"มีคนตามมาแล้ว"ฟู่จาวหนิงหน้าเปลี่ยนสี"เจ้ากับมันไปก่อนเถอะ" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "พวกเราจะดึงคนออกไปเอง""ได้เลย"ตอนนี้ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่สนที่จะคุยกับเขาแล้ว ตบลงที่ตัวราชันกวาง "พวกเรารีบไปเถอะ"ราชันกวางพานางเดินตรงไปยังป่าลึกเซียวหลันยวนมองนางจากไป และอดส่งสื่อเสียงให้นางไม่ได้ "เจ้าไปคนเดียวจะกลัวไหม?"ให้นางตามกวางตัวหนึ่งเข้าไปในป่าทึบ จะมีอันตรายไหม?"ไม่กลัว! อย่าพูดไร้สาระเลย รีบไปขวางคนไว้!"เสียงฟู่จาวหนิงส่งออกมาเขาพูดไร้สาระหรือ?เซียวหลันยวนกัดกัดฟันไม่ได้รู้จิตใจคนเอาเสียเลย หรือว่าเขาไม่กังวลต่อตัวนางเลยหรือ? เดิมทียังคิดจะบอกว่าให้เขาเดินไปกับนาง แต่พอได้ยินนางพูดแบบนี้ก็โยนความคิดทิ้งไปพอคิดถึงนางก่อนหน้าที่ซัดงูพิษตายด้วยเข็มเดียว เขาก็รู้สึกว่านางน่าจะไม่มีปัญหาพวกของลู่ทงเองก็ยืนขึ้นมาแล้วเพียงไม่นาน ในป่าด้านหน้าก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาคนที่นำคือโหวอาวุโสน้อยอี้ข้างกายเขายังมีเหล่าเพื่อนสุนัขกลุ่มนั้นด้วย แล้วยังพาองครักษ์มาอีกไม่น้อยเลย บนตัวทุกคนล้วนดูซมซานนิดๆ ดูท่าน่าจะไล่ตามอยู่ในป่ามาครึ่งค่อนวันพอเห็นคนทางนี้ อีกฝ่ายก็ตะลึงงั
"นั่นน่ะสิ!" ลู่ทงมองไปรอบๆ เหมือนกำลังกดเสียงต่ำเพื่อคุยกับเจิ้งหยาง อันที่จริงเขาเป็นคนเสียงดัง คำพูดที่พูดมาก็ยังทำให้โหวอาวุโสน้อยอี้ได้ยินอยู่ดี"มีราชันกวางจริงๆ! แล้วยังบาดเจ็บอีกด้วย พวกเราอย่ามามัวจับปลาย่างปลาเลย รีบออกหาดีกว่า! ถึงอย่างไรพวกเรานั่งกินปลาอยู่ตั้งครึ่งค่อนวันก็ยังไม่เห็น จะต้องอยู่ที่อื่นแน่ รีบไปเถอะ เหลือพวกนี้ทิ้งไว้ให้พวกเขาแล้วกัน"โหวอาวุโสน้อยอี้พอได้ยินคำพูดเขา ก็มองๆ รอบตัวพวกเขามีกองไฟกับก้างปลาอยู่กองหนึ่งจริงๆข้างลำธารมีรอยเลือดกับเกล็ดปลาบางส่วนที่พวกเขาจัดการปลาเอาไว้ดูแล้วพวกเขาเพิ่งจะจับปลายางปลากินกันจริงๆ แล้วยังอยู่ที่นี่นานพอควรอีกด้วยถ้าราชันกวางผ่านที่นี่ไปจริง แล้วยังบาดเจ็บอีกด้วย พวกเขาจะปล่อยมันหนีไปได้หรือ? จะต้องจัดการล่ามันไปนานแล้วแน่นอน!แต่ว่ารอบตัวพวกเขาไม่มีสัตว์ที่ล่าไว้สักตัว ไม่ต้องพูดถึงราชันกวางเลยถ้าเห็นเหยื่อชั้นดีขนาดนั้น คนเหล่านี้จะปล่อยไปได้อย่างไร?เซียวหลันยวนยืนขึ้นมา ส่งสายตาให้กับชิงอี จู่ๆ ร่างก็แฉลบออกไป ข้ามลำธารตรงไปยังทางตรงข้ามกับป่าชิงอีเอ่ยกับพวกลู่ทงอย่างรวดเร็ว "ไป!"เขาเองก็รีบตามอ๋อ
มากขนาดนี้เชียว!ทั้งหมดล้วนเป็นเบญจมาศหรือว่าราชันกวางตัวนี้คิดจะพานางมาดูดอกไม้ผืนนี้?"น้องกวาง! เจ้าเยี่ยมจริงๆ!"ฟู่จาวหนิงกอดราชันกวาง กระโดดโลดเต้นขึ้นมาอย่างดีใจวัตถุดิบยานี้ นางจะบอกว่าล้ำค่ามากก็ไม่ถึงขนาดนั้น เพราะว่ามันไม่ใช่วัตถุดิบยาที่สร้างกล้ามเนื้อเอ็นกระดูก หรือทำให้คนตายฟื้นกลับมาได้แต่วัตถุดิบยานี้ต่างหากที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด จะป่วยน้อยเจ็บน้อยก็ล้วนต้องการมันอย่างอาการที่ธาตุไฟมากเกินไป อาการลมร้อนต่างๆ ปวดหัวปวดฟัน เจ็บคอเจ็บตา หูอื้อท้องผูก อาการเจ็บป่วยเล็กๆ ต่างๆ ล้วนสามารถใช้ได้ยาเบญจมาศชนิดนี้ประสิทธิภาพยังมากกว่าพวกเบญจมาศครรภ์เบญจมาศแขวนเบญจมาศหลวงเบญจมาศป่าดอกเงินทองอะไรพวกนั้นเสียอีกฟู่จาวหนิงเด็ดดอกหนึ่งออกมาลองดม กระทั่งยังพบว่ากลิ่นของมันยังดีมากด้วย ในกลิ่นหอมมีกลิ่นหวานอ่อนๆหรือก็คือตัวยานี้ถึงตอนนั้นถ้าสกัดเป็นยาเด็ก เด็กๆ ก็จะพอกินได้ดังนั้นถ้าคำนวณขึ้นมาจริงๆ ดอกไม้ผืนนี้ มีมูลค่ามหาศาลมากแน่นอน ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ใช่มองแค่มูลค่าของมัน แต่หลังจากนี้ถ้าต้องการวัตถุดิบนี้ นางเองก็ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว!นี่เป็นข้อมูลที่มีอยู่ใ
จู่ๆ นางก็รู้สึกว่า ถ้าคอมพิวเตอร์ยังสามารถเชื่อมไปยุคปัจจุบันได้ เช่นนั้นนางถ้าบันทึกข้อมูลเพิ่มเข้าไป ยุคปัจจุบันจะมีการอัพเดทไหม? จะมีคนอีกมากที่ได้เห็นวัตถุดิบยานี้ไหม?ในคลังข้อมูลยังมีวัตถุดิบยาที่ขาดแคลนรูปภาพอยู่ อย่างยาเบญจมาศนี้ ด้านในไม่มีรูปที่เกี่ยวกับยาเบญจมาศเลยถ้าหลังจากนางบันทึกเพิ่มเติมทั้งหมดเข้าไป ไม่แน่ว่าหลังจากนี้อาจจะมีคนสามารถหายาเบญจมาศพบก็ได้คิดถึงจุดนี้ฟู่จาวหนิงก็ตื่นเต้นขึ้นมาว่าแล้วก็รีบบันทึกภาพยาเบญจมาศเข้ไาปในคอมพิวเตอร์ทันที ขณะเดียวกันก็ยังถ่ายภาพของหญ้าเสินหนงที่ชัดเจนกว่าอีกหลายใบใส่เข้าไปด้วยการอัพเดทคลังข้อมูลวัตถุดิบยา นางเหมือนทำเรื่องเรื่องหนึ่งสำเร็จไปได้ด้วยดีแล้วก็วัตถุดิบยาเหล่านั้นในพิธีเดิมพันโอสถก่อนหน้า กลับไปถ้ามีเวลานางจะจัดการบันทึกเข้าไปทีละชนิดๆเลยออกมาจากห้องเภสัช ฟู่จาวหนิงเด็ดดอกไม้ต่อ จากนั้นก็ขุดหญ้าเสินหนงออกมาไม่น้อยในพื้นที่ยาเบญจมาศผืนนี้อาจจะเหมาะกับการเติบโตของหญ็าเสินหนง ขุดมาได้มากพอควรเลยจริงๆหลังจากเด็ดดอกไม้มาไม่น้อย นางยังเก็บหนังงูที่สมบูรณ์ออกมาจากในกองหญ้าได้อีกสองผืน สิ่งนี้ก็เอาไปทำยาได้ นางไ
ไม่รอฟู่จาวหนิงได้ทันวิเคราะห์ แสงไฟทางนั้นก็สว่างขึ้นมา คบไฟหลายคบก็ชูขึ้น ส่องสว่างคนทั้งหมดและส่องสะท้อนจนนางหลบไปไหนไม่ได้ด้วยอีกฝ่ายล้วนสวมชุดคล่องตัว พกกระบี่ยาวคนทีนำมาเป็นชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองยี่สิบสาม หน้าตาไม่เลว เพียงแต่สายตาที่พิจารณาตัวฟู่จาวหนิงทำให้นางรู้สึกไม่ค่อยดีนักและข้างกายพวกเขายังมีหญิงสาวอีกสองคน พวกนางสวมชุดผู้ชาย รวมผมสูง เพียงแต่หน้าอกนั่นกับเอวนั้นบอกคนอื่นว่าพวกนางเป็นหญิงสาวที่ร่างสะโอดสะองรอบด้านมีม้าหลายตัว บนม้าแบกเหยื่อล่าเอาไว้มากมายฟู่จาวหนิงยังเห็นเลียงผาอีกสองตัว และยังมีไก่ป่าที่มีขนยาวอีกตัว นอกจากนี้ยังมีกระต่ายป่าอีกหลายตัว"มานี่"ชายหนุ่มคนนั้นกระดิกนิ้วหาฟู่จาวหนิงราวกับกระดิกนิ้วเรียกสุนัขอย่างไรอย่างนั้นระหว่างฟู่จาวหนิงกับพวกเขายังมีพุ่มหนามพุ่มเล็กอยู่ น่าจะเพราะสาเหตุนี้ พวกเขาจึงยังไม่เข้ามาฟุ่จาวหนิงมองเห็นว่ามีคนง้างธนูมาทางนาง และรู้ว่านางยังหนีไม่ได้ชั่วคราว"พวกเจ้าเป็นโจรภูเขาที่สังหารคนแล้วชิงของมาหรือ?"นางจงใจถามขึ้นคำหนึ่งคนเหล่านั้นตกตะลึงไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็มีคนหัวเราะร่าขึ้นมามีคนกลับโกรธขึ้
ฟู่จาวหนิงในใจไม่ค่อยสบายใจ วิธีการเรียกสุนัขแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเหมือนเป็นสุนัขที่เขากำลังเลี้ยงไว้อย่างไรอย่างนั้น ทำเอานางขยะแขยงจริง"พวกท่านจะมาล่าหมาป่า ข้าก็จะไม่รบกวนพวกท่าน เข้าเข้ามาเก็บยาสมุนไพร ข้าขอตัวก่อนแล้วกัน" ฟู่จาวหนิงตบไปที่ตะกร้าหลังบนหลังนางใส่ยาเบญจมาศกับวัตถุดิบยาอื่นๆ เข้าไปในตะกร้าหลัง ไม่เช่นนั้นออกไปคงอธิบายยาก"เจ้ามาเก็บยาหรือ? เจ้าเป็นคนของพันธมิตรโอสถหรือว่าหมอกันล่ะ" ชายหนุ่มถามขึ้นอีกหญิงสาวที่ชื่อจือเอ๋อร์คนนั้นร้องหาขึ้นมาอย่างเกินจริง"พี่เฉิน นางอย่างมากก็มาจากบ้านที่จนมากๆ จนต้องมาขุดยาแล้วเอาไปแลกในเมืองนั่นล่ะ จะเป็นคนของพันธมิตรโอสถได้อย่างไร? และยิ่งไม่ใช่หมอเลยด้วย"หญิงสาวอีกคนหนึ่งพยักหน้า "ถูกต้อง มีหมอที่ไหนอายุน้อยแบบนี้บ้าง? แล้วก็หมอหญิงหรือ? แคว้นเจาของพวกเรามีหมอหญิงอยู่กี่คนกัน ล้วนกำลังไปรับใช้อยู่ในวังกันหมดแล้ว แล้วจะมาขุดยากลางป่าเขาได้อย่างไร?""เอาล่ะ พวกเจ้าพูดให้น้อยลงหน่อย"ฟู่จาวหนิงมองชายหนุ่มคนนี้ พวกเนางล้วนเรียกว่าพี่เฉิน เขาคงจะไม่ใช่จ้าวเฉินหรอกใช่ไหม?พี่ชายของจ้าวหรู?"เจ้ารู้จักข้าหรือ?" อีกฝ่ายถาม
"จือเอ๋อร์ เฟินเอ๋อร์ พวกเจ้าอยู่ที่นี่!"จ้าวเฉินเอ่ยกับหญิงสาวที่แต่งเป็นชายสองคนขึ้นเสียงหนึ่ง ชักกระบี่ออกมา จากนั้นก็พูดกับฟู่จาวหนิงว่า "เจ้ารักษาเขาไป อย่าให้เขาตายก็พอ! คนอื่นตามข้ามา พวกเราจะไปสังหารหมาป่ากัน!""สังหารหมาป่า!"ชายหนุ่มคนอื่นก็ล้วนตื่นเต้นขึ้นมา"พวกเราถ้าสามารถสังหารหมาป่ากลับไปได้ ครั้งนี้คงชนะแน่แล้ว!""ไม่ กลับไปแล้วยังต้องแย่งเจ้าหมีดำตัวเล็กนั่นของเจียงอวี้ด้วย"เจียงอวี้ทางนั้นได้เจ้าผู้ชายหน้ากากมาช่วย สังหารหมีดำมาได้ตัวหนึ่ง พวกเขาทางนี้อย่างน้อยต้องสังหารหมาป่าสักสิบตัวจึงจะชนะ"หมาป่ากับหมี ต้องได้มาทั้งหมด"จ้าวเฉินเอ่ยขึ้นอย่างอหังการ พุ่งออกไปข้างหน้าก่อน"จุดไฟ!จุดไฟให้หมด!"หมาป่ากลัวไฟ พวกเขาจะสังหารหมาป่า ต้องทำให้พวกมันกลัวเสียก่อนฟู่จาวหนิงได้ยินเสียงหมาป่าหอมาอีกสองครั้ง สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อยพวกของจ้าวเฉินกล้าขนาดนี้เลยหรือ? แล้วก็ยังไม่ทันจะฟังออกเลย ว่าที่มาอาจจะเป็นฝูงหมาป่าก็ได้? สัตว์อย่างหมาป่า ฝีมือต่อสู้แบบกลุ่มแข็งแกร่งมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังเจ้าคิดเจ้าแค้นด้วย!ถ้าหากพวกเขาสังหารหมาป่าไปแล้ว แต่ล้มจ่าฝูงไม่ได
ฟู่จาวหนิงกำลังคิดเรื่องเหล่านี้ บวกกับนางที่เดิมทีก็ทั้งเหนื่อยทั้งหิว เดินมาจนเมื่อยไปหมดแล้ว พอไม่ทันระวัง พอถูกเขาผลักเช่นนี้ก็ล้มลงไปนั่งบนพื้น"ฮะๆ" จือเอ๋อร์เดิมทีคิดจะเข้ามาฟังว่าพวกเขาคุยอะไรกัน พอเห็นฟู่จาวหนิงถูกผลักจนล้มจ้ำเบ้าก็หัวเราะขึ้นมาทันที"เจ้าเด้กสารเลวนี่ไม่ใช่คนดีเลย!"นางร้องเชอะ สายตาที่มองเฮ่อเหลียนเฟยเองก็รังเกียจเช่นกัน"พี่เฉินให้เจ้าดูอาการให้เขา แล้วเจ้าดูสิ ฟังนะ อย่าให้เขาตายไปก็พอแล้ว" จือเอ๋อร์เอ่ยขึ้นอีกฟู่จาวหนิงนั่งอยู่บนพื้น ไม่ได้รีบลุกขึ้นมานางมองเฮ่อเหลียนเฟยชายหนุ่มตอนที่ผลักนางเมื่อครู่ร้อนรนขึ้นมา ในดวงตาเผยอาการขอโทษ แต่ตอนที่นางมองเข้าไปเขาก็รีบก้มหน้าลงทันทีเขาควรจะเจ็บปวดจนทนแทบไม่ไหวแล้ว สีหน้าซีดขาว ทั่วร่างชุ่มด้วยเหงื่อ ริมฝีปากถูกกัดจนเกือบไหลเขาบาดเจ็บหนักมาก ฟู่จาวหนิงต่อให้ไม่ตรวจสอบก็รู้แล้วว่าขาข้างนี้ถ้าไม่รีบจัดการอย่างทันท่วงที ต่อให้เขาจะแบกสังขารต่อไปไหว แต่ขาข้างนี้ภายหลังก็ใช้ไม่ได้แล้วการต้องเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกลายเป็นคนพิการขาเป๋ นางรับไม่ได้จริงๆชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้แย่เลย อย่างน้อยเขาก็ยังเตือนนางมา