"ใช่แล้ว นางเป็น" เซียวหลันยวนจับมือฟู่จาวหนิงไว้แน่นฟู่จาวหนิงปากขยับเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไรนางคิดออกแล้ว ไท่ซ่างหวงให้เงื่อนไขการรับสิ่งยืนยันสามชิ้นนี้ไว้กับเซียวหลันยวนนั่นคือต้องอภิเษกแม้นางจะไม่ค่อยเข้าใจ ว่าเพราะอะไรจึงตั้งเงื่อนไขเช่นนี้ แต่ตอนนี้นางเองก็ต้องแบกความรับผิดชอบนี้ ให้ผู้นำตระกูลฮู่ส่งสิ่งยืนยันแก่เซียวหลันยวน"ข้ามองออกว่าพวกท่านรักกันอย่างลึกซึ้ง ไท่ซ่างหวงถ้ารู้ขึ้นมา ก็น่าจะชื่นชมอย่างมากแน่" ผู้นำตระกูลฮู่ตอนที่พูดประโยคนี้ก็ชื่นชมอย่างมากแล้วฟู่จาวหนิงอยากจะพูดมาก ว่าท่านมองจากตรงไหนว่าพวกเขารักกันอย่างลึกซึ้ง?"อ๋องเจวี้ยน พวกเราตระกูลฮู่ละอายต่อไท่ซ่างหวงเหลือเกิน ข้าไม่ได้สั่งสอนลูกหลานให้ดี จนเกือบจะทำสิ่งยืนยันหายไปเสียแล้ว ตอนนี้สิ่งของซ่อนอยู่ในตะกร้าถักทอของแม่นางน้อยคนหนึ่ง บ้านของแม่นางน้อยคนนั้นอยู่ที่"หลังจากที่ได้ยินตำแหน่งที่ผู้นำตระกูลฮู่แจ้งออกมาฟู่จาวหนิงก็ถลึงตาโต แทบอยากจะหมุนตัวออกไปทันทีเซียวหลันยวนรีบคว้าข้อมือไว้แน่น ฟังคำพูดของผู้นำตระกูลฮู่จบผู้นำตระกูลฮู่ฟังเรื่องนี้จบ รู้สึกว่าตนเองเสร็จสิ้นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว
หลินอันห่าวเก็บของอยู่ข้างๆ นางเปิดห่อผ้าของตนเองออก นำสิ่งของด้านในออกมาวางทีละชิ้นๆ"ท่านแม่ พี่เสี่ยวเฟยให้เงินข้ามาสองตำลึง" นางหยิบเศษเงินชิ้นหนึ่งออกมา เอ่ยกับเซี่ยซื่อเซี่ยซื่อมองเข้ามา ยิ้มๆ "ดูท่าเสี่ยวเฟยจะชอบอันห่าวของพวกเรามาก""ใช่แล้ว เขาบอกว่าข้าเป็นคนที่สามที่เขาชอบ คนแรกคือพี่หญิงจาวหนิง คนที่สองคือท่านผู้เฒ่าฟู่ ถัดมาก็คือข้าแล้ว"เซี่ยซื่อยิ้มขึ้นมาอีกครั้งตอนนี้ดูท่าหลินอันห่าวจะดีขึ้นมาแล้วจริงๆ นางรู้สึกซาบซึ้งในใจต่อฟู่จาวหนิงหลินอันห่าวหยิบสิ่งของม้วนหนึ่งออกมาจากของตรงหน้าเหล่านั้น "เอ๋? ท่านแม่ นี่คืออะไรน่ะ? นี่ไม่ใช่ของของข้า"เซี่ยซื่อมองไปยังของในมือนางนั่นเป็นถุงที่ถักขึ้นจากหนังเลียงผาใบหนึ่ง รูปทรงกระบอกนางรับเข้ามา พลิกไปพลิกมาแล้วก็ดูอย่างละเอียด และพบว่าถุงใบนี้ถูกเย็บไว้สนิท ใช้นิ้วบีบๆ ดูก็คิดว่าข้างในน่าจะมีของอยู่ แต่วิธีการเย็บนี้ยอดเยี่ยมมาก เป็นแบบเข็มอำพราง เย็บไว้ด้านใน เย็บไว้สนิทมาก มองผาดๆ ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มแกะจากตรงไหน"ของสิ่งนี้มาจากไหนกัน?"เซี่ยซื่อเองก็ยืนยันว่านี่ไม่ใช่สิ่งของของพวกนาง"ไม่รู้" หลินอันห่าวมองอย่าง
ฟู่จาวหนิงพอมาถึงก็เจอกับเซี่ยซื่อที่หยิบของออกมา"จาวหนิง เจ้ากลับมาแล้วหรือ? ไม่เป็นไรใช่ไหม?"พอเห็นฟู่จาวหนิง เซี่ยซื่อก็ถอนใจโล่งนางกังวลฟู่จาวหนิงมาตลอด สถานที่นั้นดูแล้วอึมครึมมาก นางพักอยู่ที่เรือนตระกูลหลินตั้งนานแต่ก็ไม่เคยไปสถานที่นั้นเลย ถ้าไม่ใช่หลินอันห่าวพูดขึ้นมานางเองก็ลืมสถานที่นั้นไปแล้วตอนนี้สีฟ้าก็มืดขนาดนี้แล้ว ฟู่จาวหนิงยังอยู่ที่นั่น ไม่รู้ว่าไปเจอกับอะไรเข้า"ใช่ น้าเซี่ย ข้าไม่เป็นไร แต่ว่าข้ามีเรื่องต้องถามอันห่าวเสียก่อน"ฟู่จาวหนิงพอพุดจบ ก็มองเห็นสิ่งของในมือเซี่ยซื่อ"จริงด้วย เจ้าสิ่งนี้ ไม่รู้ว่าทำไมมาอยู่ในถุงของอันห่าว"เซี่ยซื่อส่งของต่อไปให้ฟู่จาวหนิง บอกกับนางเรื่องที่อันห่าวเพิ่งจะรื้อของออกมาเมื่อครู่ฟู่จาวหนิงรับของชิ้นนี้มา รู้สึกว่าโลกของเราบางครั้งมันก็ช่างบังเอิญเสียเหลือเกิน"น้าเซี่ย นี่เป็นของของชายแก่ที่หลินอันห่าวช่วยไว้ครั้งที่แล้ว ข้าเมื่อครู่พอเห็นข้าเห็นเขา เขาก็พูดออกมาว่า ข้ากำลังจะไปหาอันห่าวเพื่อถามไถ่ คิดไม่ถึงว่านางจะเอาของมาที่บ้านตระกูลฟู่แล้ว""มิน่าเล่า ข้าก็ว่าทำไมถึงไม่เคยเห็นของชิ้นนี้เลย เป็นของนางหรือ? ถ
"เขาอยู่ที่นั่น?""กลับเรือนนอนแล้ว""ข้าจะไปดูเสียหน่อย" ฟู่จาวหนิงเพิ่งพูดจบ"พระชายายังไม่ได้กินข้าวเย็นใช่ไหม? ข้าน้อยจะไปเตรียมให้ ท่านอ๋องเองก็ยังไม่ได้กิน จะไปกินกับท่านอ๋องหรือว่ากลับไปเรือนเจียนเจียเจ้าคะ?"หงจั๋วแม้จะถามความเห็นนาง แต่ก็ทำตาแป๋ว เห็นได้ชัดว่าอยากให้นางไปกินกับเซียวหลันยวนฟู่จาวหนิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก"ส่งไปที่เขาทางนั้นเถอะ""เจ้าค่ะ!"หงจั๋วหมุนตัวออกไปเตรียมอย่างยินดีฟู่จาวหนิงเดินตรงไปที่เรือนนอนเซียวหลันยวน ตอนนี้ไม่มีคนมาขวางนางแล้วเพียงแต่ตอนเข้าไปก็เห็นชิงอีรออยู่นอกประตูห้องหลัก นางยังรู้สึกแปลกหน่อยๆเพราะประตูปิดอยู่"พระชายา ท่านถามหาสิ่งยืนยันได้แล้วหรือไม่?" ชิงอีพอเห็นนางก็ตาเป็นประกาย รีบถามออกมา"ถามมาได้แล้ว"ฟู่จาวหนิงชี้ไปที่ประตูแล้วถามขึ้น"ท่านอ๋องเดิมทีซุ่มอยู่บ้านตระกูลหลิน คิดไม่ถึงว่าบ้านที่หลินอันห่าวพักอยู่แต่เดิมตอนนี้มีคนย้ายเข้าไปอยู่เสียแล้ว"ชิงอีเองก็กดเสียงลงต่ำอย่างลึกลับ "พระชายา ท่านรู้ไหมว่าคนที่เข้าไปอยู่คือใคร?"ฟู่จาวหนิงนึกถึงสิ่งที่หงจั๋วบอก ความผิดปกติหลังจากเซียวหลันยวนกลับมา ใจก็สั่นกึก "หรือ
ชิงอีปรับสีหน้าจริงจังในพริบตา ยืดหลังตรง "ข้าน้อยไม่ได้ว่าง!"พูดจบเขาก็วิ่งแล้ว "พระชายา ข้าน้อยจะไปยกข้าวปลามาให้พวกท่าน!"เขาวิ่งเร็วกว่าบินเสียอีกเซียวหลันยวนเปิดประตูเดินออกมา ฟู่จาวหนิงได้กลิ่นหอมวูบหนึ่ง กลั้นขำถามขึ้น "ที่นี่อาบน้ำแล้วด้วยหรือ?"เดิมทีพอเขากินข้าวเย็นเสร็จจึงจะอาบน้ำ นี่ออกมาจากบ้านตระกูลหลินถึงกับทนไม่ไหวจนต้องอาบก่อนเลยหรือ?เซียวหลันยวนเหลือบมองผาดหนึ่ง ไม่พูดอะไร"ท่านคงไม่ได้ ถูกคนเสียมารยาทมาหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงอยากจะขำขึ้นมาเสียให้ได้ "ถูกแม่นางตระกูลหลินกอดเอาหรือ? หอมเอา? หรือว่าลูบคลำเอา?"เซียวหลันยวนสีหน้าแย่ไปแล้วตอนนั้นหลินอี๋เจินเห็นเขาปรากฎตัวในห้อง ปฏิกิริยาแรกกลับไม่ใช่หวาดกลัวลนลาน แต่เป็นตกตะลึง จากนั้นก็ร้องเรียกพี่เขยมาคำหนึ่ง ถัดมาก็โถมตัวเข้าหาเขา ท่าทางพุ่งเข้าโอบกอดนั่น ตื่นเต้นเสียจนแก้มหน้าแดงเถือกไปหมด ทำให้เซียวหลันยวนรู้สึกแย่ไปหมดทั้งตัวจังหวะนั้นเขารู้สึกว่าตนเองเหมือนเป็นกระดูกชุ่มน้ำจิ้มท่อนหนึ่ง ส่วนหลินอี๋เจินคือสุนัขที่หิวโหยตัวหนึ่งเขาตอนนั้นจึงเลี่ยงตัวออกมาทันที แต่หลินอี๋เจินกลับหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง
ฟู่จาวหนิงชะงักไป คิดถึงอะไรได้ขึ้นมา เชิดคางขึ้นมาทันที "ท่านทำไมไม่ลองคิดดูหน่อยว่าเพราะอะไรข้าถึงไป!"สิ่งยืนยันสามชิ้นนี้ยังอยู่กับนางทางนี้นะ ยังจะเอาอีกไหมเนี่ย?เซียวหลันยวนไม่สนใจสิ่งยืนยันแล้วจริงๆ หรือว่าปฏิกิริยาเชื่องช้าเกินไป หลังจากนางมาถึงเขาก็ไม่ถามเรื่องสิ่งยืนยันมาโดยตลอด และไม่ให้นางรีบไปดูผู้นำตระกูลฮู่ก่อนอีกด้วย"ได้มาแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนตอนนี้จึงมองนาง ดูแล้วไม่ลนไม่ลานอะไร ไม่ร้อนรนเลยจริงๆ"ผู้อาวุโสฮู่เป็นอย่างไรบ้าง?""อยู่ที่จวนอ๋อง นอนหลับไปแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้ว""เช่นนั้นพวกเรากินข้าวกันก่อน ข้าหิวแล้ว" ฟู่จาวหนิงผ่อนคลายลงทันที นางหิวจนไม่ไหวแล้วคำตอบที่เซียวหลันยวนให้กับนางคือตักน้ำแกงให้นางชามหนึ่ง วางไว้ตรงหน้านางหงจั๋วกับเฝิ่นซิงถอยไปอยู่ข้างๆ พวกนางเองก็พบแล้ว ว่าตอนที่ท่านอ๋องกับพระชายากินข้าวด้วยกันพวกนางทั้งสองก็ไม่มีหน้าทีอะไรแล้ว เรื่องตักกับข้าวตักน้ำแกงพวกนี้ แน่นอนว่ามีท่านอ๋องมาจัดการให้พวกนางสบตากันผาดหนึ่ง เม้มริมฝีปากแอบหัวเราะขึ้นมาพอเห็นท่าทางเช่นนี้ของท่านอ๋องและพระชายาแล้วจะไม่มีอารมณ์รักใครกันได้อย่างไร? พวกเขาน่าจะไ
"ขาดวัตถุดิบยาน่ะ ถ้ามีวัตถุดิบยาก็สกัดออกมาได้ เป็นเหมือนกับยาไล่งูเลย มีวัตถุดิบยาบางอย่างสามารถทำให้พวกยุงงูแมลงรังเกียจได้อยู่"ดังนั้นนางจึงไม่รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องไม่น่าเชื่ออะไรโดยเฉพาะหลังจากที่ช่วยลูกพี่ที่อยู่ในโลกวิชาแพทย์สองคนนั้นในอดีต นางก็ยังแลกเปลี่ยนกับพวกเขาอยู่ไม่น้อย พวกเขาเองก็สอนนางมาไม่น้อยเหมือนกันฟู่จาวหนิงตอนนั้นก็เคยค้นคว้ามาแล้วแต่เพราะในวันปกติก็แทบจะสัมผัสไม่ถึงคนป่วยกลุ่มนี้เลย นางเองจึงไม่ได้ตั้งอกตั้งใจสกัดยาในด้านนี้ต่อนางถึงกับเอายาที่รับมือกับแมลงกู่ไปเทียบกับยาไล่งูเนี่ยนะ?เซียวหลันยวนได้ยินก็อดขำไม่ได้"เจ้าไม่ใช่คนของพันธมิตรโอสถใต้หล้าหรอกหรือ? ลองไม่พึ่งผู้อาวุโสจี้แล้วไปออกรวบรวมวัตถุดิบยาที่ต้องการมาสร้างถุงยาดู"เขาเองไม่ได้กังวลเท่าไรเลย แต่กลับกังวลนางอยู่หน่อยๆ"ไว้ข้าจะไปถามท่านอาจารย์ดู" ฟู่จาวหนิงพยักหน้า"ผู้อาวุโสฮู่ทางนี้""ช่วยออกมาได้แล้ว แม้จะค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็ช่วยไว้ได้แล้ว""ระหว่างทางที่ผู้อาวุโสฮู่กลับมาก็มอบคำสั่งเสียไว้ไม่น้อยเลย มองออกว่าเขารู้สึกว่าตนเองช่วยไว้ไม่ได้แล้วจริงๆ คงจะรอดได้ไม่กี่วัน" เซียว
ฟู่จาวหนิงมองเขานิ่ง "คนอื่นตรงนี้ของข้ารวมไปถึงพ่อของข้าด้วย"ถ้าฟู่จิ้นเชินสามารถไม่ถูกพัวพันได้ ท่านปู่จะต้องดีใจอย่างมากแน่ เขาหลายปีมานี้ เขาหลายปีมานี้ร่างกายก็ไม่ดีมาตลอดจิตใจก็ย่ำแย่อีกลูกชายที่แต่ก่อนชุบเลี้ยงไว้อย่างดี เพียงพริบตากลายเป็นคนร้ายประกาศจับ หายสาบสูญไปพร้อมกับลูกสะใภ้หลายปี เป็นหรือตายก็ยังไม่รู้ สำหรับเขาแล้วนี่เป็นผลกระทบที่ยิ่งใหญ่มหาศาลของเขาแน่"อืม ข้ารู้ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนไปแจ้งกับจวนทางการ ให้เพิกถอนประกาศจับฟู่จิ้นเชินเสีย"สิบกว่าปีมานี้ จวนทางการในที่ต่างๆ ล้วนกำลังไล่จับสามีภรรยาตระกูลฟู่อยู่ ทุกปีล้วนทำการปรับประกาศจับพวกเขาให้เป็นปัจจุบันอยู่ตลอด ดังนั้น ฟู่จิ้นเชินกับฟู่หลินซื่อต่อให้ยังมีชีวิตอยู่ ก็น่าจะไปหลบไปซ่อนมาหลายที่การเพิกถอนประกาศจับต่อตัวเขามันหมายถึงอะไร เซียวหลันยวนไม่มีทางไม่รู้ฟู่จาวหนิงเดิมทีอยากจะบอกว่ารอให้หาพวกเขาพบก่อน รอจนตรวจสอบความจริงกระจา่ง คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนตอนนี้จะรับปากว่าไม่ไล่จับฟู่จิ้นเชินอีกแล้ว!นี่เท่ากับบอกว่า ฟู่จิ้นเชินไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกแล้ว มาเดินใต้ดวงตะวันได้แล้วฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน