ไทเฮากำลังจะบอกว่าไม่ต้องแล้ว แต่เซียวหลันยวนก็เอ่ยขึ้นมา""ขนมไหมเงินหรือ? ข้ากินไปแล้วน่ะเขาพูดพลางบอกกับฟู่จาวหนิงว่า "เหลือไว้ให้เจ้าหลายชิ้นด้วย กลับไปจะอุ่นให้กิน แต่ว่า ข้าก็ให้ทางห้องเครื่องรีบทำให้มาบ้างแล้วนะ อีกด้วยตอนพวกเราออกจากวังก้เอาออกไปได้ พวกนั้นเป็นของอร่อยที่สุดของสาวชาววังเลย"ฟู่จาวหนิง:"..."นางนึกออกถึงถาดของว่างที่เขากอดออกไปก่อนเข้าร่วมประชุมเช้าที่แท้ของของไทเฮาก็อยู่ในนั้นด้วยเมื่อเป็นเช่นนี้ ในของว่างเหล่านั้น ก็น่าจะมีอาหารเช้าที่องค์จักรพรรดิและฮองเฮาชอบกินอยู่ด้วยสินะ?"อายวนชอบกินหรือ? เดี๋ยวข้าจะให้คนทำเพิ่มให้" ไทเฮาไม่ได้กิน แต่ก็ยังรู้สึกดีใจ"ไม่ต้องแล้ว"เซียวหลันยวนเอาฝ่ามือวางทาบเบาๆ บนท้องตัวเอง มองฟู่จาวหนิงอย่างสำนึกผิด "หนิงหนิงมียาช่วยย่อยไหม? ข้ากินในตำหนักจินหลวนจนอืดไปหมดแล้ว""พรวด"ฟู่จาวหนิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่คนที่กินจนอืดได้ในตำหนักจินหลวน น่าจะมีแค่เขาคนเดียวกระมัง?"มีส้ม ยังมีส้มเหลืออยู่หลายกลีบเลย ท่านกินเถอะ" นางบอกหมัวมัวจินรีบนำส้มเข้ามา "พระชายานำมาจากฮองเฮาทางนั้น""ส้มหนิงเถียน? หนิงหนิงยังไปแย่
ฟู่จาวหนิงแน่นอนว่าไม่มีการงอแงไร้เหตุผลแบบนี้แน่นอน เพื่อจะกินส้มถึงกับต้องไปขนมานับพันลี้"ไม่ต้องหรอก หลังจากนี้ถ้ามีโอกาส ข้าจะไปกินด้วยตนเอง นั่นถึงจะเรียกว่าสดใหม่ไง"ผลคือพอนางพูดเช่นนี้ไทเฮากับหมัวมัวจินก็ยิ้มขึ้นมานี่ก็เก่งกาจเหลือเกิน ยังคิดจะเดินทางนับพันลี้ไปแดนใต้เพื่อกินส้มอีก แม้ว่านางน่าจะพูดล้อเล่นก็ตามแต่ว่านางก็ไม่ได้ทำให้เซียวหลันยวนต้องลำบาก ทำให้ไทเฮาชื่นชมขึ้นมาในใจนางมองเซียวหลันยวน เอาแต่รู้สึกว่าน่าเสียดายไม่รู้ว่าสุขภาพของเขาจะดีขึ้นไหม ยังจะร่วมห้องกับฟู่จาวหนิงได้หรือไม่น่าจะมีลูกได้อยู่กระมัง?ทายาทนั้นจำเป็นนะนางเมื่อคืนให้หมัวมัวจินสังเกตฟู่จาวหนิงอย่างละเอียด และก็มองอกว่านางยังคงบริสุทธิ์อยู่จริงๆ ท่าทางเดินเหินยังดูเป็นหญิงสาวอ่อนช้อยอยู่หมัวมัวจินอยู่ในวังมากว่าครึ่งชีวิต สายตาในด้านนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมอยู่ พอมองอย่างละเอียดก็มองออกดังนั้นไทเฮาเองก็เชื่อมั่นในคำพูดของเซียวหลันยวนอยู่พวกเขาทั้งสองคนยังไม่ได้ร่วมห้องกันก็น่าเสียดายอยู่ แต่ไทเฮาก็มีความรู้สึกดีดีกับฟู่จาวหนิงขึ้นเป็นกองอย่างตัวตนของฟู่จาวหนิง พ่อแม่กับเซียวหลันยวน
อ๋องเจวี้ยนพูดตรงอย่างไม่อ้อมค้อมฟู่จาวหนิงยื่นมือไปจิ้มเอวเขาแล้วบิด ตนเองรู้ว่าไทเฮาอันที่จริงคอยปกป้องเขามาตลอด ฟู่จาวหนิงก็อดรู้สึกดีกับไทเฮาขึ้นมาไม่ได้เลยยิ่งไปกว่านั้นไทเฮายังไม่ได้เย็นชาจนไม่น่าเข้าใกล้แบบในอดีตแล้ว สีหน้าเองก็ดูเปี่ยมเมตตาขึ้นอย่างน้อยตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นนะอายุมากแล้ว ดูแล้วก็เหมือนแค่หญิงชราคนหนึ่ง ฟู่จาวหนิงกังวลที่เซียวหลันยวนพูดอย่างเย็นชาไร้ความปราณีเช่นนี้จะทำให้นางเสียใจในที่สุดก็ยังใจอ่อนลงมาสินะไทเฮากลับมีท่าทีไม่สนใจ ยื่นมือไปทางหมัวมัวจิน"เอามา จาวหนิงเป็นหมอเทวดาเลยนะ แล้วยังเป็นศิษย์ปิดด่านของผู้อาวุโสจี้ด้วยยาที่นางสกัด ข้่าจไม่เชื่อมั่นได้อย่างไรกัน?"นางฟู่จาวหนิงอีกครัง "ตอนนี้กินเลยได้ไหม?"ฟู่จาวหนิงพยักหน้าไทเฮาวางยาบำรุงหัวใจเข้าไปในปาก เคี้ยวช้าๆนางดวงตาเป็นประกาย ยังเอ่ยกับพูดฟู่จาวหนิงอีกว่า "แล้วยังรสชาติดีอีกด้วย? ทำไมเคี้ยวแล้วมีรสเหมือนลูกกวาดงาดำกัน?"ฟู่จาวหนิงเกือบจะหัวเราะออกมา"ก็วัตถุดิบยานั่นล่ะ แต่เพราะต้องข่มรสขมของยาลง จึงใส่น้ำผึ้งเข้าไปนิดหน่อย แต่ปริมาณก็น้อยมาก ทำไมถึงยังบอกว่าอร่อยกัน?"แต่ว่านาง
"ข้าจะให้คนไปตรวจสอบ สิ่งนี้ให้ข้านำไปด้วย ก่อนหน้าที่จะได้ข่าวจากข้าอย่าเพิ่งไปพบนาง บอกกับภายนอกไปว่าร่างกายไม่สบายก็พอ ปฏิเสธเข้าพบอย่างมีมารยาท ส่วนรายการยาข้าจะนำไป อีกเดียวจะนำยาส่งเข้ามาให้"เซียวหลันยวนยื่นมือออกไปทางหมัวมัวจิน พูดไม่กี่คำก็ตัดสินใจออกมาเรียบร้อยหมัวมัวจินมองไทเฮา ไทเฮาก็พยักหน้าให้"เอารายการยาให้อายวนไปเถอะ"นี่เป็นสิ่งที่ฟู่จาวหนิงเขียน เขายังต้องกลัวอะไรอีก?"ข้าจะทำตามที่เจ้าบอก รอยาของเจ้าอยู่ในวัง""อืม"หมัวมัวจินไปส่งพวกเขาแทนไทเฮายืนอยู่นอกประตูมองแผ่นหลังของพวกเขาจากไปอ๋องเจวี้ยนยังคงนั่งอยู่บนเกี้ยวเบา พระชายาอ๋องเจวี้ยนเดินตามอยู่ข้างๆ บางครั้งก็หันหน้าไปพูดกับเขาฉากนี้ดูแล้วกลมกลืนดีเหลือเกินนางหมุนตัวกลับเข้าตำหนัก พอเห็นว่าไทเฮายังคงคิดอะไรยิ้มๆ อยู่ อารมณ์เหมือนจะดีขึ้นบ้างแล้ว"ไทเฮาคงเห็นว่าอ๋องเจวี้ยนเริ่มเป็นห่วงท่านแล้วใช่ไหม ดังนั้นจึงดีใจเช่นนี้?" หมัวมัวจินถามนางเองก็ดีใจตามขึ้นมาด้วยอ๋องเจวี้ยนเอารายการยาไป รู้สึกว่าไทเฮาตอนนี้มีคนที่ใช้การได้อยู่ไม่มาก การจะจัดยาในวังก็คงไม่สะดวกนัก ถ้าหากรายการยารั่วไหลออกไป เป็น
องค์ชายคนไหนบ้างที่ไม่อยากเป็นองค์จักรพรรดิ?"ก็ยังมีข้อยกเว้นบ้าง อย่างข้านี่ไง"เซียวหลันยวนอันที่จริงตอนยังเด็กก็พูดกับองค์จักรพรรดิไปแล้วหลายครั้ง ว่าเขาไม่สนใจกับตำแหน่งนั้น แต่องค์จักรพรรดิก็ไม่เชื่อพูดได้ว่า ไม่มีใครเชื่อเลยดีกว่า"ตอนยังเด็กข้าไม่มีความทรงจำดีดีในวังเลย วังจักรพรรดิไม่ใช่บ้านของข้า กระทั่งจวนอ๋องเจวี้ยนเองข้าก็ใช้เวลาตั้งนานกว่าจะมีความรู้สึกร่วมกันกับมัน"รถม้าแล่นออก ห่างจากวังจักรพรรดิขึ้นเรื่อยๆ ฟู่จาวหนิงเองก็เห็นเซียวหลันยวนผ่อนคลายลงมาหน่อยจริงๆ"วันนี้ตอนเช้าในโถงตำหนักองค์จักรพรรดิไม่ได้ถามเรื่องเขาอวี้เหิงหรือ?" ฟู่จาวหนิงอยากรู้ขึ้นมา"ข้าบอกว่าเป็นมรดกของเสด็จแม่ข้า"เซียวหลันยวนเล่าเรื่องในโถงราชสำนักคร่าวๆ ให้กับฟู่จาวหนิง"เช่นนั้นหลังจากกลับไปไม่ใช่ว่าต้องเลือกของส่วนหนึ่งออกมาหรอกหรือ? องค์จักรพรรดิจะต้องส่งคนไปดูแน่ ท่านจะให้เขารู้เรื่องตงฉิงไหม?""ข้ารู้สึกว่า ตงฉิงจะช้าเร็วก็ต้องถูกยกออกมา""เส้นด้ายในเครื่องประดับหน้าผากของไทเฮาฉาบพิษไว้ ดูคล้ายคลึงกับพิษที่ท่านโดนมาเหมือนกัน ในเมืองหลวงจะต้องยังมีขั้วอำนาจลัทธิเทพทำลายล้างอยู่แ
ฟู่จาวหนิงพอจัดการเรื่องของผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยเรียบร้อย ก็ไปหาเศรษฐีฟางให้หาคนคุ้มครองเรือนมาเพิ่มอีกหน่อย จากนั้นก็ไปหาคนไข้ที่นางเคยรักษาแต่ละคนเพื่อตรวจอาการซ้ำให้ครั้งหนึ่ง และท้ายสุดก็ออกจากเมืองหลวง ตรงไปยังต้าชื่อพวกของไป๋หู่ก็ร้อนรนมาก กลัวว่าเสิ่นเสวียนจะรอจนร้อนรุ่มภายใต้การช่วยเหลือของเซียวหลันยวน พวกเขาซื้อม้าดีมากลุ่มหนึ่ง ยิ่งไปกว่นั้นก่อนหน้านี้ยังส่งข่าวออกไปเจรจาเรียบร้อย คำนวณเวลาที่พวกเขาจะผ่านให้เตรียมม้าให้ดี พอไปถึงจุดก็เปลี่ยนม้าได้ทันทีไม่เช่นนั้นพวกเขาที่ต้องเร่งระยะทางเช่นนี้ อากาศก็ร้อน ม้าจะรับไม่ไหวเอา จะวิ่งไม่ถึงต้าชื่อเอาฟู่จาวหนิงขอยืมตัวสืออีสือซานกับเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนรับปากทันที"สืออีสือซานพวกเขารู้วิธีส่งจดหมายให้ข้าในตอนท้าย ถ้าหากมีเรื่องอะไรให้ส่งข่าวมาหาข้าทันที อย่าคิดว่าข้าจะสามารถช่วยได้หรือไม่ เข้าใจไหม?"เซียวหลันยวนนั่งอยู่ในรถม้า ตอนส่งนางออกประตูเมืองก็กำชับไว้หลายคำ"ได้""ทางที่ดีคือเขียนจดหมายหาข้าทุกๆ สองวัน""ถึงตอนนั้นข้าต้องรีบเร่งเดินทางนะ จะเอาเวลาที่ไหนมาเขียนจดหมายกัน" ฟู่จาวหนิงหมดคำจะพูด นางยังต้องรีบเ
"พระชายาอ๋องเจวี้ยน องค์จักรพรรดิมีเรื่องด่วน โปรดหยุดก่อน!"เซียวหลันยวนที่เตรียมจะปลดม่านลง พอได้ยินคำพูดนี้ก็ไม่เคลื่อนไหวแล้วมาอีกแล้วหรือ? องค์จักรพรรดิจะมาไม้ไหนอีกล่ะนี่?คนที่เข้ามาพอถึงหน้ารถม้าก็กระโดดลง รีบเดินเข้ามาหา ยื่นหัวเข้ามามองในรถม้า"อ๋องเจวี้ยน ได้ยินว่าพระชายาจะออกจากเมืองหลวงวันนี้หรือ?"คนผู้นี้คือหัวหน้าคนหนึ่งของราชองครักษ์ ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยจะมีตัวตนเท่าไรนัก"เกี่ยวอะไรกับเจ้า?" เซียวหลันยวนถามเสียงเรียบเฉย เขามองไปยังอีกคนหนึ่งที่กระโดดลงจากรถม้าแล้วเดินเข้ามา คนผู้นี้เป็นคนจากหนานฉือ น่าจะเป็นทูตจากหนานฉือเขาพูดภาษาแคว้นเจาไม่ได้ หลังจากเดินเข้ามาก็ทำได้แค่ยืนอยู่ข้างๆ"อ๋องเจวี้ยน องค์จักรพรรดิเชิญพระชายาอ๋องเจวี้ยนเข้าวัง โปรดให้พระชายากลับมาที่เมืองก่อน...""องค์จักรพรรดิมาหาพระชายาของข้า แต่ไม่ใช่ข้าหรือ?" เซียวหลันยวนกลับดูสนใจขึ้นมา จะหาฟู่จาวหนิงไปทำไมกัน?"ถูกต้อง ต้องการพบพระชายา""โอ้ เช่นนั้นก็ช้าไปแล้ว พระชายาเพิ่งจะออกไป" เซียวหลันยวนปล่อยม่านรถลงองค์จักรพรรดิน่าจะไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะออกเดินทาง ตอนนี้จึงเพิ่งเข้ามาขวางทาง น่าเ
เพียงแต่เหตุผลจะดีแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ ฟู่จาวหนิงออกไปแล้วต่อให้ตอนนี้นางยังอยู่ในเมืองหลวง แล้วถูกขวางไว้จริงๆ เซียวหลันยวนก็จะหาวิธีให้นางออกไปเองให้ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่เพื่อไปงานเลี้ยงกับองค์หญิงหนานฉือ แล้วยังต้องคอยช่วยนางแปลให้กับคนตั้งมากมาย นั่นมันยุ่งแค่ไหนกัน?ยิ่งไปกว่านั้นในนี้อาจจะไปสร้างความยุ่งยากขึ้นไม่น้อยอีกด้วยพอคิดถึงนางที่ถูกกลุ่มคนล้อมไว้ตรงกลาง พูดคำนี้ทีคำนั้นที ทั้งหมดล้วนต้องรอให้ฟู่จาวหนิงแปล แล้วก็ตอบกลับอีกครั้ง แล้วยังต้องมาคอยถูกสงสัยว่านางแปลมั่วซั่วหรือเปล่าอีก มีแก้ไขความหมายอะไรบ้างไหม เซียวหลันยวนแค่คิดก็เหนื่อยใจแล้วไหนจะเรื่องที่ย่าของนางยังรอนางไปรักษาอยู่อีกล่ะ นั่นอาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่ฟู่จาวหนิงจะได้รับการยอมรับจากญาติภายนอกอีกด้วย แล้วนางจะมาอยู่ที่นี่ทำไมกัน?"เช่นนั้นก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ยาของข้าเองก็สำคัญมาก ถ้าหากข้าขาดยาไป แล้วสองขากับใบหน้านี้ไม่ดีขึ้น เจ้ารับผิดชอบได้ไหม?"หัวหน้าองครักษ์อยากจะร้องไห้แล้วเขาจะไปรับผิดชอบอย่างไรไหว? จะว่าไป ทำไมต้องมาให้เขารับผิดชอบล่ะ?"อ๋องเจวี้ยน นี่เป็นความต้องการของจักรพรรดิ...""เจ้าจ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ