ผิงเหอกงเองก็รีบตะโกนขึ้นมา "เตรียมม้า! เร็ว!"เพียงครู่เดียว ม้าเร็วก็พุ่งทะยาน พุ่งตรงไปยังบ้านตระกูลหลิวเสนาบดีสรรพากรผิงเหอกงชี้ทาง แต่เขาก็ตามความเร็วฟู่จาวหนิงไม่ทัน ทำได้แค่ตามติดอยู่ด้านหลังก่อนออกมาเขาให้คุณหนูรองเหอเรียกคนไปอีกบ้านหนึ่ง แจ้งไปยังบ้านของรองผู้บัญชาการหลินนายท่านหลิวเสนาบดีสรรพากรถือเป็นขุนนางใหม่ที่เพิ่งเลื่อนขั้นขึ้นมาปีนี้ ก่อนหน้าเขา เสนาบดีสรรพากรคนก่อนถูกเขาปลดออกไปเดิมทีตระกูลหลิวกำลังรุ่งเรืองอยู่ คิดไม่ถึงว่าคุณชายน้อยหลิวจะมาเกิดเรื่องขึ้น ตอนนี้ทั้งจวนหลิวล้วนปกคลุมด้วยความโศกเศร้าเหล่าคนใช้เริ่มตระเตรียมโคมไฟผ้าขาวกันเงียบๆ ภายใต้การจัดวางของผู้ดูแลแล้วฮูหยินอาวุโสหลิวไม่ชอบความอึกทึก ช่วงเทศกาลอวยพรสารทฤดูนี้จึงเลี่ยงออกจากเมืองหลวง ไปพักผ่อนที่บ้านสวนภายนอกนางรักเอ็นดูหลานคนนี้มากที่สุด ดังนั้นตอนนี้บ้านตระกูลหลิวจึงคิดจะรอฮูหยินอาวุโสหลิวรีบกลับมาจากด้านนอก เพื่อมาดูหน้าหลานเป็นครั้งสุดท้ายคุณชายน้อยหลิวเกาไหลตอนนี้นอนอยู่บนเตียง หน้าขาวซีดเหมือนกระดาษอันที่จริง คนทั้งหมดล้วนคิดมองว่าเขาตายไปแล้ว แม้ว่าหมอจะส่ายหัวถอนหายใจ บอกว
"เจ้ามาหาเรื่องที่นี่ใช่ไหม!"คนเฝ้าประตูของจวนหลิวพอได้ยินคำพูดฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีทันทีรู้ทั้งรู้ว่าคุณชายบ้านพวกเขาแทบจะไม่มีลมหายใจอยู่แล้ว นี่ยังมาบอกว่าตนเองเป็นหมออีกขนาดหมอยังถอนใจส่ายหัวให้พวกเราเตรียมพิธีหลังจากนี้ และเดินออกไปแล้ว"คุณชาย..."ตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังลอดมารางๆ จากด้านในนายท่านหลิวคนนี้เพิ่งจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมา ยังไม่ทันได้ย้ายบ้านใหม่ บ้านตระกุลหลิวค่อนข้างเล็ก พอลมพัดมาจากทางนั้น จึงนำการเคลื่อนไหวรางๆ ส่งมาด้วยฟู่จาวหนิงหน้าเปลี่ยนสี ไม่หยุดเท้า บุกเข้าไปด้านในทันที"นี่!"คนเฝ้าประตูคิดจะห้าม แต่สืออีกับสือซานก็ดึงเขาเอาไว้"ผิงเหอกงจะมาถึงเดี๋ยวนี้แล้ว!"พูดจบพวกเขาเองก็รีบสาวเท้าตามฟู่จาวหนิงเข้าไปพระชายาของพวกเขาจะช่วยคน พวกเขาต้องคอยคุ้มกันแน่นอน ช่วยเปิดทางให้พวกคนใช้ที่จะเข้ามาขวางฟู่จาวหนิง ล้วนถูกสืออีสือซานผลักออกไป ฟู่จาวหนิงพุ่งตามเสียงเข้าไปผิงเหอกงตอนนี้เพิ่งควบม้ามาถึง หายใจหอบหนัก เขาไล่ตามมาจนแทบหายใจหายคอไม่ทันคิดไม่ถึงว่าทักษะขี่ม้าของหมอเทวดาฟู่จะร้ายกาจขนาดนี้!"อย่า อย่าขวางนาง! หมอ หมอเ
นายท่านหลิวมองผิงเหอกงที่เหงื่อแตกเต็มหัว รู้สึกว่าสมองตนเองใช้การไม่ไหวแล้ว"นางคือหมอเทวดาฟู่ ลูกชายท่านยังมีลมหายใจอยู่ไหม? ให้หมอเทวดาฟู่ลองรักษาดู บางทีอาจจะช่วยเขากลับมาได้!"ผิงเหอกงในที่สุดก็พูดเป็นประโยคได้ ตอนนี้จึงเพิ่งได้พักหายใจหายคอ"ท่านมาแทงมีดกรีดลงที่ใจข้าอีกครั้งใช่ไหม!"นายท่านหลิวปิดหน้าร้องไห้ "เกาหลินลูกข้าตัวเย็นไปแล้ว จะมีลมหายใจอีกได้อย่างไร..."ผิงเหอกงตกตะลึง มองฟู่จาวหนิงทันทีและชั่วพริบตานี้ ฟู่จาวหนิงก็จัดการเลิกเสื้อคุณชายน้อยหลิวออกและฝังเข็มไปนับสิบเข็มแล้วเรียบร้อยการเคลื่อนไหวนี้มัน...รวดเร็วเหลือเกิน!ฟู่จาวหนิงไม่เงยหน้า ท่าทางการลงเข็มก็ไม่หยุดแต่เสียงนั้นมั่นคงมาก"ยังไม่ตาย ข้ากำลังช่วยอย่างสุดกำลัง""ยัง ยังไม่ตาย?"นายท่านหลิวได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจน รีบร้อนปีนตัวขึ้นมา ใช้แขนเสื้อออกแรงเช็ดตา จ้องเขม็งที่ฟู่จาวหนิง"ยังไม่ตาย พวกเข้าถอยออกไปก่อน ที่นี้ห้ามเหลือคนแม้แต่คนเดียว ข้อต้องใช้วิชาลับเฉพาะเพื่อช่วยชีวิต"ฟู่จาวหนิงยังคงไม่เงยหน้าขึ้น หลังจากแทงเข็มลงไปแล้วนางต้องใช้การทุบหน้าอกเพื่อช่วยชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องฉี
ฟู่จาวหนิงไม่สนว่านายท่านหลิวตอนนี้จะคิดอะไรก่อนที่นางจะมาให้เสี่ยวชิ่นกลับไปส่งคำพูดแล้วเรื่องของเด็กพวกนี้ เป็นไปได้มากว่าเกี่ยวข้องกับลัทธิเทพทำลายล้าง ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง เช่นนั้นการเคลื่อนไหวของลัทธิเทพทำลายล้างครั้งนี้จึงไม่เล็กเลย เป็นไปได้มากว่าเด็กเหล่านี้ไปเห็นอะไรเข้าดังนั้น จะต้องแจ้งให้เสิ่นเสวียนรู้ ให้พวกเขาเตรียมตัวป้องกันเซียวหลันยวนเองก็ต้องรู้ด้วยเสิ่นเสวียนกับเซียวหลันยวนพอได้ยินคำพูดของเสี่ยวชิ่น ก็สบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนออกคำสั่งไปทันที ให้เตรียมการป้องกัน และรีบไปตรวจสอบให้ชัดเจนลัทธิเทพทำลายล้างมีความแค้นกับพวกเขาพวกเขาคิดจะร่วมแรงกันขุดรากถอนโคน"ท่านอ๋อง ท่านจะไปไหนหรือ? พระชายาให้ท่านพักผ่อนดีดี" ชิงอีพอเห็นเซียวหลันยวนเปลี่ยนเสื้อผ้า และยังสวมหน้ากากเข้าไปอีก ใจจึงสั่นกึกขึ้นมา"ข้าไม่ได้ไปจัดการเอง แต่ตอนนี้จำเป็นต้องอยู่ข้างกายจาวหนิง"เซียวหลันยวนเป็นห่วงฟู่จาวหนิงในเมื่อเด็กพวกนั้นเป็นไปได้ว่าถูกคนของลัทธิเทพทำลายล้างสังหาร เช่นนั้นคนของลัทธิเทพทำลายล้างก็อาจจะจับจ้องครอบครัวเหล่านี้อยุ่ คอยสังเกตเด็กพวกนี้ว่าตายไปแล้วหรือยังฟู่จ
องค์จักรพรรดิเห็นท่าทีของนาง ความคิดในใจก็เลือนหายไปฝูอวิ้นอยากแต่งงาน อยากเป็นแม่คนเขาเองก็ไม่รู้ว่านางทำไมจึงมีทิฐิขนาดนี้ คอยอยู่แต่ในวังไปทั้งชีวิตมันไม่ดีหรอกหรือ?ถ้าเผ่านางแต่งงานกับคนอื่นไป ไปมีทายาทให้กับผู้อื่น แล้วโชคลาภถูกทำให้เบาบางลงล่ะ ถ้าถูกแบ่งออกไปจะทำอย่างไรกัน?แต่ว่าเขาเองก็ไม่สามารถคันค้านอย่างขึงขังได้ เขาไม่มีทางทำลายความรู้สึกระหว่างพี่น้องของพวกเขาแน่ จะให้ฝูอวิ้นเกิดความไม่ลงรอยกับเขาแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้น ถ้านางไม่ยอมอวยพรให้อย่างเต็มร้อยแล้วจะทำอย่างไรกัน?ดังนั้น เรื่องการขัดขวางการแต่งงานของนาง ยังต้องวางแผนให้ละเอียดอีก"ในคลังส่วนตัวของข้า มีผ้าไหมงามจันทร์พิสุทธิ์ที่สะสมไว้อยู่สองสามม้วน อีกเดี๋ยวให้คนไปนำออกมาแล้วตัดชุดกระโปรงให้เจ้าก็แล้วกัน ผ้าไหมงามจันทร์พิสุทธิ์ทั้งแผ่นดินเหลืออยู่แค่ไม่กี่ม้วนนี้แล้วเท่านั้น เป็นผ้าไหมที่ล้ำค่ามาก สูงสง่ามาก ข้าจะให้เจ้ากลายเป็นแม่นางที่งดงามที่สุดในฟ้าดินนี้ ใครก็เทียบเจ้าไม่ได้"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดวงตาเปล่งประกายเล็กน้อย ดูท่าทางชอบใจมาก"ขอบคุณองค์จักรพรรดิ""ขอบคุณอะไรกัน ฝูอวิ้น เจ้าต
"ช่วยกลับมาได้แล้ว จัดคนเฝ้าเขาไว้ก็พอ อย่าเพิ่งขยับตัวเขา มีเรื่องอะไรตะโกนเรียกข้า"ฟู่จาวหนิงพูดประโยคนี้เสร็จก็ปิดประตูทันที"หมอเทวดาฟู่ ท่านต้องช่วยต๋าเอ๋อร์ของพวกเราให้ได้นะ!"พวกของฮูหยินหลินใหญ่ทั้งสองคนล้วนคุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้น เหล่าสาวใช้ประคองขึ้นมาไม่ได้พวกนางตอนนี้ร่างกายอ่อนไปหมด"ลูกชายข้าช่วยกลับมาได้แล้วจริงหรือ? อ๊า!"นายท่านหลิวไม่สนใจพวกเขาอีก หลังจากได้ยินประโยคนี้ของฟู่จาวหนิงก็ร้องอ๊าพุ่งไปยังห้องของลูกชายทันทีคนรับใช้เองก็ร้องไห้วิ่งตามไปพวกเขาตรงไปข้างเตียง แค่เหลือบมองก็เห็นสีหน้าของหลิวเกาไหลแล้ว"นายท่าน สีหน้าของคุณชายมีสีเลือดแล้ว?" คนรับใช้ถามเสียงสั่นนายท่านหลิวไม่ตอบ ยื่นนิ้วอันสั่นเทาออกไปวัดลมหายใจของลูกชายก่อนหน้านี้วัดลมหายใจของหลิวเกาไหลไม่ได้เลย แม้เขาจะไม่อาจยอมรับความจริงนี้ แต่ตอนที่ผู้ดูแลเขามาถามว่าต้องเตรียมจัดงานศพเลยไหม เขาก็ทำได้แค่พยักหน้าทั้งน้ำตาทั้งจวนหลิวล้วนเตรียมจะจัดงานศพให้กับหลิวเกาไหลแล้วแต่ว่าตอนนี้...ลมหายใจอุ่นร้อน รดลงมาบนนิ้วของนายท่านหลิวนิ้วของนายท่านหลิวสั่นอย่างรุนแรง แต่ก็ยังไม่กล้าจะเชื่อ
"ลูกข้า ลูกชายข้าเขารอดกลับมาแล้ว!" นายท่านหลิวพุ่งออกมาจากในห้อง แทบจะโถมเข้าไปบนตัวผิงเหอกงผิงเหอกงรีบประคองตัวเขา"นายท่านหลิวอย่าเพิ่งตื่นเต้น"อายุตั้งขนาดนี้แล้ว เมื่อครู่คิดจะกระโดดเข้ามาบนตัวเขาอีก ทำเอากระดูกกระเดี้ยวเขากรีดร้องเลยทีเดียว"นายท่านหลิว เกาไหลของบ้านท่านรอดชีวิตแล้วจริงหรือ?" แม่สามีลูกสะใภ้ตระกูลหลินจ้องเขาตาแป๋ว"จริงสิ จริงสิ! ก่อนหน้านนี้ข้าจะให้ผู้ดูแลเอาโคมขาวไปแขวนแล้วด้วยซ้ำ เพราะลูกของข้าเหมือนไม่มีลมหายใจไปแล้ว"นายท่านหลิวปาดน้ำตาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นความตื่นเต้นแทน "ทว่าตอนนี้เขามีลมหายใจขึ้นแล้วจริงๆ มีชีวิตกลับมาแล้วจริงๆ ถึงแม้จะยังไม่ตื่น แต่ว่าข้าเมื่อครู่เพิ่งเห็นหน้าอกเขาพองยุบขึ้นมาแล้ว เขารอดแล้ว!""อามิตตาพุท พระเจ้าคุ้มครองแล้วจริงๆ"ฮูหยินหลินใหญ่กราบไหว้ไปบนฟ้า น้ำตาร่วงผล็อย มองไปทางประตูห้องข้างที่ปิดสนิทนายท่านหลิวเองก็มองไป"หมอเทวดาฟู่จะต้องช่วยหลินต๋ากลับมาได้แน่!"ลูกชายของพวกเขาตอนสามสี่ขวบมักจะมาเล่นอยู่ด้วยกัน ดังนั้นนายท่านเหล่านี้จึงค่อนข้างสนิทกันตอนนี้นายท่านหลิวเองก็หวังว่าหลินต๋าจะรอดกลับมาฟู่จาวหนิงไม
นี่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ตอนที่พิษคงค้างยังไม่ถูกกำจัด ถ้าเขามารอข้างนอกครึ่งชั่วยามในอากาศเช่นนี้คงกลายเป็นเหมือนก้อนน้ำแข็งไปแล้ว ต่อให้กระตุ้นกำลังภายในก็แทบไม่มีประโยชน์แต่ก่อนเขาล้วนระวังสิ่งเหล่านี้ คอยเฝ้ารออยู่ด้านนอกไม่ได้นานนักทว่าตอนนี้เขากระทั่งไม่รู้สึกหนาวด้วยซ้ำ เพราะกำลังภายในที่ลึกล้ำแสดงบทบาทออกมาได้เต็มที่เซียวหลันยวนในที่สุดก็รู้สึกถึงประโยชน์ตอนที่มือของตนเองยังอบอุ่นได้ในช่วงเวลาที่หนาวเย็นเสียที"นายท่าน ข้าทำไมถึงไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวอะไรเลย? พระชายารักษาคุณชายตระกูลหลินอย่างไรกันแน่?"ชิงอีเองก็อดทนมาหนึ่งชั่วยามแล้วก่อนหน้านี้ตอนที่เขาไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวยังคิดว่าฟู่จาวหนิงอาจจะกำลังฝังเข็มมือของนางเบามาก ตอนที่ตั้งสมาธิกลิ่นอายอาจจะเบาบาง ด้วยกำลังภายในของเขาจะไม่ได้ยินก็ไม่แปลกแต่นี่ก็ผ่านไปนานแล้ว ในห้องกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดเลย นี่มันแปลกมากแต่ว่า ชิงอีเองก็แค่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นว่าฟู่จาวหนิงช่วยชีวิตคนอย่างไรกัน"เจ้าอยากจะเรียนวิชาแพทย์หรือ?"เซียวหลันยวนเหลือบมองเขา"อ๋า ไม่ใช่ขอรับ" เขามีพรสวรรค์นั้นที่ไหน"ในเมื่อไม่คิดจะเรียนว
เขาอยากไปด้วยกันกับลูกสาว เช่นนี้จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน และยังได้มองอยู่ข้างๆ ถึงสภาพการทำงานของนางด้วย อยู่กับคนเป็นอย่างไร จะได้เข้าใจนางมากขึ้น รู้จักนางมากขึ้นเขาพลาดที่จะมองดูลูกสาวเติบโตไปหลายปี ตอนนี้อยากจะคว้าโอกาสนี้ไว้บางที ความสัมพันธ์หลังจากนี้อาจจะดีขึ้นมาอีกก็ได้นิสัยของฟู่จิ้นเชินคือมุ่งมั่นไปที่เป้าหมาย ไม่รีบไม่ร้อน แต่จะไม่ยอมแพ้ และจะคอยคว้าโอกาสทั้งหมดไว้ ก้าวไปยังจุดหมายทีละก้าวๆเหมือนกับตอนที่เขาพาภรรยา รู้ว่าห้ามตายเด็ดขาด จะถูกจับกลับไปไม่ได้ บนพื้นฐษนนี้ ใช้เวลาไปหลายปี แต่เขาก็ไม่ได้ล้มเลิกการตามหาความจริงเรื่องการวางยาในอดีตถ้าหากไม่ใช่มาเจอกับฟู่จาวหนิง อันที่จริงเขาก็ยังทนต่อไปได้ บางทีอาจจะถึงวันที่เขาพบกับความจริงวันนั้นฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวนสำหรับตอนนี้ที่นางหันมามองตนเอง ต้องการความเห็นจากเขา ในใจเซียวหลันยวนจึงพอใจมากขึ้นมาเขากุมมือนางไว้ บอกกับนางว่า "ให้เขาไปด้วยก็ดี"เขามองออกแล้ว ฟู่จิ้นเชินนี้ไม่ธรรมดาเลย ฉลาดและตื่นตัว ใจเย็นเฉียบแหลมมีฟู่จิ้นเชินตามไปด้วย ในใจเซียวหลันยวนก็ค่อนข้างจะวางใจถ้าหากไม่ใช่ว่าตัวตนฐานะเขาไปไหนมา
"สถานที่อย่างเมืองเจ้อค่อนข้างจะพิเศษ พื้นที่ใหญ่โต ประชาชนน้อย และการเดินทางก็สะดวกสบาย" ฟู่จิ้นเชินตอบ "ถ้าหากจะยัดผู้ประสบภัยเข้าไป อันที่จริงก็สามารถทำได้อยู่ ข้าเคยไปเมืองเจ้อในเมืองมีพื้นที่ว่างค่อนข้างกว้างขวางอยู่หลายแห่ง บางครั้งยังมีพวกพ่อค้าพเนจรจากที่ต่างๆ ไปทำตลาดนัดกันที่นั่นด้วย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนมองเขาอย่างเกินคาด"เมืองเจ้อท่านก็เคยไปมาหรือ?"ฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวสบตากัน สองสามีภรรยายิ้มอย่างจำใจ"ถ้าจะให้พูด พวกเราไปมาหลายสถานที่เลย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนเองก็เข้าใจขึ้นมา สิบกว่าปีนี้พวกเขาล้วนต้องคอยหลบการไล่ล่าสังหารอยู่ภายนอก แล้วยังมีการไล่จับของจวนทางการอีก แต่ละสถานที่จึงไม่สามารถอยู่ได้นานนัก ดังนั้นพวกเขาจึงหนีไปแทบจะทุกที่"แต่ว่าทางนั้นนาจะขาดแคลนเรื่องวัตถุ ถึงอย่างไรต่อให้มีที่ว่างที่จะจัดวางผู้ประสบภัยเข้าไป นั่นก็ต้องสร้างกระโจมจัดแจงที่พัก ไม่เช่นนั้นวันที่อากาศหนาวเช่นนี้ ก็ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ประสบภัยต้องนอนด้านนอกทนหนาวทนหิวได้"ฟู่จิ้นเชินบอกกับฟู่จาวหนิงว่า "พรุ่งนี้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย"นี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอ่ยถึงม
ดังนั้น จาวหนิงจะต้องไม่ยอมถูกชายหนุ่มคนอื่นดึงดูดแน่ เพราะไม่มีใครเทียบกับเขาได้แล้วระหว่างทาง อ๋องเจวี้ยนอารมณ์ดีมาก กระทั่งยังสามารถคุยกับฟู่จิ้นเชินเรื่องโป๋จีอย่างทัดเทียมกันด้วยรอจนมาถึงจวนอ๋อง พวกเขาก็หารือตัดสินใจออกมาได้แล้ว พรุ่งนี้จะส่งโป๋จียัดเข้าไปในขบวนของอันเหนียน พาเขาออกจากเมืองก่อน หลอกเขา ให้เขาคิดว่ารับปากว่าจะช่วยเขาออกไป รอให้ได้จดหมาย คนของเซียวหลันยวนก็จะคุมตัวเขากลับเมืองหลวง"พรุ่งนี้ข้าจะไปค้นตัวเขาเอง" เซียวหลันยวนบอกกับฟู่จาวหนิงคนอื่นล้วนค้นไม่เจอ เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะหาไม่พบ"แล้วนายพันเก๋อล่ะ?""ให้เขาเข้าวังไม่ได้พบกับจักรพรรดิไม่ได้ชั่วคราวก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมีแผนการ"ท่านคิดจะทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว เก๋อมู่กวงมีวรยุทธ์ ฟู่จิ้นเชินยังขังเขาไว้ในวังได้หรือ?"ข้ารู้ว่ามีคนหนึ่งที่พัวพันกับเก๋อมู่กวงอยู่ อ๋องเจวี้ยนส่งคนนั้นไปที่ห้องของเก๋อมู่กวงก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมองไปทางเซียวหลันยวน"เส้นสายของท่านนี่ทั้งเยอะทั้งซับซ้อนจริงๆ""ถึงอย่างไรข้าก็เป็นแค่ประชาชนธรรมดา มีเส้นสายแค่นี้ไม่คู่ควรให้เอ่ยถึงหรอก""ประชาชนธรรมดาไม่มีทางพาคน
ฟู่จิ้นเชินเองก็นับถือเซียวหลันยวน"คิดไม่ถึงเลยว่าอ๋องเจวี้ยนจะรู้มากขนาดนี้"ฟู่จาวหนิงก็ตกใจ "ท่านพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้หรือ?"สำหรับความนับถือของฟู่จิ้นเชิน เซียวหลันยวนไม่สนใจ แต่น้ำเสียงตกใจของฟู่จาวหนิง ทำให้เขารู้สึกภูมิใจขึ้นมาหน่อยๆนางนั่งตัวตรงขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ใช้น้ำเสียงที่ราบเรียบพูดว่า "อืม ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่"พรวดฟู่จาวเฟยอยากจะขำขึ้นมาทำไมคำพูดพี่เขยถึงดูแปลกๆ?ตอนอยู่ว่างๆ ในบ้านกับท่านปู่กับน้าเซี่ยอันห่าวพกวเขาก็เคยพูดภาษาเฮ่อเหลียนออกมา เพราะพวกเขาอยากรู้อยากเห็นหน่อยๆแต่หลังจากที่ได้ยินเขาพูดไปไม่กี่คำก็ยังบอกว่าเรียนยาก สักคำเดียวก็เรียนกันออกมาไม่ได้ความสามารถการเรียนรู้ของพ่อเขาดีมาก แต่ก็ยอมรับว่านี่เรียนยากจริงๆพี่เขยกลับบอกว่าไม่ยาก แต่ว่า ที่โป๋จีพูดรวดเดียวอย่างรวดเร็วขนาดนั้น แล้วพี่เขยยังฟังออกได้ ก็อธิบายได้ว่าเขาเป็นมันทุกอย่างจริงๆ"เรียนมาตอนอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงหรือ?" ฟู่จาวหนิงใช้สายตานับถือมองเขา กระพริบตาปริบๆอ๋องเจวี้ยนพอใจขึ้นมาทันที แล้วยังรู้สึกจิตใจหวานชื่นด้วย"ใช่แล้ว""เจ้าอารามสอนมาหรือ?" ฟู่จาวหนิงประหลาดใจ "หรือว่าเ
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง