ฟู่จิ้นเชินเรียกเฉินซานเข้ามาแล้ว"เฉินซาน ส่งแม่นางจูออกไป"เขาตัดสินใจเด็ดขาดไม่เก็บคนไว้ ไม่ให้ความหวังนางเลยแม้แต่น้อยจูเฉียนเฉี่ยนแม้ก่อนหน้านี้จะเคยคิดว่าเขาเย็นชามาก และไม่มีทางยอมรับตนเอง แต่ตอนนี้ก็รู้สึกขึ้นมาจริงๆ ว่ามันเสียใจเอามากๆ"ท่านพี่เชิน..."นางยังคิดจะอ้อนวอน แต่ฟู่จิ้นเชินก็ไม่เหลือบตามอง ความเย็นชาในสายตานั่นทำให้นางพูดคำด้านหลังไม่ออก"แม่นางจู"ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามา ยื่นมือมาเกี่ยวผมทิ้งถูกลมพันจนยุ่งเหยิงไปเกี่ยวหลังหู เข้าประชิดตัวนางเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา"เจ้ารีบไปเถอะ ไม่เช่นนั้น ข้าจะใช้เข็มแทงเจ้าเสีย เจ้าอย่าคิดว่าเข็มของข้าทำได้แค่รักษาคนนะ อันที่จริงมันก็ทำร้ายคนได้ด้วย""ท่าน ข้า..."จูเฉียนเฉี่ยนตกตะลึงถลึงตาโตอยู่ในเมืองเจ้อมาตั้งนาน ฟู่จาวหนิงไม่เคยเย็นชาโหดร้ายใส่นางแบบนี้ แต่ตอนนี้ เสียงแผ่วเบาของฟู่จาวหนิงนี่ มันเหมือนกับสายตาเมื่อครู่ของฟู่จิ้นเชินไม่ผิดเพี้ยนพ่อลูกทั้งสองคนตอนนี้แทบจะให้ความรู้สึกแบบเดียวกันกับจูเฉียนเฉี่ยนนางยิ้มไม่ออกแล้ว"ใต้เท้าอันเองก็ไม่แน่ว่าจะยินดีต้องรับแม่นางจูที่จู่ๆ ก็จะบุกเข้าจวนตระกูลอันด้วย ถ
ฟู่จาวหนิงน้ำเสียงเย็นชา"เจ้าคิวด่าตัวเองวิ่งมาถึงในบ้านคนอื่นแบบนี้ บอกว่าจะเนียนเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ มันสนุกนักหรือ? เจ้าเองก็ไม่คิดเสียหน่อย ว่าคนอื่นเขาต้อนรับเจ้าเข้ามาไหม? พวกเราทั้งครอบครัวอยู่กันดีดี จำเป็นต้องมีคนนอกอย่างเจ้าเพิ่มมาอีกคนหรือ? พวกเรามีห้องในบ้านเยอะเกินไป หรือมีเสบียงมากเกินจนกินไม่หมดหรือไรกัน?"ถ้าไม่ใช่จูเฉียนเฉี่ยนพูดคำเหล่านั้นออกมา ฟู่จาวหนิงคงไม่ลงมือด้วยแต่ว่าคำพูดเหล่านั้น นางฟังแล้วรู้สึกเป็นอัปมงคลมาก"เจ้ามันหน้าใหญ่เสียเหลือเกิน รู้สึกว่าแค่เจ้ายินดีจะเข้ามาในบ้านคนอื่น คนอื่นก็ควรจะต้อนรับเจ้าหรือ? เจ้าเป็นวัตถุมงคลหรือ หรือว่าเป็นกุมารกวักเงินกวักทอง? เจ้ามีอะไรดีที่จะให้คนอื่นมาต้อนรับขับสู้? สำคัญตัวเองผิดไปหน่อยไหม?"ฟู่จาวหนิงช่วงนี้เอาแต่พยายามเป็นหมอฟู่ที่ดีของนางมาตลอด กระทั่งก่อนหน้าที่ถูกเฉินเซียงทำแบบนั้น นางก็ยังคิดถึงว่าต้องดูภาพสถานการณ์รวมใหญ่ก่อน และไม่มีเรี่ยวแรงจะไปทะเลาะกับคนอื่นแต่ตอนนี้นางมีเวลาว่างแล้ว"พ่อแม่ข้าเดิมทีก็เป็นสามีภรรยาที่รักกันดี สองคนถ้อยทีถ้อยอาศัยประคับประคองกันมาเกือบยี่สิบปี เจ้าคิดอยากจะเสียบก็เส
ฟู่จิ้นเชินมองฟู่จาวหนิง สีหน้าดูซับซ้อนเสิ่นเชี่ยวตาแดงรื้นตอนนี้ นางรักลูกสาวเหลือเกิน!นางถูกลูกสาวปกป้องขนาดนี้! ด่ากราดใส่แม่นางที่คิดจะมาแย่งสามีเพื่อแม่ของตัวเอง จาวหนิงนาง...ทำใจนางอบอุ่นเหลือเกิน!เดิมทีการมาถึงของจูเฉียนเฉี่ยน ทำให้เสิ่นเชี่ยวมีอารมณ์ซํบซ้อน แต่ตอนนี้ไม่เหลือความปวดใจใดๆ อีกแล้วในช่วงเวลาที่นางกับฟู่จิ้นเชินไม่ได้อยู่ข้างกาย จาวหนิงเติบโตขึ้นมามีนิสัยเช่นนี้ ทำยังไงดี? นางอยากจะไปโขกหัวกับกำแพงให้ลูกสาวเสียจริง!"ท่านพี่ ท่านก็กล้าด่าดีจริงๆ" ฟู่จาวเฟยยกนิ้วโป้งให้กับฟู่จาวหนิงแต่ผู้เฒ่าฟู่ลังเลอยู่พักหนึ่ง "เด็กคนนั้นอายุพอพอกับเจ้ากระมัง? โดนด่าไปขนาดนี้ นางคงไม่คิดอะไรโง่ๆ หรอกกระมัง?"แม่นางน้อยทั่ไวป ถ้าถูกชี้จมูกด่าแบบนี้ ปกติจะรับไม่ได้กันกระมัง?เขากังวลว่าจูเฉียนเฉี่ยนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "ท่านผู้เฒ่าไม่ต้องกังวลไป นางไม่มีทางคิดอะไรโง่ๆ หรอก"ด้วยนิสัยแบบนั้นของจูเฉียนเฉี่ยน คงจะเสียใจบ้าง คิดอะไรไม่ออกบ้าง แต่ไม่มีทางคิดอะไรโง่ๆเขาชะงักไป จากนั้นก็รับต่อว่า "จะว่าไป ต่อให้นางคิดอะไรโง่ๆ นั่นก็เป็นสิ่งที่นางทำ
ถ้าใครจะมารังแกท่านพี่ เขาจะโบกดาบใหญ๋นำทัพไปบดขยี้อีกฝ่ายเสีย!ถ้าองค์จักรพรรดิจะมารังแกท่านพี่ เขาจะพาทหารก่อกบฏเสีย!ไม่มีใครรู้ว่าฟู่จาวเฟยมีปณิธานเช่นนี้ฟู่จาวหนิงโยนจูเฉียนเฉี่ยนทิ้งไว้หลังสมองหมด ทั้งครอบครัวกินอาหารเย็นกัน สองสามีภรรยาเตรียมตัวกลับจวนอ๋องส่วนฟู่จิ้นเชินคืนนี้จะอธิบายกับภรรยาอย่างไร พวกเขาเองก็ไม่คิดจะไปอยากรู้อยากเห็น"ถึงยังไงด้วยความฉลาดของท่านพ่อตา จะง้อฮูหยินก็คงง่ายมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น"ทำไม ทำไมข้าฟังความหมายของท่านแล้ว เหมือนจะดูอิจฉาอยู่หน่อยๆ กัน?" ฟู่จาวหนิงเหลือบมองเขา"ฟังออกด้วยหรือ?" เซียวหลันยวนหัวเราะเบาๆ "ก็มีจริงๆ นั่นล่ะ เจ้ามันฉลาดจนไม่รู้จะง้อยังไงนี่สิ"จาวหนิงง้อยากกว่าเสิ่นเชี่ยวจริงๆ นั่นล่ะ"ไร้สาระน่า ข้าไม่ใช่คนที่หึงคนง่ายขนาดนั้นเสียหน่อย ท่านเคยคิดไหม ว่าถ้าเจอเรื่องแบบนี้ ข้าไม่มีทางหึงเลยด้วยซ้ำ"เซียวหลันยวนถอนหายใจ"เจ้าคิดว่าการไม่หึง มันง้อง่ายหรือ?""ทำไมล่ะ? ก็ไม่ต้องง้อสิ""ไม่หึง ไม่ต้องง้อ ข้านี่ล่ะต้องกลุ้มใจ"เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้ ""อย่างครั้งนี้ที่ฝูอวิ้นมาที่เมืองเจ้อ วันวันลอยชายอยู่ต่อหน้าเ
เซียวหลันยวนตอนนี้เชื่อใจฝีมือฟู่จิ้นเชินมากดังนั้นเขาจึงมีเรื่องมอบหมายให้เขาทำจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอยู่ในวังราชนิเวศน์กับหยวนอี้ เนื่องจากพวกเขาต้องพักฟื้น น่าจะไม่ออกจากเมืองหลวงเร็ววันนี้แน่ ท่านคอยจับตาดูสถานการณ์พวกเขาไว้ก็พอ ข้าจะทิ้งองครักษ์ลับไว้ให้ท่านแปดคน""ดีเลย"ฟู่จิ้นเชินคิดถึงหยวนอี้แล้วก็รู้สึกแปลกๆหลายวันนี้เขาเองก็คอยจับตาดูการกระทำของทูตจากแคว้นหมิ่นอยู่ แต่ก็ไม่เห็นหยวนอี้มาตลอด"ข้าหาคนไปตรวจสอบสถานการณ์พวกเขาในวังราชนิเวศน์ได้" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนรู้สึกเกินคาดขึ้นหน่อยๆเขาเองก็ส่งคนลอบเข้าไปในวังราชนิเวศน์ได้ แต่ก็เป็นองครักษ์ลับที่คอยจับตาดูอยู่ในความมืด ทว่าความหมายของฟู่จิ้นเชินคือ คนของเขาสามารถปรากฏตัวอย่างโจ่งแจ้งในวังราชนิเวศน์ได้หรือ?"ข้ารู้จักคนตัดแต่งกิ่งไม้ในวังราชนิเวศน์คนหนึ่ง" ฟู่จิ้นเชินมองออกถึงความประหลาดใจของเขา อธิบายออกมาคำหนึ่ง"ใช้ได้เลยท่านพ่อตา"เซียวหลันยวนยกนิ้วโป้งให้เขามิน่าฟู่จิ้นเชินในตอนนั้นถึงมีวิะีพาเสิ่นเชี่ยวหนีออกไปจากเมืองหลวง ความสามารถเรื่องเส้นสายนี่ไม่มีใครเทียบได้จริงๆเขาเป็นพวกปัญญาช
เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงไม่ชอบนาง แล้วจะเป็นอย่างไร?ก่อนที่จะได้ยินคำเหล่านั้นของเสิ่นเชี่ยว ฟู่จาวหนิงก็ไม่เคยคิดถึงปัญหานี้มาก่อนจริงๆหลังจากแยกกับพวกเขา เซียวหลันยวนก็ไปเดินเที่ยวในตลาดซื้อของเป็นเพื่อนนาง ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้มีความคิดจะเลือกของขวัญพบหน้าไปให้กับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะมาเตรียมหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้"เจ้าอารามชอบอะไร?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตอนนี้ตนเองเพิ่งมาถามคำถามนี้ มันก็ดูไม่ใส่ใจเกินไปหน่อยก่อนหน้านี้เซียวหลันยวนบอกนางไว้ ว่าไม่ต้องมอบของขวัญอะไรให้"เขาชอบ..." เซียวหลันยวนครุ่นคิด ยิ้มขืน "ข้าเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน บางครั้งก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาชอบมันเยอะเหลือเกิน บางครั้งก็รู้สึกเหมือนเขาไม่ได้สนใจกับอะไรเลย""นี่ท่านเหมือนไม่ได้ตอบเลยนะ" ฟู่จาวหนิงตำหนิขึ้นมา"หลายปีมานี้ ข้าเองก็ไม่เคยให้อะไรเขา ถ้าหากจะมอบของขวัญให้ ก็น่าจะเป็นตอนที่ข้าทำเรื่องที่เขาอยากให้ข้าทำสำเร็จ แบบนั้นเขาจะดีใจมาก""ปกติเขาจะให้ท่านไปทำเรื่องอะไรหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามจู่ๆ นางก็รู้สึกว่า นางกับเซียวหลันยวนไม่เคยคุยเรื่องอดีตของเขา กับเรื่องคนข้างกายเขาดีด
เขาเคยถามไทเฮา ว่าอยากจะออกจากวังไหม แต่ไทเฮาปฏิเสธ"ไทเฮาน่าจะชินกับการอยู่ในวัง" ฟู่จาวหนิงชะงักไปหน่อย เอ่ยขึ้นว่า "หลักๆ คือก่อนหน้านี้จวนอ๋องเจวี้ยนของท่านเงียบเหงาน่าเบื่อมาก ท่านเองก็ไม่ค่อยจะอยู่ ดังนั้นสู้อยู่ในวังไปดีกว่า"เซียวหลันยวนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ "นางพูดแบบนี้ บอกว่าคนเหล่านั้นในวังทะเลาะกันไปมาบ้าง อย่างน้อยก็ยังคึกคักหน่อย""ก็มีเหตุผล" ฟู่จาวหนิงบอกออกมา ถ้าให้นางต้องไปอยู่ในวังนางเองก็ไม่เอาแน่นอน"แม้ตอนนี้ข้าจะมีพระชายาแล้ว แต่พระชายาคนนี้ก็ยุ่งกว่าข้าเสียอีก ไม่ค่อยจะอยู่ในจวนอ๋องเลย"เซียวหลันยวนถอนหายใจดังนั้นตอนนี้จวนอ๋องเจวี้ยนส่วนใหญ่จึงเงียบเหงาพวกเขาถัดจากนี้จะไปยอดเขาโยวชิงอีก กลับจากยอดเขาโยวชิงก็อาจจะไปตงฉิงอีกดังนั้น ให้ไทเฮาอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ไม่มีความหมายอะไร"นี่ท่านจะพาข้าไปไหน?"ฟู่จาวหนิงเดินมาพักหนึ่งจึงพบว่าเซียวหลันยวนมีเป้าหมายที่จะพานางเดินไป"เห็นร้านนั้นไหม?" เซียวหลันยวนชี้ไปยังร้านที่ไม่ค่อยสะดุดตาร้านหนึ่งด้านหน้า ถึงจะไม่สะดุดตาแต่ก็ยังมองเห็น เพราะป้ายร้านที่แขวนไว้เขียนอักษรไว้สามตัวว่า "ร้านแผงลอย"ฟู่จาวหนิงตอ
"ตาซา ยายซา"เซียวหลันยวนกดเสียงต่ำบอกฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงรู้สึกแปลกประหลาด ถ้านี่กำลังบอกนาง ก็เรียกสองสามีภรรยาเฒ่านี้เลยก็จบแล้วเรียกตาซาตรงๆ แบบนี้ได้หรือ?"ท่านอ๋องไม่ได้มาร้านแผงลอยของเราเป็นครั้งแรก ถือเป็นลูกค้าเก่าอยู่" ยายซายิ้มละไมเอ่ยขึ้น แม้จะพูดถึงเซียวหลันยวน แต่สายตากลับตกอยู่บนตัวฟู่จาวหนิงนางมองฟู่จาวหนิงด้วยสีหน้าพึงพอใจ"นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราพบพระชายา ก่อนหน้านี้เตรียมของขวัญอวยพรไว้ชิ้นหนึ่ง ตอนนี้ในที่สุดก็มอบให้ได้เสียที"ตาซาเองก็เงยหน้าขึ้นมองฟู่จาวหนิง จากนั้นจึงพยักหน้า แล้วก็หันไปถักเชือกต่อแต่ฟู่จาวหนิงก็พบว่าเชือกหญ้าที่เขาถักประณีตอย่างมาก เชือกที่ใช้หญ้านั่นถักออกมาไม่ธรรมดาเลย ราวกับเป็นเชือกสีขาวเงินอย่างไรอย่างนั้น ถ้าสวมไว้บนข้อมือ คงจะดูสง่าไม่น้อยในใจฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมาก"ยายซาเตรียมของขวัญให้ข้าด้วยหรือ?""ท่านกับท่านอ๋องแต่งงานกัน พวกเราเองก็ไม่สะดวกส่งของขวัญไปจวนอ๋อง จึงรอให้ท่านอ๋องพาท่านเข้ามาน่ะ คิดไม่ถึงว่าเขาเพิ่งจะมาเอาป่านนี้" ยายซาพูดพลางให้พวกเขานั่งลงแล้วมาดูของในกล่องไม้นี้ "พวกท่านเลือกกันไปก่อน ข้าจ
ฮูหยินเฉิงถึงอย่างไรก็ไม่สบอารมณ์ฟู่จาวหนิงจริงๆนี่เป็นหญิงสาวที่เกินความเข้าใจที่นางเคยรู้จักมาจริงๆ กิริยาท่าทางก็ตรงไปตรงมา ชอบก้าวเท้ายาวๆ เหมือนสายลม เวลาหัวเราะก็เห็นฟัน เสียงหัวเราะก็ไม่มีปิดบังตอนที่กินก็ไม่มีการยับยั้งควบคุม ปริมาณการกินของฟู่จาวหนิงยังมากกว่านางและองค์หญิงใหญ่รวมเข้าด้วยกันอีก บางครั้งกระทั่งแอบใช้มือขโมยกินด้วย พอถูกเซียวหลันยวนจับได้ก็ทำหน้าทะเล้นใส่ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างทางพอเห็นอะไรที่นางสนใจก็จะหยุดลง บางครั้งก็หายเข้าไปในป่าครึ่งค่อนวันไม่รู้ไปทำอะไรทั้งที่บอกว่าจะเร่งเดินทาง แต่กลับถูกนางถ่วงเอาไว้หลายวันเซียวหลันยวนเองก็ยังตามใจนาง"ไม่รู้ว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนเคยเห็นของทะเลพวกนั้นจริงไหม"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อครู่ตอนได้กลิ่นคาวทะเล นางยังรู้สึกรับไม่ค่อยได้เลยของที่เหม็นขนาดนั้นจะเอาเข้าปากได้อย่างไรกัน?นางรู้สึกคาดหวังให้อ๋องเจวี้ยนเห็นฟู่จาวหนิงตอนที่ทำของเหล่านี้ แล้วเกิดความรังเกียจและตกใจขึ้นมาฮูหยินเฉิงระหว่างทางก็ดูไม่สบอารมณ์ฟู่จาวหนิงมาก แต่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นด
"แม่นาง เจ้าอยากจะซื้ออาหารทำเลหรือ? เจ้าพวกนี้ไม่เหมือนกับปลาในแม่น้ำที่พวกเรากินกันปกตินะ เจ้าอาจจะปรุงมันไม่เป็นด้วยซ้ำ" มีคนพิจารณาฟู่จาวหนิงกับเสี่ยวเยว่"เมื่อครู่เหมือนจะเห็นว่าฮูหยินเฉิงกลับมาแล้ว?" มีคนกลับสังเกตเห็นถึงจุดนี้"ฮูหยินเฉิงกลับมาแล้วหรือ? ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็นัดเหล่าว่านได้แล้วใช่ไหม? งั้นก็ซื้อไว้หน่อย ให้เหล่าว่านช่วยเราจัดการปลาปูให้หน่อย!"คนที่ร้องขึ้นมาอย่างลิงโลดนี้ เห็นได้ชัดว่าอยากกินมาตลอด"คุณหนู ท่านคงไม่ได้คิดจะซื้อพวกนี้หรอกกระมัง?" เสี่ยวเยว่เห็นฟู่จาวหนิงมองปูในตะกร้าไม้ไผ่ นางเหมือนรู้ว่านี่คือปู แต่ไม่เหมือนกับปูแม่น้ำที่เคยเห็นมา ก้ามใหญ่กว่ากันมาก ยิ่งไปกว่านั้นบนตัวยังเป็นสีฟ้าอีกเปลือกของเจ้านี่ดูเหมือนจะแข็งเอามากๆ นางเองก็จัดการไม่เป็น ถึงอย่างไรก็ไม่เคยเห็นมาก่อน"สิ่งนี้ อร่อยมากเลยนะ" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ิคดว่าจะมาเห็นปูทะเลที่นี่ ข้างๆ ยังมีกุ้งมังกรตัวใหญ่อีกด้วยเจ้าพวกนี้ไปเอามาจากไหนกันเนี่ย?ในทะเลแคว้นเจามีเจ้าพวกนี้ด้วยหรือ?แต่หลังจากได้เห็นนางก็น้ำลายสอเสียแล้วแล้วยังมีหอยทะเลอีกด้วย เอามาทำพริกเกลือนี่อร่อยจัดๆ เลย
เมืองเล็กที่ชื่อจื่อซวีแห่งนี้มีลักษณะกระจายตัวเป็นอักษร 品ด้านหน้าส่วนใหญ่เป็นร้านค้าและตลาด และยังมีคนที่คอยดูแลรถม้าให้อาหารม้าโดยเฉพาะอีกด้วย พื้นที่ก็ไม่เล็กเลย ค่อนข้างคึกคักทีเดียว พอเห็นรถม้าหลากหลายรูปแบบและผู้คนที่เดินไปเดินมา องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็รู้สึกว่าแปลกใหม่ดี"ท่านน้าเฉิง ระหว่างทางท่านบอกอยู่ตลอดว่าเป็นเมืองเล็กๆ ข้าก็คิดว่าจะเล็กมากๆ คิดไม่ถึงว่าจะคึกคักขนาดนี้"โดยเฉพาะฮูหยินเฉิงยังบอกนางอีกว่า ตลาดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเมืองเล็กนี้ ส่วนที่พักของคนยังอยู่ด้านหลัง"สถานที่นี้เดิมทีก็ไม่ได้คึกคักขนาดนี้ หลายสิบปีมานี้ ยอดเขาโยวชิงค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้น คนก็แวะมามากขึ้น นอกจากนี้ ถนนที่ลอดใต้ยอดเขาโยวชิงเองก็ถูกขยายออกมาแล้ว คนที่สัญจรไปมาก็มากขึ้น พอมาถึงจื่อซวีก็เป็นจุดพักที่เหมาะเหม็งพอดี""ลอดยอดเขาโยวชิงออกไปที่ใดหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถามฮูหยินเฉิงยิ้มๆ ตอบว่า "ไปถึงสถานที่หนึ่งที่ชื่อว่าโป๋ไห่ โป๋ไห่ทางนั้นหลายปีนี้ก็คึกคักขึ้นมาเช่นกัน มีการซื้อขายของทะเลบางอย่างที่นั่น ดังนั้นพวกนักชิมบางคนจึงไปที่เมืองโป๋ไห่ ที่นั่นสามารถได้กินอาหารทะเลที่สถานที่อื่
แต่ไม่ว่าฮูหยินเฉิงจะมีความเห็นแค่ไหน เส้นทางถัดจากนี้ โอกาสที่พวกนางจะได้คุยกับเซียวหลันยวนก็มีน้อยถึงน้อยมากบางครั้งขบวนเพิ่งสั่งพัก ตอนที่พวกนางลงจากรถม้า ก็รู้ว่าเซียวหลันยวนพาฟู่จาวหนิงไปหาน้ำใกล้ๆ แล้วบอกว่าหาน้ำ อันที่จริงคือสองสามีภรรยาแค่เลี่ยงคนมากๆ หนีออกไปเที่ยวเล่นต่างหากบางครั้งพวกเขาจะเอาผลไม้ป่ากลับมาหลายพวง บางครั้งก็หอบดอกไม้ป่ากลับมาช่อหนึ่ง บางครั้งยังหิ้วปลากลับมาอีกหลายตัวถึงอย่างไรคนอื่นอาจไม่รู้ แต่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองออกว่าฟู่จาวหนิงดีอกดีใจมาก เพราะทุกครั้งที่กลับมานางก็จะยิ้มละไม ดวงตาเป็นประกายนั่นคือหญิงสาวที่ถูกรักคนหนึ่งแล้วมีอยู่สองครั้ง ที่นางกระทั่งถูกเซียวหลันยวนแบกกลับมาบอกว่าไปนั่งตกแดดอยู่บนหินใหญ่ก้อนหนึ่งแล้วง่วงจนหลับไป เซียวหลันยวนไม่อยากปลุกนาง ดังนั้นจึงแบกนางกลับมาพอเข้าเมือง ตอนเข้าพักในโรงเตี๊ยม ห้องของสองสามีภรรยาก็อยู่ห่างจากพวกเขาไปไกลลิบ พอเข้าห้องก็ไม่ออกมาอีกเลยแต่ว่า มีอสองครั้งที่พวกเขาออกไปเดินเที่ยวบนถนนยามค่ำคืน ตอนที่กลับมาก็หอบของกินเล่นกลับมาหลายห่อองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะอย่างไรก็กินไม่ค่อยลง แต่พวกเสี่ยวเ
หลายหมื่นตำลึงก่อนหน้านี้ที่จ่ายแทนฮูหยินเฉิง ฟู่จาวหนิงก็กลัวว่าเขาจะไม่มีเงินแล้วแต่เขาก็ไม่ได้จนขนาดนั้น"ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้หนิงหนิงไม่เป็นหมอ แค่จะดูแลเรื่องเสื้อผ้าอาหารการกินนั้นไม่มีปัญหาอยู่""เช่นนั้นก็ดี ของพวกนี้ข้าก็ส่งให้พ่อข้าแล้วกันนะ แต่ว่า ข้าเองก็หาเงินได้นะ หากท่านต้องการเงินจริงๆ ข้าก็หาให้ได้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ข้ากล้าดูถูกหมอเทวดาเสียที่ไหน? เจ้ารู้ไหมว่ายาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจของเจ้า เม็ดนึงมันขายได้ตั้งเท่าไร?"เซียวหลันยวนเองก็ไม่เคยรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงขัดสนด้วยวิชาแพทย์ของนาง ทั้งชาตินี้นางไม่มีวันขัดสนแน่นอนดังนั้น สามีภรรยาทั้งสองอย่างพวกเขาก็เป็นเศรษฐีต่อไปเถอะฮูหยินเฉิงกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนั่งอยู่ข้างๆ ส่งสายตาเข้ามาเป็นระยะพอเห็นว่าเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงตอนที่กินยังตัวชิดติดกันขนาดนั้น เอาแต่กระซิบกระซาบกันไม่หยุด ทั้งสองคนรู้สึกขัดหูขัดตามาก"อายวน ลมแรงขึ้นมาแล้ว รีบกินเถอะ กินเสร็จจะได้รีบเดินทาง" ฮูหยินเฉิงเอ่ยขึ้นอย่างทนไม่ไหว"ท่านน้าเฉิงกินเสร็จแล้วหรือ?" เซียวหลันยวนเห็นว่านางวางชามลงแล้วลวี่กั่วที่อยู่ข้างๆ ยังกินอยู่เลย
ฮูหยินเฉิงไม่ค่อยเข้าใจพฤติกรรมนี้นักโดยเฉพาะที่ฟู่จาวหนิงเมื่อครู่ยังพูดว่า คนยังอยู่ระหว่างเดินทาง อยู่กลางทาง ไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึน กินข้าวได้ก็รีบๆ กินไปก่อนเสียผลลัพธ์คือตอนที่นางพูดให้รีบกินข้าว เซียวหลันยวนที่เป็นถึงท่านอ๋องกลับไปเด็ดดอกไม้มาให้นางอยู่ช่อดอกไม้ป่านั่น วางไว้บนรถม้าจะได้สักกี่วัน? จะว่าไป ข้างทางก็ยังมีดอกไม้ป่าอีกตั้งมากมายนี่? แค่มองก็พอแล้ว ต้องเด็ดมาแบบนี้ด้วยว่างกันเสียจริง"ไม่เป็นไร ข้ายังไม่ค่อยหิวมาก"ชิงอีตักน้ำมาให้เขาล้างมือ จากนั้นก็ไปตักข้าวต้มให้เขาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเสี่ยวเยว่เอาดอกไม้ช่อนั้นไปที่รถม้า ไม่นานนักก็หยิบแจกันใบหนึ่งออกมาใส่น้ำ ความอิจฉาในดวงตาแทบจะทะลักออกมาแล้วนางอิจฉามากจริงๆ!ฮูหยินเฉิงอาจจะไม่มีอารมณ์ชวนฝันแบบนี้ แต่นางมีนี่นาก่อนหน้านี้เรื่องราวมากมายที่ได้ยินหรือเห็นมา ก็รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนดีกับฟู่จาวหนิงแค่ไหน แม้ว่านางจะอิจฉา แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสะเทือนใจขนาดนั้นแต่เมื่อครู่ที่เห็นอ๋องเจวี้ยนส่งดอกไม้ช่อนี้ให้ฟู่จาวหนิงกับมือ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกสะเทือนใจขึ้นมาอย่างสิ้นเชิงชายหนุ่มสูงส่งเย็
"แล้วมันไม่ควรหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำท่าทางเหมือนสับสนมากมองออกว่านางรู้สึกจริงๆ ว่าต้องรอเซียวหลันยวนกลับมากินด้วยกันจึงจะถูก"ความเร็วในการกินข้าวของพวกท่าน ไม่เหมือนกับเขา ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังอยู่กลางป่ากลางเขาด้วย อยู่ระหว่างเดินทาง ของที่ต้มเสร็จแล้วก็ต้องรีบกิน ไม่มีความจำเป็นต้องมารอให้ครบคน ใครก็ไม่รุ้ทั้งนั้นว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไรขึ้น" ฟู่จาวหนิงอธิบายออกมาอย่างอดทนถึงอย่างไรก็ตัดสินใจเดินทางมาด้วยกันแล้ว ยังต้องเดินทางด้วยกันอีกระยะหนึ่ง พูดให้ชัดเจนไว้ก่อนดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งพูดทุกวันหลังจากนี้"แต่ว่า...""ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น กินไปเถอะ" ฟู่จาวหนิงตัดบทองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอธิบายรอบเดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าต้องมาอธิบายตลอด นางเองก็ทำไม่ได้หรอกถึงอย่างไรนางก็ยกชามขึ้นกินอย่างเอร็ดอร่อยแล้ว"ท่านน้าเฉิง..."องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นฟู่จาวหนิงกินอย่างไม่ทุกข์ร้อน ก็อดมองไปทางฮูหยินเฉิงไม่ได้"พวกเรารอก่อน" ฮูหยินเฉิงเอ่ยขึ้นในฐานะที่นางเป็นผู้อาวุโส เรื่องจะกินก่อนที่เซียวหลันยวนจะกลับมานางยิ่งทำไม่ได้เลยถ้าเผื่ออีกเดี๋ยวเซียวหลันยวนไม่พอกิน นางก็ย
ยังมีท่าทางสง่างามของอ๋องเจวี้ยนอยู่เสียที่ไหนกัน?"ศัตรูหัวใจ?"เซียวหลันยวนครุ่นคิดถึงคำนี้ จากนั้นก็หัวเราะเฮอะขึ้นมา ไม่ชอบใจเอามากๆ"เขาเป็นไม่ไหวหรอก"ถ้ามาคิดอย่างละเอียด ต่อให้ไม่มีเขา ฟู่จาวหนิงก็อาจจะไม่เลือกซือถูไป๋ก็ได้เพราะอะไรกัน?แน่นอนว่าเพราะซือถูไป๋ไม่ได้เด็ดขาดเหมือนเขา กับองค์จักรพรรดิเอง เขาก็ยังกำเริบเสิบสานได้ขนาดนี้ แต่ซือถูไป๋ล่ะ? ขนาดผู้นำตระกูลซือถูเองก็ยังมาคอยกำหนดเรื่องสำคัญในชีวิตของเขาได้"หนิงหนิง ข้าจะบอกเจ้าให้ คนอย่างซือถูไป๋ที่อายุยี่สิบกว่าแต่ก็ยังเป็นนายตัวเองไม่ได้ ไม่มีอนาคตหรอก"เขาบอกกับฟู่จาวหนิงอย่างตั้งใจ"เชอะ ท่านเองก็พอได้แล้ว เรื่องแค่นี้ก็ตัดสินอนาคตคนอื่นไปเสียแล้ว"อะไรคือไม่มีอนาคตกัน?อายุยี่สิบกว่า ยังหนุ่มอยู่มาก อนาคตยังอีกกว้างไกลไร้ขีดจำกัดเถอะฟู่จาวหนิงไม่ใช่คนที่ตัดสินคนง่ายๆแต่เหมือนอ๋องเจวี้ยนจะไม่ได้ใจกว้างแบบนั้น"ท่านอ๋อง พระชายา มากินข้าวกลางวันกันไหม?" ก็ได้ยินเสียงชิงอีตะโกนเข้ามาตามลม"กินสิ หิวแล้ว ไปกินข้าวกัน" ฟู่จาวหนิงพูดแล้วก็เดนินำกลับไปก่อน"ไปเดี๋ยวนี้"เซียวหลันยวนยังไม่ขยับฟู่จาวหนิง
ฟู่จาวหนิงสงสัย ซือถูไป๋เดิมทีก็อยู่ระหว่างทางมาเมืองหลวงอยู่แล้ว"พูดถึงเรื่องนี้ ข้าเองก็ได้ยินมาแล้ว ยินดีด้วยคุณชายซือถู" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นไม่ว่าหยวนอี้มีเหตุผลอะไรถึงส่งสิ่งนี้ให้ซือถูไป๋ ที่คนนอกมองเห็นคือการตบฉาดเข้าที่หน้าของพันธมิตรโอสถใต้หล้า ถือว่าโรงยาทงฝูชนะไปก้าวหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ยังทำให้ซือถูไป๋ได้รับการให้ความสำคัญจากผู้นำตระกูลด้วยสำหรับซือถูไป๋ก็ถือเป็นเรื่องดีจริงๆ ดังนั้นที่ฟู่จาวหนิงยินดีกับเขาก็เป็นเรื่องปกติแต่พอได้ยินฟู่จาวหนิงยินดีกับซือถูไป๋ เซียวหลันยวนกลับรู้สึกหึงหวงหน่อยๆซือถูไป๋ปีที่แล้วยังคิดไม่ซื่อกับฟู่จาวหนิงอยู่เลย เขามักรู้สึกว่าถ้าแค่ตนเองเผลอนิดเดียว ซือถูไป๋ก็จะฉวยโอกาสทันทีทำให้ฟู่จาวหนิงยินดีกับซือถูไป๋ได้ นี่มันก็อธิบายว่าซือถูไปจะมากน้อยก็ถือว่ามีความได้เปรียบ หรือมีเรื่องน่ายินดี ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ก็ดึงดูดความสนใจของฟู่จาวหนิงมาได้เหมือนกันความสนใจจุดนี้ ทำให้ในใจเซียวหลันยวนขุ่นเคืองขึ้นมา"ขอบคุณพระชายา"ซือถูไป๋เหลือบมองอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่ง เป็นชายหนุ่มเหมือนกัน แม้จะมองไม่เห็นสีหน้าของอ๋องเจวี้ยน แต่เขาจะไม่