มาถึงด้านนอกโรงหมอ ก็มีองครักษ์รีบตรงออกมาต้อนรับ เพราะคนที่มานั้นพลังท่วงท่าน่าตกตะลึง ตอนที่เข้ามาก็ทำให้องครักษ์จวนอ๋องรู้สึกได้ถึงแรงกดดันหลังจากออกมาพอเห็นคนลงจากหลังมาราวกับสายลม องครักษ์ก็ดวงตาเป็นประกาย ลิงโลดกันขึ้นมา"ท่านอ๋อง!"ท่านอ๋องมาหรือ? ท่านอ๋องมาแล้ว!องครักษ์แทบจะคิดว่าตนเองฝันไป"พระชายาอยู่ที่ไหน?" ตอนที่เซียวหลันยวนเข้ามาเจอกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยว ไม่คิดจะให้เขาได้คารวะเลย แต่ถามถึงสถานที่ที่ฟู่จาวหนิงอยู่ทันที แล้วพุ่งผ่านไปราวกับสายลม"อยู่ที่ห้องข้างฝั่งตะวันตก..."สเียงขององครักษ์ยังไม่ทันพูดจบ ร่างของเซียวหลันยวนก็หายไปจากตรงหน้าเขาแล้ว"ดีเหลือเกิน ท่านอ๋องมาแล้ว"องครักษ์รีบเข้าไปจูงม้าตอนนี้ ฟู่จาวหนิงที่กำลังฟังคำพูดพวกนั้นของเฉินเซียง นางก็รู้สึกว่ามันเหลวไหลไร้สาระมาก"หุบปาก!"ฟู่จิ้นเชินรีบเดินเข้ามา เมื่อครู่เขาจัดการจัดแจงที่พักให้กับคนป่วยอีกหลายคน ได้ยินคำพูดของเฉินเซียงแล้วก็โมโหจนอยากจะเตะสาวใช้คนนี้ออกไปทันที"จาวหนิง เจ้าไปดูใต้เท้าอันซะ"ฟู่จิ้นเชินโบกมือให้ฟู่จาวหนิงคนที่อยู่นอกเรือนก็ล้วนได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของเฉินเซียงห
บนตัวข้าอาจจะมีเชื้อโรคอยู่เซียวหลันยวนพอได้ยินฟู่จาวหนิงพูดประโยคนี้ ก็ไม่รู้เพราะอะไรใจถึงอ่อนยวบลงมาแต่เขาก็รู้สึกอยากจะหัวเราะ"เด็กโง่"เห็นนางแต่งตัวประหลาดแบบนี้ สุดท้ายเขาก็ฟังนาง ไม่ได้ดึงนางเข้ามาก่อนตามที่ใจปรารถนา"เสียงทำไมถึงได้แหบแบบนั้น?" เขาถามขึ้น"ดื่มน้ำน้อยไปหน่อย" ฟู่จาวหนิงตอบกลับอย่างว่าง่าย"หลังจากนี้ก็ดื่มเยอะๆ หน่อย""ได้เลย""อะแฮ่ม" อันเหนียนกระแอมออกมาสองที "ทั้งสองคน พวกเจ้ายืนอยู่ตรงหน้าข้า"ใต้เท้าผู้ตรวจการตัวเบ้อเร่ออย่างเขา มองไม่เห็นหรือไรกัน?คนบาดเจ็บตัวเบ้อเร่ออย่าเขา นี่จงใจมองข้ามกันเรอะ?เซียวหลันยวนจึงก้มหน้าเหลือบมองเขา"ใต้เท้าอันดูซมซานน่าดู ถูกใครเขาอัดมารึ?" เขาถามขึ้นอันเหนียนยิ้มขืน "กระดูกแขนน่าจะหักไปแล้ว ขาเองก็พลิกด้วย บวมอีกต่างหาก แล้วยังถูกกรีดตั้งแผลเบ้อเร่อ มันก็ดูซมซานจริงๆ นั่นล่ะ""โอ้ เมื่อครู่ข้าเห็นพระชายาจะมารักษาเจ้า แต่ใต้เท้าอันดันห้ามไว้?"พอคำนี้ออกมา ใจของคนอื่นๆ ก็พุ่งขึ้นมาถึงคอหอยแล้วใต้เท้าอันเมื่อครู่ยื่นมือไปประคองฟู่จาวหนิง ไม่ให้นางนั่งลงตรวจอาการฉากนี้ ถูกอ๋องเจวี้ยนเห็นเข้าแล้วหรื
เขามองฟู่จาวหนิงเขม็ง ครู่หนึ่ง จึงถอยออกมาสองก้าว"หนิงหนิงจะดูอาการให้ใต้เท้าอันก่อนสินะ?"ฟู่จาวหนิงเห็นแผลของอันเหนียนแล้วบาดเจ็บที่ข้อมือกับขา ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต ดังนั้นนางจึงเบาใจขึ้นมา"ข้าขอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อกับถุงมือก่อน"นางหมุนตัวเข้าไปในเรือนอีกครั้ง แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็หันกลับมา "ท่านเข้าไปไม่ได้นะ"พอพันกลับ ก็เห็นว่าเซียวหลันยวนกำลังจะเข้ามา สืออีก็เหมือนจะบื้อกันไปหมด ไม่มีใครมาขวางเขาเลย"เข้าไปไม่ได้?"เซียวหลันยวนคิดถึงสถานการณ์ที่พวกเขาเขียนไว้ในจดหมาย จึงยืนนิ่งไป"ข้าไม่เข้าไป"เขายืนอยู่ที่นี่ เฉินเซียงที่อยู่ด้านในก็มองเห็นเขาแล้วฟู่จิ้นเชินเมื่อครู่ใช้น้ำเสียงเด็ดขาดกล่าวโทษนาง นางไม่เคยเห็นชายหนุ่มที่ดุด่าอย่างไม่ไว้หน้าเช่นนี้ พอเงยหน้าขึ้นอย่างเคืองๆ ก็เห็นเข้ากับอ๋องเจวี้ยนที่ยืนอยู่ข้างประตูวงกลม จึงไม่สนใจฟู่จิ้นเชินแล้ว"อ๋องเจวี้ยน!"อ๋องเจวี้ยนมาแล้วหรือ?เฉินเซียงตาเป็นประกาย ในใจก็ลิงโลด วิ่งเข้าไปด้านในทันที"องค์หญิงใหญ่ อ๋องเจวี้ยนมาแล้ว! เขามาที่เมืองเจ้อแล้ว!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ฟุบไออยู่ข้างเตียงพอได้ยินว่าอ๋องเจวี้ยนมาแล้ว
"ชุดด้านนอกนั่น...ต้องใส่เอาไว้จริงหรือ?"เซียวหลันยวนไม่รู้มันเรียกว่าอะไรแต่ก็ปิดบังร่างนางเอาไว้จนหมดเซียวหลันยวนอันที่จริงก็ไม่ได้เจอนางมาเกือบเดือนแล้ว ฟู่จาวหนิงผอมลงไปแค่ไหน ถึงทำให้น้ำเสียงในจดหมายของสืออีร้อนรนเสียขนาดนั้นเขามองดวงตาฟู่จาวหนิงดวงตาโตขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้านั้นต้องซูบผอมลงไประดับหนึ่งแน่"ในนี้มีแต่คนที่ป่วยโรคระบาด" ฟู่จาวหนิงตอนนี้อันที่จริงก็อยากเข้าไปกอดเขา ก่อนหน้านี้นางรู้สึกมาตอลดว่าตนเองเป็นคนที่แข็งแกร่งเด็ดเดี่ยว ไม่ค่อยมีเวลาที่อ่อนแอมากนัก ต่อให้มีก็ยังรักษาตัวเองได้แต่ตอนนี้นางปรารถนาอ้อมกอดเขามากแต่นางก็ทำไม่ได้แม้จะชะล้างไป เปลี่ยนชุดอะไรก็แล้ว แต่นางก็ยังเข้าใกล้เขาในตอนนี้เซียวหลันยวนยื่นสองมือมาทางนาง"ข้ากอดหน่อย"ถ้ากอดสักหน่อย เขาก็จะรู้ว่านางผอมไปแค่ไหนแล้ว"ไม่ดีหรอก? ตอนนี้บนตัวข้าสกปรกมาก" ในดวงตาฟู่จาวหนิงมีรอยยิ้ม"ข้ามาจากเมืองหลวง ควบม้ามาสามวันยังไม่ได้อาบน้ำเลย สกปรกเหมือนกัน" เซียวหลันยวนตอบพอได้ยินว่าเขาควบม้ามาสามวัน ใจฟู่จาวหนิงก็สั่นวาบ การที่เขามาที่นี่เพื่อนาง ต้องไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อยู่แล้วเพร
ฟู่จาวหนิงเดินมาข้างๆ อันเหนียน อันเหนียนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ "ไม่อย่างนั้น ให้ลุงฟู่มาดูข้าดีไหม?"เขามองความคิดเล็กคิดน้อยของอ๋องเจวี้ยนไม่ออกเสียที่ไหน?แต่ที่นี่ก็มีแค่ฟู่จาวหนิงคนเดียวที่เป็นหมอจริงๆ"อย่าขยับ"ฟู่จาวหนิงไม่มองเขา แค่จับแขนเขาไว้ บิดกระดูกข้อมือเขาแล้วถามไปด้วย"ไปบิดมาท่าไหน? แค่บอกท่าทางมาหน่อย แล้วก็บอกเรื่องแผลบนขาด้วย"อันเหนียนดูจนใจมาก เขาจึงต้องเล่าออกมารอบหนึ่งเซียวหลันยวนที่อยู่ข้างๆ ก็ได้ยินพอดี"ดังนั้น พวกเขาก็เลยจราจลขึ้นมา" ฟู่จาวหนิงเอ่ยคำนี้ จากนั้นจึงจับมือของอันเหนียน ดันๆ บิดๆ และได้ยิงเสียงดังแกร๊กขึ้นมาอันเหนียนปวดจนแทบจะร้องออกมาแต่พริบตาต่อมา เขากลับรู้สึกว่าความเจ็บปวดก่อนหน้านี้ที่ข้อมือเขาลดลงไปมากแล้วเขาทดลองจะหมุนๆ ดูด้วยสัญชาตญาณ"อย่าขยับ"ฟู่จาวหนิงห้ามทันที "กระดูกของท่านผิดรูปไปหน่อย หลังจากดันเข้าที่แล้วต้องดามไว้ให้นิ่งๆ สักสองสามวัน ตอนนี้ถ้าขยับมั่วซั่วเดี๋ยวจะผิดรูปไปอีก หลังจากนี้ถ้ารักษาไม่ดี ข้อมือของท่านก็จะเจ็บเป็นระยะๆ ขึ้นมา"ถ้าหากหมอทั่วไปจัดการพันให้นิ่งส่งเดช ก็จะรักษาได้ไม่ดีจนเปลี่ยนรูป ภายหลัง
"วางใจได้ ทักษะเย็บปิดของข้าดีมาก หลังจากเย็บแล้ว รอยแผลเป็นจะจางมาก จะมีแค่รอยด้ายเส้นหนึ่งเท่านั้น" ฟู่จาวหนิงคิดว่าเขากลัวมาก จึงอธิบายขึ้นมาคำหนึ่งอันเหนียนกลับตกตะลึงสั่นสะเทือน"บาดแผลของข้า จะไม่เหลือรอยแผลเป็นน่าเกลียดหรือ?"เดิมทีเขาทำใจไว้แล้ว ว่าน่องนี้ภายหลังจะมีแผลเป็นน่าเกลียดใหญ่ๆ แผลหนึ่งแน่นอน น่าจะขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อเลยทีเดียว แต่ฟู่จาวหนิงกลับบอกว่าจะเหลือรอยจางๆ เส้นเดียวเท่านั้น?"ถ้าไม่เย็บปิดล่ะก็ จะเป็นแบบนั้นนั่นล่ะ แผลเป็นหนักหนามาก แต่ถ้าเย็บก็จะไม่เป็น" ฟู่จาวหนิงตอบ"นี่เจ้าจะเย็บหรือไม่เย็บกันแน่?" เซียวหลันยวนเริ่มหมดความอดทนเขาไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงมารักษาขาเขาด้วยซ้ำ แต่อันเหนียนกลับยังกล้าลังเลอีก ถ้ายังลังเลอีกนิดเดียว เข้าจะพาฟู่จาวหนิงไปแล้ว ปล่อยให้เขามีแผลเป็นซะเซียวหลันยวนเหลือบตามองผาดหนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยว่า "หนิงหนิง พันแผลให้เขาไปเลยแล้วกัน ชายชาตรีทั้งแท่ง มีแผลเป็นที่ขา ปกติก็มองไม่เห็นด้วย จะไปคิดมากทำไม?"ก่อนหน้านี้บนหน้าเขายังมีแผลเป็นพิษด้วยซ้ำอันเหนียนยังจะลังเลอีกที่ไหน?เขากำลังตกตะลึง จึงตั้งสติกลับมาไม่ได้ตอนนี้พอได
"เสร็จแล้ว ห้าวันอย่าให้โดนน้ำล่ะ อีกสองสามวันข้าจะมาเลาะด้ายออกให้""แค่นี้คือเสร็จแล้วหรือ?" อันเหนียนถามขึ้นอย่างงงงัน"ทำไม รู้สึกว่ายังเย็บไม่สะใจพอหรือ?" เซียวหลันยวนต่อคำเขามาให้ "ข้าเฉือนให้เจ้าอีกสักแผลดีไหม?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะพรวดขึ้นมา "อย่าเอะอะ"อันเหนียนแหงนตาขึ้นมองเซียวหลันยวน "จริงด้วย อ๋องเจวี้ยน ท่านรู้ใช่ไหม องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น...""อ๋องเจวี้ยน"เสียงอันเหนียนยังไม่ทันขา ดในประตูวงกลมก็มีเสียงอ่อนหวานดังขึ้น ใช้น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจน่าสาร เรียกเซียวหลันยวนขึ้นมาเซียวหลันยวนมองไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมาก!ยิ่งไปกว่านั้นหน้ายังเหลือง ตาบวมแดง ถูกเฉินเซียงประคองขึ้นก็ยังยืนไม่นิ่ง อ่อนไหวเหมือนต้นหลิ่วต้องลม"นางทำไมเปลี่ยนไปแบบนี้?" เซียวหลันยวนไม่เข้าใจเขารู้อยู่แล้วว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอยู่ที่นี่ จดหมายของพวกเขามีเขียนไว้แล้วอันเหนียนเลิกคิ้วขึ้น "แล้วนางเดิมทีเป็นอย่างไรกัน? โอ้ ข้าน้อยลืมไป ปีที่แล้วอ๋องเจวี้ยนไปต้าชื่อมานี่นะ ได้ยินว่าตอนนั้นช่วยชีวิตองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ด้วยนี่ ใช่ไหม?"ใต้เท้าผู้ตรวจการที่ซ่อนนัย อยากจะเอาคืนที่อ๋องเจวี
"ไม่ต้องพูดแล้ว ข้ากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเป็นแค่คนแปลกหน้า เห็นคนแปลกหน้าแล้วมีอะไรน่าดีใจกัน?"แค่คนแปลกหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นได้ยินคำนี้ของอ๋องเจวี้ยนแล้วหน้าซีดไปนางมองอ๋องเจวี้ยนอย่างไม่อยากเชื่อ พวกเขาจะอย่างไรก็ไม่เหมือนคนแปลกหน้ากันนี่นา?"อ๋องเจวี้ยนมีบุญคุณช่วยชีวิตข้าไว้ ตอนนั้นที่ต้าชื่อ เดิมทีข้าเองก็ชื่นชมท่านอ๋อง มีบุญคุณช่วยชีวิตก็ต้อง..." ทดแทนบุญคุณด้วยร่างกายสิองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพูดยังไม่ทันจบ เซียวหลันยวนก็ตัดบทนางอย่างเย็นชา"บางครั้ง ข้าเองก็มีคุณธรรมช่วยเหลือเมื่อเห็นความไม่ถูกต้อง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็ฯใคร ก็จะนิ่งดูดายไม่ช่วยเหลือไม่ได้ แต่ว่า ข้าไม่ได้หวังให้องค์หญิงใหญ่มาตอบแทนอะไร"ประโยคของเขาแทบจะพูดอย่างชัดเจนว่า:ถ้าจะทดแทนคุณด้วยร่างกาย นั่นจะกลายเป็นทดแทนบุญคุณด้วยความแค้นนะองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นร่างโงนเงนอ๋องเจวี้ยนพูดกับนางเช่นนี้ไม่มีการเกรงใจเลยแม้แต่น้อยเฉินเซียงเองในใจก็ดำดิ่ง ท่าทีของอ๋องเจวี้ยนต่อองค์หญิงใหญ่ แตกต่างจากที่พวกนางคิดไว้อย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้นี่นานางกัดฟัน ประคององค์หญิงใหญ่ มองเซียวหลันย
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ
เรียนได้เท่าไรก็เรียนเท่านั้น"ข้าไม่กลัวเหนื่อยหรอก เอาจริงๆ สมัยก่อนข้าเองก็มาจากครอบครัวที่ยากจนด้วย หลายปีมานี้ครอบครัวดีขึ้นมาก แต่ทุกวันข้าก็ยังปลูกผักอยู่ในเรือน แล้วยังฝึกมวยทุกวัน สุขภาพก็ดีมาก""มองออกเลยว่าสุขภาพของหมอหลินดีมาก นี่จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่หมอฟู่พาท่านมาในวันแรก แล้วก็ให้ท่านมาคอยเฝ้าที่นี่นั่นล่ะ"อาเหอรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้แม้ฟู่จาวหนิงจะไม่พูดออกมา แต่ในความเป็นจริงพอคนมาถึงนางก็สังเกตไปแล้ว การที่นางพาหมอหลินมา จะต้องเป็นการคัดเลือกของนางแน่นอน"จริงหรือ? ถ้าพูดเช่นนี้ พระชายาก็ถือว่ามีสายตาเฉียบคมอยู่นะ ฮ่าๆ" หมอหลินแสดงสีหน้าภาคภูมิใจฟู่จาวหนิงกลับไปพร้อมเซียวหลันยวนมีคนถือตะเกียงนำหน้าให้เมืองเจ้อยามนี้ เงียนงันไปหมด ฟ้าดำมืดมีดวงดาวไม่มากบนถนนมีแค่เสียงเท้าของพวกเขา เบามากพอคิด ก็รู้สึกเหมือนเป็นคืนฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีอะไรพิเศษแต่ในใจพวกเขาเข้าใจดี สำหรับเมืองเจ้อแล้ว นี่เหมือนถูกกดทับด้วยลมพายุไว้"อาเหอคนนี้ ดูแล้วไม่เลวเลย" เซียวหลันยวนตัดบทความคิดของฟู่จาวหนิง"อืม เป็นผู้ประสบภัย แต่เป็นคนฉลาด เรียนรู้เร็ว แล้วก็ซื่อสัตย์ด้วย" ความฉ
หมอหลินพอได้ยินคำพูดของอาเหอ ก็รู้สึกว่าตนเองเหมือนจะใจร้ายน่าดู ทำไมเขาถึงไม่คิดจุดนี้กันนะ?แล้วคิดจะจะให้พระชายาอ๋องเจวี้ยนที่เป็นหญิงสาวมาอยู่ดูแลที่นี่อีก ขนาดอ๋องเจวี้ยนตามมาแล้วแท้ๆ หรือคิดจะให้อ๋องเจวี้ยนต้องอยู่ดูแลคนป่วยที่นี่ด้วยกัน?ไอ๊หยา ต้องโทษพระชายาที่รับผิดชอบและตั้งใจมากเกินไป พอถูกนางทำให้ยุ่งขนาดนี้ เขาก็เลยลืมตัวตนฐานะของพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปเสียแล้ว"ใช่ๆๆ ข้าคิดไม่รอบคอบเอง อาเหอพูดถูกต้อง พระชายาท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด ข้าดูแลที่นี่ให้"ฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมาทีหนึ่ง"หมอหลิน ยังมีอีกที่หนึ่งที่ต้องไป ท่านลืมแล้วหรือ?"พวกเขาลืมไปแล้วหรือเปล่า ว่ายังมีบ้านประชาชนอีกแห่งหนึ่งที่รับผู้ป่วยเข้ามาหลายคนอ๊ะ นางตอนนี้จึงยิ้มออกมาได้ ถือเป็นความสุขที่ได้จากความทุกข์หมอหลินตอนนี้จึงนึกออก เขาตบหน้าผาก "ใช่ๆๆ แล้วทางนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?""นี่ถึงได้เชิญหมอหลินให้มาดูแลที่นี่ ส่วนอาเหอจะไปดูทางนั้นให้ มีเรื่องอะไรพวกท่านก็ให้ข้าราชการด้านนอกมาหาข้าก็พอ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร พรุ่งนี้จะมีคนมาแทนพวกท่าน""เอาตามที่พระชายาว่าเลย"พวกเขาไปในบ้านประชาชนอีกหลังหนึ่ง คน
"มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เสียที่ไหน?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถลึงตาโต"องครักษ์พวกนั้นเจอกับหัวขโมย พอเห็นว่าเขาผิดปกติจึงเข้าไปจับกุม นี่ถือว่าเป็นการทำความดีกับประชาชนเมืองเจ้อมิใช่หรือ? จะว่าไป ทุกคนก็รู้ว่าโชคอขงองค์หญิงใหญ่นั้นดีมาก ดังนั้นจึงทำให้ท่านเจอกับเรื่องนี้มันมีอะไรแปลกตรงไหนกัน?""แต่ว่า แต่ว่า" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย "เป็นแบบนี้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลกระมัง?""มีอะไรไม่สมเหตุสมผลกัน ยืนกรานเสียอย่าง พวกเขาจะไม่สงสัยหรก องค์หญิงใหญ่ท่านเป็นคนที่สูงส่งนะ แล้วจะไปทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร?""ไม่ค่อยดีนะแบบนี้?""ไอ๊หยา องค์หญิงใหญ่ท่านฟังข้าเถอะ ไม่เช่นนั้น ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนไปแล้วจริงๆ พวกเรายังต้องอยู่ในเมืองเจ้ออีกนานแค่ไหน""พวกเราตอนนี้ได้ของแล้ว ไปเมืองหลวงกันเองก้ได้""องค์หญิงใหญ่ พวกเราป่วยโรคนี้อยู่นะ หมอเทวดาฟู่ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับใต้เท้าอันไม่มีทางยอมให้พวกเราไปหรอก ยิ่งไม่ยอมให้เราไปที่เมืองหลวงด้วย เว้นเสียแต่อ๋องเจวี้ยนจะพาพวกเราไป พวกเขาไม่กล้าขวางอ๋องเจวี้ยน"เฉินเซียงตอนนี้มองออกถ้าหากครั้งนี้ไม่ไปด้วยกันกับอ๋องเจวี้ยน ถ้าพวกนางยังต้อง
"องค์หญิงใหญ่ ในกล่องใบนี้มันคืออะไรกันแน่?"เฉินเซียงเองก็อยากรู้อยากเห็นมาก จุดเทียนสว่าง แล้วยกเชิงเทียนเดินเข้ามาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกเครียดอยู่ตอลด ตอนนี้พอนั่งลงมา ก็รีบเทน้ำลงดื่ม เพียงแต่น้ำเย็นไปแล้ว พอดื่มไปนางก็สะดุ้งโหยง"ข้าจะจุดเตาให้ องค์หญิงใหญ่อย่าเพิ่งดื่มน้ำเย็นเลย"เฉินเซียงถึงแม้จะอยากรู้ว่าในกล่องนั้นมีอะไร แต่ก็ยังเป็นสาวใช้วังที่ทุ่มเทอยู่ พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นต้องมาดื่มน้ำเย็นจึงรู้สึกปวดใจตอนที่นางไปวุ่นอยู่นั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็นั่งมองกล่องใบนั้นอยู่ตรงนั้นกล่องไม้ใบหนึ่ง ดูแล้วก็ไม่ได้มหัศจรรย์อะไร แล้วนางก็มองไม่ออกว่าต้องเปิดจากตรงไหนด้วยจนตอนที่เฉินเซียงเทน้ำร้อนเข้ามา องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เล่นกับกล่องนั้นอยู่พักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าจะเปิดมันอย่างไร"ทำไมถึงเปิดไม่ออก""เปิดไม่ออกหรือ? เพราะด้านในมันขัดกันอยู่หรือเปล่า?"เฉินเซียงเองก็หยิบกล่องนั่นเข้ามาสำรวจ รู้สึกประหลาดใจมาก ไม่มีจุดที่เปิดได้เลยจริงๆ"นี่มันอะไรกัน? หรือจะเป็นไม้ท่อนนึง สลักออกมาเป็นกล่องแบบนี้หรือ? "เฉินเซียงมึนงง"ไม่หรอก ด้านในมีของใส่ไว้" องค์หญ
"ข้าไม่ใช่หมอ แต่ข้าก็สกุลฟู่จริงๆ เจ้าติดตามหมอหลวงคนไหนมาหรือ?" ฟู่จิ้นเชินถามเขาไม่เห็นความเป็นศัตรูจากชายหนุ่มคนนี้เลย ดวงตาชายหนุ่มคนนี้ก็ค่อนข้างจะใสซื่อด้วยแต่ไม่รู้เพราะอะไร ฟู่จิ้นเชินพอเห็นเขาแล้วกลับรู้สึกมีความระแวดระวังขึ้นมาไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่เพิ่งมาถึง ที่พอเห็นผู้ช่วยหมอก็รู้สึกว่ามาเป็นแรงงานได้เลย ในใจรู้สึกลิงโลดขึ้นมาแบบนั้นวันนี้ทุกครั้งที่เขาเห็นคนใหม่เข้ามา ก็จะรู้สึกขึ้นมาได้ด้วยสัญชาตญาณ ว่ามีคนที่มาช่วยแบ่งเบาภาระให้จาวหนิงได้อีกคนแล้ว จาวหนิงจะได้เบาแรงลงหน่อยแต่ตอนนี้พอเห็นชายหนุ่มที่เรียกว่าอาอี้คนนี้ ฟู่จิ้นเชินกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น"ข้าตามหมอหลวงหูมาน่ะ แต่ว่าระหว่างทางที่มาเขาไม่รู้ ข้าแอบขึ้นรถม้าเขาเขาก็ไม่รู้ ดังนั้นตอนนี้จึงมาหาว่าหมอหลวงหูอยู่ที่ไหน"หยวนอี้รู้ว่าหมอหลวงเผียวไม่ยอมเล่นด้วยกับเขา ดังนั้นจึงพูดถึงหมอหลวงหูอีกคนหนึ่งแทนหมอหลวงหูใจกว้าง กล่อมง่าย ยิ่งไปกว่านั้นเขากล่อมไปแค่ไม่กี่คำก็ทำให้หมอหลวงหูยอมรับเป็น 'หลานชาย' ได้แล้ว"ดังนั้นเจ้าจึงชื่อว่าหูอี้สินะ?" ฟู่จิ้นเชินถามเอ่อ...หยวนอี้ สะดุดไปหน่อยๆทำไมถึงต้องเอาแ
นั่นเป็นห่อผ้าห่อหนึ่งหลังจากหยิบออกมาแล้วแกะผ้าหนาๆ ออก กล่องไม้ใบหนึ่งก็ปรากฏออกมาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็น ดวงตาก็เป็นประกาย"สิ่งนี้เลย!""ดีจริงๆ หาพบแล้ว!" เฉินเซียงเองก็ดีใจ"ไป รีบกลับออกไปก่อน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกอดกล่องไม้ไว้ในอก อยากจะรีบออกไปในใจนางลนลาน ถ้าหากถูกคนพบเข้า นางคงจะรู้สึกอายที่ต้องพบคน เป็นถึงองค์หญิงใหญ่จากต้าชื่อ แต่กลับวิ่งเข้ามาขโมยของในบ้านประชาชน!"องค์หญิงใหญ่ ไปก่อนเลย พวกเราจะจัดการเก็บกวาดที่นี่ก่อน" องครักษ์รู้สึกว่าจะให้คนพบไม่ได้ จึงขออยู่ที่นี่ก่อน จะจัดการร่องรอยที่พวกเขามาค้นของให้เป็นเหมือนเดิมก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำสิ่งของตรงไปยังโรงหมอทางนั้น กลัวว่าจะถูกใครพบเห็น ระหว่างทางก็คลุมผ้าเอาไว้มิดชิด ก้มหน้ารีบเดินเข้าห้องไปเสี่ยวเยว่พูดกับไป๋หู่ในความมืดมิด "นางหนีออกไปมืดค่ำแบบนี้ ไม่เป็นไรจริงหรือ?""ท่านอ๋องก่อนจะออกไปบอกไว้แล้วว่าไม่ต้องสนใจนาง แค่อย่าให้นางไปเจอคนอื่นแล้วทำให้คนอื่นติดโรคไปก็พอ"ไป๋หู่สีหน้าไร้อารมณ์ "นางยังคิดว่าใครก็ไม่เห็นพวกนางหรือไรกัน"ทำไมไม่คิดดูหน่อย ว่าห้องข้างฝั่งตะวันตกนั้นมีแต่คนที่ป่วยทั้งน
"แล้วเขาไปหาตาเฒ่าอู๋ทำไมกัน?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถาม "หมอเทวดาฟู่อยู่ที่นั่นหรือ?"เฉินเซียงเอ่ยขึ้น "องค์หญิงใหญ่ พวกเราตอนที่เพิ่งออกมาเมื่อครู่ เหมือนได้ยินพวกเขาพูดว่า หมอเทวดาฟู่จะพาคนไปรักษาคนป่วยใหม่ที่บ้านของประชาชนอะไรสักอย่าง""เช่นนั้นก็น่าจะเป็นบ้านของตาเฒ่าอู๋ทางนั้น!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมา "แล้วทำอย่างไรดี? ลุงหวังทำไมถึงไปเจอกับนางเล่า? ถ้าเผื่อ เขาเอาเจ้าสิ่งนั้นให้หมอเทวดาฟู่ไปจะทำอย่างไร?""ไม่หรอกกระมัง? เขาเองก็ไม่รู้จักหมอเทวดาฟู่นี่นา""แต่ของสิ่งนั้นเดิมทีเขาก็จะมอบให้อ๋องเจวี้ยนอยู่แล้ว ถ้าเขารู้ว่าหมอเทวดาฟู่เป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน นั่นมันจะไม่..."ไปบรรจบเจอกันแล้วหรือ?พอได้ยินองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพูดเช่นนี้ เฉินเซียงก็ลนลานไปด้วยเช่นกันนี่ก็มีเหตุผลอยู่!แล้วจะทำอย่างไรเล่า?"องค์หญิงใหญ่ จะให้หมอเทวดาฟู่ได้ของไปไม่ได้!"ถ้าหากของถูกฟู่จาวหนิงส่งไปให้อ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนก็จะรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงต่างหากที่เหมาะกับเขา? ถึงอย่างไรเดิมทีอ๋องเจวี้ยนก็ชอบหมอเทวดาฟู่อยู่แล้ว ถึงตอนนั้นจะยิ่งรู้สึกว่านางดีมากขึ้นไปอีก สามารถจำโชคลาภมาให้เขาได้เช่
ชายแก่คนนี้แม้จะสลบไปแล้ว แต่มือของเขากลับยังคงกำฟู่จาวหนิงไว้แน่น ราวกับกลัวว่านางจะหนีไปอย่างไรอย่างนั้นฟู่จาวหนิงลองดึงมือออกมา แต่ชายแก่ก็กำไว้แน่นมาก ถ้าหากฝืนออกแรงดึง นางกลัวว่าถุงมือตนเองจะถูกดึงออกมาหลักๆ คือนางรู้สึกประหลาดใจหน่อยๆนางไม่รู้เลย ว่าตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพาเฉินเซียงกับองครักษ์ หาบ้านชายชราในฝันเจอแล้วอย่างยากลำบาก"องค์หญิงใหญ่ หาพบแล้วจริงๆ!"เฉินเซียงตื่นเต้นมากพวกเขาหาบ้านหลังนี้เจอจริงๆ ตามเบาะแสในฝันขององค์หญิงใหญ่ บ้านหลังนี้เหมือนกับในฝันขององค์หญิงใหญ่ไม่ผิดเพี้ยน อธิบายว่าฝันครั้งนี้ก็ยังเป็นเรื่องจริงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตื่นเต้นมากเพราะนี่แสดงว่านางจะได้เจอกับชายชราคนนั้นแล้ว สามารถนำกล่องใบนั้นจากเขาได้ เช่นนี้นางก็สามารถเอาของไปพบอ๋องเจวี้ยนได้แล้วยังไม่พูดถึงเรื่องอื่น อย่างน้อยก็ให้อ๋องเจวี้ยนพานางกลับเมืองหลวง เรื่องที่จะให้นางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยนก็น่าจะคุยกันได้กระมังนางเองก็รู้ ถ้าหากจะรีบให้อ๋องเจวี้ยนแต่งงานกับนาง แล้วปกป้องนางแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้แล้วถ้าจะต่อต้านกับฝ่าบาทต้าชื่อ นางเองก็ต้องมีอะไรมากกว่านี้แต่สามารถ