Share

บทที่ 1929

Author: จุ้ยหลิงซู
ตอนที่ฮูหยินเฉิงถูกเฝิ่นซิงกับหงจั๋วประคองขนาบซ้ายขวาออกมาจากเรือนเจียนเจีย ยังดูตั้งตัวไม่ทันอยู่

นางรู้ว่าลวี่กั่วไปหาอ๋องเจวี้ยนแล้ว

ด้วยความเข้าใจต่ออ๋องเจวี้ยนของนาง เรื่องนี้ล้วนเป็นเรื่องเล็ก อ๋องเจวี้ยนทัังรักและเคารพนาง สนิทสนมกับนาง ดังนั้นไม่มีทางขัดความต้องการเล็กน้อยนี้ของนางแน่นอน

ดังนั้นนางจึงมั่นใจว่าท้ายสุดหญ้าเฝิ่นซิงนั้นจะถูกถอนทิ้ง

นางมองหญ้าผืนนั้นแล้วรู้สึกอึดอัด ความทรงจำเจ็บปวดรวดร้าวเหล่านั้นหลั่งทะลักกลับมา ไม่อาจทานทนได้เลย

อ๋องเจวี้ยนเองก็รู้เรื่องของสามีนางในตอนนั้น เรื่องนี้ เขาต้องยืนอยู่ข้างนางแน่

แต่นางก็คิดไม่ถึงเลย สุดท้ายก็ทำให้นางต้องถูกย้ายออกจากเรือนเจียนเจีย

จุดนี้เหมือนกับตบฉาดที่หน้านาง

แต่ครั้งนี้ท่าทีของผู้ดูแลแตกต่างไปอย่างชัดเจน แข็งกร้าว ถ้านางยังพูดอะไรอีกคือได้อาละวาดกันน่าเกลียดแน่

ฮูหยินเฉิงเองก็รู้ว่าตนเองไม่เหมาะที่จะพูดอะไร แต่ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจ

ลวี่กั่วยังไม่ทันเข้าใจสถานการณ์ ยังคิดจะดิ้นรน แสดงออกถึงความโกรธ "ฮูหยินของพวกเราอยากอยู่ที่นี่..."

"ลวี่กั่ว" ฮูหยินเฉิงครั้งนี้จำใจต้องตัดบทนาง "พวกเราฟังที่ผู้ดูแลจัดการเถ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1930

    ถึงอย่างไรนางก็บอกแล้วว่าไม่กินเผ็ดเซียวหลันยวนหลังจากจัดการงานเสร็จก็ออกจากห้องหนังสือ เตรียมจะไปหาฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงกลับไม่อยู่ในห้องนอน เสี่ยวเยว่เองก็ไม่อยู่เขารู้สึกแปลกๆ หาคนมาถาม "พระชายาไปไหนแล้ว?""เรียนท่านอ๋อง พระชายาไปเรือนข้างดูหญ้าสมุนไพร ให้มาแจ้งกับท่าน"ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ปลูกหญ้าสมุนไพรบางส่วนในที่เรือนข้าง ปกติให้หงจั๋วเฝิ่นซิงช่วยดูแล ครั้งนี้ที่กลับจากเมืองเจ้อยังไม่ได้ไปดู บอกเช่นนี้เซียวหลันยวนก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร"อืม รู้แล้ว"จนถึงเวลาอาหารเย็น เซียวหลันยวนมาถึงห้องอาหารก่อนเขาไปจุดเทียนที่เชิงเทียนข้างๆ ด้วยตนเอง ฟู่จาวหนิงเคยบอกไว้ แสงเทียนในอาหารเย็นมันชวนฝันดีแม้เขาจะไม่ค่อยเข้าใจ ตอนอาหารค่ำก็จุดแสงเทียนกันหมดนี่ มีอะไรน่าชวนฝัน?แต่ฟู่จาวหนิงในเมื่อพูดเช่นนี้ เขาก็ให้คนวางไว้ข้างโต๊ะอาหารหลายเล่มหน่อย วางไว้บนเชิงเทียนทองเหลืองสิบแปดหัวที่แสนประณีต ทุกครั้งก่อนกินข้าวก็จะจุดแสงเทียนนี้ แสงเทียนวิบวับโยกไหว ตอนที่กินข้าวก็รู้สึกได้บรรยากาศจริงๆเขาเพิ่งจะจุดเทียน ฮูหยินเฉิงก็เข้ามาเซียวหลันยวนสวมหน้ากากขึ้นไปใหม่อีกครั้ง"อายวน"เซ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1931

    ตอนที่ฟู่จาวหนิงเข้ามาก็เห็นฮูหยินเฉิงกำลังจะลูบไปทางหน้ากาก...ของเซียวหลันยวนนางข้ามธรณีประตูเข้ามาเห็นฉากนี้ เกือบจะสะดุดเท้าเลยทีเดียวเซียวหลันยวนไม่เคยให้ใครแตะใบหน้าเขามาก่อน ตอนแรกที่นางจะทายาฆ่าเชื้อให้เขา เขายังมีอาการต่อต้านอย่างชัดเจนเลยแต่ตอนนี้เขากลับให้ฮูหยินเฉิงยื่นมือไปจับหรือ?เช่นนั้นดูท่าความรู้สึกระหว่างพวกเขาจะลึกกว่าที่นางจินตนาการไว้เซียวหลันยวนจะให้ฮูหยินเฉิงถอดหน้ากากเขาออกหรือ?ฟู่จาวหนิงก้มหน้าลงมือเท้า พริบตานี้เอง เซียวหลันยวนก็หลบมือของฮูหยินเฉิงออกมาเขากำลังจะพูดอะไร ก็สังเกตเห็นฟู่จาวหนิงเข้ามาแล้ว ลุกขึ้นยืนทันที"หนิงหนิง รีบมานี่สิ หิวแล้วใช่ไหม?" พูดจบก็ให้คนใช้ขึ้นสำรับตอนนี้เองกับข้าวก็ทยอยกันยกขึ้นมาฟู่จาวหนิงเดินเข้าไป เดิมทีนางก็เดินไปที่นั่งตนเองตามความเคยชิน แต่พอเห็นฮูหยินเฉิงนั่งอยู่ตรงนั้น นางก็ไม่ได้อ้อมเข้าไป นั่งลงทางฝั่งนี้โต๊ะทรงกลม ตอนนี้คือเซียวหลันยวนกับฮูหยินเฉิงนั่งอยู่ฝั่งหนึ่ง ส่วนนางนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเซียวหลันยวนงงงัน"ทำไมนั่งทางนั้นล่ะ? มานั่งทางนี้สิ ไกลขนาดนี้แล้วข้าจะคีบกับข้าวให้ยังไง?"ฮูหยินเฉิง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1932

    "คุณหนูของข้าไม่ชอบให้ใครมาโขกศีรษะใส่แบบไม่มีเหตุผล"ลวี่กั่วพอถูกนางดึงแบบนี้ ก็เกือบจะยืนไม่อยู่ หลักๆ คือนางเองก็ตะลึงไปเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่าแขนตัวเองถูกบีบจนเจ็บด้วยแต่แรงมือเสี่ยวเยว่ก็มากจริงๆ ลวี่กั่วคิดจะสะบัดออก แต่ก็ไม่ขยับเลยนางรู้ที่ไหนว่าเสี่ยวเยว่มีพลังยุทธ์อยู่ในตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่เลวอีกด้วย"ฮูหยิน..." ลวี่กั่วจ้องตาแป๋วไปที่ฮูหยินเฉิง จากนั้นก็มองไปทางเซียวหลันยวน "ท่านอ๋อง?"เซียวหลันยวนลุกขึ้นยืน "หนิงหนิงไม่ชอบใ้หคนอื่นมาโขกศรีษะใส่แบบไม่มีเหตุผลจริงๆ ท่านน้าเฉิง ลวี่กั่วเองก็พูดจาแบบไม่คิดจริงๆ ท่านก็เห็นว่าข้าเคยใส่ใจพิธีการในราชวงศ์นั่นเสียที่ไหน? จาวหนิงเป็นพระชายาของข้า ก็ไม่จำเป็นต้องมารักษากฏเหล่านั้นต่อหน้าคนอื่นเช่นกัน"เขาหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยต่ว่า "แล้วนี่นี่ก็เป็นบ้านของตนเองด้วย""พวกเราก็แค่เตือนด้วยเจตนาดี เจ้าเองก็ตามใจตัวเองมาตลอด แต่นางไม่ใช่เจ้านะ..." ฮูหยินเฉิงใจดำดิ่งหน่อยๆนางฟังออก ว่าเซียวหลันยวนยืนอยู่ข้างฟู่จาวหนิง"จาวหนิงเป็นภรรยาข้า ตัวนางก็เท่ากับเป็นตัวข้า แต่ว่าจาวหนิงเองก็ไม่ใช่ตัวข้า ท่านน้าเฉิง พวกเรา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1933

    สำหรับเรื่องการดูแลรสชาติให้ถูกปากแขก ฟู่จาวหนิงไม่ติดขัดอะไรรสจืดๆ นางก็ไม่ใช่ว่ากินไม่ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะจืดหรือเผ็ด นางก็กินได้เอร็ดอร่อย อันที่จริงฟู่จาวหนิงอันที่จริงฟู่จาวหนิงแม้จะกินข้าวเร็วกว่าหญิงสาวทั่วไป แต่ก็ไม่ได้หยาบกระด้าง แล้วยังกินได้ออกรสออกชาติด้วย แค่ได้มองนางกินข้าวก็รู้สึกว่าอาหารพวกนี้เป็นอาหารเลิศรสหายากแล้วแต่ฮูหยินเฉิงเห็นนางเหมือนไม่ถูกผลกระทบใดๆ จากเรื่องเมื่อครู่เลย กินอย่างเอร็ดอร่อย ความรู้สึกนี้เหมือนกำลังท้าทายนางอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้น มีนางเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งแท้ๆ แต่ฟู่จาวหนิงกลับไม่คิดเสแสร้งสักนิด กินเสียเร็วเชียว กลัวว่านางจะได้กินมากไปหรือไงกัน?พอมองอาหารบนโต๊ะ อาหารสองสามจานที่แดงก่ำนั่น นางรู้จักสิ่งนี้ ก่อนหน้านี้นำเข้ามาจากแคว้นหนานอี๋กู่ มันคือพริกแดงเจ้าสิ่งนี้เผ็ดแบบสุดๆ นางกินไม่ได้เลยแม้สักคำเดีว"ท่านน้าเฉิง รีบกินเถอะ" เซียวหลันยวนเองก็นั่งลงแล้วเขามองออก ว่าระหว่างฟู่จาวหนิงกับท่านน้าเฉิงน่าจะไม่ลงรอยกัน ดังนั้นตอนนี้จึงไม่ได้ฝืนฟู่จาวหนิงแต่หลายปีมานี้ ท่านน้าเฉิงเองก็มาจวนอ๋องไม่กี่ครั้ง อย่างน้อยเขาก็ต้องดูแ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1934

    ฮูหยินเฉิงหน้าเปลี่ยนสีแม่สามีของนาง นั่นคือพระสนมที่ไท่ซ่างหวงรักที่สุดนะ มาถามแบบนี้มันหมิ่นเหม่ไปแล้ว นางกล้ามาเป็นตำแหน่งนั้นที่ไหน!"พระชายาระวังคำพูดด้วย""หนิงหนิง..." เซียวหลันยวนเองก็ไม่คิดว่าฟู่จาวหนิงจะพูดไม่เกรงใจออกมาทันทีแบบนี้พอประโยคนี้ออกมา ฮูหยินเฉิงอับอายถึงที่สุดเดิมทีเขาคิดจะบอกฟู่จาวหนิงว่า ให้เขาตักเตือนฮูหยินเฉิงเอง ให้ฟู่จาวหนิงไม่ต้องโมโหแต่ตอนที่เสียงของเขากับประโยคที่ว่า 'พระชายาระวังคำพูดด้วย' ของฮูหยินเฉิงออกมาพร้อมกัน ทำหใ้คนรู้สึกว่าเขากับฮูหยินเฉิงยืนอยู่ฝั่งเดียวกัน ตอนนี้เหมืนอกำลังตำหนิฟู่จาวหนิงอยู่อย่างไรอย่างนั้นถึงอย่างไรฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็มีความรู้สึกนี้จริงๆนางรู้สึกรำคาญ ลุกขึ้นยืน"ได้ พวกท่านกินไปแล้วกัน"พูดจบนางก็หมุนตัวเดินออกไป"หนิงหนิง เจ้ารอก่อน"เซียวหลันยวนคิดจะตามออกไป ฮูหยินเฉิงยื่นมือมาดึงชายเสื้อเขาไว้นางหน้าขาวซีด โงนเงนเหมือนจะล้ม"อายวน นาง นางหมายความว่ายังไง? นางรุนแรงแบบนี้มาตลอดหรือ? ข้า..."พูดจบเบื้องหน้านางก็มืดดับไป"ท่านน้าเฉิง!"เซียวหลันยวนแยกออกระหว่างแกล้งเป็นลมกับเป็นลมจริงฮูหยินเฉิงเป็น

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1935

    อาหารเย็นบ้านตระกูลฟู่กินกันมาถึงช่วงท้ายแล้วฟู่จาวหนิงเข้ามาตอนนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกเกินคาดมาก"เสี่ยวเถา ขอชามตะเกียบข้าชุดนึง"หลังจากฟู่จาวหนิงเข้ามาก็ไม่เกรงใจ เบียดตัวมานั่งข้างฟู่จาวเฟยผู้เฒ่าฟู่เห็นสภาพนี้ของนาง ก็รีบเรียกป้าจง "ไปผัดกับข้าวมาให้จาวหนิงอีกสองจาน เร็วๆ หน่อย""โอ้ จะไปเดี๋ยวนี้" ป้าจงรีบวิ่งไปที่ครัวเสิ่นเชี่ยวกังวลหน่อยๆ "ทำไมกระฟัดกระเฟียดแบบนี้? ทะเลาะกับท่านอ๋องมาหรือ?"นางไม่เคยมีประสบการณ์ที่ลูกสาวทะเลาะกับลูกเขยแล้ววิ่งกลับบ้านแบบนี้ จึงปรับตัวไม่ได้ขึ้นมาหน่อยๆฟู่จิ้นเชินกลับคีบลูกชิ้นให้กับนางก่อน"กินคำนึงก่อน นี่ยังกินไม่เสร็จก็รีบหนีกลับมาหรือ?"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกประหลาดใจ "พวกท่านทำไมดูออกว่าข้าโมโห?"นางรู้สึกว่าตนเองก็ไม่ได้โมโหขนาดนั้นนะ แม้จะวิ่งออกมาแบบหงุดหงิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้กระฟัดกระเฟียดอะไรแบบนั้น ทำไมพวกเขามองออกเหมือนไม่ได้นัดกันแบบนี้?"เจ้าสภาพนี้บอกไม่โมโหใครจะเชื่อกัน? จะว่าไปตอนนี้มันก็เวลากินข้าวพอดี จวนอ๋องก็มีแค่เจ้ากับท่านอ๋องกินข้าวด้วยกัน เจ้าวิ่งออกมาตอนนี้ เขากินข้าวที่บ้านคนเดียวหรือ?" เสิ่นเชี่ยวถาม"เข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1936

    ยิ่งไปกว่านั้นขนาดอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็ยังพูดออกมาได้ฟู่จิ้นเชินพยักหน้า "ตอนนั้นข้าเคยคิด ว่าจะพาแม่ของเจ้าไปที่ยอดเขาโยวชิง ไปหาอ๋องเจวี้ยนเพื่ออธิบายต่อหน้าให้ชัดเจน""พวกท่านไปยอดเขาโยวชิงมาหรือ?"เสิ่นเชี่ยวส่ายหัว "ไม่มีโอกาสขึ้นยอดเขาโยวชิง แต่พวกเราเองก็ฝ่าฟันอุปสรรคหลายครั้ง กว่าจะไปถึงเมืองเล็กๆ ที่ไม่ห่างจากยอดเขาโยวชิง"ที่แท้พวกเขาก็เคยคิดจะเดินเส้นทางนั้น"ที่เมืองเล็กนั่น พวกเราถูกมือสังหารสองกลุ่มจับตาอยู่ ดังนั้นจึงต้องซ่อนตัวในเมืองเล็กชั่วคราว พักอยู่ที่นั่นหลายวัน"ฟู่จิ้นเชินย้อนคิดไปถึงช่วงเวลานั้น "ตอนนั้นน่าจะตอนที่อ๋องเจวี้ยนอายุสิบเอ็ดสิบสอง""พวกเขาได้ยินเรื่องอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นที่เมืองเล็กนั่น ยอดเขาโยวชิงในพื้นที่นั้นก็ค่อนข้างมีชื่อเสียง คนในเมืองกับชาวบ้านในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้ๆ พอถึงช่วงเทศการก็อยากจะขึ้นเขาไปจุดธูป ดีที่สุดคือได้พบกับเจ้าอาราม ได้ดื่มชากับเขาสักถ้วย ฟังเขาไขข้อสงสัยให้"ฟู่จาวหนิงฟังไปด้วยกินไปด้วยคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าอารามยอดเขาโยวชิงจะมีชื่อเสียงบารมีขนาดนี้แต่ว่ามันก็จริง พอลือไปถึงเมืองหลวงก็มีคนมากมายชื่นชมศรัทธา ไม่ต้องพูด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1937

    ฟู่จาวหนิงกินจนพุงป่องฟู่จาวเฟยวิ่งมาข้างๆ นางด้วยท่าทีขี้เล่น "มา ท่านพี่ เดี๋ยวน้องชายประคองเอง"เขายื่นมือออกมา ฟู่จาวหนิงเหลือบมองเขา ทาบไว้บนหลังมือเขา "ไปเถอะ ไปดื่มชาที่โถงหน้า""ได้เลย"พี่น้องสองคนวางท่าเดินออกจากห้องอาหารผู้เฒ่าฟู่หัวเราะก่นด่า "ทำท่าทำทางอะไรนั่น? เจ้าเสี่ยวเฟยนี่ก็หัวเราะไม่หยุดเลย"แม้จะดูก่นด่า แต่พอเห็นฉากนี้ เขารู้สึกว่าหัวใจเอ่อล้น มีความสุขจนไม่รู้จะบรรยายออกมาอย่างไรเทียบกับก่อนหน้านี้ ความกลมเกลียวในบ้าน ความคึกคักในบ้านตอนนี้ ดีงามจนเหมือนไม่ใช่ความจริงฟู่จิ้นเชินเองก็มาประคองเขา"ไม่ต้องให้เจ้ามาประคองหรอก ตอนนี้ข้าเดินเหินคล่องแล้ว เจ้าไปคุยกับจาวหนิงเถอะ เล่าเรื่องฮูหยินอะไรนั่นซะ"ผู้เฒ่าฟู่โบกปัดมือเขาออกตอนนี้กินข้าวเสร็จแล้ว ก็ได้เวลามาคุยเรื่องฮูหยินเฉิงอะไรนั่นเสียทีผู้เฒ่าฟู่ไม่ค่อยสบายใจนัก ถือดียังไงถึงไม่ชอบจาวหนิงของพวกเขา?แล้วก็ เซียวหลันยวนนี่ยังไงกัน? ทำเอาจาวหนิงต้องหนีกลับมาบ้านฝ่ายหญิงแบบนี้ หรือเขาไม่ได้รั้งเอาไว้ฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวเดิมทีคิดจะไปถามให้ชัดเจนเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นจากที่พวกเขาสังเกต

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2064

    ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2063

    เจ้าอารามสูดลมหายใจลึก"ผลลัพธ์นี้ไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่มันชี้นำไป ทำให้อายวนเดินไปยังทางเลือกที่จะพาสู่ความพินาศ"พอได้ยินคำพูดเขา ฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีแต่นางกลับโมโหขึ้นมา"เฮอะ"ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกว่าจะอย่างไรก็ได้แต่ว่าตัวนางจะเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่สนใจได้ เพราะนางไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับตัวนางแต่เรื่องดันไปอยู่บนตัวเซียวหลันยวน นางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนจะได้รัรบผลกระทบไหม ตัวนางเป็นคนที่ผ่านการข้ามภพมา แต่เขาไม่ใช่"อายวน" นางยื่นมือไปประคองเซียวหลันยวนเขาจับมือนางลุกขึ้นยืน มองดุนาง ยื่นมือลูบใบหน้านาง สีหน้าดูซับซ้อน"เจ้าลองดู"ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่งหน่อยๆเพราะเขารู้สึกแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยานี้คือถูกส่งผลกระทบเข้าแล้วเมื่อครู่เขายังบอกนางอยู่เลยว่าถ้าไม่อยากคะเนทำนายก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้ลองดูเสียแล้วจิตใจต่อต้านกับความอยากเอาชนะของฟุ่จาวหนิงถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว"ได้"นางขานรับ และไม่ลังเลอีก นั่งลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามผืนนั้น"ไข่มุกหมึก"เซียวหลันยวนส่งไข่มุกหมึก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2062

    เขาไม่อยากให้นางต้องฝืนตัวทำอะไรเพื่อตัวเขา"ข้ายินยอมทดสอบดู ไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงบอกเขาเซียวหลันยวนชะงักไป "เช่นนั้นข้าก่อนแล้วกัน เจ้าลองดูผลลัพธ์ของข้าก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจ"ตอนนี้เขาเองก็ยอมที่จะคะเนทำนายด้วย เพราะคำพูดประโยคนั้นที่เจ้าอารามพูดเมื่อครู่สามปีก่อนตอนที่เขาจะกลับเมืองหลวง ก็มีการวัดคะเนดาราไว้จริงๆ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาควรจะออกจากยอดเขาโยวชิงเวลานั้น และไปถึงเมืองหลวงในวันนั้นเขาเจอกับจาวหนิงถอนหมั้นกลางถนนในวันนั้น แต่งงานกับนางในวันนั้น ตอนนี้พอมาคิดก็ดูจะเป็นคู่รักวาสนาที่ฟ้าประทานมาจริงๆเพื่อความแม่นยำครั้งนี้ เขาเองก็ไม่กังขากับการวัดคะเนดาราเซียวหลันยวนนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามชิ้น ยื่นมือไปทางเจ้าอาราม "ไข่มุกหมึก""เจ้าจำไว้ด้วยว่าต้องขจัดสิ่งรบกวนออก อย่าต่อต้านการชี้นำ" เจ้าอารามส่งไข่มุกหมึกให้เขา จากนั้นจึงจุดธูปขึ้นเซียวหลันยวนหลับตา สองมือกุมไข่มุกหมึกตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะลืมตนอย่างสมบูรณ์ ฟู่จาวหนิงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสัญชาตญาณ เหมือนจะพบว่าแสงดาวเต็มท้องฟ้าจะสว่างเจิดจ้ากว่าเดิมเซียวหลันยวน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2061

    เจ้าอารามถอนใจอย่างจนใจอีกครั้ง ร้องเรียกพวกเขาไว้"กลับมาก่อน ทำไมพูดไม่ถูกหูหน่อยเดียวก็จะไปแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดนี้เชียว? ข้าก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ใช่ว่ามองเสี่ยวฟู่แบบนี้เสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็ยืนนิ่ง นางดึงเซียวหลันยวนไว้ตอนนี้นางเองก็น่าจะมองการวัดคะเนดาราของเจ้าอารามเป็นเหมือนเกมลึกลับเกมนึง เมื่อครู่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเจ้าอารามทำให้นางจับทางไม่ถูกเหมือนกัน คนผู้นี้ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาสำหรับเซียวหลันยวนแน่นอนสำหรับฮูหยินเฉิง เซียวหลันยวนบทจะไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับได้ จะหมดความผูกพันนั่นก็หมดไป แต่สำหรับเจ้าอารามนั้นไม่ได้เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคงไม่พานางเดินทางนับพันลี้มายอดเขาโยวชิงแค่เพราะคำๆ เดียวของเจ้าอารามหรอกนางเองก็อยากรู้มาก สาเหตุอะไรที่ต้องให้พวกเขามาทำนายชะตาอะไรนี่ เจ้าอารามคิดจะทำอะไรกันแน่นอกเหนือจากนี้ ตัวนางเองก็ยังอยากรู้ ว่าการที่นางมายังแคว้นเจานี่ เป็นเพราะมีพลังลึกลับอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ทำให้ชัดเจน หลังจากนี้นางคงจะตั้งรับไม่ไหวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถึ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2060

    เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2059

    สายตาที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองเซียวหลันยวนดูซับซ้อนมาก ดูลังเล กำลังตัดสินใจและดูเจ็บปวดทรมานมากแต่หลังจากนี้นางกลับละทิ้งเรื่องที่จะกลับเมืองหลวงหาคนอื่นหรือกระทั่งเรื่องไปแคว้นหมิ่น แล้วิคดจะอยู่ข้างกายเจ้าอารามแทนหรือ?นี่มัน...ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนความคิดกะทันหันของนางมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรตอนนี้นางกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อวัดคะเนดารานี้เสียแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสัมผัสได้ถึงอะไรกันนะ?"องค์หญิงใหญ่พักอยู่ที่นี่สองสามวันก่อนก็ได้ เอาไว้ค่อยว่ากัน"เจ้าอารามเหลือบมองกระจกทรงมุมที่แสงดับไปแล้วผาดหนึ่ง จากนั้นก็มองใบหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แอบถอนหายใจในใจเขาเองก็ทำไม่สำเร็จ บิดชะตาฝูอวิ้นกลับมาไม่ได้ชั่วคราวผิดพลาดตรงไหนกันแน่นะ?เจ้าอารามมองต่อไปทางฟู่จาวหนิง จากการทำนายส่วนตัวของเขา ทำนายไปทำนายมา ต้นกำเนิดตัวแปรทั้งหมดก็คือฟู่จาวหนิงดังนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับฟู่จาวหนิง เขาต้องมาขบคิดให้ดีจริงจัง""เจ้าอารามรับข้าไว้เถอะ แม้ข้าจะทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ก็ยังเรียนรู้ได้ ข้าเรียนรู้ทำกับข้าว จริงด้วย ข้าเป็นแแม่สื่อได้ด้วยนะ หลังจากนี้ชายเส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2058

    บนพื้นมีสามจุดเปล่งแสงขึ้นรางๆ ปรากฏรูปร่างสามแบบคือ แปดเหลี่ยม ทรงกลม ทรงมุมฟู่จาวหนิงเดินเข้าไปสองก้าว จึงพบว่านั่นเป็นกระจกหลากสีเรียบลื่นสามชิ้นสลักฝังอยู่บนพื้น ใต้กระจกน่าจะเป็นหินหยกผิวเรียบ และระหว่างหยกกับกระจกมีของเหลวสีแดงเจือสีเงินไหลเอื่อยๆ อยู่ยิ่งไปกว่านั้น เพียงไม่นาน ด้านบนยังมีแสงระยิบเหมือนดวงดาว ราวกับจำลองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวออกมาเจ้าอารามเดินเข้าไปใกล้ กวักมือให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"มานี่"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ค่อนข้างว่าง่าย เดินเข้าไปทันทีเจ้าอารามส่งลูกปัดหยกสีดำเม็ดหนึ่งให้นาง"นั่งขัดสมาธิ กำลูกปัดเม็ดนี้ไว้ สัมผัสดูว่ามันนำเจ้าไปยังมิติดาราไหน แล้วจงชี้ออกมา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ทำตามที่เขาบอกนั่งลงขัดสมาธิบนพื้น สองมือกุมลูกปัดนั้น ตั้งสมาธิสัมผัสผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงหันหลังอย่างลังเลไปทางทรงมุมนั้น"ทางนี้"ฟู่จาวหนิงยืนมองอยู่ข้างๆจากที่นางเห็น เจ้าอารามเหมือนคนที่กำลังเล่นละครหลอกคนอย่างไรอย่างนั้น เรื่องแบบนี้จะทำนายดวงชะตาออกมาได้อย่างไร?กำลูกปัดลูกหนึ่งไว้ ก็สามารถชักนำให้ตนเองเลือกกระจกหลากสีแผ่นไหนแบ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2057

    ดาวสองดวงนั้นประกายจ้ามาก แล้วยังอยู่ใกล้มากด้วย ส่องประกายให้กันและกัน เหมือนขานรับกันและกันไม่รู้เพราะอะไร พอเห็นดาวสองดวงนี้ ฟู่จาวหนิงรู้สึกมีความสุขขึ้นมานางมองไปทางเซียวหลันยวน ถามขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านเห็นดาวดวงไหนหรือ?"เซียวหลันยวนไม่ตอบ แต่กุมมือนางมัน จับนิ้วนางชี้ออกไป"เอ๋?"ที่เซียวหลันยวนชี้ก็คือดาวสองดวงนั้น!หรือพวกเขาจะมองเห็นแบบเดียวกัน?แน่นอนว่าอาจจะเพราะดาวสองดวงนั้นสว่างไสวมากที่สุด คนอื่นเองก็อาจจะมองเห็นพวกมันด้วยฟู่จาวหนิงคิดเช่นนี้ เลยมองไปทางองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่กลับเห็นนางมองไปทางอื่นนางมองไล่ตามสายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไป ตรงนั้นมีดาวดวงหนึ่ง สว่างอยู่เหมือนกัน แต่ดาวที่อยู่รอบๆ เล็กเอามากๆ จึงส่องระยับอยู่เพียงดวงเดียวที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองอยู่น่าจะเป็นดวงนั้นกระมัง?ตอนที่นางจะเก็บสายตาก็กวาดไปเห็นซางจื่อพอดี และเห็นซางจื่อก็กำลังมองท้องฟ้า แต่สายตาของเขาดูสับสน สีหน้าเองก็ตกตะลึงไปฟู่จาวหนิงคิดๆ ถอยหลังสองก้าวไปอยู่ข้างๆ ซางจื่อซางจื่อเก็บสายตากลับ มองไปทางนาง ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ นางก็มาอยู่ข้างๆ"ซางจื่อ เจ้าชอบดาวดวงไหน?"ซา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2056

    "แต่ก่อนท่านเคยเห็นเขาระบำมาก่อนไหม?""ไม่มีเคยเลย"ตอนที่พวกเขาหยุดเท้ายืนมอง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็มาถึงข้างกายพวกเขานางเองก็มองการร่ายรำบนแท่นชมดาว สายตาดูเคลิบเคลิ้มหน่อยๆ"ข้าได้ยินว่า แต่ก่อนตงฉิงก็มีระบำทำนายดวงดาวอยู่ประเภทหนึ่ง คิดค้นขึ้นมาโดยตระกูลราชครูตงฉิง นี่เป็นระบำที่ลึกลับมาก จังหวะก้าวเท้าทุกก้าวล้วนพิถีพิถัน นำมาซึ่งพลังแห่งดวงดาว ทำให้ผู้ทำนายดวงดาวมีพลังที่ลึกลับมากขึ้น ผลลัพธ์การทำนายเองก็แม่นยำขึ้น"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ลืมสิ่งที่เซียวหลันยวนพูดไว้เมื่อครู่ เรื่องที่ไม่ให้นางเข้ามาใกล้นัก แต่มายืนอยู่ข้างกายพวกเขา พูดเรื่องที่ตนเองรู้มาก่อนหน้านี้ออกมาอย่างอดไม่อยู่"ตระกูลราชครูของตงฉิง?" ฟู่จาวหนิงเหลือบมองนางผาดหนึ่ง"ใช่ นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้ยินองค์จักรพรรดิของข้าบอกมา" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นว่านางยอมพูดกับตนเอง ก็รู้สึกเหมือนได้รับเกียรติจนประหลาดใจขึ้นมา "ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ได้ยินว่าองค์จักรพรรดิข้าค้นหาตระกูลราชครูตงฉิงอยู่ตลอด ว่ากันว่า ตระกูลราชครูนั้นรู้ความลับมากมายของตงฉิง สามารถช่วยให้อาณาจักรมั่นคงได้ด้วย"เซียวหลันยวนร้องเฮอะขึ้นมาต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status