ชายคนหนึ่งถูกทหารจวนอ๋องเจวี้ยนหิ้วเข้ามา โยนลงไปบนพื้นมืเท้าของดูบิดเบี้ยวอย่างประหลาดจากสายตาเฉพาะทางของฟู่จาวหนิง มือเท้าของเขาน่าจะถูกคนหักทิ้งตรงๆอันชิงพอเห็นหน้าตาของเขาสีหน้าก็เปลี่ยนไป หดตัวลงมาด้วยสัญชาตญาณฟู่จาวหนิงกุมมือนางไว้มั่น"ไม่ต้องกลัว"ถูกต้อง นางเองก็มองออกแล้ว ว่าชายคนนี้คือผู้ชายที่จะลงมือกับอันชิงบนเขาเมฆอรุณวันนั้น เจ้าคนปากแหลมหน้าตอบตอนนั้นเซียวหลันยวนแค่โยนเขาทิ้งไปข้างๆ นาเองก็คิดว่าต่อมาคงไม่มีใครไปสนใจเขาแล้วว่าจะเป็นหรือตาย คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนยังเอาคนไปลากตัวเขากลับมาด้วย"ท่านพี่ เป็นเขา เป็นเขา" อันชิงพูดกับอันเหนียนอันเหนียนหน้าเปลี่ยนสี มองไปทางเซียวหลันยวน"ยาเป็นเขาที่กรอกลงมา" เซียวหลันยวนให้คนไต่สวนมาจนชัดเจนแล้ว "แต่ว่า เขาไม่ได้เอ่ยถึงอี้ไห่ ข้าให้คนไปตรวจสอบ คนผู้นี้เป็นลูกลับๆ ของบ้านตระกูลต้วน บ้านตระกูลต้วนไม่ยอมรับเขา ไม่ยอมให้เขากลับไป พอเขาไปอยู่กับอี้ไห่ ตระกูลต้วนถึงรับตัวเขากลับ""เขารู้ว่าถ้าโพล่งชื่ออี้ไห่ออกมา ชีวิตเขาหลังจากนี้คงอยู่ต่อไม่ได้แล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ทั้งหมดจึงจะแบกไว้เอง""อี้ไห่ไม่ได้แตะใจละเมอ
เรื่องนี้ เป็นไปได้มากว่าเบื้องหลังองค์จักรพรรดิอาจจะสมรู้ร่วมคิดอยู่องค์จักรพรรดิ หลายปีมานี้ความลำเอียงดื้อรั้นขององค์จักรพรรดิหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงไม่ชอบ ขุนนางที่ไม่ค่อยจะเชื่อฟังเขาอย่างอันเหนียนอยู่แล้วน้ำตาอันชิงพรั่งพรูออกมา"พระชายา" อันเหนียนมองไปทางฟู่จาวหนิง "ถึงตอนนั้นก็ยังต้องให้พระชายาออกหน้า เพื่อยืนยันเรื่องการถอนพิษใจละเมอ"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า"ได้"ยืนยันความบริสุทธิ์ให้แก่สาวน้อยตัวเล็กอย่างอันชิง นางยินดีทำอยู่แล้วให้เจ้าขยะกำเริบอย่างอี้ไห่ประสบความสำเร็จ นางเองก็ทนดูไม่ได้เหมือนกันดูเอาเถอะ นางดีกับคนนอกเสียเหลือเกิน เรื่องอะไรก็รับปากเขาไปหมดเซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง เอ่ยขึ้นว่า "เจ้าคิดว่าพอเจ้าพูดคนอื่นก็จะเชื่อหรือ?"พี่น้องตระกูลอันตกตะลึงไปฟู่จาวหนิงสายตาเหลี่ยมจัด เม้มฝีปากยิ้มขึ้นมา"จะทำให้คนเชื่อไม่ง่ายหรือ? พวกท่านแค่ไปทำตามแผนของพวกท่านก็พอ ส่วนเรื่องที่พิสูจน์ว่าใจละเมอสามารถถอนพิษได้ ยกให้ข้ามา"นางตบลงที่หน้าอกตัวเองพอเห็นท่าทางนี้ของนาง เซียวหลันยวนก็อดไอขึ้นมาไม่ได้หลังจากพี่น้องตระกูลอันจากไป ฟู่จาวหนิงก็เตรียมจะกลับแล้
เซียวหลันยวนมีหญิงในดวงใจหรือไม่ ฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ได้อยากรู้นางจับชีพจรให้เขา ความคิดก็เปลี่ยนไปที่อาการป่วยของเขา"พิษนี้ของท่านต้องรีบขจัดออกให้ไวแล้ว""เลือดกวาง เจ้าทำเสร็จแล้วหรือ?"เซ๊ยวหลันยวนดูอึดอัด "เจ้าลืมไปหรือเปล่าว่าข้ากำลังรอเจ้าสกัดยามาให้?"ตอนนั้นที่ได้เลือดกวางมาก็ส่งไปให้นางจัดการเขายังคิดว่าหลังจากกลับเมืองหลวงนางจะรีบจำเลือดกวางมาให้เขาเสียอีก ผลลัพธ์คือรอมาหลายวันแล้วก็ยังไม่เห็นแม้เงาคนข่าวที่ได้รับมาจากตระกูลฟู่ คือเจ้าวันวันเอาแต่คอยรักษาอาการป่วยของท่านผู้เฒ่ากับหู่จือเฮ่อเหลียนเฟยผู้เฒ่าฟู่ยังว่าไปอย่าง ถึงอย่างไรก็เป็นปู่ของนาง นางจะเครียดและดูแลก็เรื่องปกติ แต่ว่าหู่จือล่ะ? เฮ่อเหลียนเฟยล่ะ?คนหนึ่งก็คนใช้ อีกคนหนึ่งก็คนนอกที่เก็บกลับมาจากภูเขา ล้วนจัดอยู่หน้าเขาทั้งหมด!เขารอมาหลายวันแล้ว ก็ยังไม่มีเลือดกวางส่งกลับมา!"เลือดวางคงไม่ได้ถูกเจ้าวางไว้จนเน่าเสียแล้วหรอกใช่ไหม?" เซียวหลันยวนมองนางเห็นได้ชัดว่านางรู้สึกผิดขึ้นมาแล้ว!ฟู่จาวหนิงรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กๆ จริงๆ พอผ่านเรื่องของจ้าวหรูจ้าวเฉินมา นางจู่ๆ ก็รู้สึกว่าตนเองยังเตรียมตัวไม่
ฟู่จาวหนิงกลับบ้านตระกูลฟู่ จัดการดูแลคนเจ็บคนป่วยในบ้านเหล่านั้นเสียก่อน แล้วจึงนำเอาวัตถุดิบยาบางส่วนกลับมาจวนอ๋องเจวี้ยนวันนั้นนางเอาเลือดกวางที่จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยกมาไว้เบื้องหน้าเซียวหลันยวน"ในนี้ข้ายังใส่ตัวยาลงไปอีกส่วนหนึ่ง หลังจากดื่มแล้วท่านอาจจะรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งร่างด้วย และมีเหงื่อออกไม่น้อยทีเดียว"ฟู่จาวหนิงพูดกับเขาอย่างชัดเจน"เนื่องจากสภาพร่างกายของท่านไม่ปกติ ต่อให้เหงื่อไหลออกมามากก็ห้ามอาบน้ำ ใช้ผ้าแห้งเช็ดก็พอ จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้า""และเป็นไปได้ว่าจะมีอาการมึนหัว สาเหตุมาจากคุณสมบัติของยา ไม่ต้องกังวล ดื่มน้ำเยอะๆ"ฟู่จาวหนิงพูดพลางมองไปทางชิงอี"ชิงอีละเอียดหน่อยก็พอแล้ว คืนนี้อย่านอนด้วยชุดเหงื่อท่วมก็แล้วกัน"ชิงอีมองท่านอ๋อง รีบร้อนเอ่ยขึ้นว่า "พระชายา ข้าน้อยเป็นคนหยาบลวก แล้วก็ไม่เข้าใจเรื่องการแพทย์ด้วย เกรงว่าจะดูแลท่านอ๋องได้ไม่ดี ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้อากาศก็เย็นแล้ว พอถึงตอนกลางคืนลมก็จะพัด ถ้าท่านอ๋องเหงื่อร้อนจนอึดอัด ข้าเองก็ไม่มั่นใจอีกว่าต้องเปิดหน้าต่างไหม หรือเปิดมากน้อยเพียงใด"ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างพูดไม่ออก"ดังนั้น ข้าน
ความสนใจของฟู่จาวหนิงตกอยู่บนบาดแผลเป็นบนหน้าเซียวหลันยวนเมื่อครู่ที่เขาขยับตัวไม่ได้ นางก็ยื่นมือมือเขามาเชิดหน้าเขาขึ้นอย่างไม่คิด เอ่ยขึ้นอย่างเข้มงวดว่า "อย่าขยับ!"เซียวหลันยวนนิ่งไปแล้วชิงอีปิดปากแน่น ถอยออกไปเงียบๆ จากนั้นก็ปิดประตูลงเบาๆหลังจากออกไปก็เห็นว่าหงจั๋วกำลังรออยู่ด้านนอกหงจั๋วพอเห็นเขาออกมาคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังปิดประตูอีก ดวงตาก็เปล่งประกายมองเขา เอ่ยขึ้นเเล็กน้อย "ท่านพี่ชิงอี ท่านอ๋องกับพระชายา?"นิ้วชี้นางสองนิ้วจิ้มไปเบาๆ ดวงตาเล็กกระพริบตาปริบ ดูดีใจอย่างคาดหวังพอเห็นนางเป็นเช่นนี้ ชิงอีก็ลากเธอเดินห่างออกมาหน่อยมายืนอยู่ที่ประตูคุยกันทำไม? เดี๋ยวก็ถูกท่านอ๋องได้ยินเข้าหรอก"หญิงสาวอย่างเจ้า ข้าพบว่าเจ้ากับเฝิ่นซิ่งเอาแต่หวังให้คุณหนูฟู่กลายเป็นพระชายาของพวกเราอย่างแท้จริงเสียเหลือเกิน"ชิงอีรู้สึกไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ และไม่รู้ว่าสาวใช้สองคนนี้เกิดอะไรขึ้น ไม่ได้สนิทกับฟู่จาวหนิงเสียหน่อย แต่ตั้งแต่แรกก็ยืนอยู่ข้างกายนาง ยิ่งไปกว่านั้นยังหนักแน่นไม่หนีไปไหนด้วย"ทำไมถึงมาบอกพวกเราว่าเอาแต่หวัง? นางเองตอนนี้ก็เป็นพระชายาของพวกเราแล้วนี่"หงจ
พอนางถอยออก เซียวหลันยวนก็ได้สติกลับมา"ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ..."เซียวหลันยวนไอขึ้นมาอีกครั้ง คลายเสื้อออกเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกร้อนนัก"ร่างกายข้าอ่อนแอมาตลอด ของที่กินทุกวันก็ล้วนละเอียดถี่ถ้วนมาก อาหารธรรมดาทั่วไป เนื้อไก่เนื้อหมู บางครั้งก็ได้กินเสื้อกระต่ายกับไข่ไก่และปลา แต่ปริมาณไม่เยอะมาก ผลไม้ปกติไม่กินเลย"ถ้าเป็นช่วยปกติ เซียวหลันยวนคงจะไม่พูดชัดเจนขนาดนี้ รายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้เขาเองก็ขี้เกียจจะอธิบายแต่ว่าตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวร้อนวูบวาบ ที่คอหอยก็แห้งผาก จึงพูดมาออกมาเยอะหน่อยตามสัญชาตญาณ คิดจะผ่อนคลายมันลงบ้าง"ชาที่ดื่มล่ะ? ยังเป็นไป๋ซวงกับจินเสวี่ยต้มมาให้ท่านอย่างละเมียดละไมหรือเปล่า?" ฟู่จาวหนิงเองก็ถามออกมาอย่างชัดเจนเซียวหลันยวนชะงักไป จ้องมองนางเขาจู่ๆ ก็อธิบายขึ้นมาคำหนึ่ง"เจ้าคิดว่าข้าให้พวกนางอยู่เพราะว่าทิ้งพวกนางไม่ลงหรือ?""แล้วไม่ใช่หรือไรกัน?"ฟู่จาวหนิงร้องเชอะ "แต่ว่าก็อธิบายได้อยู่ สาวใช้ที่ปรนนิบัติได้ละเอียดขนาดนั้น ติดตามท่านมาตั้งหลายปี ไม่ใช่ใครจะบอกว่าไม่เอาก็ไม่เอาได้นี่นะ""พวกนางรู้ความสัมพันธ์ของเจ้ากับข้า และรู้สภาพร่างกา
เซียวหลันยวนคิดว่าจะใช้แค่ปณิธานของตนเอง ฤทธิ์ยานี้ต่อให้กำเริบขึ้นมา เขาก็สามารถสะกดมันไว้ได้อย่างไร้ซุ่มเสียงคิดไม่ถึงว่าเขาจะประเมินตนเองสูงไปหลับไปครึ่งคืน เขาก็รู้สึกว่าทั่วร่างตนเองเหมือนมีไฟเผาอยู่ด้านใน เหงื่อไหลออกมาตลอด เพียงไม่นานก็เปียกเต็มเสื้อผ้าเขาคิดจะเรียกฟู่จาวหนิง แต่ก็รู้สึกว่าถ้าให้นางมาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าจะดูเหมือนกลั่นแกล้งนางไปหน่อยเขาไม่ได้จะให้นางมาเป็นสาวใช้เสียหน่อยขณะที่คิดจะทน ก็รู้สึกว่ามีสองมือยื่นออกมาปลดเสื้อผ้าของเขาออกเซียวหลันยวนสมองมึนงง หนังตาหนักอึ้ง คิดจะลืมตาแต่ก็ดูยากลำบากเหลือเกิน จึงคว้าไว้แค่มือของนาง"ท่านต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า"ฟู่จาวหนิงพลิกมือดึงเขาขึ้นมา ปลดเสื้อผ้าของเขาออกนางเดิมทีก็รู้สึกว่าไม่ได้ยากเท่าไร ถึงอย่างไรก็มองตนเองเป็นพยาบาลดูแลคนไข้เสียแต่ตอนที่เห็นร่างกายของเซียวหลันยวนใจนางก็อดเต้นตึกตักไม่ได้คิดไม่ถึงว่าอ๋องที่อ่อนแออย่างเซียวหลันยวน ร่างกายกลับดีเสียขนาดนี้ หน้าอกแน่น กล้ามท้องก็ดี เป็นประเภทที่สวมเสื้อผ้าแล้วผอมแห้งแต่ถอดมากลับดูแน่นปั๊กแบบนั้นสมแล้่วที่เป็นวิชายุทธ์นางออกแรงเปลี่ยนเสื้อผ้าเขา
ก้มหน้าลงมอง จากนั้นก็ย้ายสายตาไปบนใบหน้าฟู่จาวหนิงที่อยู่ข้างๆ เขามองจ้องอยู่ครู่หนึ่งระหว่างแคร่กับเตียงไม้ห่างแค่นิดเดียวเท่านั้น เขากำมือนางไว้แน่นแบบนี้ แขนของนางจึงพาดอยู่ระหว่างช่องว่างไม่ได้คลุมผ้าห่มมิน่าเขาจึงรู้สึกว่ามือของนางเย็น สบายดีเหลือเกินตอนที่ร่างกายร้อนวาบ ความเย็นของนางเช่นนี้ ทำให้เขาไม่อยากจะปล่อยเลยจริงๆตอนนี้เซ๊ยวหลันยวนเองก็ดูไม่อยากจะปล่อยจริงๆ แต่ว่าดูแล้วที่กำไว้เช่นนี้นางคงไม่สบายนัก เขาจึงดึงตัวออกแล้วแขนของนางใส่ไว้ในผ้าห่ม คลุมผ้าให้กับนางเมื่อคืนเขามึนๆ งงๆ ถึงแม้จะลืมตาขึ้นลำบาก แต่ก็ยังรู้ว่านางเช็ดเหงื่อให้กับเขาหลายครั้ง แล้วยังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาหลายรอบด้วย"เจ้าคงเห็นข้าเปลือยหมดแล้วสินะ" เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำนางตอนนี้หลับไปแล้ว มองท่าทางที่ดูว่าง่าย คิ้วตาดกดำราวกับพัดเล็กสองใบทำให้เกิดเงา ดูน่าเอ็นดดูกว่าตอนที่ตื่นมาพอสมควรเลย"ข้าคงจะเสียเปรียบไปแล้ว"เซียวหลันยวนพูดขึ้นอีกคำ จากนั้นก็ยื่นมือไป ใช้นิ้วเกี่ยวหน้านางเบาๆความรู้สึกลื่นเหมือนกับที่เขาจินตนาการไว้เมื่อคืนเลยเขาเก็บมือกลับมา นั่งลงมา เปิดผ้าห่มแล้วลงจากเตียง ตอนน