคิดว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะตื่น
เวลาผ่านไปเนิ่นนานเมื่อเธอกลับมาที่นี่ ห้วงเวลาที่ต่างกัน ป่านนี้หยางหลงคงไปเกิดใหม่หลายรอบแล้ว แพรวาคิดว่าอย่างไรเสียตัวเองต้องจำสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นตำหนักของฮ่องเต้หรือห้องของแพรวา ตำหนักเหมยฮวา และสะพานสูงที่แพรวาตกลงไปก่อนจะมาที่อนาคต และกลับไปอดีตอีกครั้งในฐานะเฟยลี่ที่นั่นต้องมีอะไรบางอย่างที่สามารถให้คำตอบแก่แพรวาได้การที่จะกลับไปอีกครั้งต้องอาศัยสถานที่และเวลาฉะนั้นแพรวาต้องไปยังที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง"น้องแพรเป็นอย่างไรบ้างลูก"เสียงมารดาดังอยู่ทางด้านหลัง แพรวาโผเข้ากอดมารดามือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลัง"แม่ใจหายหมดเลยนึกว่าจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว แต่อย่างน้อยก็เชื่อว่าหนูต้องกลับมา"แพรวาคิดว่าอย่างไรเสียแม่ก็ยังห่วงเธอเป็นที่สุด คำถามหนึ่งจึงบังเกิดขึ้นในใจ ไม่วายที่ต้องเอ่ยปากถาม"แม่ขาแพรมีเรื่องอยากรู้""เรื่องอะไร นอนไปเสียนานมีเรื่องอะไรถามแม่หรือว่าเรื่องพี่กันต์คงสงสัยว่าพี่กันต์มีสาวอื่นยไหมใช่ไหม"แพรวายิ้มกับคำสัพยอก"เปล่าค่ะ แพรแค่สงสัยว่าคือแพรอยากรู้ความจริง ว่า...แพรใช่ลูกของแม่จริงๆหรือเปล่า"แม่ของเธอ ขมวดคิ้วเข้าหากัน"ใครพูดอะไรให้ฟังหรือเปล่าหรือว่า
หนึ่งปีผ่าน“แพรแกไปเที่ยวเมืองจีนกับฉันหน่อย”เสียงปลายสายของเพื่อนสาวที่ชื่อพลอย ดังบาดแก้วหู“อ้าวไหนว่าจะไปกับฝาชีอย่างไรล่ะ”แพรวากรอกเสียงตามสายไป“เขาติดสัมมนาฉันเสียดาย อุตส่าห์จองทัวร์ไว้แล้ว นะนะแกแพรไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย”แพรวานิ่งคิดหลังจากที่เธอเดินทางท่องเที่ยวจนทั่วประเทศจีน แต่ก็ไม่สามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปหาหยางหลงได้ทำให้แพรวาถอดใจ กลับมาใช้ชีวิตเรียบง่ายพยายามลืมเรื่องราวต่างต่างให้หมดสิ้น แต่ถึงเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแพรวาก็จำ หยางหลงได้ไม่ลืมเลือนเธอจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะไม่ข้องเกี่ยวกับเมืองจีนเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บกว่านี้“ฉันไม่อยากไป”แพรวาตัดสินใจปฏิเสธ“แหมแก เล่นตัวจริง ฉันอุตส่าห์หวังจะให้แกไปเพราะฉันพูดภาษาจีนไม่เก่งเท่าแก น่านะช่วยกันหน่อยไม่อย่างนั้นฉันอดข้าวตายเลย”“แกไปกับคณะทัวร์ไม่อดตายหรอก”เสียงปลายสายทำเสียงจิจ๊ะไม่พอใจ“น่าแพรวา ฉันหาใครไม่ทันจริงจริงจะเห็นก็มีแต่แกคนเดียวเพื่อนรัก ฉันจองทัวร์ไว้สำหรับสองคนเสียดายแย่หลายตังค์เลยนะ”น้ำเสียงออดอ้อนแพรวาอดขำกับคำว่าเพื่อนรักไม่ได้อย่างน้อยเวลา พลอยอยากได้อะไรมักจะเรียกแพรวาว่าเพื่อนรักเสมอแพร
“เซอะไอ้คนหลายใจทำเพื่อนฉันอกหักมาเป็นปี ถึงว่าเพื่อนชั้นทำไมถึงทำท่าเหมือนคนอกหักเพราะแกนี่เอง ขอดูหน้าชัดๆสักที”เท้าไวเท่าความคิดเดินตรงไปยังคู่รักที่แพรวาชี้มือไป แพรวาไม่อาจห้ามเพื่อนได้ทันมืออวบกระชากไหล่ชายหนุ่มร่างสูงให้หันมาเผชิญหน้า“คุณ ทำไมทำแบบนี้ รู้ไหมเพื่อนฉันจริงจังกับคุณแค่ไหนทำไมทิ้งเพื่อนฉันได้ลงคอ”พลอยถามเป็นภาษาจีนกระท่อนกระแท่น แพรวาฉุดมือไว้แต่ช้าไปเสียแล้วร่างสูงหันหน้ามาเผชิญหน้าแพรวาและพลอย กวาดสายตามองทั้งสองคนด้วยความงุนงง ก่อนจะหยุดสายตาคมที่ใบหน้าสวยของแพรวาสบตานิ่งแพรวาเองก็ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็นภาพตรงหน้าเป็นหยางหลงในชุดเสื้อยืดสีเทากางเกงยีนตามสมัยนิยม ดูน่ามองไปอีกแบบ แพรวาโผเข้ากอดร่างสูงด้วยความคิดถึงที่ยากจะบรรยาย คนร่างสูงไม่ปัดป้องได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น“พวกคุณพูดอะไร”เสียงทุ้มถามออกมาอย่างสุภาพแพรวาหลุบตาต่ำนึกได้ว่าตัวเองพลาดไปแล้ว ถอยออกห่างจากคนตรงหน้าเสียงผู้หญิงข้างๆส่งเสียงดังโวยวายเพราะรู้สึกว่าถูกแพรวาและพลอยคุกคาม แพรวายกมือไหว้ประหลกประหลก“ตุ้ยปู้ฉี่ ตุ้ยปู้ฉี่”แพรวาขอโทษ ชายหนุ่มมองด้วยแววตาฉงน“คือว่าเข้าใจผิดค่ะคิดว่าเป็น
รถทัวร์แล่นออกจากจุดหมาย ชายหนุ่มวิ่งตามรถไปโดยเร็วแต่ทว่ารถกลับแล่นเข้าสู่ถนนหลัก และมุ่งหน้าออกจากตรงนั้นด้วยความเร็วสูงชายหนุ่มร่างสูงส่ายหน้าให้กับความไม่เอาไหนของตัวเองหากเขาวิ่งให้ไวกว่านี้หรือไม่มัวแต่ยืนมองแผ่นหลังสวยจนลับตาเขาอาจมาทันเธอก็ได้หยางลี่มองกระเป๋าเป้อยู่อย่างนั้นอีกสักพักเธอก็จะนึกขึ้นได้ว่าลืมกระเป๋าเขาควรกลับไปรอที่ราวสะพานเหมือนเดิม ป่านนี้สาวที่แม่สื่อนัดให้คงรอพร้อมกับอารมณ์โกรธ ความจริงเขากับเธอก็คุยกันค่อนข้างถูกคออัธยาศัยที่เห็นก็เหมือนจะเข้ากับเขาได้หากแต่การรื้อค้นกระเป๋าที่ทำเอาเขาถึงกับอึ้งคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวที่มาจากตระกูลใหญ่จะทำเรื่องอย่างนั้นได้หากไม่มีสาวไทยคนนั้น คนที่เขาไม่เข้าใจว่าเธอคิดว่าเขาเป็นคนรู้จักหรือว่า....หยางลี่ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง เหมือนเธอจะแน่ใจเหลือเกินว่าเป็นเขาแต่ ทำไมเขาคิดอย่างไรก็ไม่สามารถจะจำได้ว่าเขาเคยพบเธอที่ไหนมาก่อนหรือว่าเธอหาทางใกล้ชิดเขา หยางลี่สำรวจกระเป๋าและโทรศัพท์ เพราะคิดไปในแง่ร้ายว่าผู้หญิงสองคนอาจเป็นสิบแปดมงกุฎ ทุกอย่างยังอยู่ครบ หยางลี่สะพายกระเป๋าหันหลังเดินขึ้นสะพานไปทันที ไว้พรุ่งนี้เขามารอเธอที่
“แม่นาง ท่านจำคำพูดของข้าไว้ให้ดี”“เชิญท่านพูดมาข้าจะจำไว้”“หากต้องเลือก ท่านจะเลือกการมีชีวิตอยู่โดยไร้ซึ่งหยางหลง หรือว่าท่านต้องการหมดลมหายใจในอ้อมแขนของหยางหลง ขอให้ท่านตัดสินใจให้ดีแต่ท่านไม่มีทางเลือกเพราะสวรรค์เป็นฝ่ายเลือกให้แม่นางแล้ว”“หมายความว่า ข้าไม่สามารถกลับไปเป็นเฟยลี่ได้อีกแล้ว”“ท่านแลกชีวิตกับการกลับมามีชีวิตอีกครั้งที่นี่”แพรวาน้ำตาหยดริน เข้าใจคำพูดของหมอหลวงเป็นอย่างดี อย่างนี้นี้เองแพรวากลับมาก่อนกำหนดในช่วงสิบสองปีนักษัตร จึงไม่สามารถกลับไปได้อีก“แล้วทำอย่างไรข้าถึงจะกลับไปได้”"ไม่มีทางแม่นางเคยคิดไหมว่าทำไมเหมยเจียงนางยังอยู่ที่นี่”แพรวาพยักหน้า เหมยเจียงเองก็ไม่ต้องกลับไปเช่นกันเป็นกรณีพิเศษ ความรู้สึก คิดถึงทวีความรุนแรงต่อไปแพรวาไม่อาจให้ความหวังแก่ตัวเองอีกแล้ว ว่าจะสามารถย้อนเวลากลับไปพบหยางหลงอยู่เคียงข้างเขาแบบนั้น“ฝ่าบาทสบายดีไหมเมื่อไม่มีข้า”“ฝ่าบาท ทรงยอมแลกเพียงเพื่อให้แม่นางมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะภพไหนก็ตาม ข้าพยายามเต็มที่แล้วแต่มันฝืนกฎสวรรค์ ไม่สามารถนำพาท่านกลับไปได้ จึงได้แต่เพียงส่งข่าว ฝ่าบาทรอท่านผู้เดียวเหมือนกับคำจารึกบนราวสะพานที่ท่
คะนิ้งลืมตาตื่นมาบนแท่นนอนหนานุ่ม บรรยากาศน่านอนจนไม่อยากชันกายลุกขึ้น รู้สึกว่าผิวแก้มเย็นเฉียบ ยกมือขึ้นลูบแก้มทั้งที่ยังไม่ลืมตา กลิ่นกำยานกลิ่นแปลกๆ โชยมาเข้าจมูกเป็นระยะๆ รู้สึกหนักบนอกอิ่มเหมือนมีอะไรอุ่นๆ มากดทับขยับตัวลำบาก พรึ่บลืมตาตื่นด้วยความตกใจ“กรี๊ดดดดดด” คะนิ้งส่งเสียงร้องดังลั่นเมื่อเห็นว่ามีผู้ชายมานอนอยู่ข้างกาย ….แต่เดี๋ยวก่อนผู้ชายหรือผู้หญิงวะ ทำไมผมยาว ใบหน้าขาวใส เหมือนผู้หญิง แต่จมูกเชิดหยิ่งน่าดึงเล่น ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเป็นทอม แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็คงจัดว่าหล่อทีเดียว ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวแน่น ผู้ชายแน่ๆคนที่นอนกอดอยู่สะดุ้งสุดตัว“เอะอะ อะไรของเจ้า” น้ำเสียงงัวเงียแต่ทุ้มนุ่มหูพิลึก“นาย นายเขามาได้ยังงัย”นึกขึ้นได้ที่นี่ไม่ใช่ที่นอนของเธอ แต่เป็นที่ไหน สภาพแปลกไป ผ้าม่านยาวบางที่ล้อมแท่นนอนวงกลมปลิวสะบัด โต๊ะตั่งก็แปลกตา แม้แต่หมอนยังเหมือนกับ….หรือว่า ไม่นะ ไม่ไม่ไม่“เจ้านี่อย่างไรกัน ทำไมต้องเอะอะ” คะนิ้งยกมืออุดปากตัวเองเมื่อรู้ว่าไม่ได้สื่อสารด้วยภาษาไทยแต่เป็น ภาษาจีนที่เรียนมาตั้งแต่อยู่อนุบาล“นอนๆ เจ้าจะรีบตื่นไปไหน” เสียงประตูเปิดออกมา หนุ่มน้อยอีก
หย่าจิ้ง ไทฮองไทเฮาและไทเฮาดื่มชาคารวะจากบ่าวสาวพร้อมเพรียงกัน หยางหลงและแพรวาหันมาสบตากันนิ่งนาน“ต่อแต่นี้สิ่งร้ายๆ ได้ผ่านไปแล้ว ย่าหวังว่าจะมีสิ่งดีๆให้ได้ชื่นใจบ้าง”“เสด็จย่า คอยเวลาอุ้มเหลนตัวน้อยได้แล้ว อีกไม่นานหลานหวังอย่างนั้น”เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน ชินอ๋องเผลอสบตาลี่มี่ด้วยประกายตาลึกซึ้ง ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีต้องขอบคุณเฟยลี่ที่นางทำให้ทุกอย่าง เป็นไปตามที่คาดหวังไว้แพรวาสวมชุดเจ้าสาวสีแดงที่ส่งให้แพรวางดงามอย่างหาที่ติไม่ได้บนศีรษะสวมมงกุฎบ่งบอกฐานะฮองเฮาชัดเจนมือบางลูบคลำราวสะพาน ด้วยความรู้สึกขอบคุณ เบื้องล่างน้ำใสไหลเชื่องช้า ลี่มี่ยืนอยู่ด้านหลังถือเสื้อคลุมอากาศหนาวจับใจแต่ภายในอบอุ่นอย่างประหลาดคำพูดของหมอหลวงที่บอกแพรวาก่อนหน้านั้น“ห้วงเวลาที่แม่นางข้ามผ่านถูกปิดแล้วนับจากนี้ไม่ว่าแม่นางอยากจะจากไปแค่ไหนก็ไม่อาจที่จะไปได้ เพราะทุกอย่างเหมือนถูกสวรรค์ลิขิตไว้แล้วแม้แต่ข้าเองยังไม่สามารถข้ามผ่านไปได้เช่นกัน แม่นางแพรวาได้สาบสูญไปจากภพภูมิของนางเหลือเพียงเยว่ถิงหรือแม่นางเฟยลี่เท่านั้นที่ยังอยู่ที่นี่.ในฐานะฮองเฮา”“ฮองเฮาเพคะอากาศหนาว สวมเสื้อคลุมจะดีก
ภาพความทรงจำที่ผุดขึ้นให้เขาเห็นช้ำแล้วช้ำเล่าเมื่อคราวที่แพรวารับกระบี่แทนเขา มันมิใช่เพียงเพิ่งเกิดขึ้นหากเกิดขึ้นถึงสองครั้งสองครา คราวนั้นเขาไม่สามารถมองเห็นเจ้าของกระบี่ แต่ภาพความทรงจำเด่นชัดคราวนี้เป็นเท้าจางที่ส่งกระบี่คมลงกลางอกของแพรวาหากแต่ดีที่ไม่ถูกจุดสำคัญ อย่างนี้จะให้เขายังมีสิ่งใดที่ต้องสงสัยในตัวของเฟยลี่ได้อีกเป็นเขาที่ติดค้างนาง“ฝ่าบาททรงคิดถึงเฟยลี่ใช่ไหม”ใบหน้าหวานยิ้มยียวน“ไม่เคยคิดถึงหากแต่คิดอยู่เสมอว่าทำอย่างไรจะให้เจ้าฟื้นคืนมาเจรจาเหมือนอย่างนี้ได้”“ฝ่าบาททำอย่างไรกับสนมฮุ่ย”“นางในที่รอดชีวิตจากการช่วยเหลือของเสี่ยวโอ เมื่อคราวหลบหนีออกจากวังยอมให้พูดความจริงเรื่องที่ฮุ่ยเหนียงใช้ยาบำรุงครรภ์จนแท้งแต่กลับโยนความผิดให้เจ้าเฟยลี่ ใต้เท้าจางลงมือสังหารหมอที่นำเข้ามาจากนอกวัง แล้วยังสังหารเหล่านางในนับสิบที่รู้เรื่องนี้ ส่วนนางในคนที่เหลือกำลังจะหาทางหนีดีที่เสี่ยวโอพบเข้าเสียก่อน สนมฮุ่ยข้าให้นางสำนึกผิดในตำหนักเย็นชั่วชีวิตของนาง”แพรวาเลิกคิ้วฟังอย่างตั้งใจรู้สึกสบายกายสบายใจอย่างประหลาดแต่ก็อดที่จะสงสารสนมฮุ่ยไม่ได้เพราะเคยดูซีรีส์จีนตำหนักเย็นโดดเดี่ย
แสงเรืองรองตรงขอบฟ้านั่น แพรวาขยับตัวบิดตัวไปมารู้สึกถึงความวาบหวามจากคนข้างกายพลิกตะแคงกอดร่างใหญ่ข้างๆ มือใหญ่ลูบไล้แก้มเนียน“หายป่วยแล้วสงสัยจะได้ยาดี”“ไออุ่นจากฝ่าบาทนั่นอย่างไรที่ทำให้ข้า จากป่วยไข้ก็กลายเป็นสบายดี”หยางหลงเขย่าหัวเบาๆ ยังไม่ทันได้ชื่นจิตเสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดังเล็ดลอดเข้ามาภายในกระท่อมหยางหลงพลิกตัวแพรวาให้ลงไปนอนด้านข้างเตียง เสียงวิ่งกรูกันเข้ามาบ้างมาจากด้านหน้า และวิ่งมาจากด้านหลังถูกล้อมกรอบถึงเพียงนั้นหยางหลงฉุดแขนแพรวาลุกจากที่ยังนอนอยู่ใช้กระบี่ในมือแหวกเป็นทางเพื่อพาตัวเองและแพรวาฝ่าวงล้อมออกไปใต้เท้าจางและทหารองครักษ์นับสิบยืนดาหน้าในมือมีอาวุธครบครัน“ฝ่าบาท ตามข้าน้อยกลับวังหลวงจะดีกว่า ตอนนี้คนของข้าได้เข้ายึดวังหลวงไว้เสียสิ้นฝ่าบาทออกมาเช่นนี้ข้าเห็นทีต้องเชิญฝ่าบาทกลับไปประทับยังวังหลวงตามเดิม”หยางหลงขมวดคิ้วคิดไม่ถึงว่าใต้เท้าจางจะคิดการใหญ่ถึงเพียงนี้ข่าวเรื่องเขาออกจากวังไม่มีใครรู้แต่ทำไมใต้เท้าจางถึงฉวยโอกาสนี้บุกยึดวังหลวง"เหตุใดท่านถึงคิดการใหญ่ขนาดนี้ในเมื่อท่านก็ได้ทุกอย่างไปหมดแล้วทั้งอำนาจก็มีเสียมากมายมีสิ่งใดที่ท่านต้องการอีก”“ฝ
“ปล่อยข่าวออกไปเรื่องที่ข้าสำเร็จโทษพวกนางนั่นเป็นเพราะพวกนางไม่ดูแลพระสนมที่กำลังทรงครรภ์ให้ดีจึงต้องโทษถึงตาย และต่อไปต้องเป็นคราวของแม่นางเฟยลี่บ้างแล้ว เป็นการกดดันฝ่าบาทไม่ให้ใจอ่อนกับหญิงงามล่มเมืองคนนั้น"“แต่ใต้เท้าฝ่าบาทจะทรงสอบสวน”“ข้าจะนำเหล่าขุนนางทั้งหลายร่วมกันกดดันฝ่าบาทอีกทาง อย่างไรเสียพระสนมต้องไม่มีผู้ใดเทียบเคียงหากเรายังต้องการยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดในแผ่นดินนี้”ใบหน้าเหี้ยมเกรียมแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียดท้องฟ้ามืดไร้ดาราและจันทราส่องแสง นางในนางหนึ่งหอบห่อผ้าที่บรรจุของมีค่าเล็กน้อย วิ่งหลบหลีกเร้นกายตามเงามืดด้วยความรุกลี้รุกรนแต่ดวงตาคมกริบคู่หนึ่งที่จับจ้องความเคลื่อนไหวอยู่ก่อนแล้วกับทะยานขึ้นสู่หลังคาตำหนักวิ่งตามไปทางเดียวกับที่นางเร้นกายทว่าวิชาตัวเบาเยี่ยมยอดจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าแม้แต่น้อยอีกด้านทหารยามหน้าห้องขังถูกชายลึกลับที่โพกหน้าด้วยผ้าดำสกัดจุด จนหมดสติแล้วก็ลากร่างหนักอึ้งให้ไปนอนแผ่คุดคู้แสนสบายข้างกำแพงห้องขังกุญแจถูกหยิบมาใช้อย่างง่ายดายแพรวานอนขดตัวด้วยความหนาวเหน็บ ชุดนักโทษสีขาวบางเบาไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้ ชายลึกลับไขกุญแจเข้าไปภายในห้องขั
คำแรกที่เห็นหน้าสนมฮุ่ย“ลูกไม่อยากให้โอกาสหลุดลอยไปเราส่งมือสังหารไปฝ่าบาทก็อยู่ที่นั่นปกป้องนาง ครั้งนี้ถือเสียว่ายืมมือฝ่าบาทจัดการกับนางแค่เรื่องปองร้ายพระสนมนางก็ไม่อาจหลุดพ้นโทษประหารแล้วยังจะโทษฐานทำให้ลูกต้องสูญเสียองค์รัชทายาท มีกี่หัวก็ไม่พอให้ตัด”“แล้วเจ้าได้อะไร ได้เพียงให้ตาย ตายจากไปแต่ไม่ช้าไม่นานฝ่าบาทก็จะมีสนมคนอื่นอีกแต่หากเจ้ารั้งที่จะไม่บอกใครเรื่องการสูญเสียองค์รัชทายาทอย่างน้อยข้าก็เตรียมการให้เจ้าแล้วข้าไปเกณฑ์คนที่อายุครรภ์เท่ากับเจ้ามากักไว้เพื่อให้เจ้าได้มีองค์รัชทายาทเป็นแม่ขององค์รัชทายาทและแม่ของแผ่นดิน เจ้ากับทำให้ทุกอย่างพังทลายลงไป”สนมฮุ่ยหน้าเสีย แต่สักพักก็กลับเป็นปกติ“ท่านพ่อ องค์รัชทายาทจะมีเมื่อไหร่ก็ได้ยังคงใช้แผนการของท่านพ่อได้เพียงแต่ลูกแสร้งว่ามีครรภ์แล้วเราก็สรรหาเด็กที่ไหนมาเป็นองค์รัชทายาทก็ได้ แต่โอกาสกำจัดนางนั้นหายากยิ่งตอนนี้ลูกยอมแลกทุกอย่างเพื่อการณ์นี้”“เจ้าอย่างไรก็ทำอะไรไม่หารือพ่อก่อน”“ลูกขออภัยท่านพ่อแต่ลูกเกลียดนาง นางแย่งฝ่าบาทและ แววตาอ่อนโยนของฝ่าบาทไปจากลูก”“ไม่จำเป็นต้องมีความรักความสงสาร มีเพียงอำนาจที่ได้รับเมื่อนั้
แพรวาอดขำไม่ได้“ถ้าอย่างนั้นเราต้องหาทางปกป้องพี่สาว”“ข้าว่าเราแทบไม่ต้องลงแรงตอนนี้ ฝ่าบาททรงมีพระทัยเอนเอียงมาทางแม่นางเฟยลี่เพราะเหตุใดข้าไม่ทราบแน่ชัดหรืออาจเป็นเพราะ สนมฮุ่ยทำการใดไม่รอบคอบจนฝ่าบาทเห็นธาตุแท้ของนางกับตาตนเองด้วยนิสัยของฝ่าบาททรงไม่ชอบการแก่งแย่งและการทำร้ายกันทรงมีความยุติธรรมพอ ไม่เห็นแก่คนผิด”ลี่มี่พยักหน้าหงึกหงัก“อย่างนี้เห็นทีว่าสนมฮุ่ยและใต้เท้าจางต้องหาโอกาสอันดีจัดการกับพี่สาวว่าแต่จะเป็นเรื่องอะไรนะ”แพรวาเริ่มใจคอตุ่มๆต่อมๆ ขึ้นมาบ้างสนมฮุ่ยไม่เหมือนวันวานนางเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดพร้อมทำทุกอย่างเพื่อความรักที่หวังครอบครองเท่านั้นหยางหลงสาวเท้าเร่งรีบไปยังตำหนักฝ่ายซ้าย หากแต่ที่มุมทางเดินสนมฮุ่ยเดินเยื้องย่างด้วยสีหน้าเรียบเฉยยังห้องของแพรวาสวนกันเพียงนิดเดียวแต่หยางหลงไม่อาจมองเห็นนางเนื่องจากมุมกำแพงสูงที่หักมุม ตรงทางเข้าตำหนักพอดีแพรวาอยู่ในห้องเพียงลำพังกับ ลี่มี่สาวใช้สองสามคนเดินเข้ามาในห้องของแพรวาด้วยแววตาประสงค์ร้าย“แม่นางเฟยลี่ พระสนมเรียกหาเจ้า”ลี่มี่คว้ามือแพรวามากำไว้กระซิบเบาๆ“พี่สาวระวังตัวด้วย ข้าน้อยจะไปตามฝ่าบาท”แพรวาพยักห
คราวนี้เองที่เขาสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส จากร้ายกลับกลายเป็นดีมองแขนข้างที่เจ็บของหยางหลงมีมือบางเกาะเกี่ยวอยู่เขาอดถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้ อย่างน้อยก็ตอนนี้ที่หยางหลงไม่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของสนมฮุ่ย“พระสนม ทำไมไม่เรียกหมอหลวงเพคะ”สนมฮุ่ยนอนกุมท้องด้วยความเจ็บปวด“ใครให้เจ้ามาออกความเห็น”สาวใช้หดตัวลงนั่งก้มหน้านิ่ง“อย่างไรเสียเจ้าหมอนั่นก็ไม่อาจให้มันล่วงรู้”“ทำไมเพคะ”“เด็กคนนี้ไม่แข็งแรงพวกเจ้าก็รู้ดี แต่อย่างไรเสียข้าต้องพยายามให้องค์รัชทายาทอยู่กับข้าให้ได้”แววตามุ่งมั่น“พระสนมหมอจากนอกวังเข้ามาต้องผ่านเหล่าขันทีตรวจสอบ และเหล่าองครักษ์เกรงว่าไม่อาจปิดบังฝ่าบาท”“ข้าให้ท่านพ่อจัดการแล้ว ก็แค่ท่านพ่อเป็นห่วงข้าส่งหมอที่ดีที่สุดเข้ามาดูแลข้าเป็นพิเศษก็เท่านั้น”“ท่านหมอมาแล้วเพคะ”หญิงรับใช้ปิดม่านจนทึบ สนมฮุ่ยนอนหงายลงบนแท่นนอน“พระสนมอาการท่านเป็นอย่างไรบ้าง”“ข้ารู้สึกปวดท้องจนไม่อาจทานทนได้”“ข้าน้อยขอตรวจดูชีพจรก่อน”สนมฮุ่ยยื่นแขนออกมานอกม่านกำบัง หมอชราจับชีพจรอย่างคล่องแคล่ว ขมวดคิ้วเข้าหากันใบหน้าเคร่งเครียด“พระอาญาไม่พ้นเกล้า พระสนมข้าน้อยไร้สามารถ”คุก
มือใหญ่เชยคางมนให้สบตา ก้มลงจูบหนักหน่วงที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง เขาไม่อาจหักใจหากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ริมฝีปากอ่อนหนุ่มกลิ่นกายหอม ผิวเนื้ออ่อนละมุน ซุกอยู่กับอกกว้างถอนริมฝีปากออก“เราเคยรักกันมาก่อนใช่ไหม ที่ไหน เมื่อไหร่ บอกข้ามาก่อนที่ข้าจะกลืนกินเจ้าไป”สายตาคาดคั้น“ฝ่าบาทเชื่อเรื่องการเดินทางผ่านกาลเวลาไหม”หยางหลงขมวดคิ้ว“เช่นไร”“ข้ากับท่านเราเคยพบกัน ก่อนที่ข้าจะหายไปจากฝ่าบาทและกลับมาอีกครั้ง”หยางหลงครุ่นคิดภาพที่เขาเห็นนั้นเล่าชัดเจนแจ่มชัดในความทรงจำ เหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้น“เจ้าใช้เวทมนตร์ใช่ไหม”“ไม่ใช่เวทมนตร์แต่มันคือเรื่องประหลาดที่ข้าไม่อาจอธิบายได้ และข้าเองมิได้กำหนดว่าจะมาจะไปตอนไหน สวรรค์เป็นผู้กำหนดเหมือนที่หมอหลวงบอกข้า ข้าเพียงแต่ไปมาตามแต่สวรรค์ต้องการ”“แล้วหมอหลวงทำไมถึงรู้ว่าเจ้าจะมา”“ท่านหมอบอกข้าว่าเขาเองไม่อาจเปิดเผยบัญชาสวรรค์ตัวเขาเองมีหน้าที่เพียง เป็นผู้แจ้งข่าว”ข้างนอกนั่น“ลี่มี่ เจ้าแน่ใจแล้วรึว่าฝ่าบาท ประทับอยู่ในห้องของแม่นางเฟยลี่”เหอหลงเอ่ยปากถาม“ ข้าเห็นมากับตา ฝ่าบาททรงหายเข้าไปในห้องของพี่สาวข้าจึงรีบมาแจ้งข่าวกับท่าน”เหอหลงยิ้มมี