Share

บทที่ 1983

Author: จุ้ยหลิงซู
"แม่นาง เจ้าอยากจะซื้ออาหารทำเลหรือ? เจ้าพวกนี้ไม่เหมือนกับปลาในแม่น้ำที่พวกเรากินกันปกตินะ เจ้าอาจจะปรุงมันไม่เป็นด้วยซ้ำ" มีคนพิจารณาฟู่จาวหนิงกับเสี่ยวเยว่

"เมื่อครู่เหมือนจะเห็นว่าฮูหยินเฉิงกลับมาแล้ว?" มีคนกลับสังเกตเห็นถึงจุดนี้

"ฮูหยินเฉิงกลับมาแล้วหรือ? ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็นัดเหล่าว่านได้แล้วใช่ไหม? งั้นก็ซื้อไว้หน่อย ให้เหล่าว่านช่วยเราจัดการปลาปูให้หน่อย!"

คนที่ร้องขึ้นมาอย่างลิงโลดนี้ เห็นได้ชัดว่าอยากกินมาตลอด

"คุณหนู ท่านคงไม่ได้คิดจะซื้อพวกนี้หรอกกระมัง?" เสี่ยวเยว่เห็นฟู่จาวหนิงมองปูในตะกร้าไม้ไผ่ นางเหมือนรู้ว่านี่คือปู แต่ไม่เหมือนกับปูแม่น้ำที่เคยเห็นมา ก้ามใหญ่กว่ากันมาก ยิ่งไปกว่านั้นบนตัวยังเป็นสีฟ้าอีก

เปลือกของเจ้านี่ดูเหมือนจะแข็งเอามากๆ นางเองก็จัดการไม่เป็น ถึงอย่างไรก็ไม่เคยเห็นมาก่อน

"สิ่งนี้ อร่อยมากเลยนะ" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ิคดว่าจะมาเห็นปูทะเลที่นี่ ข้างๆ ยังมีกุ้งมังกรตัวใหญ่อีกด้วย

เจ้าพวกนี้ไปเอามาจากไหนกันเนี่ย?

ในทะเลแคว้นเจามีเจ้าพวกนี้ด้วยหรือ?

แต่หลังจากได้เห็นนางก็น้ำลายสอเสียแล้ว

แล้วยังมีหอยทะเลอีกด้วย เอามาทำพริกเกลือนี่อร่อยจัดๆ เลย
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1984

    ฮูหยินเฉิงถึงอย่างไรก็ไม่สบอารมณ์ฟู่จาวหนิงจริงๆนี่เป็นหญิงสาวที่เกินความเข้าใจที่นางเคยรู้จักมาจริงๆ กิริยาท่าทางก็ตรงไปตรงมา ชอบก้าวเท้ายาวๆ เหมือนสายลม เวลาหัวเราะก็เห็นฟัน เสียงหัวเราะก็ไม่มีปิดบังตอนที่กินก็ไม่มีการยับยั้งควบคุม ปริมาณการกินของฟู่จาวหนิงยังมากกว่านางและองค์หญิงใหญ่รวมเข้าด้วยกันอีก บางครั้งกระทั่งแอบใช้มือขโมยกินด้วย พอถูกเซียวหลันยวนจับได้ก็ทำหน้าทะเล้นใส่ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างทางพอเห็นอะไรที่นางสนใจก็จะหยุดลง บางครั้งก็หายเข้าไปในป่าครึ่งค่อนวันไม่รู้ไปทำอะไรทั้งที่บอกว่าจะเร่งเดินทาง แต่กลับถูกนางถ่วงเอาไว้หลายวันเซียวหลันยวนเองก็ยังตามใจนาง"ไม่รู้ว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนเคยเห็นของทะเลพวกนั้นจริงไหม"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อครู่ตอนได้กลิ่นคาวทะเล นางยังรู้สึกรับไม่ค่อยได้เลยของที่เหม็นขนาดนั้นจะเอาเข้าปากได้อย่างไรกัน?นางรู้สึกคาดหวังให้อ๋องเจวี้ยนเห็นฟู่จาวหนิงตอนที่ทำของเหล่านี้ แล้วเกิดความรังเกียจและตกใจขึ้นมาฮูหยินเฉิงระหว่างทางก็ดูไม่สบอารมณ์ฟู่จาวหนิงมาก แต่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1985

    ชื่อเสียงของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น เหตุผลสำคัญส่วนใหญ่มาจากเจ้าของอุทยานคนก่อนสร้างไว้ หรือก็คือสามีของฮูหยินเฉิงนั่นเองพูดได้ว่า ทั้งเมืองจื่อซวีตอนนี้ที่คึกคักได้ขนาดนี้ ถือว่าเป็นผลงานของเจ้าอุทยานเช่นกัน"ตอนที่ท่านลุงเจ้าอุทยานยังมีชีวิตอยู่ ทุกปีจะออกทั้งเงินลงทั้งแรง พาคนไปสร้างถนนสร้างสะพานไปทั่วเมือง ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่มีขบวนพ่อค้าเดินทางมา ก็มักจะเชิญพวกเขากินข้าวร่ำสุรา พยายามแนะนำเมืองจื่อซวีนี้อย่างเต็มที่ และก่อนที่พวกเขาจะจากไปก็ยังมอบของขวัญให้พวกเขาอีกไม่น้อย หวังว่าหลังจากพวกเขาออกไปแล้ว จะบอกเล่าเรื่องเมืองจื่อซวีให้กับคนภายนอกได้ฟังบ้าง"เซียวหลันยวนเล่าเรื่องอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นกับเมืองจื่อซวีให้ฟู่จาวหนิงฟัง"การค้าของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นเองก็ทำไปถึงภายนอกด้วย ด้านนอกเองก็พูดถึงเมืองจื่อซวีอยู่ไม่น้อย ดังนั้นจึงค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมา บวกกับยอดเขาโยวชิง ความนิยมก็มากขึ้นเรื่อยๆ คนในเมืองล้วนรู้ถึงคุณูปการที่อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นทำไว้ จึงได้เคารพต่ออุทยานเขาเฉิงอวิ๋นกัน"ฟู่จาวหนิงฟังถึงตรงนี้ ก็ครุ่นคิดแล้วถามขึ้น "หรือก็คือ คนในเมืองตอนนี้ดีกับฮูหยินเฉิงมาก...""ส่ว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1986

    ฮูหยินเฉิงมองออกว่าตอนนี้ผ่อนคลายลงแล้วจริงๆ ดูดีอกดีใจมากหลังจากพูดเหล่านี้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแล้ว ก็หันไปทางเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิง แล้วก็แตกต่างไปอย่างเห็นได้ชัด"อายวน เจ้าเองก็ด้วยนะ ที่นี่ก็เหมือนบ้านตัวเอง ที่นี่เจ้าเองก็คุ้นเคยดีอยู่แล้ว ไม่ต้องให้ข้ามาต้อนรับหรอก เจ้าพาพระชายาไปพักผ่อนได้เลย"พอพูดกับเซียวหลันยวน ก็หันมายิ้มพยักหน้าให้ฟู่จาวหนิงเบาๆ ดูสุภาพแต่ห่างเหินมากฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากจะขำฮูหยินเฉิงที่เป็นแบบนี้ สำหรับนางแล้วไม่เท่าไรหรอกน่าจะเพราะฮูหยินเฉิงคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำร้ายนางได้ ทำให้นางรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองไม่ค่อยสบายใจ จากนั้นก็จะทะเลาะกับเซียวหลันยวนแบบนั้นหรือ?แต่อันที่จริง ตอนนี้นางก็ไม่ได้มองฮูหยินเฉิงเป็นคนของตนเอง ในเมื่อเป็นคนนอก แล้วนางจะเรียกร้องให้คนอื่นมากระตือรือร้นกับนางได้อย่างไรกัน?นางไม่ใช่ทองเสียหน่อย จะมีคนชอบหรือมีคนไม่ชอบมันก็เรื่องปกติ"ท่านน้าเฉิง เข้าไปก่อนไหม?""ใช่ๆๆ ทุกคนเข้าไปกันก่อน เข้าไปก่อนเถอะ"ทั้งกลุ่มเข้าไปอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ในอุทยานเขาก็คึกคักกันขึ้นมาทีเดียวฮูหยินเฉิงอยากจะจัดให้เซียวหลันยวนไปอย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1987

    "หลีกทางหน่อย ยืนอยู่ตรงนี้ทำไมกัน? ยืนนิ่งอย่างกับท่อนไม้!"มีคนรีบเดินเข้ามาจากด้านหลัง คิดจะชนฟู่จาวหนิงให้หลีกทางแต่ยังไม่ทันเข้าใกล้ ก็ถูกเสี่ยวเยว่ยื่นมือขวางไว้ จนปูที่หิ้วอยู่ในมือไป๋หู่ แอบจะตบเข้าไปบนหน้าของอีกฝ่ายพฤติกรรมหยาบคายนี้ ดูแล้วเหมือนจงใจอยู่หน่อยๆยิ่งไปกว่านั้นบนตัวคนที่เข้ามาก็มีกลิ่นคาวเลือดแรงมาก"ทำอะไรน่ะ?"สืออีถลึงตาออกไปด้วยความโกรธคนที่รีบเข้ามา เป็นชายสองคนสวมเสื้อคลุมสั้นสีน้ำเงิน บนตัวเปื้อนเลือด ในมือหิ้วไก่ที่หักคอแล้ว อีกคนยังหิ้วของที่ดูเหมือนกวางอีกตัวหนึ่ง เลือดยังหยดอยู่เลยกลิ่นคาวเลือดมาจากตัวพวกเขาตอนที่คนผู้นี้จะชนเข้ามาเมื่อครู่ หยดเลือดจากกวางนั้นก็กือบสะบัดไปโดนตัวฟู่จาวหนิงแล้วเสี่ยวเยว่เองก็มองพวกเขาอย่างเคืองๆพวกเขาเพิ่งมาถึง กำลังจะเข้าห้องครัว ดังนั้นจึงยืนกันอยู่ที่ประตูแต่อีกฝ่ายทั้งสองคนกลับวิ่งเข้ามา ต้องมองเห็นนานแล้วว่าทางนี้มีคน สามารถตะโกนมาแต่ไกลได้ ต้องรีบเบียดรีบชนเข้ามาเสียที่ไหนกัน?แต่พวกเขาเองก็เพิ่งจะมาถึงอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังไม่ได้ผิดใจกับคร ยิ่งไปกว่านั้นยังอยู่กับอ๋องเจวี้ยนด้วย คิดแล้วก็ไม่น่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1988

    เพียงไม่นาน ก็มีคนหนึ่งคนหนึ่งเดินออกมา แต่งตัวทะมัดทะแมงด้วยเช่นกันเขาเหลือบมองฟู่จาวหนิงอย่างอยากรู้อยากเห็น หน้าแดงเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองสืออีกับไป๋หู่ "พวกท่านตามข้าเข้ามาเถอะ ด้านในมีถังน้ำใบใหญ่อยู่ เอาของพวกนี้ใส่ทิ้งไว้ได้ แต่ขอบอกไว้ก่อน ไม่รับประกันว่าพรุ่งนี้จะยังกระโดดโลดเต้นได้อยู่ไหม"เขาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เสริมเข้ามาว่า "แต่ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรต่อให้ตาย พรุ่งนี้ลุงเหล่าว่านก็จะปรุงให้พวกท่านเอง ถ้ายังตายไม่นานนักรสชาติก็ยังใกล้เคียงกันอยู่ กินได้"สืออีหน้าขรึมไปแล้ว"ในเมื่อตอนนี้ที่พวกเราซื้อมายังสดอยู่ ก็ไม่กินตอนนี้เลยล่ะ ต้องมารอให้มันตายแล้วกินของไม่สดวันพรุ่งนี้แทนหรือ?"นี่มันตรรกะอะไรกัน?"ใช่เลย ของพวกนี้ซื้อมาตั้งห้าสิบตำลึงนะ" เสี่ยวเยว่เองก็เอ่ยขึ้นด้วยชายหนุ่มคนนั้นดูจนใจหน่อย ผายมือออก "ถ้างั้นแล้วจะทำยังไงล่ะ? ของอย่างอาหารทะเลมีแต่ลุงว่านของพวกเราที่ทำเป็น แต่วันนี้เขาไม่มีเวลามาช่วยพวกท่านทำหรอก"ฟู่จาวหนิงตอนนี้จึงถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น "ไม่ใช่บอกว่าจะต้อนรับแขกชั้นสูงหรอกหรือ? ถ้าของพวกนี้เป็นของที่อ๋องเจวี้ยนจะกิน จะเอามาทำไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1989

    "ลุงเหล่าว่าน ข้าทราบแล้ว พวกเขายืมห้องครัวข้างๆ เพื่อเตรียมกับข้าวกันเองน่ะ" เสี่ยวเฉิงเอ่ยขึ้น"ทำเองหรือ?" เหล่าว่านตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา "เช่นนั้นก็เอาเถอะ ข้าคงจะดูคนผิดจริงๆ แม่นางสองคนนั้นกับชายอีกสองคนทำอาหารทะเลกันเป็นด้วย"เขาเองก็ไม่พูดอะไรอีกหลังจากเซียวหลันยวนออกไปส่งจดหมายแล้วกลับมา ก็ไปที่ครัวหลังหาฟู่จาวหนิงครัวใหญ่อีกด้านก็มีคนเข้าๆ ออกๆ เขาเหลือบมองไป เห็นว่าเหล่าว่านกำลังยุ่งเซียวหลันยวนจึงไม่เข้าไป แต่เดินไปยังห้องครัวรองข้างๆหลังจากเข้าไปเขาก็เห็นพวกของสืออีกำลังล้อมฟู่จาวหนิงอยู่ กำลังมองอย่างเคลิบเคลิ้ม ใครก็ไม่ทันสังเกตว่าเขาเข้ามาแล้วนี่กำลังทำอะไรกัน?เขาเดินเข้าไป ก็เห็นฟู่จาวหนิงกำลังใช้มีดเชือดปูขาหูขนาดใหญ่พวกนั้น แต่ละท่อนถูกเฉือนออกมา มีดเล็กในมือฟันลงไป ตัดหั่น กรีดแล้วเปิดออก เผยให้เห็นเนื้อใสเป็นประกายด้านในข้างๆ มีถาดใบใหญ่ใบหนึ่ง วางเรียงขาปูไว้แล้วฟู่จาวหนิงสมกับที่ใช้มีดผ่าตัดเป็น ปู่ที่นางจัดการ เป็นระเบียบเรียบร้อย รอยตัดเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด ขนาดเล็กใหญ่ก็เท่ากัน แค่วางเรียงไว้ก็ทำให้คนที่ป่วยโรคย้ำคิดย้ำ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1990

    โถงอาหารที่ฮูหยินเฉิงเชิญแขกมา เป็นส่วนที่อยู่ในเรือนหลัง เรือนหน้ายังมีอีกโถงหนึ่ง มีโถงเล็กใหญ่ โถงใหญ่มีโต๊ะหลายตัว โถงเล็กมีแค่ตัวเดียวนางพาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาถึงโถงอาหารเรือนหลังของตนเอง คนรับใช้ก็นำอาหารออกมา ดูแล้วประณีตมากกลิ่นลอยเตะจมูก จานที่จัดวางก็สวยงามองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอได้กลิ่นน่าอร่อยก็ท้องร้องขึ้นมาแต่ตอนที่นางเห็นบนโต๊ะมีจานชามวางอยู่สามชุด ก็มองฮูหยินเฉิงอย่างไม่เข้าใจ"ท่านน้าเฉิง พวกเราสองคนแล้วยังมีใครมากินด้วยอีกหรือ? ขาดไปหนึ่งชุดหรือเปล่า?"สามคน จะคิดอย่างไรก็ไม่ค่อยถูกนางเองก็ไม่เห็นว่ามีใครเข้ามายิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ว่ามากับอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรือ? เช่นนั้นก็ควรจะเป็นสี่สิ"นั่งลงเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ"ฮูหยินเฉิงดึงนางลงมานั่งก่อน จากนั้นจึงถอนใจเอ่ยขึ้นว่า "เมื่อครู่อายวนสั่งคนมาบอกข้าแล้ว ว่าคืนนี้เขาจะกินข้าวกับพระชายาที่เรือนหน้า ไม่เข้ามาแล้ว ข้าคิดว่าพระชายาคงไม่อยากจะเข้ามาที่เรือนหลังของข้า และคงไม่อยากมานั่งกินข้าวกับข้าด้วยกระมัง"พูดออกมาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจเหมือนถูกฟู่จาวหนิงรังเกียจ ในใจรู้สึกแย่มากองค์หญิงใหญ่ฝ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1991

    ฟู่จาวหนิงกำลังกินขาปูอยู่ ตอนนี้เนื้อขาปูมันเกินกว่าที่นางจินตนาการไว้เสียอีก สดหวานกว่าที่เคยกินมาก่อนหน้าหลายเท่าเลยทีเดียว!นั่นเป็นความแตกต่างที่เห็นได้ชัดมาก ยิ่งไปกว่านั้นคุณภาพเนื้อก็สดนุ่ม นางกินไปจนซาบซึ้งแทบร้องไห้เลยไม่เคยกินปูที่อร่อยแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ!แล้วยังมีกุ้งมังกรยักษ์อีก เนื้อกุ้งนั่นมันเด้งดึ๋งสุดๆ เลย! รสตกค้างก็หวานมากบวกกับน้ำจิ้มที่นางปรุง สดใหม่จนแทบจะกลืนลิ้นตัวเองลงไปเลยทีเดียวเซียวหลันยวนตอนแรกก็คีบเนื้อก้ามปูขึ้นมา ฟู่จาวหนิงให้เขาลองดูก่อนว่ามีปฏิกิริยาอะไรไหมตอนที่เขารอ ฟู่จาวหนิงก็กินเนื้อปลาหมึกสดไปอีกหลายชิ้น ตรงนี้นางใช้มีดแกะสลัก ผัดอย่างรวดเร็วจนม้วนห่อเหมือนดอกไม้ กัดลงไปก็เด้งสู้ฟันแล้วยังมีกลิ่นหอมเฉพาะของปลาหมึกสด บวกกับความเผ็ดนิดๆ ของขิงซอย อร่อยจนตานางเปล่งประกายเซียวหลันยวนพอเห็นท่าทางของนาง ความอยากอาหารก็พุ่งขึ้นมา เขากระทั่งกลืนน้ำลายเอื๊อกจากความอยากอาหารเป็นครั้งแรกท่าทางนี้สำหรับเขาแล้วเหมือนตบฉาดเข้าที่หน้าเลย ถูกจาวฟู่จาวหนิงเห็นเข้าเสียแล้ว มือนางข้างหนึ่งถือแท่งปูอยู่ หัวเราจนตตัวโยนจากนั้นนางจึงยื่นมือมาแตะชีพ

Pinakabagong kabanata

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2016

    ฟู่จาวหนิงยื่นหัวออกมามอง จึงพบว่าจุดที่เจ้าอารามยืนอยู่นั้นแปลกประหลาดหน่อยๆตรงหน้าเขามีแท่นหินแท่นหนึ่ง ด้านบนไม่รู้สลักอะไรไว้ แล้วยังมีรางที่ดูซับซ้อนอยู่ ปลายรางมีลูกปัดหยกหลายขนาดหลายสีฝังอยู่ด้วยแท่นหินนั้นสูงประมาณเอวเขาด้านหน้าคือหน้าต่างหินธรรมชาตินั่นตอนนี้เป็นช่วงกลางวัน แสงด้านนอกสาดส่องเข้ามา ดังนั้นในถ้ำจึงไม่มืดนักแต่ว่าฟู่จาวหนิงยังพบว่าในถ้ำภูเขานี้ รอบๆ ยังมีเสาหินบางส่วนยื่นออกมา เสาหินทุกต้นฝังลูกปัดหยกขนาดกำปั้นเด็กเอาไว้เม็ดหนึ่งนางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที จึงก้าวออกไปข้างๆ สองก้าว เข้าหาเม็ดที่อยู่ใกล้ที่สุด ก้มหน้าลงไปดูแน่นอน รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้ ไม่ควรเข้าไปแตะสุ่มสี่สุ่มห้า นี่เป็นมารยาท ดังนั้นนางจึงเพียงแค่มอง ไม่ยื่นมือออกไปเพียงแต่พอมองดู ฟู่จาวหนิงก็ตกตะลึงนี่มันอะไรกันเนี่ย?ก่อนหน้านี้ฮูหยินเฉิงถึงกับต้องแจ้นไปเมืองหลวงไกลนับพันลี้เพื่อกำไลหยกดาราตงฉิงวงหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเซียวหลันยวนยังเคยบอกว่า หยกดาราตงฉิงตอนนี้หายากมาก ถึงอย่างไรตงฉิงก็หายสาบสูญไปแล้วแต่ตอนนี้ที่นางเห็นนี่มันอะไรกัน?ลูกปัดหยกขนาดเท่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2015

    พอคิดแบบนี้ ในใจนางก็มีความหวังพรั่งพรูออกมาพวกเขาเดินผ่านประตูหลัง ก็มองเห็นบันไดที่ทอดยาวลงด้านล่างด้านหลังยอดเขาโยวชิงผืนนี้ มองออกไปเป็นทิวเขาที่ทอดยาวผืนหนึ่ง แต่ก็ยังเตี้ยกว่ายอดเขาโยวชิงอยู่มาก"นี่จะไปคุยกันที่ไหนหรือ?"คุยกันในหออู๋จิ้งที่พักของเจ้าอารามยังสงบไม่พออีกหรือไรกัน?เอาจริงๆ ยอดเขาโยวชิงทั้งลูกก็เงียบสงบมากพอแล้ว"ไม่รู้สิ" เซียวหลันยวนสีหน้ายังคงสงบเขาเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าอารามจะพาพวกเขาไปคุยกันที่ไหนหลังจากลงไป ก็มีอุโมงค์หินที่มาราวหินเส้นหนึ่ง เหมือนเจาะออกมาจากหน้าผาอย่างไรอย่างนั้น เดินผ่านไปได้พร้อมกันแค่สองคนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหลังจากลงมาก็เหลือบมองลงไปด้านล่าง หน้าผาลึกทำเอานางสันหลังวาบเลยทีเดียวนางกลัวขึ้นมาหน่อยๆแต่ด้านหน้าก็ไม่เห็นหลังของเจ้าอารามโยวชิงแล้ว เซียวหลันยวนเองก็ยังคงจับมือฟู่จาวหนิงไว้แน่น ยิ่งทำให้นางดูโดดเดี่ยวน่าสงสารขึ้นไปอีกนางหันกลับไป ก็เห็นซางจื่อที่เดินตามหลังมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเดินมาพักหนึ่ง เลี้ยวหนึ่งโค้ง ก็มองเห็นเข้ากับถ้ำหินธรรมชาติ ด้านบนมีเถาวัลย์หนามอยู่มากมาย ห้อยลงมาบนศีรษะฟู่จาวหนิงมองเถาวัลย์เหล่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2014

    ฟู่จาวหนิงเกิดความรู้สึกเมื่อครู่ขึ้นอีกครั้งฮูหยินเฉิงดูจะเชื่อฟังง่ายไปหน่อยแล้ว อารมณ์นั่นสลายเร็วเกินไปไหม?เพราะคำพูดแผ่วเบาสองคำนั่นของเจ้าอารามหรือ?หรือจะบอวก่า เจ้าอารามมีบารมีแข็งแกร่งมาก แค่คำพูดที่เขาพูด คนอื่นก็เกิดความคิดโต้แย้งประท้วงอะไรไม่ได้ทั้งสิ้นเลยหรือ?กลายเป็นว่าเชื่อฟังคำของเขาไปทั้งหมด?"ข้าอยากจะคุยกับพวกเขาสักหน่อย เจ้าลงเขาไปก่อนเถอะ ออกมานานแล้ว ธุระที่อุทยานเขา เจ้เาองก็ต้องไปจัดการอยู่"เจ้าอารามยังคงพูดเสียงอ่อนโยนกับฮูหยินเฉิงฮูหยินเฉิงลุกขึ้นมา"ได้ เช่นนั้นข้าขอลงเขาก่อน ถ้ามีเรื่องอะไร เจ้าอารามก็ส่งคนมาหาข้าได้เลย"เจ้าอารามพยักหน้าให้เบาๆองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้ลนลานขึ้นมา เดิมทีนางก็ไม่ค่อยชอบเรื่องที่ฮูหยินเฉิงปีนเกลียวเอาแต่เรียกนางว่าอาฝูอยู่แล้ว แต่ฮูหยินเฉิงเองก็คิดจะช่วยนางเรื่องแต่งเข้าจวนอ๋องเจวี้ยนจริงๆพอมีฮูหยินเฉิงอยู่ บางทีอาจจะช่วยนางพูดได้บ้าง ให้เจ้าอารามโยวชิงช่วยเหลือนางหน่อยตอนนี้ฮูหยินเฉิงไปแล้ว แล้วถ้านางมีหลายคำพูดที่พูดออกมาลำบากล่ะ?ข้างกายนางเองก็ไม่มีใครที่ใช้ได้ด้วย รู้สึกโดดเดี่ยวเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2013

    "นี่เป็นชาที่อายวนปลูกเอาไว้ในอดีต มีชื่อว่ายอดชาหิมะ" เสียงของเจ้าอารามยังคงเหมือนสายลมแผ่วเบา ฟังแล้วเหมือนได้รับการปลอบประโลมฟู่จาวหนิงอดมองไปทางเขาไม่ได้นางมีความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาทั้งที่เจ้าอารามไม่ได้ปลอบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตรงๆ แท้ๆ แต่เขาที่พูดมาแค่คำสองคำ สีหน้าขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับสงบลงมาแล้ว นี่มันพลังมารอะไรกันเนี่ย?นี่ยิ่งทำให้ใจของฟู่จาวหนิงยิ่งระแวดระวังขึ้นไปอีกนางหันสายตาออกเล็กน้อย และสบเข้ากับถังอู๋เจวี้ยนพอดี เขากำลังมองนางอย่างเป็นห่วงหน่อยๆ พอเห็นว่าสีหน้านางไม่เปลี่ยน ถังอู๋เจวี้ยนก็ยิ้มขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเห็นถึงแววปลื้มใจจากในรอยยิ้มของเขาปลื้มใจ? เขาจะปลื้มใจทำไมกัน? ฟู่จาวหนิงไม่เข้าใจสุดๆ"ชานี้รสชาติดีจริงๆ" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหลังจากที่ดื่มชา ความน้อยเนื้อต่ำใจก็หายไปแล้ว ดูแล้วเหมือนเป็ดขนฟูถูกลูบให้เรียบลง กลับมาอ่อนโยนว่าง่ายอีกครั้งฟู่จาวหนิงมองการเปลี่ยนแปลงในช่วงสั้นๆ นี้ของนาง ในใจระแวดระวังขึ้นไปอีกนางมองไปทางเซียวหลันยวนอีกครั้งเซียวหลันยวนหรุบตาไม่มองนาง แต่กุมมือนางไว้ คลึงนิ้วของนางเบาๆ มองไม่ออกว่าจับความผิดปกติอะไรได้ห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2012

    "อายวน หน้าของเจ้าดีขึ้นแล้วนี่ แล้วทำไมยังต้องสวมหน้ากากอยู่ตลอดด้วย?"ฮูหยินเฉิงอันที่จริงก็ถูกหน้าตาของเซียวหลันยวนทำให้ตะลึงไปเช่นกันนางเองก็ไม่ได้เห็นหน้าตาเซียวหลันยวนมานานแล้วตอนยังเด็กกับตอนนี้ต้องต่างกันอยู่แล้วหลังจากโตขึ้นมา ใบหน้าเซียวหลันยวนก็มีแผลเป็นพิษอยู่ตลอด มีครั้งหนึ่ง นางเคยเห็นเขาตอนที่ไม่สวมหน้ากาก แต่ก็เห็นแผลเป็นข้างนั้นเข้าพอดีเพราะแผลเป็นพิษนั้นมันสะดุดแทงตามาก มองจนนางต้องสูดลมหายใจเลยทีเดียว ดังนั้นนางจึงจำหน้าตาจริงๆ ของเซียวหลันยวนไม่ได้แต่ก็พอรู้ว่ารูปหน้าดีจมูกโด่งเป็นสัน อวัยวะบนหน้าดูมีมิติพวกนั้นดูหล่อเหลาไปเสียหมดตอนนี้พอได้เห็นใบหน้าสมบูรณ์แบบของเซียวหลันยวนจริงๆ นางจึงรู้สึกตกตะลึงมากต้องรู้ด้วย ว่าฮูหยินเฉิงเองเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันชายงามอยู่ ถึงอย่างไรก็เคยเห็นเจ้าอารามโยวชิงมาแล้ว จะมีสักกี่คนที่หน้าตาดีไปกว่าเขา?ฮูหยินเฉิงยังรู้สึกเศร้าและเสียใจอยู่หน่อยๆ"เด็กอย่างเจ้านี่จริงๆ เลย ข้ายังคิดว่าหน้าของเจ้ายังไม่หายดี แผลเป็นพิษนั่นก็ลือกันไปในเมืองหลวงว่าเลวร้ายแสนสาหัส หลายวันนี้ข้าเองก็รู้สึกเสียใจแทนเจ้าไปไม่น้อย เจ้าหายดีแ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2011

    ฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากต่อตัวเจ้าอารามยอดเขาโยวชิงก่อนหน้านี้ นางยังรู้สึกมาตลอด ว่ารูปร่างเขาน่าจะเป็นคนชราผมสีเงินที่ดูมีท่วงท่าเหมือนเซียนนางยังคิดว่าตนเองควรจะให้ความเคารพกับเขาระดับหนึ่งด้วยแต่ว่า ใครก็ได้บอกนางทีว่านี่ คนคนนี้ คือเจ้าอารามยอดเขาโยวชิงหรือ?!ฟู่จาวหนิงตอนที่เห็นคนคนนั้นก็ตะลึงงันไปแล้วให้นางจินตนาการอย่างไรก็คงนึกไม่ออก ว่าเจ้าอารามยอดเขาโยวชิงจะเป็นแบบนี้!ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้น คิ้วยาวดั่งภาพวาด ดวงตาหงส์งอนขึ้นเล็กน้อย ดวงตามีประกายดาว สันจมูกโด่งตรง ริมฝีปากแดงระเรื่อ ดูเหมือนกลีบดอกไม้ที่รอเด็ดไปดอมดม...นางๆๆ! นางงงเป็นไก่ตาแตกไปแล้ว!อายุของเขา ดูแล้วน่าจะประมาณถังอู๋เจวี้ยนนี่เอง สามสิบต้นๆ ได้ และผิวของเขายังขาวเหมือนหิมะ ทำให้เสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนเหมือนฉาบไว้ด้วยแสงนวลนี่ไม่ใช่เทพเซียนจากตำหนักไหนลงมาจุติหรอกหรือ?ไหนล่ะคนแก่คนเฒ่า?ฟู่จาวหนิงตอนนี้จึงพบว่า เพราะอะไรในโถงถึงเงียบขนาดนี้ นั่นเพราะว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ตาพร่ามัว จมดิ่งอยู่กับความสับสนของตนเองเช่นกันเด็กคนนี้ ไม่รู้ว่าเข้ามาเห็นแล้วยังจะงงงันอีกนานแค่ไหนฮูหย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2010

    พรวด เรื่องนี่ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดมากซางจื่อตอนนี้ก็รับศิษย์แล้ว อายุยังไม่เท่าไรเลยนี่ ยิ่งไปกว่านั้นพอมองสามคนนี้แล้ว ถ้าอยู่ภายนอกถือว่าเป็นยอดฝีมือได้เลย"ถ้าเป็นแบบนี้ วิชายุทธ์ของซางจื่อก็ยอดมากเลยสิ?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา"อืม ดีมากเลยล่ะ"ชิงอีหันกลับมาเอ่ยคำหนึ่ง "แน่นอนว่ายังสู้ท่านอ๋องไม่ได้"ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้วนางไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่มองไปรอบๆ"ดูอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"ก่อนหน้านี้ถังอู๋เสวียนไม่ใช่เข้ามาแล้วหรอ? เขาไปไหนแล้วล่ะ?" ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดจะพูดว่า ถังอู๋เจวี้ยนเข้ามาแล้วพอได้ยินว่าเจ้าอารามปิดด่านจึงกลับไปแล้วหรือเปล่าความคิดต่อถังอู๋เจวี้ยนของนางตอนนี้ซับซ้อนมากแล้วยังอยากจะไปพิสูจน์ที่มาของเขาด้วย ว่าใช่เพื่อนออนไลน์ของนางหรือเปล่า ลุงที่เขาบอก จะมีตัวตนอยู่จริงไหม ยิ่งไปกว่นั้นตายไปในทะเลเพลงที่เมืองชายแดนจริงหรือเปล่าถ้าหากอาจารย์ที่นางกับผู้อาวุโสจี้อุปโลกขึ้นมา "ชน" กับลุงของถังอู๋เจวี้ยนเข้าจริงๆ เช่นนั้นนางก็พูดลำบากแล้วจริงๆแล้วอีกฝ่ายก็ดันถนัดวิชาแพทย์ขึ้นมาด้วยพอดีอีกแล้วญาติของเขาชิงถงนี่ ยังต้องยอมรับอยู่อีกไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2009

    ฟู่จาวหนิงมองออกไป เห็นชายหนุ่มร่างสูงสง่าคนหนึ่งนางรู้สึกว่า นี่น่าจะเป็นซางจื่อเพราะเขามีความสง่าราศีที่ยากจะบรรยาย บางทีอาจมีสาเหตุจากการเติบโตและอยู่เป็นเวลานานในสถานที่แห่งนี้"ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"เซียวหลันยวนพยักหน้า เขาสวมหน้ากากซางจื่อหันหน้ามองมาทางฟู่จาวหนิง คารวะให้เล็กน้อย"เชิญท่านอ๋องพาพระชายาไปด้วยกัน ฮูหยินเฉิงพาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปแล้ว""ได้"เซียวหลันยวนกวักมือมาทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงเดินออกมา"คนนี้คือซางจื่อหรือ?""ใช่แล้ว""ดูสง่าราศีดี" ฟู่จาวหนิงมองแผ่นหลังซางจื่อที่จากไป"อื๋อ?" เซียวหลันยวนบีบมือนาง "เจ้านี่จริงๆ เลย อย่าชมผู้ชายคนอื่นต่อหน้าข้านักได้ไหม""ก็แค่ชื่นชมเท่านั้นไม่ได้หรือ?""อืม ไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกลั้นขำ "ท่านเองก็พอเถอะ นี่ขนาดคนข้างกายเจ้าอารามก็ยังหึงเนี่ยนะ"แต่ว่า ฮูหยินเฉิงพาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปหาเจ้าอารามแล้ว ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกว่าต้องรีบไป ไม่เช่นนั้นให้เจ้าอารามรอนานคงจะเสียมารยาท"เสี่ยวเยว่ ไป๋หู่ นำของขวัญติดไปด้วย"เซียวหลันยวนเห็นไป๋หู่กับเสี่ยวเยว่อุ้มกล่องไว้คนละใบ "เจ้าเตรียมของขวัญไว้สองชิ้นเลยหรือ?"

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2008

    ผ่านไปครู่หนึ่งฟู่จาวหนิงเลิกม่านเตียงออก เดนหาผ้าเช็ดมือไปทั่วหลังจากเช็ดเสร็จนางก็จัดระเบียบเสื้อผ้าตัวเอง ยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ก็เห็นไป๋หู่"ไป๋หู่ ยกน้ำเข้ามาหน่อย"เซียวหลันยวนนอนอยู่บนเตียง ตอนนี้ลมหายใจยังคงไม่สงบเขาเมื่อครู่เหมือนพุ่งขึ้นสวรรค์ อยู่ในแดนเซียนที่สวยงาม คิดไม่ถึงว่ามือของฟู่จาวหนิง...พอได้ยินฟู่จาวหนิงเรียกไป๋หู่ให้เอาน้ำเข้ามา เขาก็หัวเราะร่าขึ้น เพราะตอนที่ฟู่จาวหนิงพูดน้ำเสียงยังดูสงบมาก ฟังไม่ออกเลยว่านางเพิ่งทำเรื่องอะไรไปบางที เพราะเป็นหมอนางจึงดูสงบสติอารมณ์ได้มากหรือเปล่า?ไป๋หูนำน้ำเข้ามา วางไว้แล้วก็ออกไปฟู่จาวหนิงรีบล้างมือพอเห็นว่าบนเตียงยังไม่ขยับ นางก็เหลือบมองไป "ท่านยังไม่ลุกหรือ?""มันเกินจะบรรยาย ชวนฝันไม่รู้ลืม"เซียวหลันยวนตอบนางมาแบบนี้หลังม่านฟู่จาวหนิงเมื่อครู่เดิมทียังดีอยู่ ไม่ได้อายอะไร แต่พอได้ยินเขาถอนหายใจพูดความรู้สึกนี้มา นางกลับหน้าร้อนผ่าวขึ้นทันที"น่าเกลียด"เอาเปรียบเขาแล้วยังจะทำสำออยคิดไม่ถึงว่าจะทำให้เขานอนจนลุกไม่ขึ้นอยู่นานเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงต่ำขึ้นมา ตอนนี้เขาอารมณ์ดีแล้ว ความหึงหวงที่พ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status