ตอนที่พวกหงจั๋วรินชาเข้ามา ฟู่จาวหนิงก็เก็บเข็มกลับไปแล้ว"รสชาติดี"ฟู่จาวหนิงรีบยกชาดื่มลงไปอึกใหญ่ ผลคือน้ำชาลวก นางร้องซี๊ดแลบลิ้นออกมา จากนั้นจึงถลึงตาใส่เซียวหลันยวนเจ้านี่ทำเอาปากกับลิ้นนางเจ็บขนาดนี้เลย"พระชายา ไม่เป็นไรใช่ไหม?" หงจั๋วตกใจสะดุ้งโหยง "ชานี้ไม่ได้ร้อนขนาดนั้นนี่นา"อันที่จริงก็ไม่ใด้ลวกมาก แต่ลิ้นนางเดิมทีก็เจ็บอยู่หน่อยๆ แล้วถ้าไม่ใช่นางยืนหยัดจะฝังเข็ม เซียวหลันยวนคงกลืนนางไปแล้ว"ไม่เป็นไรไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงถลึงตาเหลือบมองเซียวหลันยวนผาดหนึ่ง นี่ไม่ใช่ต้องโทษเขาหรอกหรือ?หงจั๋วมองพระชายา จากนั้นก็มองท่านอ๋อง เม้มปากแอบหัวเราะแม้ท่านอ๋องกับพระชายาแต่งงานกันเหมือนละครฉากหนึ่ง แต่นางก็ไม่เคยเห็นสามีภรรยาคู่ไหนเหมือนกับพวกเขาเลยพระชายาแม้ว่าปกติจะไม่พักในจวนอ๋อง ตอนที่เข้ามายังเหมือนเป็นแขกคนหนึ่ง แต่นางทำไมถึงรู้สึกว่าไม่มีนายหญิงคนไหนที่จะเหมาะกับจวนอ๋องเจวี้ยนเท่านางแล้ว?ยิ่งไปกว่านั้น ท่านอ๋องก็เคยกำชับนางกับเฝิ่นซิง นางทั้งสองคนเป็นสาวใช้ให้แค่พระชายาเท่านั้น ตอนที่พระชายาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พวกนางสองคนก็ไม่ต้องทำเรื่องอื่น รับผิดชอบแค่ปัดกวาด
เทียนแดง กระโจมแดง ผ้าห่มแดง หมอนสีแดงก่อนหน้านี้ไม่ใช่เช่นนี้นี่!"พระชายา พักผ่อนไวไว ข้าน้อยขอตัวก่อน" เฝิ่นซิงกับหงจั๋วพอจัดการเรื่องเสร็จก็ถอนตัวออกไปทันที"เอ๋?"ฟู่จาวหนิงหมุนตัวคิดจะร้องเรียกพวกนาง แต่สองสาวใช้ก็วิ่งไวเสียยิ่งกว่ากระต่ายเซียวหลันยวนอาบน้ำเสร็จเดินเข้ามา พอเข้าประตูก็งงงันไป แต่เพียงไม่นานก็เก็บสีหน้าลงแต่ว่าฟู่จาวหนิงก็เห็นสีหน้างงงันของเขาเมื่อครู่นี้แล้ว "ข้าคิดว่าท่านจะมีงานอดิเรกเช่นนี้เสียอีก ช่วงสองเดือนก็เอาแต่จัดเรื่องเช่นนี้มาตลอด ตอนนี้ดูท่าว่าสองสาวใช้นั่นจะจัดแจงเองเสียแล้ว""ปีใหม่ แบบนี้ก็ไม่เลวนักหรอก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงไม่มีคำจะพูดต่อเลยเขาก็บอกอยู่ว่าแค่ปีใหม่ เช่นนั้นถ้านางยังจะคิดเล็กคิดน้อย มันจะไม่ใช่กลายเป็นว่านางคิดมาเกินไปหรือ?เซียวหลันยวนปลดเข็มขัดออกฟู่จาวหนิงเองก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง จึงถอดรองเท้าขึ้นเตียง ชิดตัวเข้าไปด้านในรอจนเซียวหลันยวนเป่าเทียนแล้วนอนลงข้างๆ นางก็หมุนตัวเข้าหาเขา แม้ว่าจะอยู่ในความมืดมองไม่เห็นหน้าตาเขา แต่ยังมีกลิ่นหอมสดชื่นจางๆ พันล้อมอยู่รอบตัวเขา และความรู้สึกคงอยู่ของตัวเขาก็รุนแ
"ดูท่าจะเป็นความผิดข้าเอง"พูดพลางก้มหน้าลงจิกไปที่ริมฝีปากนาง เสียงทุ้มต่ำ "เช่นนั้นข้านับตั้งแต่ตอนนี้ให้เริ่มจีบเจ้าหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้"ตอนนี้เจ้าลืมคำพูดของข้าที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว นับตั้งแต่ตอนนี้ พวกเราถือว่าเริ่มกันใหม่"เซียวหลันยวนพูดจบก็จิกลงไปบนริมฝีปากนางอีกครั้ง "รับปากไหม? พระชายาอ๋องเจวี้ยน?""ไม่รับปากหรือ?""ไม่รับปาก?"เซียวหลันยวนกดลงมา ประกบปากนางไว้จนมิด เสียงของเขาอู้อี้อยู่ระหว่างริมฝีปากไรฟัน "จะจูบเจ้าจนกว่าจะรับปากเลย"ในห้องร้อนขึ้นมาทันที ค่ำคืนนี้ดูหวานชื่นอ่อนโยนเป็นพิเศษวันต่อมา คนของจวนอ๋องเจวี้ยนรู้สึกว่าระหว่างท่านอ๋องกับพระชายาแตกต่างออกไปแล้วตอนที่ท่านอ๋องเรียกพระชายาว่า "หนิงหนิง" ก็ดูเป็นธรรมชาติมาก พระชายาเองก็ตอบรับอย่างเป็นธรรมชาติเช่นกันยิ่งไปกว่านั้นระหว่างพวกเขาทั้งสองคนยังเหมือนมีสีสันอะไรบางอย่างหลั่งไหลอย่างชัดเจน ดูแล้วหวานชื่นเหลือแสนผู้ดูแลอดทนอยู่นาน พอมาถึงช่วงค่ำก็ทนไม่ไหวแล้ว ไปรายงานกับเซียวหลันยวนเรื่องที่มีใครเข้ามาส่งของขวัญปีใหม่บ้าง จากนั้นก็รายงานถึงกลุ่มคนอาวุโสไหนบ้างที่จวนอ๋องเจวี้ยนต้
"เจ้าไสหัวออกไป" เซียวหลันยวนกวาดมองไปทางชิงอี"ข้าน้อยขอตัวก่อน!"ชิงอีเองก็รีบหนีไปเช่นกันจากนั้นจึงเจอเข้ากับผู้ดูแลที่ด้านนอก ทั้งสองคนล้วนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน"พวกเราใจร้อนไปเสียแล้ว""คิดง่ายเกินไป ท่านอ๋องถ้าไหวจริงๆ คงไม่ต้องไปพักฟื้นที่ยอดเขาโยวชิงตั้งหลายปีหรอก คนอื่นพอสิบเจ็ดสิบแปดก็มีทายาทกันสองสามคนแล้ว เขายี่สิบต้นๆ กลับยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลย" ชิงอีส่ายหัวผู้ดูแลเองก็ส่ายหัวตาม "เมื่อเป็นเช่นนี้ พระชายาเองก็ดีแสนดี นางไม่รังเกียจท่านอ๋องของพวกเราเลย""ใช่ใช่ใช่ พระชายาดีที่หนึ่งจริงๆ"ไม่ห่างไปนัก ฟู่จาวหนิงพาหงจั๋วกับเฝิ่นซิงยกของว่างเข้ามา ได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสองอย่างชัดถ้อยชัดคำหงจั๋วกับเฝิ่นซิงล้วนก้มหน้าแดงลงไป จากนั้นก็แอบกันแลกเปลี่ยนสายตาพวกนางเองก็คิดว่าเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องกับพระชายาน่าจะลงเอยกันเรียบร้อย คิดไม่ถึงเลยฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกนางเองก็คิดไม่ถึงว่าจะมาได้ยินบทสนทนาโจ๋งครึ่มเช่นนี้เซียวหลันยวนพูดอะไรกับพวกเขากันแน่?"อะแฮ่ม!"พอได้ยินผู้ดูแลกับชิงอียังจะคุยกันต่อ ฟู่จาวหนิงจึงกระแอมหนักๆ ขึ้นเสียงหนึ่ง"อ๋า พระชายา?!"ผู้ดูแลรีบเผ
ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนหลังจากพูดหัวข้อนี้จนชัดเจน ทั้งสองคนก็ดูเป็นตัวของตัวเองขึ้นมาแล้วถึงอย่างไร ก็ถือเป็นช่วงมีความรักก็แล้วกัน"เวลาที่จะไปเขาอวี้เหิงกำหนดไว้หลังเทศกาลหยวนเซียว เจ้ายังสามารถฉลองเทศกาลหยวนเซียวกับท่านปู่ได้ด้วย ถึงตอนนั้นร่างกายของเขาก็น่าจะดีขึ้นมากแล้วกระมัง?""เอาล่ะ อีกไม่กี่วันข้าค่อยไป""แล้วก็" เซียวหลันยวนกวักมือกับนาง "มานี่หน่อย ไป๋ซวงกับจินเสวี่ยค้นคว้าให้แล้ว พลิกดูข้อมูลในปีนั้นมากกมาย หาขอบเขตออกมา หญิงสาวคนนั้นอาจจะเป็นคนจากตระกูลเหล่านี้""ข้าขอดูหน่อย"ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามาทันที ก็เห็นกระดาษที่มีทั้งเขียนทั้งวาด บนกระดาษทุกใบวาดหญิงสาวไว้หลายคน วาดเครื่ององค์เสื้อผ้าของพวกนางออกมาจนหมด ข้างๆ ยังมีอธิบายไว้ด้วย ว่านี่เป็นของตระกูลไหน เครื่องประดับชุดนี้น่าจะเป็นคนแบบไหนสวมวาดไว้ดีมาก"พวกนางยังมีฝีมือด้านนี้ด้วยหรือ?"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกเกินคาดเดิมทีนางรู้สึกว่าเรื่องนี้ใช้เวลาตั้งสองเดือน ไป๋ซวงกับจินเสวี่ยจงใจถ่วงเวลานางหรือเปล่า ตอนนี้เห็นสิ่งที่พวกนางส่งเข้ามา นางกลับรู้สึกว่าเข้าใจพวกนางผิดไปเสียแล้ว"ตอนอยู่ที่ยอดเขาโยวชิง ข
ยิ่งไปกว่านั้นสีหน้าก็ดีขึ้นมากแล้ว"วันนี้ตอนเช้าพวกเรายังพูดถึงท่านอยู่เลย" ท่านเฟิงจวินกุมมือฟู่จาวหนิง "คิดถึงท่านมาตั้งหลายวันแล้วคิดว่าท่านน่าจะมา จึงเหลือของอร่อยเอาไว้ให้ท่านด้วย ภรรยาผู้เฒ่าหกเอากลับมาจากบ้านฝ่ายหญิงที่เจียงหนาน เดิมทีคิดจะส่งไปให้ท่าน แต่ลู่ทงเจ้าเด็กนั่นเมื่อวานนี้เข้ามา บอกว่าท่านไม่รู้อยู่ที่จวนตระกูลฟู่หรือจวนอ๋อง"พอเห็นท่านเฟิงจวินยิ้มแบบอธิบายลำบาก ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าพวกเขาน่าจะคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซียวหลันยวนดูไม่ค่อยชัดเจน ดังนั้นจึงไม่กล้าพูดออกมาตรงๆพระชายาที่หลังจากอภิเษกแต่ก็เอาแต่อยู่ที่บ้านฝ่ายหญิง มีใครเคยเห็นบ้าง?ทั้งเมืองหลวงกำลังวิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์ของนางกับอ๋องเจวี้ยนว่าเป็นอย่างไรกันแน่"ข้าก่อนหน้านี้อยู่แต่ในบ้านกับท่านปู่ ท่านก่อนหน้านี้สุขภาพไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงอยู่ที่บ้านคอยดูแลรักษาเขา สองวันนี้ก็เพิ่งไปที่จวนฟู่"พอเห็นฟู่จาวหนิงตอบกลับอย่างไร้กังวล ท่านเฟิงจวินก็ผ่อนลมหายใจโล่ง"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านเองก็อย่าโทษคนแก่อย่างข้าที่ยุ่งมากนักเลย ตอนนี้เห็นท่านเป็นเช่นนี้ กับอ๋องเจวี้ยนน่าจะคืบหน้ากันบ้างแล
เซี่ยซื่อกับหลินอันห่าวกำลังกวาดหิมะอยู่ที่ลานถึงแม้ตอนนี้คนคุ้มครองเรือนกับคนใช้ในบ้านตระกูลฟู่จะมีอยู่ไม่น้อย แต่นางก็อยากจะทำงานบ้าง และจะนำอันห่าวให้ทำตัวขยันขึ้นมาหน่อย เช่นนี้ที่พักอยู่ในเรือนตระกูลฟู่นางจึงจะไม่รู้สึกประหม่ายิ่งไปกว่านั้นถ้าจะมองบ้านตระกูลฟู่เป็นบ้านของตนเอง เช่นนั้นก็ต้องขยันหน่อยจงเจี้ยนดีขึ้นมากแล้ว และออกมาตากแดดอยู่บ่อยๆคนอื่นๆ ล้วนวุ่นงานของตนเอง ช่วงนี้ลุงจงพาพวกเขาตรวจสอบบ้านตระกูลฟู่ทั้งในทั้งนอกไปหลายรอบ จุดที่ต้องซ่อมก็ซ่อมเสีย ควรเสริมให้แข็งแกร่งก็เสริมไปแล้ว และยังมีบางส่วนต้องทำความสะอาดออกมา ตระเตรียมช่วงฤดุใบไม้ผลิมาถึงจะปลูกดอกไม้กับต้นผลไม้เสียใหม่บ้านตระกูลฟู่ตอนนี้เริ่มกลับมาดูเคร่งขรึมยิ่งใหญ่อีกครั้งบ้างแล้วหลังจากฮู่โม่จากไป เศรษฐีฟางก็ช่วยฟู่จาวหนิงหาคนคุ้มครองเรือนมาอีกสี่คน ฟางซือฉิงช่วงก่อนปีใหม่ก็ยังมาพักอยู่หลายวันเฉินซานตอนที่ไม่ได้ตามฟู่จาวหนิงออกไปก็อยู่ด้วยกันกับคนคุ้มครองเรือนเหล่านั้น รบเร้าให้สืออีสือซานสอนวิชาต่อสู้ให้พวกเขาสืออีกับสือซานเองก็ยินดีสอนพวกเขา คนเหล่านี้หลังจากนี้ล้วนเป็นคนคุ้มครองเรือนบ้านฝ่ายห
"ทำไมจะเป็นไปไม่ได้? เมื่อคืนนี้เพิ่งได้รับรายงานด่วนจากเมืองหู!"นายท่านคนนั้นมองเฮ่อเหลียนเฟยสายตาเย็นชา หัวเราะเย็นเยียบออกมาเมื่อคืนได้รับรับงานด่วนจากเมืองหู วันนี้ในวังก็ออกคำสั่งให้จับคนเรียบร้อยสืออีพวกเขาเองก็เข้าใจขึ้นมา ในวังจะต้องรู้ตัวตนของเฮ่อเหลียนเฟยนานแล้ว พี่น้องจ้าวเฉินจ้าวหรูก่อนหน้านี้จะต้องนำไปบอกฮองเฮาแน่แต่ติดที่อ๋องเจวี้ยน ฮองเฮาจึงอดทนไม่ยอมลงมือ ตอนนี้พอสบโอกาส ก็ลงมือทันทีแม้แต่วันเดียวก็ไม่ยอมรอเมื่อเป็นเช่นนี้ เมืองหูจะต้องส่งรายงานด่วนเข้ามาจริงแน่ แต่เนื้อหาภายในเป็นอย่างไร พวกเขาเองก็ไม่อาจล่วงรู้"เรื่องนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบชัดเจน จะว่าไป ต่อให้ราชาเฮ่อเหลียนจะทำเรื่องอะไรก็ตาม ก็คงไม่ถึงกับเป็นภัยต่อทั้งเผ่า และเด็กคนนี้ก็มาที่เมืองหลวงนานแล้ว เพียงพอที่จะอธิบายว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา" สือซานเอ่ยขึ้นผู้เฒ่าฟู่รีบเสริมเข้ามาประโยคหนึ่ง "ต่อให้เขายังไม่ออกไป เขาเองก็เป็นแค่เด็กอายุสิบสองสิบสาม เขาจะไปรู้อะไรได้? เรื่องนี้เป็นเรื่องของพวกผู้ใหญ่ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา""อะไรคือไม่เกี่ยวข้อง? นี่เป็นความผิดฐานก่อกบฎ! โทษนี้เดิมก็เป็
พระชายาเยว่รู้สึกว่า แม่นมเยว่อดทนอยู่ในวังมายี่สิบปี คงวางแผนงานใหญ่อะไรอยู่นางถึงแม้จะเคยเห็นฝีมือแม่นมเยว่มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าแม่นมเยว่เองก็ไม่ได้มีฝีมือมากขนาดนั้น ถ้าหากนางร้ายกาจจริง จำเป็นต้องมาซุ่มอยู่ในวังหลวงยี่สิบปี แต่ก็ยังทำเรื่องไม่เสร็จแบบนี้หรือ?แม่นมเยว่น่าจะเป็นยอดฝืมือในการใช้ยา ยิ่งไปกว่านั้นยังยอดเยี่ยมในด้านการสกัดยาชนิดนั้น ยาที่ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจเท่าไร ถึงอย่างไรก็ทำให้แค่ผู้ชายมีความสุขล่องลอยได้มากเท่านั้น ทำเรื่องใหญ่โตอะไรให้สำเร็จไม่ได้ตอนนี้ นางได้รับความโปรดปรานจากองค์จักรพรรดิแล้ว ยังต้องคอยฟังแม่นมเยว่อยู่อีกหรือ?แต่ถ้าแม่นมเยว่ก็มีวิธีการที่จะให้องค์จักรพรรดิรับมือกับอ๋องเจวี้ยนจริงล่ะ?จะว่าไป ยาชนิดนั้นของแม่นมเยว่ ถ้าหากใช้กับอ๋องเจวี้ยน ไม่รู้ว่าจะมีประสิทธิผลไหมชั่วขณะหนึ่ง พระชายาเยว่คิดไปร้อยแปดจากนั้นนางก็ไปที่ครัวเล็ก ลงมือทำของว่างขึ้นมาถาดหนึ่ง เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งเนื้อแต่งตัวอย่างประณีต ยกของว่างเข้าไปในห้องหนังสือหลวงองค์จักรพรรดิเพิ่งฟังรายงานลับจบเขาให้คนจับตาดูคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของคนหลายคนในเมืองหลวง
"จุ๊ๆ เรื่องนี้..." พระชายาเยว่คิดๆ ยังไม่รู้จะจัดการอย่างไรก่อนดีชั่วคราว"เจ้ากลับไปอยู่ข้างๆ เฉินฮ่าวปิงก่อนแล้วกัน คอยจับตาดูนางไว้ มีเรื่องอะไรก็มาบอกกับข้า" พระชายาเยว่รู้สึกว่าตอนนี้ใช้งานชิวอวิ๋นไปก่อนแล้วกัน ถึงอย่างไรนางก็ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว"่เจ้าค่ะ"รอจนชิวอวิ๋นออกไป พระชายาเยว่ก็เรียกคนเข้ามาคนคนนี้ดูแล้วปกติดี แต่ว่าการเดินเหินในวังนั้นไม่ถูกใครสังเกตหรือสนใจเลยเป็นแม่นมที่หน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง"แม่นมเยว่ เมื่อครู่เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม?"แม่นมเยว่คนนี้ก้มหน้าต่ำเล็กน้อย เอ่ยขึ้นน้ำเสียงราบเรียบ"ได้ยินแล้วพะย่ะค่ะ""เรื่องนี้ ควรจะเผยกับองค์จักรพรรดิไหม?""ได้พะย่ะค่ะ""แต่ถ้าองค์จักรพรรดิรู้ อาจจะกริ้วอย่างรุนแรงได้ อ๋องฉยงที่มีความคิดไม่ดีกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ถ้าลือออกไปจะไม่ดีกับราชวงศ์""เรื่องนี้มีประโยชน์กับการที่พวกเราจะสืบค้นระดับความอดทนของจักรพรรดิต่ออ๋องฉยงได้ว่าอยู่ที่ไหน เพราะอะไรอ๋องฉยงจึงยังอยู่ในเมืองหลวง เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบให้ชัดเจน""เนื้อหาการคุยกันของอ๋องฉยงกับองค์จักรพรรดิทำไมจึงเปิดเผยไม่ได้" พระชายาเยว่ถอนหายใจ"ดังนั้น
"อะไรนะ?!"พระชายาเยว่พอได้ยินประโยคนั้นของชิวอวิ๋น ทิ้งมารยาทอะไรไปเกือบหมดจนแทบกระโจนขึ้นมา"เจ้าอย่ามาพูดมั่วซั่วนะ! ถ้าให้คนอื่นได้ยินข้าเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้!"อันที่จริงนางเองก็ไม่อยากได้ชิวอวิ๋นแล้ว ดูแล้วเหมือนทำเรื่องอะไรก็ไม่สำเร็จ ไร้ประโยชน์สิ้นดีแต่ว่าตอนนี้พอได้ยินชิวอวิ๋นพูดประโยคนี้ออกมา ก็ทำเอานางลืมเรื่องที่จะโยนชิวอวิ๋นทิ้งไปทันที"เป็นเรื่องจริง พระชายา เรื่องนี้ถ้าไม่ได้ยินเองกับหู ข้าน้อยจะกล้าแต่งขึ้นมาได้อย่างไรกัน?" ชิวอวิ๋นรีบพูด"อ๋องฉยงชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนรึ?""พะย่ะค่ะ ตอนที่ออกมาจากวังราชนิเวศน์ ข้าไปเจอที่หน้าประตูใหญ่"พระชายาเยว่คิดถึงใบหน้า รูปร่างของฟู่จาวหนิง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อ"ได้ยินว่าอ๋องฉยงเป็นพวกชื่นชอบสาวงาม ไม่เช่นนั้นพระชายาอ๋องฉยงคงไม่คุมเขาไว้อย่างเข้มงวด ราวกับอยู่ในคุกแน่นอน"เพราะพอหย่อนยาน ไม่ทันระวังหน่อย อ๋องฉยงก็อาจจะไปหลับนอนกับสาวสวยคนไหนแล้วก็คอยเลี้ยงไว้ด้านนอกแต่พระชายาอ๋องฉยงเข้มงวดเสียขนาดนั้นแล้ว อ๋องฉยงก็ยังมีอวิ๋นจูกับเฉินฮ่าวปิงลูกนอกสมรสสองคนนี้ได้ที่โตแล้วมีอยู่สองคน แล้วที่ยังไม่โตล่ะ? อธิบายได้ว่าอ๋อง
"ข้าต้องการวัตถุดิบยาเหล่านี้เดิมทีก็จะให้นางส่งไปที่เมืองเจ้อ แล้วนางปฏิเสธเอง เดิมทีนี่เป็นความคิดของข้า! ท่านบอกว่าข้ารับมือไม่ไหว นางเองก็ไม่ใช่ว่าพึ่งพาคนอื่นหรือ ก็แค่เพราะนางแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนที่มีอำนาจ! ท่านให้นางเอาอ๋องเจวี้ยนให้ข้าสิ! ถ้าหากข้าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ข้าเองยังทำได้ดีกว่านางเสียอีก!"ต่งฮ่วนจือถูกเสียงแหลมของนางแผดใส่จนปวดหูไปหมดแล้วเขามองอย่างตกตะลึงไปทางเฉินฮ่าวปิง ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่านางเป็นคนแบบนี้"เจ้าคิดว่าที่ศิษย์น้องหญิงมีความสามารถขนาดนี้ เป็นเพราะแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนหรือไรกัน?""แล้วไม่ใช่หรือ? นางก็แค่พึ่งพาอ๋องเจวี้ยนเหมือนกัน ด้านหลังมีต้นไม้ใหญ่ให้พักพิงร่มเย็น! ถ้าหากไม่ใช่อ๋องเจวี้ยน ตอนนั้นที่นางถอนหมั้นกับรัฐทายาทเซียวไปก็คงจะเอาตัวไม่รอดแล้ว ต่อมานางจะได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์เรียนหมอจนเข้าพันธมิตรโอสถได้อย่างไรกัน?!"ต่งฮ่วนจือมองนางลึกๆ ส่ายหัวถอนหายใจ"บนโลกนี้ไม่มีรัฐทายาทเซียวอีกแล้ว"ขนาดรัฐทายาทเซียวไม่อยู่แล้ว ก็ยังไม่รู้หรือ?"ช่างเถอะ วันนี้เจ้าเป็นท่านหญิงไปแล้ว ข้าก็แค่ประชาชนธรรมดา ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ขอตัวแค่นี้
พอเห็นสีหน้าเฉินฮ่าวปิง ใจของต่งฮ่วนจือก็เย็นลงมาทันทีทั้งที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟู่จาวหนิงแล้วแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ เฉินฮ่าวปิงก็ยังใช้ประโยชน์จากเขา คิดจะให้เขาขัดขวางศิษย์น้องหญิงต่อให้เป็นเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้ นางก็ยังพูดออกมาโดยไม่หนักใจ แล้วขอให้เขาทำตามสิ่งที่นางต้องการต่งฮ่วนจือมองไปทางฮูหยินเฉิน เขายังดูคาดหวังอยู่ถึงอย่างไรฮูหยินเฉินก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะรู้จักขอบเขตบ้างกระมัง?"เจ้าเองก็คิดแบบนี้หรือ? จะให้ข้าเก็บวัตถุดิบยาไว้จนกว่าฮ่าวปิงจะรวมเงินได้?"ฟังเอาเถอะ เขาพูดซ้ำออกมาอีกรอบหนึ่งก็ยังรู้สึว่าเป็นเรื่องไร้สาระเลยฮูหยินเฉินขมวดคิ้ว มองนางด้วยสายตาเศร้าๆแต่ก่อนพอเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนาง ต่งฮ่วนจือก็จะรู้สึกปวดใจ อยากจะปกป้องนางขึ้นมา เขารู้ ว่านางเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง มีลูกสาวติดหนึ่งคน คอยหนีคนตามล่าอยู่ตลอด มันลำบากแค่ไหนถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากจะยืนบังลมบังฝนให้นาง เพราะแรกสุดเขารู้สึกชื่นชมนาง ชื่นชมความแข็งแกร่งและความรักของแม่จากตัวนางแต่สีหน้าต่อตัวเขาของฮูหยินเฉินตอนนี้ ต่งฮ่วนจือจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า อ๋องฉยงถึงอย่างไรก็หาพวกนางเจอแ
เฉินฮ่าวปิงมองต่งฮ่วนจือนางสามารถใช้วัตถุดิบยาของพันธมิตรโอสถทำการกุศลต่อได้ และยังพังแผนการของฟู่จาวหนิงได้อีก ทำให้นางไม่ได้รับวัตถุดิบยาหลังจากเฉินฮ่าวปิงกลับมาพูดเรื่องวันนี้กับฮูหยินเฉิน ฮูหยินเฉินโกรธมากดังนั้นนางจึงคิดวิธีนี้ออกมา รู้สึกว่าพวกนางตอนนี้รับมือฟู่จาวหนิงไม่ไหว แต่ถ้าลงแรงกับต่งฮ่วนจือทางนี้สักหน่อย สร้างความลำบากให้กับฟู่จาวหนิงได้บ้างก็ยังดีมีสิทธิ์อะไรที่จะยอมให้ฟู่จาวหนิงทำทุกอย่างได้ราบรื่นขนาดนั้น?ต่งฮ่วนจือถ้าหากขัดฟู่จาวหนิงได้ ไม่ใช่แค่ฟู่จาวหนิงจะไม่ชอบใจ แต่ผู้อาวุโสจี้ก็จะโกรธด้วย ถ้าผู้อาวุโสจี้โกรธ ฟู่จาวหนิงก็จะอารมณ์ไม่ดีดังนั้น ขอแค่กล่อมต่งฮ่วนจือ ก็จะทำได้ฟู่จาวหนิงอึดอัดได้ ดีจะตาย?ดังนั้น จึงได้เห็นเฉินฮ่าวปิงที่มาแสดงความอ่อนแอออดอ้อนต่งฮ่วนจือในตอนนี้นางรู้สึกว่า ความรักทีต่งฮ่วนจือมีให้นาง เรื่องนี้ไม่ใช่จะทำไม่สำเร็จแต่ตอนได้ยินคำพูดของนาง ต่งฮ่วนจือก็งงงันไปครู่หนึ่ง"ลุงต่ง..." เฉินฮ่าวปิงดึงแขนเสื้อของเขา "ได้ไหม?"ต่งฮ่วนจือดึงแขนเสื้อในมือนางกลับมา"เรื่องนี้ไม่ได้""ทำไมล่ะ?""อันดับแรก วัตถุดิบยาที่เจ้าคิดจะเอาไ
หลายปีก่อนที่เขาช่วยพวกนางแม่ลูกไว้ เฉินฮ่าวปิงยังเป็นเด็กสาวร่างผ่อนอ่อนแอ หลายปีนี้ยังถือว่าเขาเลี้ยงดูมาจนโต เขาแทบจะมองเฉินฮ่าวปิงเป็นลูกสาวตนเองไปแล้วแม้ตอนนี้นางเจอกับพ่อแท้ๆ แล้ว แต่พ่อแท้ๆ คนนั้นก็ไม่ใช่จะได้เรื่องกระมัง ต่งฮ่วนจือยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่เขาคิดคิด ยังคิดจะไปบ้านเล็กในซอยนั่นเพื่อหาเฉินฮ่าวปิงหลายวันนี้เฉินฮ่าวปิงก็ไม่ยอมพบเขา ทุกครั้งที่เขามา คนใช้ก็จะบอกว่าท่านหญิงไม่อยู่วันนี้เขามา แต่เฉินฮ่าวปิงกลับอยู่ และยังยอมพบเขาด้วยพอเข้ามาในบ้าน มาถึงเรือนหน้า ฮูหยินเฉินก็อยู่ด้วยแม่ลูกหันมามองนางพร้อมกัน สายตาของคนทั้งคู่ล้วนแดงก่ำ ดูแล้วน่าสงสารมาก เฉินฮ่าวปิงพอเห็นเขาก็ร้องไห้โฮออกมา"ลุงต่ง!"นางพุ่งเข้ามาหาต่งฮ่วนจือ สองมือดึงแขนเสื้อเขา ร้องไห้ตัวโยน "ท่านมาได้เสียที!"ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่ยอมออกมาเจอ ไม่ได้ว่าเขาไม่เคยมาเสียหน่อยแต่ต่งฮ่วนจือก็ไม่ได้พูดออกมา มองสภาพเฉินฮ่าวปิงแล้วเขาก็ยังคงปวดใจอยู่"ทำไมหรือ? เกิดอะไรขึ้น? อ๋อง อ๋องฉยงไม่ได้ช่วยเจ้าหรือ?"พอพูดถึงอ๋องฉยง เฉินฮ่าวปิงก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาเพราะวันนี้อ๋อง
ก่อนค่ำวันเดียวกันฟู่จาวหนิงให้สืออีไปเก็บตั๋วเงินพวกนี้มาแล้วกระทั่งองค์หญิงเจ็ดก็ยังไม่กล้าที่จะไม่ให้หลังจากให้สามพันตำลึงมาแล้ว คนเหล่านี้ก็ล้วนรู้สึกเหมือนเสียปราณชี่ขนานใหญ่ไป ไม่มีทั้งหน้าไม่มีทั้งเงิน แล้วยังหวาดผวา ไม่รู้หลังจากนี้จะมีเรื่องอะไรอีกถ้าเผื่อพระชายาอ๋องเจวี้ยนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนมาหาเรื่องบ้านพวกเขาอีกจะทำอย่างไร?โดยเฉพาะคุณหนูสี่หลิน หลังจากกลับมาก็ได้ยินพี่สาวคนโตกับคนรองพูดถึงเฉินฮ่าวปิง จึงได้รู้ว่าพวกนางเดิมทีก็ดูถูกท่านหญิงปิงอวี้อยู่แล้วพ่อของนางกับพี่สาวนางเองก็กำลังเดาว่าอ๋องฉยงทำไมจึงยังอยู่ในเมืองหลวง ยังพูดอีกว่า ไม่ว่าจะเพราะเรื่องอะไร การที่องค์จักรพรรดิให้อ๋องฉยงอยู่ในเมืองต่อโดยไม่สนกฏ ต้องไม่ใช่เรื่องดี พวกเขากำลังพูดว่า หลังจากนี้จะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่อ๋องฉยงอาจจะก่อความวุ่นวายอะไรขึ้น ไม่ต้องพูดถึงลูกสาวบ้านน้อยของเขาคนนั้นเลย?ในคำพูด คืออ๋องฉยงทำเรื่องไม่ถูกต้อง ลูกสาวบ้านน้อย ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรดีดีเลย แต่ดันไปขอยศท่านหญิงมาองค์จักรพรรดิก็ยังรับปากอีก ดูจะเลอะเลือนหน่อยๆแน่นอน พวกเขาแอบคุยเรื่องน
เซียวหลันยวนพูดพลางหัวเราะเสียงต่ำฟู่จาวหนิงเองก็ตกตะลึงไป "ผู้ตรวจการอันไปคุกคามองค์จักรพรรดิหรือ?"ถ้าหากผู้ประสบภัยทะลักเข้าเมืองหลวง เมืองหลวงก็จะวุ่นวาย องค์จักรพรรดิไม่อยากจะสนใจก็คงต้องสนใจแล้วแค่โรคระบาด องค์จักรพรรดิก็ยังกลัวจนไม่ประชุมเช้า ไม่ต้องพูดเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นเลย? เขาได้ตกใจจนตายกันพอดี"ก็จริงนั่นล่ะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง แต่รายละเอียดด้านในที่นำไปปฏิบัติได้ก็มีเยอะมาก""แล้วองค์จักรพรรดิให้เงินบรรเทาภัยมาเท่าไร?""หนึ่งหมื่นตำลึง""ขี้เหนียว" ฟู่จาวหนิงเบ้ปากนางเองก็ยอมแล้ว ผู้ประสบภัยนับหมื่น แต่ให้เงินบรรเทาภัยมาหมื่นตำลึง? นางเค้นจากตัวพวกองค์หญิงเจ็ดยังได้มาตั้งสามหมื่นตำลึง"คลังหลวงว่างเปล่าแล้วจริงๆ""เอาเถะ พวกเราเองก็ลองไปเตรียมตัวดูก่อน ถ้าเงินไม่พอจริง ค่อยให้ผู้ตรวจการชิงกลับไปปล้นองค์จักรพรรดิอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นถ้ายังไม่เห็นสถานการณ์เมืองเจ้อกับตา ใต้เท้าอันหากคิดจะปล้นก็ปล้นลำบาก"อันเหนียนบอกว่าสามวันนั้นรีบไปหน่อย ขอเลื่อนไปวันหนึ่ง ข้าส่งคนไปดูลาดเลาก่อน ตอนพวกเจ้าไปถึงจะมีคนรอรับอยู่"เอาของไปด้วยตั้งมากมาย ตอนไปถึงต้อง