นางผิดเองที่หลงรักเขาอย่างมากมายตั้งแต่เมื่อแรกเห็น นางไม่เคยคิดเลยว่าการบีบบังคับผู้อื่นให้รักตนเองนั้นมันจะนำความทุกข์มาให้ทั้งตัวของนางเองและบุรุษผู้นั้นด้วย แม้ตอนนี้นางจะเริ่มคิดได้แล้ว ว่าครั้งนี้นางอาจจะตัดสินใจผิดไป แต่เรื่องแต่งงานนี้เป็นเรื่องใหญ่ของราชวงศ์ นางรู้แล้วว่าเขารังเกียจนางมาก เมื่อตอนที่นางกำลังจะเดินมายังเรือนตะวันตก นางก็ยังแอบได้ยินสาวใช้ซุบซิบกันเบา ๆ
เรื่องที่แม่ทัพไป๋ที่เป็นคุณชายของจวนนี้มิได้ต้องการฮูหยินที่อัปลักษณ์และมีรูปร่างอ้วนใหญ่เช่นนี้ แต่จำใจเพราะเป็นสมรสพระราชทานและเมื่อตอนที่เขาได้รับราชโองการเขาแทบจะเป็นลมล้มลงด้วยซ้ำ ตอนที่สาวใช้ซุบซิบกันนั้น พวกเขาไม่เห็นว่านางหยุดยืนฟังพวกเขา และนางก็ไม่อยากให้ผู้ติดตามทั้งหลายมาได้ยินเข้าด้วย แต่ก็ดีแล้วที่นางได้ยินความในใจของพวกเขา นางจะได้รู้ว่าพวกเขาคิดกับนางเช่นไร และนางต้องขอบคุณสาวใช้ทั้งสองคนที่ซุบซิบกันให้นางได้ยิน เพราะเมื่อเจ้าบ่าวไม่มาเข้าหอนางจึงไม่ได้แปลกใจอันใดเพราะนางคิดไว้อยู่แล้ว ว่าถ้าเขารังเกียจนางมากถึงขนาดนั้น ก็คงจะไม่ยอมมาเข้าหออย่างแน่นอน
องค์หญิงหลีน่าเทสุราลงจอกยกขึ้นดื่มช้าๆ น้ำตาของนางก็ยังไหลรินจนหยดน้ำตาร่วงหล่นลงในจานขนมหวานตรงหน้าของนาง สุดท้ายเมื่อดื่มจนเมามายได้ที่นางก็ร่ำไห้ออกมาเสียงดังอย่างทนต่อไปไม่ไหว นางเพิ่งหลงรักบุรุษอย่างปักใจเป็นครั้งแรก หลงรักและพร่ำเพ้อถึงเขามานับตั้งแต่พบหน้ากัน เมื่อรู้ว่ากำหนดแต่งงานของนางกับแม่ทัพไป๋ใกล้เข้ามาแล้วนางนับวันรอที่จะได้แต่งเข้าจวนของเขา นางวาดหวังอย่างไร้เดียงสา ว่าสามีของนางเมื่อได้แต่งงานกันแล้วเขาคงจะรักนางบ้าง นางคงจะมีความสุขที่ได้แต่งงานกับบุรุษที่ตนเองรัก บัดนี้นางตื่นจากความฝันที่สวยงามของนางแล้ว นางรักเขามันเป็นความจริง แต่ความจริงอีกอย่างที่นางต้องรับรู้มันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นคือเขาไม่ได้รักนางเลยแม้แต่น้อย
นอกจากไม่รักแล้วยังรังเกียจนางเหลือเกินอีกด้วย เมื่อครุ่นคิดมาได้ถึงตรงนี้น้ำตาขององค์หญิงหลีน่ายิ่งไหลอาบแก้ม นางสะอื้นไห้ออกมาจนเจ็บทรวงอกไปหมด นางพยายามกลั้นก้อนสะอื้นแต่มันอดกลั้นไม่ไหว นางสะอื้นไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดในใจที่ครั้งแรกในชีวิตสาวของนางเพิ่งพบพานกับความรักและนางก็พบกับความผิดหวังในทันทีที่รู้จักกับความรักครั้งแรกนั้น เมื่อสะอื้นไห้จนเจ็บร้าวที่ทรวงอกไปหมด นางก็พยายามกลั้นน้ำตาไว้ และเริ่มต้นคิดว่านางควรจะทำเช่นไรต่อไป
ในเมื่อตอนนี้มันแก้ไขอะไรยังไม่ได้ นางก็จะอยู่ที่จวนแม่ทัพแห่งนี้ไปก่อน พยายามทำดีกับเขา และผู้อื่นในจวนแห่งนี้ แม้พวกเขาไม่ใคร่จะชอบนาง แต่ตอนนี้ก็จำต้องอยู่กันเช่นนี้ไปก่อน หากเวลาล่วงเลยไปพอสมควรที่ไม่ต้องทำให้ราชวงศ์ต้องพบกับความอับอายขายหน้าเพราะนางเป็นต้นเหตุแล้ว นางก็จะหาทางหย่าขาดกับเขา เพื่อปล่อยให้เขาเป็นอิสระจะได้ไม่ต้องทนอยู่กับภรรยาที่เขาไม่อยากได้เช่นนาง องค์หญิงหลี่น่าเติบโตจากเด็กสาวไร้เดียงสาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในช่วงข้ามคืนหลังจากนางแต่งงาน เมื่อเมามายจนเดินกลับไปที่เตียงนอนหลังใหญ่นั้นไม่ไหว นางก็ฟุบหลับอยู่ที่บนโต๊ะกลมกลางห้องนั้นไปจนกระทั่งรุ่งเช้า
ยามเฉิน (เจ็ดโมงเช้า) สองนางกำนัลเปิดประตูห้องหอเข้ามา ทั้งสองมองเห็นร่างอ้วนใหญ่ขององค์หญิงของตนนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างโต๊ะกลมฟุบหลับอยู่ตรงนั้น ทั้งสองรีบเดินเข้ามาเขย่าตัวขององค์หญิงหลีน่า “ องค์หญิงเพคะ เป็นอะไรหรือไม่ ทำไมถึงได้นอนตรงนี้เพคะ ” องค์หญิงหลีน่ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับความปวดเมื่อยไปทั้งตัวและปวดหัวเหลือเกิน เมื่อคืนนางดื่มจนเมามายและฟุบหลับอยู่ตรงนี้จึงได้ปวดเมื่อยไปทั้งตัว และที่ปวดหัวคงจะเพราะดื่มสุรามากเกินไป
“ ข้าปวดหัวเพราะดื่มเหล้ามงคลนี่ และปวดเมื่อยไปหมด พาข้าไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วหายาแก้ปวดหัวมาให้ข้าด้วย ” สองนางกำนัลช่วยกันพยุงร่างอ้วนของนายของตนพาไปที่หลังฉากกั้นเพื่ออาบน้ำ องค์หญิงที่ถูกสองนางกำนัลพยุงเข้าไปนั่งในถังอาบน้ำใบใหญ่และลงมือช่วยกันนวดตัวและขัดถูเนื้อตัวให้กับองค์หญิงเมื่อเสร็จแล้วก็อาบน้ำให้นางจนเรียบร้อย แล้วก็พยุงร่างองค์หญิงผู้อ้วนใหญ่ไปยืนที่ฉากกั้นแล้วช่วยกันเช็ดเนื้อตัวและแต่งกายให้กับนาง
เมื่อสวมอาภรณ์ตัวใหญ่ของนางจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้พาไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง แล้วก็ลงมือหวีผมแล้วเกล้ามวยให้นาง หยิบหีบใบเล็กที่ใส่เครื่องประะดับขององค์หญิงออกมา “ วันนี้จะใส่เครื่องประดับชิ้นไหนดีเพคะ ” องค์หญิงหลีน่าเอ่ยว่า “ เลือกสีที่เข้ากับชุดนี้ก็แล้วกัน แต่ไม่ต้องใส่มากชิ้นนะ เราไม่ได้อยู่ในวังหลวงใส่แค่พองามก็เพียงพอแล้ว ” สองนางกำนัลลงมือปักปิ่นและติดเครื่องประดับผมให้นายหญิงของตน แล้วก็ช่วยนางแต่งหน้าเพียงอ่อนๆ ให้พอมีสีสัน หลี่น่าจ้องมองใบหน้าของตนเองที่อวบอูมเต็มคันฉ่องนั้น นางจ้องมองและเพ่งพิศดูตนเองในนั้นอยู่นานจนกระทั่งเหม่ยอี้เอ่ยขึ้น “ องค์หญิงทำไมถึงได้จ้องหน้าตนเองเช่นนั้นเพคะ ”
องค์หญิงหลีน่าเอ่ยตอบสาวใช้ของตนเอง “ ข้าจะดูความเป็นจริงของตนเองน่ะ ปกติไม่ค่อยจะสนใจคงเพราะข้าตัวอ้วนใหญ่ขนาดนี้มานานจนเคยชิน แต่ตัวข้าเคยชินมิใช่ผู้อื่นจะเคยชินไปด้วย เจ้าสองคนบอกมาตามตรงรูปร่างชองข้าน่าเกลียดมากใช่หรือไม่ ” นางหันไปถามสองสาวใช้ เหม่ยอี้อ้ำอึ้งไปพักหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “ ถ้าพูดตามตรงก็อ้วนมากเพคะ แต่หากลดความอ้วนได้องค์หญิงต้องงดงามอย่างแน่นอนเพคะ ” นางพยายามพูดอย่างถนอมน้ำใจนายของตนมากที่สุด “ เพ่ยอี้จึงได้เอ่ยขึ้นว่า ” ก็อ้วนมากกว่าคุณหนูในห้องหอคนอื่นเพคะ ถ้าพูดตามความจริง หากองค์หญิงลดน้ำหนักได้จนมีรูปร่างใกล้เคียงกับคุณหนูเหล่านั้นก็คงจะงดงามไม่แพ้พวกนางนะเพคะ " องค์หญิงหลีน่าเมื่อได้ยินคำพูดของสองสาวใช้ก็เงียบไปพักใหญ่
ขณะนั้นก็มีเสียงเคาะประตูหน้าเรือนดังขึ้น เพ่ยอิงจึงได้รีบเดินออกไปที่หน้าประตูแล้วเปิดออกทันที “ ข้านำอาหารมาส่ง “ หญิงสาวผู้หนึ่งที่แต่งกายดีกว่าสาวใช้ในจวนที่เพ่ยอิงเห็น ยืนอยู่หน้าสาวใช้ผู้หนึ่งที่ยกถาดอาหารอยู่ตามหลังนางมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูเรือน ” ฮูหยินมิได้รับอาหารพร้อมกับท่านแม่ทัพหรอกหรือ “ เพ่ยอิงเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย ” ท่านพี่ไม่กินอาหารร่วมกับผู้อื่น ยิ่งเป็นสตรีที่เขามิได้พึงใจเช่นนี้เขาคงจะกินไม่ลงเสียมากกว่า ต่อไปจะมีสาวใช้ยกอาหารมาส่งให้นายของเจ้าที่นี่ทุกวันทั้งสามมื้อ ส่วนพวกเจ้าสองคนก็ไปหากินที่ในครัวดังเช่นสาวใช้คนอื่นๆ ท่านพี่ฝากมาบอกนางว่าหากมีอะไรก็ให้ส่งคนไปบอก มิต้องไปหาเขาเพราะเขามีราชการยุ่งอยู่ตลอด คงไม่ว่างจะพบนาง " หญิงผู้นั้นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันดังอย่างไม่เกรงใจผู้ใด
“ อ้อ !! ลืมบอกไป ข้าคือหูหลินซวงหลานสาวแม่นมหู ที่เป็นแม่นมของท่านแม่ทัพมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ที่จริงข้าเองก็ควรจะได้แต่งงานกับเขาเพราะข้าปรนนิบัติดูแลท่านพี่มาหลายปีแล้ว แต่ในเมื่อมีหญิงที่เขามิได้พึงใจบังคับให้เขาจำต้องแต่งงานรับนางเป็นฮูหยินเอกเสียแล้วข้าคงต้องเสียสละเป็นฮูหยินรองกระมัง แต่น่าเสียดายที่นายของเจ้าคงจะเป็นฮูหยินเพียงแค่ตำแหน่งเท่านั้น หญิงที่สามีไม่ปรารถนา ไม่อยากจะร่วมหอ รูปร่างก็อ้วนใหญ่เช่นนั้นยังจะหลงไหลบุรุษจนบีบบังคับให้เขาจำต้องแต่งงานด้วยอีก ช่างหน้าไม่อายจริงๆ ท่านพี่ก็ออกจะหล่อเหลาปานนั้นท่าทางก็องอาจผึ่งผาย แต่จำต้องมีเมียอัปลักษณ์เช่นนี้ บุรุษใดจะทนได้กัน นายของเจ้ารู้หรือไม่ ท่านพี่ดื่มเหล้าเมามายมาหลายวันแล้ว เขาต้องทนทุกข์ที่จำต้องแต่งงานกับหญิงที่เขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบ แถมยังรังเกียจเสียด้วยซ้ำ ” หูหลินซวงเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงอย่างไม่ค่อยจะพอใจ “ วาจาสามหาวยิ่งนัก หญิงที่เจ้ากล้าด่าทอเป็นถึงองค์หญิงของแคว้นชิงแห่งนี้ หากข้านำคำพูดของเจ้าไปทูลฮองเฮาหัวของพวกเจ้ามีเท่าไหร่ก็คงจะไม่พอให้ตัดเป็นแน่ เป็นแค่หลานสาวแม่นมในจวนแม่ทัพ มาอาศัยเขาอยู่มิไ
สองนางกำนัลหันมามองหน้ากันแล้วเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ องค์หญิงอยากจะลดความอ้วนหรือเพคะ ทำไมเมื่อก่อนไม่เห็นจะสนใจเรื่องนี้เลย ” องค์หญิงหลีน่าหันมองสีหน้าของสองนางกำนัลที่มีท่าทางสงสัยในท่าทีของนางที่เปลี่ยนไปกระทันหันอย่างที่ไม่เคยมาก่อน “ ข้าอยากจะลดความอ้วนให้มีรูปร่างที่ผอมลงจะได้แต่งกายได้งดงามดังเช่นคุณหนูในห้องหออื่นๆที่ข้าเคยเห็น แต่มิได้ต้องการให้บุรุษใดพึงใจหรอกนะ ข้าทำเพื่อตัวข้าเองวันนี้ข้าเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ข้ามัวแต่พึงใจผู้อื่น อยากให้ผู้อื่นเป็นดังใจของข้า แต่ไม่เคยมองดูตนเองว่ามีสิ่งใดให้ผู้อื่นพึงใจได้้บ้าง แต่ข้ามิได้หมายถึงสามีในนามของข้าหรอกนะ เพราะข้าได้ตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าข้าจะยังรูปร่างอ้วนใหญ่ทำให้ไม่มีใครต้องการข้า หรือ ข้าจะงดงามยิ่งกว่านี้ีอีกมากมาย แต่ข้าก็จะไม่มีวันรักบุรุษผู้นี้อีก ข้าจะตัดใจจากเขาให้ได้ เพียงแต่ตอนนี้ตัดสินใจแต่งงานเข้าจวนแม่ทัพมาแล้ว ยังไม่สามารถจะหย่าขาดจากเขาได้ง่ายๆ คงต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ แต่ระหว่างรอเวลา ข้าจะปรับปรุงตนเองเสียใหม่ บำรุงตนเอง รักตนเองให้มากกว่านี้ ข้ารักตนเอง ข้าจึงต้องเป็นหญิงงามที่ดูแลตนเองได้ดีใช่หรือไม่ ”
วันแต่งงานของแม่ทัพไป๋เฟยหลง เขาที่ยังมึนๆจากการดื่มเหล้าอย่างหนักมาเมื่อคืนนี้ เพราะในอกใจของเขามันแสนจะอึดอัดเหลือเกิน เขาคิดว่าเขาเป็นบุรุษที่โชคร้ายยิ่งนัก เพิ่งพลาดรักจากคุณหนูเจียเหลียนฮวาน้องสาวของสหายสนิทที่เขาแอบมีใจให้นางมาหลายปี จนนางถอนหมั้นเขาก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งแต่เมื่อนางหวนกลับไปแต่งงานกับอดีตคู่หมั้นของนางเขาจึงช้ำรักจากนางเป็นครั้งที่สอง ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ได้รับสมรสพระราชทานกับองค์หญิงที่ตัวอ้วนใหญ่เหลือเกินตัวของนางใหญ่กว่าเขาเกือบสามเท่า แม่ทัพหนุ่มที่หล่อเหลาและรูปร่างสูงสง่าองอาจเช่นเขา กลับจะต้องมามีเมียที่ตัวอ้วนใหญ่เช่นนาง แม้จะมีศักดิ์สูงเป็นถึงองค์หญิงหนึ่งเดียวของราชวงศ์ แต่เขาก็มิได้สนใจในอำนาจ เพราะเขาก็แสวงหามันได้ด้วยตนเองอยู่แล้ว แต่เรื่องความรัก เขากลับไม่มีวาสนาเรื่องนี้เลย วันแต่งงานเขาไปรับเจ้าสาวที่ขึ้นเกี้ยวขนาดใหญ่กว่าเจ้าสาวทั่วไปเข้้าจวนมาด้วยใบหน้าเฉยชา ดวงตาก็ว่างเปล่าแทบจะไม่รู้สึกยินดียินร้าย เหล่าสหายก็จ้องมองเขาอย่างปลอบใจ แต่ก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้ เมื่อเกี้ยวเจ้าสาวแปดคนหามมาถึงหน้าจวนแม่ทัพ นางกำนัลที่ติดตามเจ้าหญิงร่างใหญ่ผู
องค์หญิงหลี่น่านั่งรอสามีตั้งแต่แม่สื่อพานางมา จนนางกินขนมและผลไม้รองท้องจนเสร็จและนั่งฟังเสียงแขกเหรื่อสนทนากันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะและเสียงบรรเลงพิณในงานเลี้ยง เสียงการดื่มอวยพรที่ดูครึกครื้นไม่น้อย เสียงหัวเราะอย่างครื้นเครงในงานเลี้ยง สองนางกำนัลที่แอบออกไปดูบรรยากาศด้านนอกกลับมาบอกว่าข้างนอกครึกครื้นเหลือเกิน นางขยับร่างกายไปมาด้วยความปวดเมื่อยเนื้อตัว แม้เปลี่ยนท่าทางการนั่งมาทุกท่าก็ยังไม่มีวี่แววของเจ้าบ่าวที่จะเข้ามาในห้องหอ นางนั่งรอบนเตียงวิวาห์โดยยังอยู่ในชุดที่เต็มยศของเจ้าสาว จนกระทั่งเสียงทุกอย่างด้านนอกค่อยๆเงียบลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งทุกอย่างเงียบสนิทลง ไม่มีแม้แต่เสียงบ่าวไพร่ที่กำลังช่วยกันเก็บข้าวของหลังจากงานเลี้ยงเสร็จสิ้นแล้ว ทุกอย่างในจวนแม่ทัพเงียบสนิทโดยสิ้นเชิง องค์หญิงหลีน่าหันไปมองสองนางกำนัลที่ง่วงนอนจนทนไม่ไหว นั่งหลับบนเก้าอี้กลมที่อยู่กลางห้องนั้น คนหนึ่งฟุบลงกับโต๊ะกลมนั้น อีกคนหนึ่งนั่งสัปหงกหัวโยกไปมาดูน่าเวทนา องค์หญิงหลี่น่าที่ทนต่อไปไม่ไหวจึงได้เรียกทั้งสองเบาๆ “ เหม่ยอี้เพ่ยอี้ มาช่วยข้าเปลี่ยนอาภรณ์ก่อน ข้าอยากจะอาบน้ำและเข้านอนแล้ว ปวดเม
สองนางกำนัลหันมามองหน้ากันแล้วเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ องค์หญิงอยากจะลดความอ้วนหรือเพคะ ทำไมเมื่อก่อนไม่เห็นจะสนใจเรื่องนี้เลย ” องค์หญิงหลีน่าหันมองสีหน้าของสองนางกำนัลที่มีท่าทางสงสัยในท่าทีของนางที่เปลี่ยนไปกระทันหันอย่างที่ไม่เคยมาก่อน “ ข้าอยากจะลดความอ้วนให้มีรูปร่างที่ผอมลงจะได้แต่งกายได้งดงามดังเช่นคุณหนูในห้องหออื่นๆที่ข้าเคยเห็น แต่มิได้ต้องการให้บุรุษใดพึงใจหรอกนะ ข้าทำเพื่อตัวข้าเองวันนี้ข้าเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ข้ามัวแต่พึงใจผู้อื่น อยากให้ผู้อื่นเป็นดังใจของข้า แต่ไม่เคยมองดูตนเองว่ามีสิ่งใดให้ผู้อื่นพึงใจได้้บ้าง แต่ข้ามิได้หมายถึงสามีในนามของข้าหรอกนะ เพราะข้าได้ตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าข้าจะยังรูปร่างอ้วนใหญ่ทำให้ไม่มีใครต้องการข้า หรือ ข้าจะงดงามยิ่งกว่านี้ีอีกมากมาย แต่ข้าก็จะไม่มีวันรักบุรุษผู้นี้อีก ข้าจะตัดใจจากเขาให้ได้ เพียงแต่ตอนนี้ตัดสินใจแต่งงานเข้าจวนแม่ทัพมาแล้ว ยังไม่สามารถจะหย่าขาดจากเขาได้ง่ายๆ คงต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ แต่ระหว่างรอเวลา ข้าจะปรับปรุงตนเองเสียใหม่ บำรุงตนเอง รักตนเองให้มากกว่านี้ ข้ารักตนเอง ข้าจึงต้องเป็นหญิงงามที่ดูแลตนเองได้ดีใช่หรือไม่ ”
“ อ้อ !! ลืมบอกไป ข้าคือหูหลินซวงหลานสาวแม่นมหู ที่เป็นแม่นมของท่านแม่ทัพมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ที่จริงข้าเองก็ควรจะได้แต่งงานกับเขาเพราะข้าปรนนิบัติดูแลท่านพี่มาหลายปีแล้ว แต่ในเมื่อมีหญิงที่เขามิได้พึงใจบังคับให้เขาจำต้องแต่งงานรับนางเป็นฮูหยินเอกเสียแล้วข้าคงต้องเสียสละเป็นฮูหยินรองกระมัง แต่น่าเสียดายที่นายของเจ้าคงจะเป็นฮูหยินเพียงแค่ตำแหน่งเท่านั้น หญิงที่สามีไม่ปรารถนา ไม่อยากจะร่วมหอ รูปร่างก็อ้วนใหญ่เช่นนั้นยังจะหลงไหลบุรุษจนบีบบังคับให้เขาจำต้องแต่งงานด้วยอีก ช่างหน้าไม่อายจริงๆ ท่านพี่ก็ออกจะหล่อเหลาปานนั้นท่าทางก็องอาจผึ่งผาย แต่จำต้องมีเมียอัปลักษณ์เช่นนี้ บุรุษใดจะทนได้กัน นายของเจ้ารู้หรือไม่ ท่านพี่ดื่มเหล้าเมามายมาหลายวันแล้ว เขาต้องทนทุกข์ที่จำต้องแต่งงานกับหญิงที่เขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบ แถมยังรังเกียจเสียด้วยซ้ำ ” หูหลินซวงเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงอย่างไม่ค่อยจะพอใจ “ วาจาสามหาวยิ่งนัก หญิงที่เจ้ากล้าด่าทอเป็นถึงองค์หญิงของแคว้นชิงแห่งนี้ หากข้านำคำพูดของเจ้าไปทูลฮองเฮาหัวของพวกเจ้ามีเท่าไหร่ก็คงจะไม่พอให้ตัดเป็นแน่ เป็นแค่หลานสาวแม่นมในจวนแม่ทัพ มาอาศัยเขาอยู่มิไ
นางผิดเองที่หลงรักเขาอย่างมากมายตั้งแต่เมื่อแรกเห็น นางไม่เคยคิดเลยว่าการบีบบังคับผู้อื่นให้รักตนเองนั้นมันจะนำความทุกข์มาให้ทั้งตัวของนางเองและบุรุษผู้นั้นด้วย แม้ตอนนี้นางจะเริ่มคิดได้แล้ว ว่าครั้งนี้นางอาจจะตัดสินใจผิดไป แต่เรื่องแต่งงานนี้เป็นเรื่องใหญ่ของราชวงศ์ นางรู้แล้วว่าเขารังเกียจนางมาก เมื่อตอนที่นางกำลังจะเดินมายังเรือนตะวันตก นางก็ยังแอบได้ยินสาวใช้ซุบซิบกันเบา ๆเรื่องที่แม่ทัพไป๋ที่เป็นคุณชายของจวนนี้มิได้ต้องการฮูหยินที่อัปลักษณ์และมีรูปร่างอ้วนใหญ่เช่นนี้ แต่จำใจเพราะเป็นสมรสพระราชทานและเมื่อตอนที่เขาได้รับราชโองการเขาแทบจะเป็นลมล้มลงด้วยซ้ำ ตอนที่สาวใช้ซุบซิบกันนั้น พวกเขาไม่เห็นว่านางหยุดยืนฟังพวกเขา และนางก็ไม่อยากให้ผู้ติดตามทั้งหลายมาได้ยินเข้าด้วย แต่ก็ดีแล้วที่นางได้ยินความในใจของพวกเขา นางจะได้รู้ว่าพวกเขาคิดกับนางเช่นไร และนางต้องขอบคุณสาวใช้ทั้งสองคนที่ซุบซิบกันให้นางได้ยิน เพราะเมื่อเจ้าบ่าวไม่มาเข้าหอนางจึงไม่ได้แปลกใจอันใดเพราะนางคิดไว้อยู่แล้ว ว่าถ้าเขารังเกียจนางมากถึงขนาดนั้น ก็คงจะไม่ยอมมาเข้าหออย่างแน่นอน องค์หญิงหลีน่าเทสุราลงจอกยกขึ้นดื่มช้าๆ
องค์หญิงหลี่น่านั่งรอสามีตั้งแต่แม่สื่อพานางมา จนนางกินขนมและผลไม้รองท้องจนเสร็จและนั่งฟังเสียงแขกเหรื่อสนทนากันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะและเสียงบรรเลงพิณในงานเลี้ยง เสียงการดื่มอวยพรที่ดูครึกครื้นไม่น้อย เสียงหัวเราะอย่างครื้นเครงในงานเลี้ยง สองนางกำนัลที่แอบออกไปดูบรรยากาศด้านนอกกลับมาบอกว่าข้างนอกครึกครื้นเหลือเกิน นางขยับร่างกายไปมาด้วยความปวดเมื่อยเนื้อตัว แม้เปลี่ยนท่าทางการนั่งมาทุกท่าก็ยังไม่มีวี่แววของเจ้าบ่าวที่จะเข้ามาในห้องหอ นางนั่งรอบนเตียงวิวาห์โดยยังอยู่ในชุดที่เต็มยศของเจ้าสาว จนกระทั่งเสียงทุกอย่างด้านนอกค่อยๆเงียบลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งทุกอย่างเงียบสนิทลง ไม่มีแม้แต่เสียงบ่าวไพร่ที่กำลังช่วยกันเก็บข้าวของหลังจากงานเลี้ยงเสร็จสิ้นแล้ว ทุกอย่างในจวนแม่ทัพเงียบสนิทโดยสิ้นเชิง องค์หญิงหลีน่าหันไปมองสองนางกำนัลที่ง่วงนอนจนทนไม่ไหว นั่งหลับบนเก้าอี้กลมที่อยู่กลางห้องนั้น คนหนึ่งฟุบลงกับโต๊ะกลมนั้น อีกคนหนึ่งนั่งสัปหงกหัวโยกไปมาดูน่าเวทนา องค์หญิงหลี่น่าที่ทนต่อไปไม่ไหวจึงได้เรียกทั้งสองเบาๆ “ เหม่ยอี้เพ่ยอี้ มาช่วยข้าเปลี่ยนอาภรณ์ก่อน ข้าอยากจะอาบน้ำและเข้านอนแล้ว ปวดเม
วันแต่งงานของแม่ทัพไป๋เฟยหลง เขาที่ยังมึนๆจากการดื่มเหล้าอย่างหนักมาเมื่อคืนนี้ เพราะในอกใจของเขามันแสนจะอึดอัดเหลือเกิน เขาคิดว่าเขาเป็นบุรุษที่โชคร้ายยิ่งนัก เพิ่งพลาดรักจากคุณหนูเจียเหลียนฮวาน้องสาวของสหายสนิทที่เขาแอบมีใจให้นางมาหลายปี จนนางถอนหมั้นเขาก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งแต่เมื่อนางหวนกลับไปแต่งงานกับอดีตคู่หมั้นของนางเขาจึงช้ำรักจากนางเป็นครั้งที่สอง ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ได้รับสมรสพระราชทานกับองค์หญิงที่ตัวอ้วนใหญ่เหลือเกินตัวของนางใหญ่กว่าเขาเกือบสามเท่า แม่ทัพหนุ่มที่หล่อเหลาและรูปร่างสูงสง่าองอาจเช่นเขา กลับจะต้องมามีเมียที่ตัวอ้วนใหญ่เช่นนาง แม้จะมีศักดิ์สูงเป็นถึงองค์หญิงหนึ่งเดียวของราชวงศ์ แต่เขาก็มิได้สนใจในอำนาจ เพราะเขาก็แสวงหามันได้ด้วยตนเองอยู่แล้ว แต่เรื่องความรัก เขากลับไม่มีวาสนาเรื่องนี้เลย วันแต่งงานเขาไปรับเจ้าสาวที่ขึ้นเกี้ยวขนาดใหญ่กว่าเจ้าสาวทั่วไปเข้้าจวนมาด้วยใบหน้าเฉยชา ดวงตาก็ว่างเปล่าแทบจะไม่รู้สึกยินดียินร้าย เหล่าสหายก็จ้องมองเขาอย่างปลอบใจ แต่ก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้ เมื่อเกี้ยวเจ้าสาวแปดคนหามมาถึงหน้าจวนแม่ทัพ นางกำนัลที่ติดตามเจ้าหญิงร่างใหญ่ผู