เซียวหลันยวนมีหญิงในดวงใจหรือไม่ ฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ได้อยากรู้นางจับชีพจรให้เขา ความคิดก็เปลี่ยนไปที่อาการป่วยของเขา"พิษนี้ของท่านต้องรีบขจัดออกให้ไวแล้ว""เลือดกวาง เจ้าทำเสร็จแล้วหรือ?"เซ๊ยวหลันยวนดูอึดอัด "เจ้าลืมไปหรือเปล่าว่าข้ากำลังรอเจ้าสกัดยามาให้?"ตอนนั้นที่ได้เลือดกวางมาก็ส่งไปให้นางจัดการเขายังคิดว่าหลังจากกลับเมืองหลวงนางจะรีบจำเลือดกวางมาให้เขาเสียอีก ผลลัพธ์คือรอมาหลายวันแล้วก็ยังไม่เห็นแม้เงาคนข่าวที่ได้รับมาจากตระกูลฟู่ คือเจ้าวันวันเอาแต่คอยรักษาอาการป่วยของท่านผู้เฒ่ากับหู่จือเฮ่อเหลียนเฟยผู้เฒ่าฟู่ยังว่าไปอย่าง ถึงอย่างไรก็เป็นปู่ของนาง นางจะเครียดและดูแลก็เรื่องปกติ แต่ว่าหู่จือล่ะ? เฮ่อเหลียนเฟยล่ะ?คนหนึ่งก็คนใช้ อีกคนหนึ่งก็คนนอกที่เก็บกลับมาจากภูเขา ล้วนจัดอยู่หน้าเขาทั้งหมด!เขารอมาหลายวันแล้ว ก็ยังไม่มีเลือดกวางส่งกลับมา!"เลือดวางคงไม่ได้ถูกเจ้าวางไว้จนเน่าเสียแล้วหรอกใช่ไหม?" เซียวหลันยวนมองนางเห็นได้ชัดว่านางรู้สึกผิดขึ้นมาแล้ว!ฟู่จาวหนิงรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กๆ จริงๆ พอผ่านเรื่องของจ้าวหรูจ้าวเฉินมา นางจู่ๆ ก็รู้สึกว่าตนเองยังเตรียมตัวไม่
ฟู่จาวหนิงกลับบ้านตระกูลฟู่ จัดการดูแลคนเจ็บคนป่วยในบ้านเหล่านั้นเสียก่อน แล้วจึงนำเอาวัตถุดิบยาบางส่วนกลับมาจวนอ๋องเจวี้ยนวันนั้นนางเอาเลือดกวางที่จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยกมาไว้เบื้องหน้าเซียวหลันยวน"ในนี้ข้ายังใส่ตัวยาลงไปอีกส่วนหนึ่ง หลังจากดื่มแล้วท่านอาจจะรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งร่างด้วย และมีเหงื่อออกไม่น้อยทีเดียว"ฟู่จาวหนิงพูดกับเขาอย่างชัดเจน"เนื่องจากสภาพร่างกายของท่านไม่ปกติ ต่อให้เหงื่อไหลออกมามากก็ห้ามอาบน้ำ ใช้ผ้าแห้งเช็ดก็พอ จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้า""และเป็นไปได้ว่าจะมีอาการมึนหัว สาเหตุมาจากคุณสมบัติของยา ไม่ต้องกังวล ดื่มน้ำเยอะๆ"ฟู่จาวหนิงพูดพลางมองไปทางชิงอี"ชิงอีละเอียดหน่อยก็พอแล้ว คืนนี้อย่านอนด้วยชุดเหงื่อท่วมก็แล้วกัน"ชิงอีมองท่านอ๋อง รีบร้อนเอ่ยขึ้นว่า "พระชายา ข้าน้อยเป็นคนหยาบลวก แล้วก็ไม่เข้าใจเรื่องการแพทย์ด้วย เกรงว่าจะดูแลท่านอ๋องได้ไม่ดี ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้อากาศก็เย็นแล้ว พอถึงตอนกลางคืนลมก็จะพัด ถ้าท่านอ๋องเหงื่อร้อนจนอึดอัด ข้าเองก็ไม่มั่นใจอีกว่าต้องเปิดหน้าต่างไหม หรือเปิดมากน้อยเพียงใด"ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างพูดไม่ออก"ดังนั้น ข้าน
ความสนใจของฟู่จาวหนิงตกอยู่บนบาดแผลเป็นบนหน้าเซียวหลันยวนเมื่อครู่ที่เขาขยับตัวไม่ได้ นางก็ยื่นมือมือเขามาเชิดหน้าเขาขึ้นอย่างไม่คิด เอ่ยขึ้นอย่างเข้มงวดว่า "อย่าขยับ!"เซียวหลันยวนนิ่งไปแล้วชิงอีปิดปากแน่น ถอยออกไปเงียบๆ จากนั้นก็ปิดประตูลงเบาๆหลังจากออกไปก็เห็นว่าหงจั๋วกำลังรออยู่ด้านนอกหงจั๋วพอเห็นเขาออกมาคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังปิดประตูอีก ดวงตาก็เปล่งประกายมองเขา เอ่ยขึ้นเเล็กน้อย "ท่านพี่ชิงอี ท่านอ๋องกับพระชายา?"นิ้วชี้นางสองนิ้วจิ้มไปเบาๆ ดวงตาเล็กกระพริบตาปริบ ดูดีใจอย่างคาดหวังพอเห็นนางเป็นเช่นนี้ ชิงอีก็ลากเธอเดินห่างออกมาหน่อยมายืนอยู่ที่ประตูคุยกันทำไม? เดี๋ยวก็ถูกท่านอ๋องได้ยินเข้าหรอก"หญิงสาวอย่างเจ้า ข้าพบว่าเจ้ากับเฝิ่นซิ่งเอาแต่หวังให้คุณหนูฟู่กลายเป็นพระชายาของพวกเราอย่างแท้จริงเสียเหลือเกิน"ชิงอีรู้สึกไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ และไม่รู้ว่าสาวใช้สองคนนี้เกิดอะไรขึ้น ไม่ได้สนิทกับฟู่จาวหนิงเสียหน่อย แต่ตั้งแต่แรกก็ยืนอยู่ข้างกายนาง ยิ่งไปกว่านั้นยังหนักแน่นไม่หนีไปไหนด้วย"ทำไมถึงมาบอกพวกเราว่าเอาแต่หวัง? นางเองตอนนี้ก็เป็นพระชายาของพวกเราแล้วนี่"หงจ
พอนางถอยออก เซียวหลันยวนก็ได้สติกลับมา"ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ..."เซียวหลันยวนไอขึ้นมาอีกครั้ง คลายเสื้อออกเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกร้อนนัก"ร่างกายข้าอ่อนแอมาตลอด ของที่กินทุกวันก็ล้วนละเอียดถี่ถ้วนมาก อาหารธรรมดาทั่วไป เนื้อไก่เนื้อหมู บางครั้งก็ได้กินเสื้อกระต่ายกับไข่ไก่และปลา แต่ปริมาณไม่เยอะมาก ผลไม้ปกติไม่กินเลย"ถ้าเป็นช่วยปกติ เซียวหลันยวนคงจะไม่พูดชัดเจนขนาดนี้ รายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้เขาเองก็ขี้เกียจจะอธิบายแต่ว่าตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวร้อนวูบวาบ ที่คอหอยก็แห้งผาก จึงพูดมาออกมาเยอะหน่อยตามสัญชาตญาณ คิดจะผ่อนคลายมันลงบ้าง"ชาที่ดื่มล่ะ? ยังเป็นไป๋ซวงกับจินเสวี่ยต้มมาให้ท่านอย่างละเมียดละไมหรือเปล่า?" ฟู่จาวหนิงเองก็ถามออกมาอย่างชัดเจนเซียวหลันยวนชะงักไป จ้องมองนางเขาจู่ๆ ก็อธิบายขึ้นมาคำหนึ่ง"เจ้าคิดว่าข้าให้พวกนางอยู่เพราะว่าทิ้งพวกนางไม่ลงหรือ?""แล้วไม่ใช่หรือไรกัน?"ฟู่จาวหนิงร้องเชอะ "แต่ว่าก็อธิบายได้อยู่ สาวใช้ที่ปรนนิบัติได้ละเอียดขนาดนั้น ติดตามท่านมาตั้งหลายปี ไม่ใช่ใครจะบอกว่าไม่เอาก็ไม่เอาได้นี่นะ""พวกนางรู้ความสัมพันธ์ของเจ้ากับข้า และรู้สภาพร่างกา
เซียวหลันยวนคิดว่าจะใช้แค่ปณิธานของตนเอง ฤทธิ์ยานี้ต่อให้กำเริบขึ้นมา เขาก็สามารถสะกดมันไว้ได้อย่างไร้ซุ่มเสียงคิดไม่ถึงว่าเขาจะประเมินตนเองสูงไปหลับไปครึ่งคืน เขาก็รู้สึกว่าทั่วร่างตนเองเหมือนมีไฟเผาอยู่ด้านใน เหงื่อไหลออกมาตลอด เพียงไม่นานก็เปียกเต็มเสื้อผ้าเขาคิดจะเรียกฟู่จาวหนิง แต่ก็รู้สึกว่าถ้าให้นางมาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าจะดูเหมือนกลั่นแกล้งนางไปหน่อยเขาไม่ได้จะให้นางมาเป็นสาวใช้เสียหน่อยขณะที่คิดจะทน ก็รู้สึกว่ามีสองมือยื่นออกมาปลดเสื้อผ้าของเขาออกเซียวหลันยวนสมองมึนงง หนังตาหนักอึ้ง คิดจะลืมตาแต่ก็ดูยากลำบากเหลือเกิน จึงคว้าไว้แค่มือของนาง"ท่านต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า"ฟู่จาวหนิงพลิกมือดึงเขาขึ้นมา ปลดเสื้อผ้าของเขาออกนางเดิมทีก็รู้สึกว่าไม่ได้ยากเท่าไร ถึงอย่างไรก็มองตนเองเป็นพยาบาลดูแลคนไข้เสียแต่ตอนที่เห็นร่างกายของเซียวหลันยวนใจนางก็อดเต้นตึกตักไม่ได้คิดไม่ถึงว่าอ๋องที่อ่อนแออย่างเซียวหลันยวน ร่างกายกลับดีเสียขนาดนี้ หน้าอกแน่น กล้ามท้องก็ดี เป็นประเภทที่สวมเสื้อผ้าแล้วผอมแห้งแต่ถอดมากลับดูแน่นปั๊กแบบนั้นสมแล้่วที่เป็นวิชายุทธ์นางออกแรงเปลี่ยนเสื้อผ้าเขา
ก้มหน้าลงมอง จากนั้นก็ย้ายสายตาไปบนใบหน้าฟู่จาวหนิงที่อยู่ข้างๆ เขามองจ้องอยู่ครู่หนึ่งระหว่างแคร่กับเตียงไม้ห่างแค่นิดเดียวเท่านั้น เขากำมือนางไว้แน่นแบบนี้ แขนของนางจึงพาดอยู่ระหว่างช่องว่างไม่ได้คลุมผ้าห่มมิน่าเขาจึงรู้สึกว่ามือของนางเย็น สบายดีเหลือเกินตอนที่ร่างกายร้อนวาบ ความเย็นของนางเช่นนี้ ทำให้เขาไม่อยากจะปล่อยเลยจริงๆตอนนี้เซ๊ยวหลันยวนเองก็ดูไม่อยากจะปล่อยจริงๆ แต่ว่าดูแล้วที่กำไว้เช่นนี้นางคงไม่สบายนัก เขาจึงดึงตัวออกแล้วแขนของนางใส่ไว้ในผ้าห่ม คลุมผ้าให้กับนางเมื่อคืนเขามึนๆ งงๆ ถึงแม้จะลืมตาขึ้นลำบาก แต่ก็ยังรู้ว่านางเช็ดเหงื่อให้กับเขาหลายครั้ง แล้วยังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาหลายรอบด้วย"เจ้าคงเห็นข้าเปลือยหมดแล้วสินะ" เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำนางตอนนี้หลับไปแล้ว มองท่าทางที่ดูว่าง่าย คิ้วตาดกดำราวกับพัดเล็กสองใบทำให้เกิดเงา ดูน่าเอ็นดดูกว่าตอนที่ตื่นมาพอสมควรเลย"ข้าคงจะเสียเปรียบไปแล้ว"เซียวหลันยวนพูดขึ้นอีกคำ จากนั้นก็ยื่นมือไป ใช้นิ้วเกี่ยวหน้านางเบาๆความรู้สึกลื่นเหมือนกับที่เขาจินตนาการไว้เมื่อคืนเลยเขาเก็บมือกลับมา นั่งลงมา เปิดผ้าห่มแล้วลงจากเตียง ตอนน
อันเหนียนคุกเข่าอยู่หน้าแท่นหนังสือขององค์จักรพรรดิ ก้มหน้าต่ำ พอได้ยินคำพูดของเขา ก็สัมผัสได้ถึงเจตนาร้ายขององค์จักรพรรดิลึกๆ ขึ้นมาองค์จักรพรรดินี่รังเกียจเขาอยู่ใช่ไหม?คนอื่นถ้าคิดจะวิจารณ์ตระกูลอันของพวกเขา องค์จักรพรรดิจะอุดปากพวกเขาได้หรือ?อย่างมากก็คงจะพูดออกมาอย่างคลุมเครือต่อหน้าพวกเขา แต่ลับหลังก็ไม่รู้ว่าจะลือกันแย่แค่ไหนจะว่าไป องค์จักรพรรดิตอนนี้รังเกียจพวกเขาแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าพวกเขาได้ยินคนอื่นพูดกัน ก็ต้องเข้าวังมาให้อค์จักรพรรดิออกหน้าให้ทุกครั้งไปหรือ?องค์จักรพรรดิจะออกหน้าแทนพวกเขาได้ทุกครั้ง แล้วจัดการคนเหล่านั้นได้หรือ?ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเคยถามอันชิง อันชิงถึงแม้จะรู้สึกขอบคุณต่ออ๋องเจวี้ยน แต่นางก็ไม่ใช่ผู้หญิงไร้สมองแบบนั้น"องค์จักรพรรดิ น้องสาวข้าไม่เคยเห็นหน้าตาอ๋องเจวี้ยนเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นนางไม่มีเหตุผลต้องออกเรือนกับอ๋องเจวี้ยนเลย ยิ่งไปกว่านั้นกฎของตระกูลข้าก็มีอยู่ ห้ามเป็นสนมโดยเด็ดขาด องค์จักรพรรดิอาจจะลืมไปแล้วหรือ ว่านั่นเป็นเพราะศาลบรรพบุรษของเราแต่ก่อนโดนภรรยาผู้น้อยเล่นงานจนลำบาก ตระกูลอันเกือบจะต้องบ้านแตกสาแหรกขาดเพียงเพราะภรรยาผู้น
น้ำเสียงของเขาขรึมลงมาอันเหนียนก็น่าขันเสียจริง เขาเป็นจักรพรรดิถึงกับพูดว่าจะจัดงานเลี้ยงในวังให้ ในฐานะขุนนาง ตอนนี้ยังคิดจะทำให้เขาหมดอารมณ์อีกหรือ?เขาจะจัดงานเลี้ยงในวัง ต้องสนใจด้วยหรือว่าเขาจะมีอารมณ์หรือไม่มี?ดังนั้นถึงบอกว่าอันเหนียนไม่ทำให้คนรู้สึกชอบใจเอาเสียเลย"องค์จักรพรรดิ""เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว เอาเช่นนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ตอนบ่าย เจ้าพาน้องสาวเจ้าเข้ามาในวัง"องค์จักรพรรดิพูดจบก็ลุกขึ้นยืน "ถอยไปเถิด"พูดจบเขาก็สะบัดชายเสื้อเดินออกไปอันเหนียนทำได้เพียงถอยออกมา มองแผ่นหลังขององค์จักรพรรดิ สีหน้าเขาก็ขรึมลงมาองค์จักรพรรดิไปหาฮองเฮา แจ้งเรื่องนี้กับนางฮองเฮารินน้ำชาให้เขา เอ่ยขึ้นว่า "บังเอิญเสียจริง องค์จักรพรรดิ อี้ไห่เจ้าเด็กคนนันก่อนหน้านี้ก็เข้ามาหาหม่อมฉันแล้ว บอกว่าเขารู้สึกรักใครแม่นางอันชิงจนถอนตัวไม่ขึ้น บอกว่าไม่ว่านางจะบริสุทธิ์หรือไม่ ก็ยินยอมจะรับนางเอาไว้"องค์จักรพรรดิตะลึงงัน"จริงหรือ?""ก็นั่นล่ะ""คนที่ช่วงชิงความบริสุทธิ์ของอันชิงไป เป็นอายวนหรือว่าอี้ไห่กันแน่?" องค์จักรพรรดิรู้สึกสอดรู้สอดเห็นขึ้นมาฮองเฮายิ้มๆ "เรื่องนี้ หม่อมฉันเ
เหล่าคุณหนูพวกนี้พอเอ่ยถึงผู้ประสบภัย ก็มีสีหน้าหวาดกลัวและดูถูกพวกนางล้วนมีอำนาจในเมืองหลวง กินดีอยู่ดีมาตั้งแต่เด็ก ผุ้ประสบภัยน่ะห่างจากพวกนางไกลโขเลยกระทั่งจินตนาการ พวกนางก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าผู้ประสบภัยเป็นอย่างไรด้วยซ้ำคุณหนูเหล่านี้ไม่กล้าไปสถานที่วุ่นวายมาก่อน ในเมื่อเมืองเจ้อเต้มไปด้วยผู้ประสบภัย แล้วพวกนางจะกล้าไปได้อย่างไรกัน?"จริงด้วย ต่อให้มีผู้ประสบภัยหญิงมากแค่ไหน พวกเราเองจะไปช่วยอะไรได้? หรือว่าพวกเรายังต้องรับพวกนางกลับมาเมืองหลวงด้วย?""นั่นไม่ได้หรอก เมืองหลวงไม่มีทางให้ผู้ประสบภัยเข้ามาแน่""แล้วก็ ถึงแม้จะเป็นหญิง แต่ผู้ประสบภัยก็ยังเป็นผู้ประสบภัย ล้วนเป็นประชาชนชั้นต่ำทั้งนั้น" มีหญิงสาวคนหนึ่งมีสีหน้าดุร้ายขึ้นมาหน่อยๆคำพูดนี้มีหลายคนที่ยอมรับ เพียงแต่ว่า ไม่ได้แสดงออกมาตรงๆเฉินฮ่าวปิงหน้าแข็งทื่อไปคนเหล่านี้เป็นคุณหนูจากตระกูลดังนะ แต่เรื่องใหญ่พวกนี้ก็ทำกันไม่ได้หรือ!แต่ว่านางต้องการเรื่องใหญ่สักเรื่องเพื่อสร้างความนิยมให้ตนเอง ให้คนทั้งแคว้นเจารู้จักท่านหญิงปิงอวี้ในทันทีถึงตอนที่นางมีชื่อเสียง มีบารมี องค์จักรพรรดิก็จะตบรางวัลให้นางอ
คนเหล่านี้ล้วนดูถูกนาง!ขณะเดียวกัน นางก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมานางสูดลมหายใจลึก ทำให้ตนเองสงบลงมาหน่อย จากนั้นจึงพูดเป้าหมายของวันนี้ออกมา"ข้าเองช่วงนี้ก็เพิ่งถูกท่านพ่อยอมรับ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ตัวตนฐานะของตัวเอง แต่ท่านพ่อก็บอกข้าแล้ว เขาจะให้ท่านแม่เป็นพระชายารอง องค์จักรพรรดิเองก็เห็นด้วย ข้ารู้ว่าทุกคนล้วนคิดว่าท่านแม่ข้าเป็นบ้านน้อย แต่หลังจากนี้ไม่ใช่แล้ว ข้าเองก็หวังว่าจะได้เป็นเพื่อนกับทุกคน"ทุกคนเองก็คิดไม่ถึงว่านางจะพูดออกมาตรงๆ ว่าฮูหยินเฉินเป็นบ้านน้อย"เฮอะ อ๋องฉยงบอกจะให้แม่ของเจ้าเป็นพระชายารอง แล้วพระชายาอ๋องเจวี้ยนเห็นด้วยหรือยัง?" องค์หญิงหนานฉือเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจเฉินฮ่าวปิงข่มตัวเองไว้"องค์จักรพรรดิเห็นด้วยแล้ว เชื่อว่าพระชายาอ๋องฉยงคงไม่ขัดราชโองการแน่""เจ้านี่ชอบงัดองค์จักรพรรดิออกมาเหลือเกิน ว่ามา เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับที่เจ้าเรียกพวกเรามาวันนี้?""เป็นเช่นนี้ ข้าได้ยินว่าช่วงนี้แต่ละพื้นที่ล้วนประสบภัย มีผู้ประสบภายมากมาย คนมากมายพลัดพรากจากบ้าน ดังนั้นในใจคงลำบากมาก" เฉินฮ่าวปิงเอ่ยขึ้น"ชิ" องค์หญิงเจ็ดร้องเชอะขึ้นมาอย่าอดไม่อยู่นางม
การปักสองด้านของอันชิงโดดเด่นมากการปักสองด้านของฟางซือฉิงก็ดีมากพวกนางล้วนลงมือปักชุดแต่งงานของตนเองกันเอง ก่อนที่จะตกลงแต่งงานก็เริ่มปักกันแล้วตอนนี้จู่ๆ พอได้ยินว่ามีคนด้อยค่าการปักสองด้าน พวกนางจึงไม่ค่อยสบายใจนักแต่ว่า เมื่อครู่ได้เห็นโคมไฟวังงานปักที่ด้านนอกแล้ว พวกนางเองก็รู้เรื่องฝีมืองานปักของเฉินฮ่าวปิงมาระดับหนึ่ง และรู้ว่าพวกนางนั้นเทียบไม่ได้จริงๆประโยคเมื่อครู่นี้ คนที่พูดคือองค์หญิงหนานฉือองค์หญิงหนานฉือชอบการปักสองด้านอยู่โคมไฟวังงานปักเมื่อครู่เหล่านั้นก็ยังไม่ได้ดูดีดี แต่รู้สึกรำคาญหูและไม่ชอบในความอวดดีของเฉินฮ่าวปิงลูกสาวบ้านน้อยคนหนึ่ง จะมาอวดดีที่นี่ทำไมกัน? แล้วก็ เอางานปักพวกนี้ออกมาแสดงอย่างภาคภูมิใจ จะหยิ่งยโสขึ้นมาก็ไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ถือดีอย่างไรมาด้อยค่าคนอื่นเขา? ต่อให้มันด้อยค่าจริง แต่ใช้สิ่งที่นางต้องมาพูดไหม?"คารวะองค์หญิงหนานฉือ"มีคนลุกขึ้นยืน คารวะไปทางองค์หญิงหนานฉือแต่ตอนที่เห็นฟู่จาวหนิง ก็มีคนที่เยอะกว่าลุกขึ้นมา และล้วนคารวะให้แก่นาง "คารวะพระชายาอ๋องเจวี้ยน"ก่อนหน้านี้คนไม่น้อยในเมืองหลวงยังคิดจะย่ำฟู่จาวหนิงอยู่เลย แต่พ
"ท่านพ่อในเมื่อให้องค์จักรพรรดิแต่งตั้งข้าเป็นท่านหญิง นั่นก็คือ แน่นอนว่าให้สถานะกับแม่ข้าด้วย องค์หญิงเจ็ด หลังากนี้คำพูดอย่างลูกสาวบ้านน้อย ได้โปรดอย่าเอ่ยขึ้นอีกเลย" เฉินฮ่าวปิงเอ่ยขึ้นอย่างอย่างอดกลั้นเกินพอแล้ว!นางเป็นท่านหญิงแล้ว แล้วทำไมตัวตนลูกสาวบ้านน้อยถึงยังมากดอยู่บนตัวนางอีก?เดิมทีนางยังคิดจะแสดงออกถึงความสูงส่งความหยิ่งยโสสักหน่อย ถึงอย่างไรนางก็เป็นท่านหญิงแล้ว แต่ถูกองค์หญิงเจ็ดพูดเช่นนี้ เกียรติของนางก็หล่นร่วงมาบนพื้นจนหมดชั่วขณะหนึ่ง เฉินฮ่าวปิงรู้สึกว่าสายตาคนทั้งหมดที่มองนางผิดปกติไป"ชิ"องค์หญิงเจ็ดไม่ใส่ใจถ้าไม่เห็นแก่หน้าพระชายาเยว่ นางไม่มีทางมาหรอกชิวอวิ๋นเดิมทีเป็นคนของพระชายาเยว่ ตอนนี้พอเห็นจึงรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย"องค์หญิงเจ็ด องค์จักรพรรดิกับพระชายาเยว่ล้วนชื่นชอบงานปักของท่านหญิงมาก ท่านหญิงของพวกเราเองก็เตรียมของขวัญให้กับองค์หญิงเจ็ดและคุณหนูทุกท่านด้วย เป็นงานปักด้วยมือทั้งหมด หวังว่าทุกท่านจะชอบ"นางรีบไปนำของขวัญออกมาทุกคนล้วนได้รับผ้าไหมผืนหนึ่ง"ผ้าไหมประกายหิมะ?"มีแม่นางรับผ้าไหมไปแล้วจำได้ขึ้นมาผ้าไหมประกายหิมะยอดเยี่ยมกว
ดังนั้นคนไม่น้อยจึงหัวเราะเยาะนาง อยากจะดูว่านางจะใช้ชีวิตเวทนาแค่ไหนตอนนี้พอได้เห็น องค์หญิงหนานฉือก็เหมือนจะงดงามกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด สายตาพริ้วไหวดูมีเสน่ห์ดึงใจอย่างมาก"ดูจากสภาพขององค์หญิงหนานฉือ น่าจะได้รับความโปรดปรานน่าดูเลยกระมัง?""ผู้ตรวจการอันเป็นอัจฉริยะลือชื่อในเมืองหลวงเราเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังหล่อเหลามากด้วย"ใช่ไหมล่ะ ก่อนหน้านี้ยังมีแม่นางตั้งมากมายชอบผู้ตรวจการอันเถอะ น่าเสียดายที่ผู้ตรวจการอันไม่ค่อยออกไปเที่ยว คนที่รู้จึงมีไม่เยอะ ยิ่งไปกว่านั้นยังเคยบอกว่าไม่อยากรีบแต่งงานไม่เช่นนั้นจะวนมาถึงองค์หญิงหนานฉือได้อย่างไรกัน?ตอนนี้พอเห็นองค์หญิงหนานฉือดูดีราศีจับเหมือนเลี้ยงดูมาอย่างมีความสุขเช่นนี้ ก็มีแม่นางหลายคนอดรวดร้าวขึ้นมาไม่ได้ผู้ตรวจการอันต้องดีกับนางมากแน่นอน ไม่เช่นนั้นนางไม่มีทางดูมีความสุขขนาดนี้"ตระกูลของผู้ตรวจการอันก็มีคุณธรรมด้วย ไม่มีการรับอนุภรรยา ไม่มีเรื่องวุ่นวายเหล่านั้นของพวกเรือนหลัง ดูท่าองค์หญิงหนานฉือกับน้องสะใภ้อันชิงก็น่าจะเข้ากันได้ดีด้วย"ฮือๆๆ มองพวกนางแล้วก็อิจฉาถ้ารู้ว่าจะมีความสุขแบบนี้ พวกนางคงหน้าด้านให้
แม่ลูกฮูหยินเฉินหลังจากมาถึงเมืองหลวงแคว้นเจา ตอนแรกสุดไม่มีที่จะอยู่ด้วยซ้ำ ยังต้องอาศัยอยู่กับต่งฮ่วนจืออยู่เลยดังนั้นถ้าบอกว่าพวกนางมีเงิน ฟู่จาวหนิงยิ่งไม่เชื่อฟางซือฉิงดูไปพักหนึ่งจึงเข้ามา บอกกับนางเสียงแผ่วว่า "โคมไฟวังพวกนี้ใช้ผ้าไหมวาวระยับของต้าชื่อมาปัก ผ้าไหมวาวระยับแพงมากเลยนะ ปกติต้งจะเอามาทำฉากกั้นลม พัดกลม หรือพวกหน้าต่างอะไรพวกนั้น คนปกติทั่วไปไม่มีทางได้ใช้""เจ้ารู้จักผ้าไหมวาวระยับด้วยหรือ?""พ่อข้าเปิดร้านผ้านี่นา ไม่ใช่แค่ขายแต่ผ้าที่บ้านพวกเราทำออกมาเท่านั้น ยังมีผ้าไหมชั้นดีที่หาจากแคว้นต่างๆที่แคว้นเจาไม่มีด้วย บางครั้งก็มีคนมาหาซื้อของที่โดดเด่นไม่มีใครซ้ำ ผ้าไหมวาวระยับนี่พวกเราก็มีอยู่หลายม้วน แพงมาก"ตระกูลฟางทำการค้ากว้างไกล รู้จักข้าวของก็กว้างตาม ฟางซือฉิงจึงรู้จึกมากขึ้นหน่อย"ถ้าอย่างนั้นโคมไฟวังมากขนาดนี้ ดูท่าแต่ละใบราคาคงไม่ธรรมดาเลย""ใช่ เดิมทีแค่ผ้าไหมวาวระยับก็แพงแล้ว บวกกับงานปักชั้นสูงนี่อีก ใบละร้อยตำลึงยังถือว่าถูกไปเลย" ฟางซือฉิงเอ่ยขึ้นพอนางพูดจบก็ยังประหลาดใจหน่อยๆ ถึงอย่างไรที่นี่ก็มีโคมไฟวังอยู่อย่างน้อยสิบหกใบแล้ว นี่ถือว่าไ
ยิ่งไปกว่านั้น เทียบกับตอนที่ฟู่จาวหนิงมาก่อนหน้านี้ประดับประดาเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอย่างเช่น โคมไฟสลักงานปักที่เป็นเอกลักษณ์พวกนั้นตอนนี้แม้จะเป็นกลางวัน ดคมไฟวังยังไม่จุดสว่าง แต่ตอนกลางวันก็ยังมองเห็นงานเย็บปักด้านบนนั้นอย่างชัดเจน แต่ละชิ้นล้วนวิจิตรประณีต ฝีมือไม่ธรรมดามีคุณหนูหลายคนกำลังชื่นชมโคมไฟวังเหล่านั้น ดูชอบกันมาก แต่ละคนดูหลงใหลจนวางไม่ลงกันเลยทีเดียว"ข้าอยากจะเอากลับไปสักใบจัง สวยกมากเลย เมืองหลวงของพวกเราไม่มีปรากฏโคมไฟงานปักแบบนี้มาก่อนเลย""สวยมากจริงๆ นั่นล่ะ ท่านหญิงปิงอวี้กับฮูหยินเฉินเอาแค่ฝีมือด้านนี้ ก็ทำให้พวกนางเป็นที่สนใจในเมืองหลวงได้แล้ว"ฟู่จาวหนิงได้ยินคำวิจารณ์ของเหล่าแม่นางพวกนั้น ฟางซือฉิงเองก็ดูสนใจกับโคมไฟวังเหล่านั้นเหมือนกัน มองๆ ฟู่จาวหนิง สีหน้าก็ประหลาดใจหน่อยๆ"ทำไมหรือ? เจ้าอยากไปดูโคมไฟวังพวกนั้นหรือ? อยากดูก็ไปดูสิ""เจ้าไม่ใช่ไม่ชอบเฉินฮ่าวปิงหรือ? เจ้าไม่ชอบ ข้าก็ไม่ชอบ" เฉินฮ่าวปิงบอกฟู่จาวหนิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่"ไม่ถึงกับต้องขนาดนั้น ถึงข้าจะรู้สึกไม่ค่อยดีกับเฉินฮ่าวปิงนัก แต่ว่า งานปักของพวกนางก็ประณีตสวยง
ฟู่จาวหนิงหัวเราะ"ความสัมพันธ์มันก่อตัวขึ้นมานั่นล่ะ ก่อหนน้านี้ก็มีช่วงที่เขาทำให้ข้าโมโหแทบคลั่งตายเหมือนกัน"ยิ่งไปกว่านั้นตอนแรกสุด พวกเขายังมีความสัมพันธ์แบบจะฆ่ากันตายจริงๆ ด้วยก่อนหน้านางนี้นางแอบด่าเซียวหลันยวนว่าเป็นผู้ชายหมาๆ น้อยเสียที่ไหน"จริงหรือ? ตอนนี้มองไม่ออกเลยว่าอ๋องเจวี้ยนจะทำให้เจ้าโมโหได้"ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ใครจะเชื่อว่าอ๋องเจวี้ยนที่ถูกือกันว่าเย็นชาอย่างมากมาแต่ไหนแต่ไร จะโปรดปรานฟู่จาวหนิงเสียขนาดนี้?น้ำเสียงเวลาพูดจาก็หวานหยดย้อย"ตอนนี้ดีมากจริงๆ"โดยเฉพาะเมื่อคือน หลังจากที่พูดว่าไม่อยากให้นางมีโอกาสต้องดื่มยาน้ำเลี่ยงตั้งครรภ์ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าเซียวหลันยวนหล่อเหลากว่าแต่ก่อนเยอะเลยชายหนุ่มที่สามารถสะกดความบุ่มบ่ามของตนเองเพื่อสุขภาพร่างกายของนางได้ ต้องบวกคะแนนให้จริงๆ"แต่ว่า จาวหนิง อ๋องเจวี้ยนยังคงสวมหน้ากากอยู่ หน้าของเขายังไม่ดีขึ้นหรือ?"หลังจากฟางซือฉิงเข้ามา เซียวหลันยวนก็สวมหน้ากากไว้แล้วเมื่อวานนางไม่กล้ามองหน้าเขา วันนี้ก็มองไม่เห็นหน้าเขาแล้วฟางซือฉิงเดิมทีรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ควรพูดมาก กลัวว่าถ้าไปสาดเกลือใส่แผลฟู่จาวหน
"พรวด" ฟู่จาวหนิงสนุกขึ้นมาแล้ว "มองมาตั้งนานขนาดนี้ ยังไม่เบื่ออีกหรือ?"ได้ยินว่าชายหนุ่มรักความสดใหม่ ไม่ว่าภรรยาจะสวยแค่ไหน ดอกไม้ป่าข้างนอกที่แตกต่างก็ย่อมดึงดูดพวกเขาได้"ไม่มีทางเบื่อ" เซียวหลันยวนกอดนาง"ท่านรักข้าแค่เปลือกนอกจริงๆ ด้วย" ฟู่จาวหนิงจงใจพูดขึ้น"รักหมดนั่นล่ะ รูปลักษณ์ของเจ้าข้าชอบหมด แต่ถ้ามีแต่รูปลักษณ์ภายนอก คงชอบได้ไม่นานนัก ทว่าพอมีเจ้าอยู่ด้านใน ความชอบนี้จึงยั่งยืนยาวนาน"ใครไม่รักความสวยความงามบ้างล่ะ? แต่ความงามก็เป็นแค่ความประทับใจแรกพบ หากจะทำให้ยั่งยืน ก็ต้องมีจิตวิญญาณด้วยเขาโชคดีแค่ไหน ที่มีภรรยาแบบนี้ ภายนอกกับจิตวิญญาณเขารักมันทั้งหมด"เซียวหลันยวน ท่านตอนนี้ยิ่งปากหวานขึ้นทุกวันแล้วนะ"ฟู่จาวหนิงเพิ่งเงยหน้า ริมฝีปากก็ถูกเขากดลงมา"ประทินปาก..." ของข้าประทินปากของฟู่จาวหนิงนางทำขึ้นมาเอง ใส่แต่วัตถุดิบที่ไม่มีพิษอย่างพวกน้ำผึ้งดอกไม้เข้าไป ดังนั้นจึงดูมันวาวเป็นพิเศษ แล้วยังเป็นสีธรรมชาติ ไม่เหมือนกับที่ด้านนอกขายกัน ที่มีแต่แดงก่ำ แดงดอกท้อ แดงเลือดดันั้นหลังจากทาแล้วจึงดูน่าดึงดูดพอเห็นนาง เซียวหลันยวนก็อดเข้ามาจูบไม่ได้แล้วจู