ฟู่จิ้นเชินขนาดเรื่องข้างกายองค์จักรพรรดิก็ญังสืบมาได้ นี่ใช่ปัญญาชนตกอับธรรมดาเสียที่ไหนกัน"ที่ตามรถม้าไปใช่ป้าคนนั้นไหม?"รู้ว่าเป็นป้าคนนั้น ฟู่จาวหนิงยังรู้สึกเชิงขอดทษหน่อยๆ ที่เมื่อครู่คาดเดาว้าวุ่นไปแบบนั้น"นั่นเป็นลูกชายของนาง ตอนนี้ปัจจุบันเฝ้าเวรยามอยู่ที่ประตูวัง"ให้ตายเถอะ ฟู่จาวหนิงร้องให้ตายเถอะขึ้นมาทันที"พ่อของเจ้ามีมิตรภาพในวัยหนุ่มอยู่ไม่น้อยเลย แล้วทุกคนก็ยังจดจำบุญคุณได้ แน่นอนว่าพวกเราก็ไม่ปฏิบัติไม่เป็นธรรมกับพวกเขาแน่นอน" เสิ่นเชี่ยวยิ้มอธิบายขึ้นมาพวกเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้บุญคุณเล็กน้อยในอดีตครั้งนั้น ให้ทุกคนหันมาตอบแทนไม่หยุดในตอนนี้เรื่องของเส้นสาย เจ้าไม่ให้อะไรคนอื่นเลยไม่ได้ ต้องมีสิ่งที่ให้พวกเขาด้วยฟู่จาวหนิงรู้อยู่แล้ว ดังนั้นนางจึงนับถือท่านพ่อมาก"ตอนนี้เจ้าคิดจะทำอย่างไรล่ะ? กลับไปบอกอ๋องเจวี้ยนเรื่องนี้ก่อนไหม?"ฟู่จิ้นเชินรู้สึกว่านางหนีมาแบบนี้ไม่ใช่วิธีแก้ไขฟู่จาวหนิงตอนนี้กลับมีอีกความคิดหนึ่ง นางส่ายหัว "ข้าคิดว่า เข้าใจหลายๆ ด้านหน่อยก็ดีเหมือนกัน"ตอนนี้ขัดขวางไปเรื่องหนึ่ง ด้านหลังก็จะมีอีกหลายเรื่อง สู้ฉวยโอกาสตอนที่มีเ
นางกลับจวนตระกูลฟู่มาตั้งนานแล้ว แต่เซียวหลันยวนกลับไม่ตามมาฟู่จิ้นเชินจับการกระทำของนางออก ใจก็คิดขึ้นมาและเดาออก ในใจเขาเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจนักเช่นกัน"ในเมื่อตัดสินใจว่าจะไม่สนใจแล้ว เช่นนั้นก็อย่าคิดมากเลย พักผ่อนไวไว เอากำลังให้เต็มที่" เขาเอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงพยักหน้า ยืนขึ้นมา"เช่นนั้นข้ากลับห้องก่อนแล้ว ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านก็พักผ่อนไวไว ไม่ต้องกังวลแทนข้าหรอก ข้าเองก็เก่งอยู่นะ"นางโบกไม้โบกมือ เดินออกประตูไปมองแผ่นหลังนาง เสิ่นเชี่ยวก็รู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมา แต่ก็เอ่ยอย่างกังวลกับสามีว่า "ท่านสามี ท่านได้ยินไหม? ตอนนี้จาวหนิงเรียกพวกเราว่าพ่อแม่ได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจแล้ว ท่านว่านางตอนนี้ยอมรับพวกเราลึกๆ ในใจแล้วหรือยัง?""ใช่สิ ลูกสาวเป็นคนที่มีจุดยืน ถ้าหากไม่ยอมรับ นางไม่มีทางเรียกเราว่าพ่อกับแม่หรอก ในเมื่อนางเรียกแล้ว ก็คือปล่อยเรื่องในอดีตพวกเราและเริ่มต้นใหม่แล้ว หลังจากนี้พวกเราก็ชดเชยให้นางดีดีกก็พอ เจ้าเองก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วย หลังจากนี้ถ้านางมีลูก แล้วข้างกายมีแม่อยู่ด้วยจึงจะดูแลได้เหมาะสม"การเติบโตของจาวหนิงก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วย หลังจากนี
จวนตระกูลฟู่ตอนนี้เงียบสนิทเซียวหลันยวนเดิมทีมาถึงประตูใหญ่แล้ว เห็นว่าประตูใหญ่ปิดสนิท ด้วยกำลังภายในของเขา ยังสามารถได้ยินเสียงกรนของคนเฝ้าประตูเขายืนอยู่ที่ประตูใหญ่เหลือบมองผาดหนึ่ง จึงหมุนตัวเดินไปทางประตูหลังชิงอีตามอยู่ด้านหลัง พอเห็นท่าทางแบบนี้ของท่านอ๋อง จะหัวเราะก็ไม่กล้าท่านอ๋องเหมือนเพิ่งเคยทำเรื่องแบบนี้ครั้งแรก ดูไม่เด็ดขาดเอาเสียเลยพอถึงประตูหลัง แน่นอนว่าประตูปิดสนิทอยู่ ด้านในเงียบสงบ"ท่านอ๋อง หรือว่าท่านปีนกำแพงดีไหม?" ชิงอีแนะนำขึ้นอย่างจริงใจถึงอย่างไรตอนนี้จะไปเคาะประตูเรียกคนมาเปิดประตูก็เหมือนจะเอะอะเกินไป ถ้าเผื่อพระชายาหลับไปแล้ว ปลุกนางตื่นมาคงไม่ดีนักปีนกำแพงก็ปีน"ข้าเองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน"เซียวหลันยวนพูดพลางกระโจนตัวขึ้นเบาๆ ข้ามเข้าไปในเรือนอย่างไร้ซุ่มเสียงราวกับควันคนคุ้มครองเรือนบ้านตระกูลฟู่ไม่พบตัวเขา วิทยายุทธ์ต่างกันเกินไปชิงอีมองซ้ายมองขวา ข้ามกำแพงตามเข้าไปเซียวหลันยวนมาถึงเรือนของฟู่จาวหนิง พอเหลือบมองก็เห็นเสี่ยวเยว่ที่ย้ายเก้าอี้ออกมานั่งอยู่ด้านนอกบนตัวเสี่ยวเยว่คลุมเสื้อไว้ผืนหนึ่ง หลับไปแล้วฟู่จาวหนิงแต่ไหนแต่ไ
"เจ้าบอกข้าหน่อย เพราะอะไรกัน? นางโกรธจุดไหนมากที่สุด?" เซียวหลันยวนถามเสี่ยวเยว่นิ่งงันไปแล้วขนาดคุณหนูยังไม่อยากพูดเรื่องแย่ๆ ของฮูหยินเฉิงต่อหน้าเขา แล้วนางที่เป็นสาวใช้พูดได้ไหม?ถ้าเผื่อนางพูดอะไรไม่ดีออกไป แล้วไปพังเรื่องของคุณหนูขึ้นมาจะทำอย่างไรกัน?"ท่านอ๋องลองคิดดูเองดีไหมเจ้าคะ? คุณหนูเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล" เสี่ยวเยว่ตัดสินใจไม่พูดอะไรเซียวหลันยวนกลับไปแบบไม่ได้อะไรถึงแม้อยากจะปลุกฟู่จาวหนิงลุกขึ้นมาคุยกันให้ชัดเจน แต่สุดท้ายก็ไม่อยากจะไปปลุกนางเขาทำได้แค่กลับไปทางเดิมอย่างเซื่องซึมพอเขาออกไปแล้ว เสี่ยวเยว่จึงกลับห้องไปนอนอย่างวางใจเซียวหลันยวนหลังจากกลับไปก็นอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นมาเขียนหนังสือกว่าฟ้าจะสาง เขาจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หิ้วตะกร้าผลไม้ใบหนึ่งเตรียมไปที่จวนตระกูลฟู่ เขาจะรีบไปให้ทันอาหารเช้าบ้านตระกูลฟู่แต่ว่าพอเขาออกจากประตูเรือน ก็เห็นลวี่กั่วประคองฮูหยินเฉิงเข้ามาแล้วเซียวหลันยวนมองสีท้องฟ้า เช้าขนาดนี้เชียว?ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก น้ำค้างยามเช้ายังไม่หายไปเลย"อายวน ข้ารู้ว่าเจ้าตื่นเช้าขนาดนี้" ฮูหยินเฉิงพอเห็นเซียวหลันยวน ก็เผย
เซียวหลันยวนอันที่จริงไม่ค่อยเข้าใจว่าเพราะอะไรฮูหยินเฉิงถึงจะไปจวนตระกูลฟู่เพื่อเยี่ยมท่านผู้เฒ่าแม้เขาจะเคารพท่านน้าเฉิงมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกฟู่จาวหนิงคิด ที่จะมองท่านน้าเฉิงเป็นเหมือนผู้อาวุโสของตนเอง ผู้อาวุโสที่สนิทมากแบบนั้นนี่มันคนละเรื่องกันเลยคือเขาสามารถเคารพท่านน้าเฉิงได้ แต่ก็เพียงเท่านั้น เรื่องที่เขาแต่งงานก็ไม่ได้บอกกล่าวอะไรกับท่านน้าเฉิงเป็นพิเศษ"ไม่ต้องรบกวนดีกว่า ข้ากับจาวหนิงเองก็แต่งงานกันนานแล้วด้วย"ตอนนี้เขากับผู้เฒ่าฟู่เป็นครอบครัวเดียวกันนานแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องให้ผู้อาวุโสทางนี้คนหนึ่งเข้าไปเยี่ยมเยียนโดยเฉพาะผู้เฒ่าฟู่ก็ไม่แน่ว่าจะต้อนรับด้วยเอาจริงๆ เซียวหลันยวนรู้สึกว่า ตอนนี้ไม่ว่าใครที่บ้านตระกูลฟู่ก็ไม่ต้อนรับท่านน้าเฉิงทั้งนั้นเมื่อวานหลังจากจาวหนิงกลับไปก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรด้วย แต่จู่ๆ นางกลับไปบ้านฝ่ายหญิง ตอนค่ำก็นอนอยู่ที่นั่น คนตระกูลฟู่ต้องรู้แน่ว่าทางนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นท่านน้าเฉิงตอนนี้ถ้าไปบ้านตระกูลฟู่ น่าจะไม่ได้รับการต้อนรับ ตรงกันข้ามน่าจะไม่มีสีหน้าดีดีให้กันด้วยซ้ำถึงอย่างไรคนของบ้านตระกูลฟู่ก็ปกป้องกันเองมา
นี่คือบ้านตระกูลฟู่ นางเองก็คุ้นเคยมากกว่า แน่นอนว่ายังต้องไปเตรียมของใช้ล้างหน้าให้คุณหนูเสี่ยวเยว่พอเห็นนางวิ่งออกไปไวขนาดนั้น ก็ยิ้มๆ ส่ายหัว นางไม่ได้จะแย่งงานเสียหน่อย รีบร้อนอะไรกัน?"คุณหนู ข้าเข้าไปแล้วนะ"เสี่ยวเยว่ผลักประตูเดินเข้าไป และก็ตามที่คิดไว้ ฟู่จาวหนิงสวมเสื้อคลุมแล้วฟู่จาวหนิงไม่ต้องให้คนมารับใช้สวมเสื้อผ้าให้ตนเอง เว้นเสียแต่เสื้อผ้าที่นางสวมใส่ไม่เป็นแต่เรื่องสางผมนางเองก็ทำไม่ได้ ยังต้องมีสาวใช้มาคอยช่วยเสี่ยวเยว่รีบมาช่วยนางคาดเข็มขัด"คุณหนู เมื่อคืนนี้อ๋องเจวี้ยนเข้ามาแล้ว" นางคิดว่าฟู่จาวหนิงพอตื่นมาคงจะพูดเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้นางเข้าใจผิด แล้วคิดว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้เข้ามา"เข้ามาด้วยหรือ? ตอนไหนกัน?""ตอนที่ท่านเพิ่งจะหลับไปไม่นานนัก"ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าเซียวหลันยวนจะไม่ยอมเข้ามาเสียแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอนางหลับเขาก็เข้ามาอดพูดไม่ได้เลย พอเขาเข้ามา ก็ทำให้นางหายโมโหไปบ้างหน่อยๆ"แต่ข้าขวางท่านอ๋องไว้ ไม่ให้เขาเข้ามาในห้อง คุณหนู ข้าได้ยินว่าท่านเพิ่งหลับไป คิดว่าท่านอ๋องเข้าไปคงทำให้ท่านตื่น"เสี่ยวเยว่ยอมรับผิดออกมา ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เ
ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าการเอายาสีฟันออกขายไม่มีปัญหาอะไรเลยหลังจากล้างหน้าล้างตาดีแล้วนางก็เตรียมออกไปยืดเส้นยืดสายหน่อย จากนั้นค่อยไปคุยเรื่องนี้กับฟู่จิ้นเชิน นางจะไปยอดเขาโยวชิงอยู่แล้วด้วย ดูว่าวันนี้จะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยได้ไหมบ้านตระกูลฟู่ถ้าหากไม่มีรายรับอยู่ตลอด นี่ก็ไม่ไหวอยู่นะก่อนหน้านี้ค่าใช้จ่ายของตระกูลฟู่นางเป็นคนออก นางคิดว่าฟู่จิ้นเชินคงคิดหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้อยู่ตลอด ดังนั้นควรรีบทำอย่ารอช้าหลังจากฝึกมวยชุดเล็กๆ เสร็จ ฟู่จาวหนิงก็ไปที่โถงหน้าส่วนประตูใหญ่บ้านตระกูลฟู่เปิดอยู่ และมองเห็นรถม้าของจวนอ๋องเจวี้ยนได้พอดีคนเฝ้าประตูรีบเข้าไปคารวะ และหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนลงจากรถม้า บนรถม้าก็มีคนเดินลงมาอีกสองคนพอเห็นฮูหยินที่ไม่รู้จัก คนเฝ้าประตูบ้านตระกูลฟู่ก็นิ่งไป"ท่านผู้เฒ่าตื่นหรือยัง?""เรียนท่านอ๋อง ท่านผู้เฒ่าของเราลุกขึ้นมารำไทเก็กไปชุดหนึ่งแล้วขอรับ" คนเฝ้าประตูเอ่ยตอบขณะเดียวกันก็อดมองไปทางฮูหยินเฉิงไม่ได้"งั้นข้าเข้าไปเองเลยนะ"เซียวหลันยวนยกเท้าเข้าประตูใหญ่ไปชิงอีหันไปมองฮูหยินเฉิง "เชิญฮูหยิน"ลวี่กั่วตามอยู่ข้างกายฮูหยินเฉิง เอ่ยขึ้
เพราะผู้เฒ่าฟู่ค่อนข้างใจกว้าง เรื่องผ่านไปแล้วก็ผ่านไป แต่หวังให้เขากับจาวหนิงไม่ต้องทะเลาะกันมากกว่าแต่ว่าพ่อตาเขากลับหลอกผ่านไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ถ้าตรงไหนเขาทำไม่ดี ทำให้ฟู่จิ้นเชินเคืองขึ้นมา ฟู่จิ้นเชินคงได้เล่นงานเขาแน่ตอนนี้เซียวหลันยวนรุ้สึกว่า ด้วยความฉลาดและไหวพริบของฟู่จิ้นเชิน ถ้าจะสร้างรอยร้าวระหว่างเขากับจาวหนิงก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ดังนั้นพ่อตาคนนี้ เขายังต้องระวังตัวไว้บ้าง"เรื่องนี้ ได้ยินเจิ้นเชินบอกว่า จาวหนิงเหนื่อยมากที่เมืองเจ้อ ดังนั้นเจ้าไม่ไปรบกวนนาง ให้นางได้หลับพักผ่อนดีๆ คือถูกต้องแล้ว เจ้าเองก็ยังรู้จักเป็นห่วงนาง"ผู้เฒ่าฟู่กลับไม่รู้ความคิดในใจเขา กลับชื่นชมขึ้นมาเสียด้วยซ้ำเซียวหลันยวนคิดจะไม่รบกวนฟู่จาวหนิงได้แบบนี้ ก็ดูเอาใจใส่มากจริงๆ"ท่านผู้เฒ่า ข้ามาทันอาหารเช้าไหม?""มาทันสิมาทัน ยังไม่ได้กินกันเลย เจ้าลองไปดูว่าจาวหนิงตื่นแล้วหรือยัง? อีกเดี๋ยวก็มาด้วยกันนะ"เสียงผู้เฒ่าฟู่ยังไม่ทันขาดก็เห็นฮูหยินเฉิงเดินเข้ามา"นี่คือ?"ฮูหยินเฉิงเดินมาตรงหน้าเขา คารวะออกมาอย่างนุ่มนวล"คารวะท่านผู้เฒ่าฟู่ ข้าชื่อติงเฉิง มาจากอุทยานเขาเฉิงอวิ
"สวัสดี" ฟู่จาวหนิงยิ้มทักทายมองผ่านๆ เหมือนดูไม่ออกว่านางกำลังโกรธเซียวหลันยวนคิดต่อไปอีก เพราะเมื่อคืนนี้ได้หลับสบายหรือเปล่านะ ดังนั้นอารมณ์โกรธเมื่อวานเลยหายไปแล้ว? ยิ่งไปกว่านั้น เสี่ยวเยว่ก็น่าจะบอกนางเรื่องที่เขามาเมื่อคืนแล้วกระมัง?"เมื่อคืนหลับสบายไหม?" เซียวหลันยวนเข้าไปหา จับมือนางไว้ฟู่จาวหนิงไม่ได้สลัดออก ยังเงยหน้ามายิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มสดใสยามเช้าตรู่เช่นนี้ แทบจะทำให้เซียวหลันยวนตาพร่าไปแล้ว เขาอยากจะก้มลงไปจูบสักฟอด แต่ท่านปู่กับพ่อตาก็ยังอยู่ที่นี่ แล้วยังมีพวกฮูหยินเฉิงอีก ไม่เหมาะเอาเสียเลยเซียวหลันยวนจึงได้แค่ทนไว้ก่อน"พระชายา" ฮูหยินเฉิงยืนอยู่ในห้องโถงทักทายฟู่จาวหนิง"คารวะพระชายา" ลวี่กั่วคารวะให้อย่างเรียบร้อยทันทีไม่มีจุดให้ติได้เลยฟู่จิ้นเชินเดินเข้ามาแล้ว"ฮูหยินเฉิงบอกว่าเห็นลูกเขยของข้าเป็นรุ่นหลัง แต่ตอนนี้กลับทำตัวห่างเหินกับลูกสาวข้าเหลือเกิน เพราะไม่กล้าเห็นลูกสาวข้าเป็นรุ่นหลังอย่างนั้นหรือ?"ฮูหยินเฉิงจึงเห็นฟู่จิ้นเชิน ขณะที่แอบชื่นชมความสง่างามและความหนุ่มแน่นของเขา ก็ถูกคำเย้ยหยันนี้ของเขาแทงใจดำเข้ามา"แน่นอนว่าไม่ใช่ ข้าแค
ท่ามกลางสายตาบีบคั้นของผู้เฒ่าฟู่ เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นว่า "ตอนเด็กๆ ข้าเองก็ได้รับการดูแลจากท่านน้าเฉิงอยู่หลายครั้ง"ผู้เฒ่าฟู่พอใจนิดๆ กับคำตอบของเขา ถูกต้อง แค่นิดเดียวเท่านั้นเขาจึงสั่งสอนเซียวหลันยวนขึ้นมาเหมือนกับผู้อาวุโส "มีบุญคุณต้องทดแทนสินะ"ฮูหยินเฉิงฟังแล้วรู้สึกแหม่งๆ ก็รีบตัดบทเขาทันที"ตอนนั้นอายวนยังเป็นเด็ก ข้าดูและเขาเป็นสิ่งสมควรอยู่แล้ว""เอ๊ะ" ผู้เฒ่าฟู่โต้กลับมา "พูดแบบนี้ไม่ได้สิ ลูกของตนเอง จะดูแลก็เป็นเรื่องสมควร แต่ถ้าไม่ใช่ลูกตัวเอง พอเข้าไปดูแลก็ถือเป็นบุญคุณ ถึงจะบอกว่าต้องเมตตาเด็กของตนเองให้เหมือนดูแลเด็กของผู้อื่น แต่ตัวตนอย่างอ๋องเจวี้ยน คนทั่วไปคงไม่กล้าเอาเขามาเป็นเด็กของตนเองหรอก จริงไหม?"ใครกล้าเอามังกรมาเป็นเด็กของตนเองบ้างกัน?ฮูหยินเฉิงรู้สึกว่า คำพูดนี้ของผู้เฒ่าฟู่เหมือนกำลังแดกดันนาง บอกว่านางหน้าด้าน กล้าคิดว่าตนเองเป็นผู้อาวุโสของอ๋องเจวี้ยนหน้าของนางร้อนผ่าวขึ้นแล้วใครกันแน่ ใครกันที่ให้ข่าวกับนางมา บอกว่าปู่ของฟู่จาวหนิงเป็นชายชราที่เมตตามีคุณธรรม ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพูดจาด้วยง่าย บ้านหลังนี้คงถูกคนในตระกูลยึดครองไปแล้ว ปู่หลานท
เพราะผู้เฒ่าฟู่ค่อนข้างใจกว้าง เรื่องผ่านไปแล้วก็ผ่านไป แต่หวังให้เขากับจาวหนิงไม่ต้องทะเลาะกันมากกว่าแต่ว่าพ่อตาเขากลับหลอกผ่านไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ถ้าตรงไหนเขาทำไม่ดี ทำให้ฟู่จิ้นเชินเคืองขึ้นมา ฟู่จิ้นเชินคงได้เล่นงานเขาแน่ตอนนี้เซียวหลันยวนรุ้สึกว่า ด้วยความฉลาดและไหวพริบของฟู่จิ้นเชิน ถ้าจะสร้างรอยร้าวระหว่างเขากับจาวหนิงก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ดังนั้นพ่อตาคนนี้ เขายังต้องระวังตัวไว้บ้าง"เรื่องนี้ ได้ยินเจิ้นเชินบอกว่า จาวหนิงเหนื่อยมากที่เมืองเจ้อ ดังนั้นเจ้าไม่ไปรบกวนนาง ให้นางได้หลับพักผ่อนดีๆ คือถูกต้องแล้ว เจ้าเองก็ยังรู้จักเป็นห่วงนาง"ผู้เฒ่าฟู่กลับไม่รู้ความคิดในใจเขา กลับชื่นชมขึ้นมาเสียด้วยซ้ำเซียวหลันยวนคิดจะไม่รบกวนฟู่จาวหนิงได้แบบนี้ ก็ดูเอาใจใส่มากจริงๆ"ท่านผู้เฒ่า ข้ามาทันอาหารเช้าไหม?""มาทันสิมาทัน ยังไม่ได้กินกันเลย เจ้าลองไปดูว่าจาวหนิงตื่นแล้วหรือยัง? อีกเดี๋ยวก็มาด้วยกันนะ"เสียงผู้เฒ่าฟู่ยังไม่ทันขาดก็เห็นฮูหยินเฉิงเดินเข้ามา"นี่คือ?"ฮูหยินเฉิงเดินมาตรงหน้าเขา คารวะออกมาอย่างนุ่มนวล"คารวะท่านผู้เฒ่าฟู่ ข้าชื่อติงเฉิง มาจากอุทยานเขาเฉิงอวิ
ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าการเอายาสีฟันออกขายไม่มีปัญหาอะไรเลยหลังจากล้างหน้าล้างตาดีแล้วนางก็เตรียมออกไปยืดเส้นยืดสายหน่อย จากนั้นค่อยไปคุยเรื่องนี้กับฟู่จิ้นเชิน นางจะไปยอดเขาโยวชิงอยู่แล้วด้วย ดูว่าวันนี้จะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยได้ไหมบ้านตระกูลฟู่ถ้าหากไม่มีรายรับอยู่ตลอด นี่ก็ไม่ไหวอยู่นะก่อนหน้านี้ค่าใช้จ่ายของตระกูลฟู่นางเป็นคนออก นางคิดว่าฟู่จิ้นเชินคงคิดหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้อยู่ตลอด ดังนั้นควรรีบทำอย่ารอช้าหลังจากฝึกมวยชุดเล็กๆ เสร็จ ฟู่จาวหนิงก็ไปที่โถงหน้าส่วนประตูใหญ่บ้านตระกูลฟู่เปิดอยู่ และมองเห็นรถม้าของจวนอ๋องเจวี้ยนได้พอดีคนเฝ้าประตูรีบเข้าไปคารวะ และหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนลงจากรถม้า บนรถม้าก็มีคนเดินลงมาอีกสองคนพอเห็นฮูหยินที่ไม่รู้จัก คนเฝ้าประตูบ้านตระกูลฟู่ก็นิ่งไป"ท่านผู้เฒ่าตื่นหรือยัง?""เรียนท่านอ๋อง ท่านผู้เฒ่าของเราลุกขึ้นมารำไทเก็กไปชุดหนึ่งแล้วขอรับ" คนเฝ้าประตูเอ่ยตอบขณะเดียวกันก็อดมองไปทางฮูหยินเฉิงไม่ได้"งั้นข้าเข้าไปเองเลยนะ"เซียวหลันยวนยกเท้าเข้าประตูใหญ่ไปชิงอีหันไปมองฮูหยินเฉิง "เชิญฮูหยิน"ลวี่กั่วตามอยู่ข้างกายฮูหยินเฉิง เอ่ยขึ้
นี่คือบ้านตระกูลฟู่ นางเองก็คุ้นเคยมากกว่า แน่นอนว่ายังต้องไปเตรียมของใช้ล้างหน้าให้คุณหนูเสี่ยวเยว่พอเห็นนางวิ่งออกไปไวขนาดนั้น ก็ยิ้มๆ ส่ายหัว นางไม่ได้จะแย่งงานเสียหน่อย รีบร้อนอะไรกัน?"คุณหนู ข้าเข้าไปแล้วนะ"เสี่ยวเยว่ผลักประตูเดินเข้าไป และก็ตามที่คิดไว้ ฟู่จาวหนิงสวมเสื้อคลุมแล้วฟู่จาวหนิงไม่ต้องให้คนมารับใช้สวมเสื้อผ้าให้ตนเอง เว้นเสียแต่เสื้อผ้าที่นางสวมใส่ไม่เป็นแต่เรื่องสางผมนางเองก็ทำไม่ได้ ยังต้องมีสาวใช้มาคอยช่วยเสี่ยวเยว่รีบมาช่วยนางคาดเข็มขัด"คุณหนู เมื่อคืนนี้อ๋องเจวี้ยนเข้ามาแล้ว" นางคิดว่าฟู่จาวหนิงพอตื่นมาคงจะพูดเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้นางเข้าใจผิด แล้วคิดว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้เข้ามา"เข้ามาด้วยหรือ? ตอนไหนกัน?""ตอนที่ท่านเพิ่งจะหลับไปไม่นานนัก"ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าเซียวหลันยวนจะไม่ยอมเข้ามาเสียแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอนางหลับเขาก็เข้ามาอดพูดไม่ได้เลย พอเขาเข้ามา ก็ทำให้นางหายโมโหไปบ้างหน่อยๆ"แต่ข้าขวางท่านอ๋องไว้ ไม่ให้เขาเข้ามาในห้อง คุณหนู ข้าได้ยินว่าท่านเพิ่งหลับไป คิดว่าท่านอ๋องเข้าไปคงทำให้ท่านตื่น"เสี่ยวเยว่ยอมรับผิดออกมา ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เ
เซียวหลันยวนอันที่จริงไม่ค่อยเข้าใจว่าเพราะอะไรฮูหยินเฉิงถึงจะไปจวนตระกูลฟู่เพื่อเยี่ยมท่านผู้เฒ่าแม้เขาจะเคารพท่านน้าเฉิงมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกฟู่จาวหนิงคิด ที่จะมองท่านน้าเฉิงเป็นเหมือนผู้อาวุโสของตนเอง ผู้อาวุโสที่สนิทมากแบบนั้นนี่มันคนละเรื่องกันเลยคือเขาสามารถเคารพท่านน้าเฉิงได้ แต่ก็เพียงเท่านั้น เรื่องที่เขาแต่งงานก็ไม่ได้บอกกล่าวอะไรกับท่านน้าเฉิงเป็นพิเศษ"ไม่ต้องรบกวนดีกว่า ข้ากับจาวหนิงเองก็แต่งงานกันนานแล้วด้วย"ตอนนี้เขากับผู้เฒ่าฟู่เป็นครอบครัวเดียวกันนานแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องให้ผู้อาวุโสทางนี้คนหนึ่งเข้าไปเยี่ยมเยียนโดยเฉพาะผู้เฒ่าฟู่ก็ไม่แน่ว่าจะต้อนรับด้วยเอาจริงๆ เซียวหลันยวนรู้สึกว่า ตอนนี้ไม่ว่าใครที่บ้านตระกูลฟู่ก็ไม่ต้อนรับท่านน้าเฉิงทั้งนั้นเมื่อวานหลังจากจาวหนิงกลับไปก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรด้วย แต่จู่ๆ นางกลับไปบ้านฝ่ายหญิง ตอนค่ำก็นอนอยู่ที่นั่น คนตระกูลฟู่ต้องรู้แน่ว่าทางนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นท่านน้าเฉิงตอนนี้ถ้าไปบ้านตระกูลฟู่ น่าจะไม่ได้รับการต้อนรับ ตรงกันข้ามน่าจะไม่มีสีหน้าดีดีให้กันด้วยซ้ำถึงอย่างไรคนของบ้านตระกูลฟู่ก็ปกป้องกันเองมา
"เจ้าบอกข้าหน่อย เพราะอะไรกัน? นางโกรธจุดไหนมากที่สุด?" เซียวหลันยวนถามเสี่ยวเยว่นิ่งงันไปแล้วขนาดคุณหนูยังไม่อยากพูดเรื่องแย่ๆ ของฮูหยินเฉิงต่อหน้าเขา แล้วนางที่เป็นสาวใช้พูดได้ไหม?ถ้าเผื่อนางพูดอะไรไม่ดีออกไป แล้วไปพังเรื่องของคุณหนูขึ้นมาจะทำอย่างไรกัน?"ท่านอ๋องลองคิดดูเองดีไหมเจ้าคะ? คุณหนูเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล" เสี่ยวเยว่ตัดสินใจไม่พูดอะไรเซียวหลันยวนกลับไปแบบไม่ได้อะไรถึงแม้อยากจะปลุกฟู่จาวหนิงลุกขึ้นมาคุยกันให้ชัดเจน แต่สุดท้ายก็ไม่อยากจะไปปลุกนางเขาทำได้แค่กลับไปทางเดิมอย่างเซื่องซึมพอเขาออกไปแล้ว เสี่ยวเยว่จึงกลับห้องไปนอนอย่างวางใจเซียวหลันยวนหลังจากกลับไปก็นอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นมาเขียนหนังสือกว่าฟ้าจะสาง เขาจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หิ้วตะกร้าผลไม้ใบหนึ่งเตรียมไปที่จวนตระกูลฟู่ เขาจะรีบไปให้ทันอาหารเช้าบ้านตระกูลฟู่แต่ว่าพอเขาออกจากประตูเรือน ก็เห็นลวี่กั่วประคองฮูหยินเฉิงเข้ามาแล้วเซียวหลันยวนมองสีท้องฟ้า เช้าขนาดนี้เชียว?ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก น้ำค้างยามเช้ายังไม่หายไปเลย"อายวน ข้ารู้ว่าเจ้าตื่นเช้าขนาดนี้" ฮูหยินเฉิงพอเห็นเซียวหลันยวน ก็เผย
จวนตระกูลฟู่ตอนนี้เงียบสนิทเซียวหลันยวนเดิมทีมาถึงประตูใหญ่แล้ว เห็นว่าประตูใหญ่ปิดสนิท ด้วยกำลังภายในของเขา ยังสามารถได้ยินเสียงกรนของคนเฝ้าประตูเขายืนอยู่ที่ประตูใหญ่เหลือบมองผาดหนึ่ง จึงหมุนตัวเดินไปทางประตูหลังชิงอีตามอยู่ด้านหลัง พอเห็นท่าทางแบบนี้ของท่านอ๋อง จะหัวเราะก็ไม่กล้าท่านอ๋องเหมือนเพิ่งเคยทำเรื่องแบบนี้ครั้งแรก ดูไม่เด็ดขาดเอาเสียเลยพอถึงประตูหลัง แน่นอนว่าประตูปิดสนิทอยู่ ด้านในเงียบสงบ"ท่านอ๋อง หรือว่าท่านปีนกำแพงดีไหม?" ชิงอีแนะนำขึ้นอย่างจริงใจถึงอย่างไรตอนนี้จะไปเคาะประตูเรียกคนมาเปิดประตูก็เหมือนจะเอะอะเกินไป ถ้าเผื่อพระชายาหลับไปแล้ว ปลุกนางตื่นมาคงไม่ดีนักปีนกำแพงก็ปีน"ข้าเองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน"เซียวหลันยวนพูดพลางกระโจนตัวขึ้นเบาๆ ข้ามเข้าไปในเรือนอย่างไร้ซุ่มเสียงราวกับควันคนคุ้มครองเรือนบ้านตระกูลฟู่ไม่พบตัวเขา วิทยายุทธ์ต่างกันเกินไปชิงอีมองซ้ายมองขวา ข้ามกำแพงตามเข้าไปเซียวหลันยวนมาถึงเรือนของฟู่จาวหนิง พอเหลือบมองก็เห็นเสี่ยวเยว่ที่ย้ายเก้าอี้ออกมานั่งอยู่ด้านนอกบนตัวเสี่ยวเยว่คลุมเสื้อไว้ผืนหนึ่ง หลับไปแล้วฟู่จาวหนิงแต่ไหนแต่ไ
นางกลับจวนตระกูลฟู่มาตั้งนานแล้ว แต่เซียวหลันยวนกลับไม่ตามมาฟู่จิ้นเชินจับการกระทำของนางออก ใจก็คิดขึ้นมาและเดาออก ในใจเขาเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจนักเช่นกัน"ในเมื่อตัดสินใจว่าจะไม่สนใจแล้ว เช่นนั้นก็อย่าคิดมากเลย พักผ่อนไวไว เอากำลังให้เต็มที่" เขาเอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงพยักหน้า ยืนขึ้นมา"เช่นนั้นข้ากลับห้องก่อนแล้ว ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านก็พักผ่อนไวไว ไม่ต้องกังวลแทนข้าหรอก ข้าเองก็เก่งอยู่นะ"นางโบกไม้โบกมือ เดินออกประตูไปมองแผ่นหลังนาง เสิ่นเชี่ยวก็รู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมา แต่ก็เอ่ยอย่างกังวลกับสามีว่า "ท่านสามี ท่านได้ยินไหม? ตอนนี้จาวหนิงเรียกพวกเราว่าพ่อแม่ได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจแล้ว ท่านว่านางตอนนี้ยอมรับพวกเราลึกๆ ในใจแล้วหรือยัง?""ใช่สิ ลูกสาวเป็นคนที่มีจุดยืน ถ้าหากไม่ยอมรับ นางไม่มีทางเรียกเราว่าพ่อกับแม่หรอก ในเมื่อนางเรียกแล้ว ก็คือปล่อยเรื่องในอดีตพวกเราและเริ่มต้นใหม่แล้ว หลังจากนี้พวกเราก็ชดเชยให้นางดีดีกก็พอ เจ้าเองก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วย หลังจากนี้ถ้านางมีลูก แล้วข้างกายมีแม่อยู่ด้วยจึงจะดูแลได้เหมาะสม"การเติบโตของจาวหนิงก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วย หลังจากนี