ยิ่งไปกว่านั้นสีหน้าก็ดีขึ้นมากแล้ว"วันนี้ตอนเช้าพวกเรายังพูดถึงท่านอยู่เลย" ท่านเฟิงจวินกุมมือฟู่จาวหนิง "คิดถึงท่านมาตั้งหลายวันแล้วคิดว่าท่านน่าจะมา จึงเหลือของอร่อยเอาไว้ให้ท่านด้วย ภรรยาผู้เฒ่าหกเอากลับมาจากบ้านฝ่ายหญิงที่เจียงหนาน เดิมทีคิดจะส่งไปให้ท่าน แต่ลู่ทงเจ้าเด็กนั่นเมื่อวานนี้เข้ามา บอกว่าท่านไม่รู้อยู่ที่จวนตระกูลฟู่หรือจวนอ๋อง"พอเห็นท่านเฟิงจวินยิ้มแบบอธิบายลำบาก ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าพวกเขาน่าจะคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซียวหลันยวนดูไม่ค่อยชัดเจน ดังนั้นจึงไม่กล้าพูดออกมาตรงๆพระชายาที่หลังจากอภิเษกแต่ก็เอาแต่อยู่ที่บ้านฝ่ายหญิง มีใครเคยเห็นบ้าง?ทั้งเมืองหลวงกำลังวิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์ของนางกับอ๋องเจวี้ยนว่าเป็นอย่างไรกันแน่"ข้าก่อนหน้านี้อยู่แต่ในบ้านกับท่านปู่ ท่านก่อนหน้านี้สุขภาพไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงอยู่ที่บ้านคอยดูแลรักษาเขา สองวันนี้ก็เพิ่งไปที่จวนฟู่"พอเห็นฟู่จาวหนิงตอบกลับอย่างไร้กังวล ท่านเฟิงจวินก็ผ่อนลมหายใจโล่ง"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านเองก็อย่าโทษคนแก่อย่างข้าที่ยุ่งมากนักเลย ตอนนี้เห็นท่านเป็นเช่นนี้ กับอ๋องเจวี้ยนน่าจะคืบหน้ากันบ้างแล
เซี่ยซื่อกับหลินอันห่าวกำลังกวาดหิมะอยู่ที่ลานถึงแม้ตอนนี้คนคุ้มครองเรือนกับคนใช้ในบ้านตระกูลฟู่จะมีอยู่ไม่น้อย แต่นางก็อยากจะทำงานบ้าง และจะนำอันห่าวให้ทำตัวขยันขึ้นมาหน่อย เช่นนี้ที่พักอยู่ในเรือนตระกูลฟู่นางจึงจะไม่รู้สึกประหม่ายิ่งไปกว่านั้นถ้าจะมองบ้านตระกูลฟู่เป็นบ้านของตนเอง เช่นนั้นก็ต้องขยันหน่อยจงเจี้ยนดีขึ้นมากแล้ว และออกมาตากแดดอยู่บ่อยๆคนอื่นๆ ล้วนวุ่นงานของตนเอง ช่วงนี้ลุงจงพาพวกเขาตรวจสอบบ้านตระกูลฟู่ทั้งในทั้งนอกไปหลายรอบ จุดที่ต้องซ่อมก็ซ่อมเสีย ควรเสริมให้แข็งแกร่งก็เสริมไปแล้ว และยังมีบางส่วนต้องทำความสะอาดออกมา ตระเตรียมช่วงฤดุใบไม้ผลิมาถึงจะปลูกดอกไม้กับต้นผลไม้เสียใหม่บ้านตระกูลฟู่ตอนนี้เริ่มกลับมาดูเคร่งขรึมยิ่งใหญ่อีกครั้งบ้างแล้วหลังจากฮู่โม่จากไป เศรษฐีฟางก็ช่วยฟู่จาวหนิงหาคนคุ้มครองเรือนมาอีกสี่คน ฟางซือฉิงช่วงก่อนปีใหม่ก็ยังมาพักอยู่หลายวันเฉินซานตอนที่ไม่ได้ตามฟู่จาวหนิงออกไปก็อยู่ด้วยกันกับคนคุ้มครองเรือนเหล่านั้น รบเร้าให้สืออีสือซานสอนวิชาต่อสู้ให้พวกเขาสืออีกับสือซานเองก็ยินดีสอนพวกเขา คนเหล่านี้หลังจากนี้ล้วนเป็นคนคุ้มครองเรือนบ้านฝ่ายห
"ทำไมจะเป็นไปไม่ได้? เมื่อคืนนี้เพิ่งได้รับรายงานด่วนจากเมืองหู!"นายท่านคนนั้นมองเฮ่อเหลียนเฟยสายตาเย็นชา หัวเราะเย็นเยียบออกมาเมื่อคืนได้รับรับงานด่วนจากเมืองหู วันนี้ในวังก็ออกคำสั่งให้จับคนเรียบร้อยสืออีพวกเขาเองก็เข้าใจขึ้นมา ในวังจะต้องรู้ตัวตนของเฮ่อเหลียนเฟยนานแล้ว พี่น้องจ้าวเฉินจ้าวหรูก่อนหน้านี้จะต้องนำไปบอกฮองเฮาแน่แต่ติดที่อ๋องเจวี้ยน ฮองเฮาจึงอดทนไม่ยอมลงมือ ตอนนี้พอสบโอกาส ก็ลงมือทันทีแม้แต่วันเดียวก็ไม่ยอมรอเมื่อเป็นเช่นนี้ เมืองหูจะต้องส่งรายงานด่วนเข้ามาจริงแน่ แต่เนื้อหาภายในเป็นอย่างไร พวกเขาเองก็ไม่อาจล่วงรู้"เรื่องนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบชัดเจน จะว่าไป ต่อให้ราชาเฮ่อเหลียนจะทำเรื่องอะไรก็ตาม ก็คงไม่ถึงกับเป็นภัยต่อทั้งเผ่า และเด็กคนนี้ก็มาที่เมืองหลวงนานแล้ว เพียงพอที่จะอธิบายว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา" สือซานเอ่ยขึ้นผู้เฒ่าฟู่รีบเสริมเข้ามาประโยคหนึ่ง "ต่อให้เขายังไม่ออกไป เขาเองก็เป็นแค่เด็กอายุสิบสองสิบสาม เขาจะไปรู้อะไรได้? เรื่องนี้เป็นเรื่องของพวกผู้ใหญ่ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา""อะไรคือไม่เกี่ยวข้อง? นี่เป็นความผิดฐานก่อกบฎ! โทษนี้เดิมก็เป็
จงเจี้ยนพอได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหน้า อันที่จิรงก็คิดจะออกไปแล้ว แต่ว่าหลินอันห่าวถูกทำให้ตกใจ เขาจึงปลอบประโลมอยู่พักหนึ่ง"เสี่ยวเถา ข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น?""มีทหารทางการมามากมาย พวกเขามาจับตัวคุณหนูเสี่ยวเฟย! ตอนนี้พี่สืออีกับพี่สือซานใกล้จะสู้กันขึ้นมาแล้ว!"เสี่ยวเถาเองก็หน้าถอดสีหน่อยๆจงเจี้ยนสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เอ่ยขึ้นกับเซี่ยซื่อทันที "ท่านพาอันห่าวเข้าห้องไปก่อน อย่าออกมาด้านนอก"เซี่ยซื่อลนลาน "ท่านผู้เฒ่าคงไม่เป็นไรใช่ไหม?""พวกเราจะปกป้องท่านผู้เฒ่าเอง"จงเจี้ยนเอ่ยกับเสี่ยวเถาต่อว่า "เจ้าไปจวนอ๋องเจวี้ยนหาคุณหนู"ทหารทางการเข้ามาในบ้านแล้ว ตัวตนฐานะอย่างพวกเขาใช้การอะไรไม่ได้เลย เว้นเสียแต่พวกเขาจะคิดเข้าไปต่อต้านกับคนในที่ว่าการจริงๆ"เจ้าค่ะ!"เสี่ยวเถารีบออกประตูวิ่งออกไปวิ่งไปได้ไม่ไกลนัก ก็เจอคนเข้ามาขวางทางนางไว้"เสี่ยวเถา เจ้าคิดจะไปไหนกัน?""คุณหนูรั่วเสวี่ย?"ฟู่รั่วเสวี่ยตอนนี้แตกต่างจากตอนที่อยู่ในบ้านตระกูลฟู่ไปแล้ว นางหวีผมของนางแล้ว บนตัวก็ยังสวมเสื้อผ้าที่ดูสวยสด พาสาวใช้มาด้วยสองคนแต่ว่าตอนนี้เสี่ยวเถาไม่สนใจจะถามให้มากความ คิดเพียงแต
จงเจี้ยนยกฟู่จาวหนิงขึ้นมา นายท่านทางนันก็ลังเลขึ้นมาแล้วจริงๆ"ฮองเฮาออกคำสั่ง วันนี้พวกเราต้องพาเฮ่อเหลียนเฟยไป ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไปอธิบายกับฮองเฮาไม่ได้"นายท่านกัดฟัน เอ่ยขึ้นมาตรงๆ กับจงเจี้ยน "องครักษ์จง ข้าพูดความจริงกับเจ้าแล้ว พวกเจ้าตอนนี้คิดจะต่อต้านก็ได้ เช่นนั้นพวกเราก็คงต้องโบกดาบเสียแล้ว อีกเดี๋ยวถ้าสู้กันขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะบาดเจ็บไปถึงพวกเจ้ากับผู้เฒ่าฟู่หรือไม่ เรื่องนั้นคงจะพูดยาก""แล้วก็ พวกเราจะทุ่มสุดกำลัง พวกเจ้าต่อให้มีวรยุทธ์ดี นั่นก็อาจจะสังหารพี่น้องพวกเราได้บางส่วน ถึงตอนนั้นพวกเจ้าก็จะถือว่าก่ออาชญากรรมแล้ว พวกเจ้าลองคิดดู อ๋องเจวี้ยนจะไปงัดกับฮองเฮาเพื่อพวกเจ้าไม่กี่คนนี้จริงหรือ!"จงเจี้ยนนิ่งงันไปพวกของสืออีก็ล้วนมองเขาคนคุ้มครองเรือนเหล่านั้นล้วนมีสีหน้าตุ้มต่อมฟู่จาวหนิงเคยบอกไว้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องปกป้องความปลอดภัยในบ้าน แต่พวกเขาเองก็คิดไม่ถึงว่าครั้งแรกก็ต้องมางัดกับคนที่ฮองเฮาส่งมาเสียแล้วนี่ เป็นเช่นนี้ คุณหนูจะปกป้องพวกเขาไว้ได้จริงไหม?"ถ้าพวกเจ้าจะพาไป ก็พาข้าไปด้วย" ผู้เฒ่าฟู่แหวกเหล่าองครักษ์ที่ขวางอยู่ด้านหน
"เจ้าเป็นใคร?"เฮ่อเหลียนเฟยถามอีกครั้งรถม้าควบทะยานแล้ว เอียงตะแคงจนเขารู้สึกแย่"เจ้าไม่ต้องรู้หรอก"คนผู้นั้นหลังจากตอบลกับมาก็ไม่ส่งเสียงอะไรอีก ต่อให้เฮ่อเหลียนเฟยจะถามต่ออย่างไร จะกระตุ้นเขาต่ออย่างไร เขาก็ล้วนไม่ส่งเสียงรถม้าแล่นทะยานอยู่นานเฮ่อเหลียนเฟยพิจารณาจากความเลือนราง และรู้สึกว่าตนเองออกจากเมืองแล้วในใจเขาจะมากน้อยก็ยังหวาดกลัวอยู่ นี่ถ้าออกจากเมืองแล้วพาเขาไปภูเขาร้างหน้าผาขาดก็จบกัน พี่หญิงจะมาทันได้อย่างไรกัน?พี่ญิงถ้าหากหาตัวเขาไม่ทัน แล้วจะช่วยเหลือเขาได้อย่างไร?เขาไม่อยากตายจริงๆแต่ว่าเขาก็ไม่อยากให้พี่หญิงมีอันตราย ถ้าพี่หญิงมาหาเขาแล้วจริงๆ จะเป็นอันตรายไปด้วยไหม? เฮ่อเหลียนเฟยรู้สึกขึ้นมาอีกว่าฟู่จาวหนิงอย่ามาหาเขาดีกว่าขณะที่คิดอย่างหวาดกลัวไม่ปลอดภัยนี้ รถม้าก็แล่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เหมือนขับเร็วขึ้นจริงๆ บนถนนทางการที่ไม่มีคน เป็นไปไม่ได้ที่จะยังอยู่ในเมือง รอบๆ ก็ไม่ได้ยินเสียงของผู้คนเลย"ข้ามีความลับจะมาบอกฮองเฮา!" เฮ่อเหลียนเฟยร้องขึ้นมาอีก"ฮองเฮาไม่สนใจอยากรู้ความรู้อะไรของเด็กอย่างเจ้าหรอก" อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา มีความประชดประชันอย่
"น่าเสียดาย พี่สาวข้ามีฝีมือจนทำให้อ๋องเจวี้ยนช่วยนางนี่สิ เจ้าไม่ยอมรับหรือ?" เฮ่อเหลียนเฟยหัวเราะร่าขึ้นมาต่อเขาจะยั่วโมโหจ้าวเฉินสังหารเขาทิ้งที่นี่เสียให้จบๆ ไป ไม่เช่นนั้นถ้าพาเขาออกไปไกล ก็กลัวว่าพี่หญิงจะหาไม่เจอ ไม่ใช่แค่หาไม่เจอ ยังอาจจะถูกจ้าวเฉินล่อออกไปยังสถานที่ห่างไกลอีกด้วย อันตรายมาก"อ๋องเจวี้ยน โอ๊ะ ไม่สิ ควรจะเรียกว่าว่าพี่เขยมากกว่า พี่เขยข้าจะต้องมาช่วยหาตัวข้าแน่ ถึงตอนนั้นพวกเจ้าทั้งครอบครัวก็ไม่ต้องไปทวีปผิงอะไรนั่นแล้ว พี่เขยข้ากับพี่สาวข้าคงจัดการสังหารพวกเจ้าจนเรียบ""ฟู่จาวหนิงเองก็มีความสามารถนี้อยู่!"จ้าวเฉินจ้องเฮ่อเหลียนเฟย "เจ้าอยากตายนักหรือ? ข้าจะทำให้เจ้าสมอยากเอง! ก่อนหน้านี้ขาของเจ้าข้าก็เล่นงานมา ตอนนี้หายดีแล้วหรือไร?"สายตาเขาจับจ้องมาบนขาของเฮ่อเหลียนเฟย "ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสมันอีกครั้ง ให้เขาของเจ้าหักไปอีกรอบ!"พูดแล้วเขาก็เตรียมจะลงมือเฮ่อเหลียนเฟยม่านตาหดลงตอนนี้เอง ชายหนุ่มที่หน้าตาอึมครึมก็ยั้งจ้าวเฉินเอาไว้ "เจ้าตอนนี้ถ้าไปหักขาเขา อีกเดี๋ยวต้องแบกขึ้นเขาไปเองนะ?"จ้าวเฉินการเคลื่อนไหวชะงักงัน เลิกทำไปเฮ่อเหลียนเฟยฟังเข
"ใช่แล้ว ท่านผู้เฒ่า ต้องขอบคุณจาวหนิงเลย" ฟู่รั่วเสวี่ยประโยคนี้พูดอย่างกัดฟันผู้เฒ่าฟู่เองก็ฟังออกแล้วใบหน้าของเขาขรึมลงมาทันทีนี่มาหาเรื่องทะเลาะชัดๆ เลย ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังอยู่ในบ้านตระกูลฟู่ ฟู่รั่วเสวี่ยพูดได้ว่าเป็นหญิงสาวรุ่นนี้ที่มีกิริยาการแสดงออกที่สุดคนหนึ่ง อ่อนโยนและรู้ความที่สุดคนหนึ่ง พูดจาน้ำเสียงแผ่วเบาละเอียดอ่อน อากัปกิริยาก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างเหมาะสม อยู่ต่อหน้าเขาก็มีมารยาทนอบน้อม ผู้เฒ่าฟู่เองก็เคยมีความหวังในตัวนางอยู่พอคิดถึงเงื่อนไขแบบฟู่รั่วเสวี่ยเช่นนี้ หลังจากนี้น่าจะมีการแต่งงานที่ดี ถ้านางออกเรือนได้เป็นฝั่งฝา ก็ยังสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันกับจาวหนิงได้แต่ว่าตอนนี้ดูท่า ฟู่รั่วเสวี่ยแค่เสแสร้งได้ดีกว่าฟู่เป่าเจินฟู่เจียวเจียวเท่านั้น อันที่จริงแล้วก็เป็นแบบเดียวกัน!หลังจากไล่ออกจากบ้านตระกูลฟู่ท่าทีของนางก็เปลี่ยนไปทันทีผู้เฒ่าฟู่ไอสำลักหลายครั้ง ไม่สนใจอะไรนาง ตอนนี้เขากำลังเป็นห่วงเฮ่อเหลียนเฟย มีกะจิตกะใจมาคิดเล็กคิดน้อยกับนางเสียที่ไหน?"เสี่ยวเถา ไม่ต้องร้อง" จงเจี้ยนพูดกับเสี่ยวเถาคำหนึ่ง "ไปล้างหน้าล้างตาไป""แต่ว่า พี่ชายจง
จากนั้นนางก็ร้อนรนขึ้นมา รีบพลิกค้นของด้านใน แต่ไม่ว่าจะพลิกอย่างไร กล่องใบนั้นก็หายไปแล้ว!พอเห็นท่าทางของเฉินเซียง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็หน้าเปลี่ยนสีทันที"มีอะไรหรือ?""ของหายไปแล้วเจ้าค่ะ!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลุกพรวดขึ้นมา เดินโซซัดโซเซเข้าไป และรื้อคนพลิกหาด้วยเช่นกัน"หายไปได้อย่างไรกัน? ข้าเห็นเจ้าเอามาใส่ในกล่องนี้แล้วแท้ๆ!""นั่นสิ ข้าน้อยวางมันไว้ในนี้จริงๆ แล้วยังลงกลอนไว้อีก หลังจากลงกลอนแล้วก็ไม่ได้เปิดออกอีกเลย แล้วมันหายไปได้อย่างไรกัน?"เมื่อครู่นางเองก็หยิบกุญแจปิ่นปักผมออกมาเปิดกลอน ไม่มีร่องรอยถูกแตะต้องเลย!"รีบหาดูให้ทั่ว"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานมาก สิ่งของไม่ใช่แค่นางต้องการนำไปเจรจาเงื่อนไขเท่านั้น แต่สำหรับอ๋องเจวี้ยนแล้วยังสำคัญมากอีกด้วย ถ้าหากมาหายในมือนาง แล้วอ๋องเจวี้ยนรู้เข้าภายหลัง แล้วนางจะทำอย่างไรกัน?นายบ่าวทั้งสองรื้อค้นในห้องกันเลเเทะ ค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่ก็หาไม่พบ"จะต้องถูกหมอเทวดาฟู่เอาไปแล้วแน่ นางเคยเข้ามาในห้องพวกเรา" เฉินเซียงร้องขึ้นมา "ที่นี่มีแต่คนของนาง คนเหล่านั้นล้วนช่วยเหลือนาง ตอนที่พวกเรากลับมาจะต้องถูกคนเห็นแล้วแน่..."
"เฉินเซียง ข้าจะทำอย่างไรดี?"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้เพียงงึมงำถามเฉินเซียง ท่านทีของอ๋องเจวี้ยน กับความเย็นชาของฟู่จาวหนิง เส้นทางที่จะเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ผ่านไปไม่ได้แล้วนางทำมาถึงจุดนนี้แล้ว จะให้ต้องตกต่ำลงไปอีกนั้นมันก็มากเกินไปยิ่งไปกว่านั้นต่อให้นางจะตกต่ำเรี่ยดิน อ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่แน่ว่าจะหวั่นไหว เขามันไร้อารมณ์เกินไปเฉินเซียงนั่งอยู่บนเกาอี้ งอตัวค้อมลงมา ที่โดนฟู่จาวหนิงเตะไปเมื่อครู่ นางรู้สึกว่าตนเองตอนนี้ไม่ดีขึ้นได้เลย ความเจ็บปวดบนร่างกาย ทำให้ในใจนางยิ่งรู้สึกชิงชัง"องค์หญิงใหญ่ ในเมื่ออ๋องเจวี้ยนไร้ความรู้สึกเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเราก็ปล่อยวางเถิด จากที่ข้าน้อยเห็น บางทีอ๋องเจวี้ยนในแคว้นเจาก็เหมือนจะปกป้องตัวเองลำบากอยู่ จักรพรรดิแคว้นเจาคิดจะเล่นงานเขาตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ารับปาก เพราะเดิมทีเขาก็ไม่มีฝีมืออยู่แล้ว!"เฉินเซียงรู้สึกว่าตอนนี้พูดแย่ๆ กับอ๋องเจวี้ยนแล้ว ยังทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย"ขนาดเขาตอนนี้ยังไม่กล้าปลดหน้ากากลงเลย น่าจะเพราะใบหน้าของเขามันพังยับจนไม่เหลือสภาพแล้วจริงๆ ไม่กล้าจะให้องค์หญิงใหญ่เห็น เขารู้สึกด้อยค่า ใช่แล้ว
หยวนอี้เข้าใจความหมายของนางขึ้นมาทันทีเขาไม่มีตกตะลึงเลยแม้แต่น้อยแม้ฟู่จาวหนิงจะยังสวมหน้ากาก โผล่มาเพียงตาคู่เดียว แต่เขาก็ยังรู้สึกว่านางมีแรงมาก"ข้าเป็นลูกมือให้ท่านได้จริงๆ นะ ที่นี่ไม่ใช่ว่าขาดกำลังคนอย่างหนักอยู่หรือ?"หยวนอี้ยังอยากจะเสนอตัวเองอยู่"ข้าทำนาได้ปลูกต้นไม้ได้ แล้วก็มีพละกำลัง แต่ไม่ใช่แบบพวกคนไร้ความสามารถนะ พวกงานที่ต้องใช้แรงให้ข้าจัดการได้เลย ในเมื่อที่นี่ขาดคน เช่นนั้นมีคนตัวใหญ่อย่างข้าที่นี่ ไม่ใช้ก็น่าเสียดายนะจริงไหม?""ไม่กล้ารบกวนท่านทูตจากแคว้นหมิ่นหรอก" ฟู่จาวหนิงพูดจบก็หมุนตัวเข้าเรือนไปไป๋หู่ขวางหยวนอี้ไว้ เขาเองก็เข้าไปไม่ได้ ทำได้แค่มองแผ่นหลังของฟู่จาวหนิงอย่างเสียดาย ถอนหายใจออกมา"คุณชายหยวนถ้าหากพุ่งเป้ามาหาจาวหนิงจริง เช่นนั้นก็ล้มเลิกความคิดเสียเถอะ" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้น"คุณชายฟู่ เรื่องนี้ก็น่าจะพูดกับท่านได้กระมัง? อันที่จริงสำหรับพระชายาอ๋องเจวี้ยนแล้ว ก็อาจจะเป็นเรื่องดีด้วยก็ได้""เป็นเจตนาของแคว้นหมิ่น หรือว่าของตัวท่านเองกันล่ะ?""ตอนแรกก็เป็นของตัวข้าเอง แต่ข้าก็กล่อมจักรพรรดิแคว้นของพวกเราไปแล้ว เขาเองก็ฟังเสียงของข้าอ
"ขอบคุณที่ชม"ฟู่จาวหนิงถามกลับอย่างมั่นคง ไม่ได้มีอารมณ์รู้สึกรู้สาอะไรกับคำชมประโยคนี้ของเขาเลย กระทั่งไม่มีอาการตกตะลึงอีกด้วยนี่ทำให้หยวนอี้รู้สึกเกินคาดขึ้นมาเขายังคิดว่าจะทำให้อารมณ์ของฟู่จาวหนิงเปลี่ยนแปลงได้บ้างภายใต้สถานการณ์ที่ตกตะลึงนี้ คิดว่านางจะพูดอะไรออกมาสักประโยคหนึ่งแล้วทำให้เขาเข้าใจความคิดของนางได้อย่างชัดเจนคิดไม่ถึงว่าเขาที่ทำตัวประหลาดออกมา แต่นางกลับนิ่งแบบนี้"ดูท่าหมอฟู่จะได้ยินคำชมมาจนชินแล้วสินะ" หยวนอี้เอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ได้ตอบประโยคนี้ของเขา แต่กลับพิจารณาเขาทั้งตัวหยวนอี้ถูกนางมองจนยืดอกขึ้นด้วยสัญชาตญาณ ยืนตรงแน่วขึ้นมา"ท่านชื่อหยวนอี้ใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม"ขอรับ""ลูกชายหยวนกังทูตแคว้นหมิ่น หยวนอี้ที่ตอนนี้ควรจะคอยสอนขุนนางเกษตรเพาะปลุกอยู่ในเมืองหลวงนั่นน่ะนะ?" ฟู่จาวหนิงพูดออกมาอย่างชัดถ้อยทุกคำหยวนอี้นิ้งค้างไปไม่ใช่สิ นางรู้จักเขาด้วยหรือ?เขาเองก็เลี่ยงพวกหมอหลวงที่รู้จักเขาแล้ว แทบจะพูดได้ว่าซ่อนตัวทั้งคืนเลยทีเดียว ตอนที่เข้ามาก็หลบเลี่ยงคนจากเมืองหลวงที่รู้จักเขาพวกนั้น เตรียมคำพูดเอาไว้เยอะมาก คิดว่าจะพูดอะไรกับฟู่จ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ