Share

5

ติ๊ดๆ

เจคอปที่กำลังมองตามบั้นท้ายงอนงาม กลอกตาอย่างเซ็งๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าของมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น พอก้มลงมองที่หน้าจอก็เห็นว่าเป็นสายของคนสนิทจึงรีบกดรับ [ว่าไง?]

[บอสครับ! คุณอลันเหวี่ยงใหญ่เลยครับ] คนที่เพิ่งจะประชุมเสร็จ       ก็รีบเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวแล้วต่อสายหาผู้เป็นนายอย่างร้อนใจ

[แกยังไม่ชินอีกเหรอ?] เจคอปถามราวกับเป็นเรื่องปกติ

[แหม...ผมอยากให้บอสมาอยู่ด้วยจัง จะได้รู้ว่าวันนี้คุณอลันน่ากลัวขนาดไหน] คนที่ต้องรับหน้าแทนครั้งแล้วครั้งเล่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ

[เอาน่าๆ เดี๋ยวสิ้นปีฉันจะเพิ่มโบนัสให้พิเศษ] เจคอปรีบบอก

[แหมะ! ผมกลัวจะโดนคุณอลันฆ่าตายก่อนจะได้ใช้เงินโบนัสของบอสครับ] มาร์คเอ่ยประชดอย่างอดไม่ได้

[ฮ่าๆๆ พี่ฉันก็ขึงขังไปงั้นแหละ เห็นโหดๆ แบบนั้นนะ จริงๆ แล้วกลัวเมียจะตาย กลับบ้านไปนี่เสียงอ่อนเสียงหวานเลย] คนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแสร้งเบี่ยงประเด็น เพราะกลัวว่าคนสนิทจะเกิดป๊อดขึ้นมา

[ก็นั่นมันเมียนี่ครับ] มาร์คกลอกตาอย่างเพลียๆ กับคำปลอบของ      ผู้เป็นนาย ที่ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะทำหลายๆ อย่างให้ยุ่งยากมากความไปทำไม กับอีแค่ชอบสาวคนหนึ่ง ทำไมไม่จัดการลากเข้าห้องทำเมียซะให้เสร็จๆ ไป เพราะตลอดสามปีที่ผ่านมา ก็แอบบินหนีงานไปไทยไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

 ทิ้งให้ตนต้องคอยรับหน้าแทน เดี๋ยวเข้าประชุมกับออร์แลนโด้ เดี๋ยวเข้าประชุมกับแพททริกสัน แถมวันดีคืนดีนายใหญ่อย่างเลโอนาด์ทก็มาเยี่ยมเยือนบริษัทโดยไม่บอกไม่กล่าว ทำให้เขาที่ต้องมานั่งคอยตอบคำถามต่างๆ แทน จนแทบอยากจะกลั้นใจตาย

[เออๆ แค่นี้ก่อนนะ] เจคอปตัดสายคนสนิททิ้งอย่างไม่ไยดี เมื่อเห็นสาวเจ้าเดินมาที่โต๊ะ

“เบียร์ค่ะ” มารีอาวางแก้วเบียร์ที่โต๊ะให้อีกฝ่าย แล้วถอยออกไปยืนอยู่ข้างๆ

“ขอบคุณครับ” เจคอปคลี่ยิ้มก่อนจะชวนคุย “เรียนใกล้จบหรือยังครับ”

“ค่ะ” มารีอาตอบอย่างมึนๆ

“แล้วคิดเอาไว้หรือเปล่าครับ ว่าจะไปสมัครงานที่ไหน?” เจคอปถามต่อยิ้มๆ

“คิดว่าจะลองไปสมัครงานที่โรงแรมข้างๆ นี้ดูค่ะ” มารีอาอย่างรู้สึกประหม่านิดๆ

“โรงแรมมะลิฉัตร?”

“ใช่ค่ะ”

“ทำไมถึงอยากทำที่นั่นครับ”

“ก็หลายๆ อย่างค่ะ สวัสดิการ ที่พัก เงินเดือน ค่อนข้างจะเพอร์เฟกต์เลยทีเดียว” เธอตอบตามตรง

“จะไปสมัครในตำแหน่งไหนครับ”

“พนักงานต้อนรับค่ะ”

“แล้วแฟนของคุณเขาจะไม่ว่าเหรอ?” เจคอปถามเข้าเรื่องทันใด

“คะ...ใครคะ” มารีอาขมวดคิ้วถามอย่างมึนงง

“ก็...” เจคอปลากเสียงค้างไว้แล้วหันไปมองที่ห้องครัว

“อ๋อ! นั่นพี่ชายของเพื่อนหนูค่ะ ไม่ใช่แฟน” มารีอาบอกพลางหัวเราะเบาๆ อย่างรู้สึกขำ ที่คนตรงหน้าแกล้งถามนั่นนี่ สุดท้ายก็วนมาที่เรื่องส่วนตัว

“จริงเหรอครับ?” เจคอปอมยิ้มก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นมาจิบ

“ค่ะ” มารีอาพยักหน้ายืนยันในคำตอบ

“คุณจะเข้าไปสมัครงานวันไหนครับ” เจคอปกลับมาถามเรื่องงานต่อ

“น่าจะต้นเดือนหน้าค่ะ”

“อีกตั้งสามอาทิตย์”

“ใช่ค่ะ” เธอพยักหน้ารับเบาๆ

“ผมขอให้ผ่านนะครับ” ลูกชายเจ้าของโรงแรมใหญ่เอ่ยอวยพร 

“ขอบคุณค่ะ จะรับอะไรเพิ่มก็เรียกได้นะคะ ดิฉันขอตัวไปดูอาหารก่อน” มารีอายิ้มอย่างรู้สึกผ่อนคลายนิดๆ หลังได้พูดคุยกับผู้ชายที่เธอแอบคิดว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องในข่าว

“ครับ” เจคอปขานรับและมองตามร่างบางที่เดินจากไปได้เพียงครู่ ก็มีเสียงข้อความ LINE ดังขึ้น จึงหยิบมือถือมากดเลื่อนดู

Mark : บอสครับ เห็นประกาศตามล่าตัวโลกิหรือยังครับ

Jacop : ใครวะ โลกิ ?

Mark : แหม...ไม่รู้ตัวจริงๆ เหรอครับบอส

Jacop : ไม่รู้! แล้วใครเป็นคนเขียนประกาศนี้

Mark : คุณแพททริกครับ ส่งเข้าไปในกลุ่มของฟีนิกซ์ และไคเลอร์ ร่วมถึงไลน์ของมือขวาทุกกลุ่ม หากใครพาตัวบอสไปเซ่นสังเวยได้ รับเงินรางวัลไป 10 ล้านบาทครับ

Jacop : บ้าจริง! นี่กะจะเอากันให้ตายเลยหรือไง

Mark : ผมว่าช่วงนี้บอสควรจะหายหน้าไปสักพักนะครับ รอให้    คุณแพททริกสันกับคุณอลันใจเย็นลงก่อน แล้วค่อยมาง้อ

Jacop : แกจะให้ฉันหลบไปไหนฮะ!

Mark :  อันนี้ก็ต้องแล้วแต่บอสล่ะครับ ว่าจะหลบไปซบอกใครได้บ้าง ตอนนี้คุณอลันประกบตามนายใหญ่กับมาดามแจเลย

Jacop : โอ้ย...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ ก็แค่แหย่เล่นนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง

Mark : ผมว่าไม่น่าจะนิดนะครับ เพราะวันนี้คุณแพททริกกับ     คุณอลันขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์

Jacop : ขึ้นหน้าหนึ่งเรื่องอะไร?

Mark : รอแป๊บครับ เดี๋ยวผมส่งให้ดู เผื่อบอสจะได้ใช้พิจารณาประกอบการหนี ว่าสมควรจะหลบไปไกลแค่ไหน

วินาทีต่อมา...รูปของออร์แลนโด้และแพททริกสันที่ใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงบ๊อกเซอร์ยืนอยู่ข้างชายหาดด้วยสีหน้าบึ้งตึงก็ปรากฏขึ้น พร้อมกับพาดหัวข้อข่าว...

‘ตื่น...เต็มๆ ตาไปทั้งชายหาด เมื่อสองหนุ่มโรคาซานเดอร์เสด็จมาเยือนชายหาดทะเลไบรตันในลุคสุดชิลล์’

เจคอปเลื่อนดูรูปก่อนจะหัวเราะจนหน้าแดงก่ำ เมื่อเห็นอาวุธสังหารประจำตัวของพี่ชายทั้งสองนูนเด่นเป็นลำ เอ๊ย! เป็นรูปเป็นร่าง

Jacop : เวรกรรม! 😂😂🤣🤣

Mark : 😤 ขำเสร็จแล้วก็คิดหาวิธีรับมือเอาไว้ด้วยนะครับ ช่วงนี้ผมยุ่งมาก ต้องเข้าประชุมงานทุกวัน

Jacop : 👌🏻👍🏻❤❤❤

เจคอปส่งอิโมจิให้คนสนิทก่อนจะกดปิดมือถือ แล้วยกเบียร์ขึ้นมาจิบด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อน เพราะตอนนี้ไม่มีสิ่งไหนทำให้เขาสนใจได้เท่ากับสาวตรงหน้าอีกแล้ว

“ขอStella อีกแก้วครับ” เขายกมือเรียกนางฟ้าคนสวย

“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” มารีอาตอบก่อนจะหันไปบอกพนักงานในบาร์เครื่องดื่ม

“ครับ” เจคอปยิ้มตอบก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดต่อสายหาพ่อเลี้ยงธนากร เพื่อยื่นข้อเสนอบางอย่าง

[ว่าไงโลกิ] ปลายสายเอ่ยแซวทันทีที่กดรับ

[โธ่! พ่อเลี้ยงครับ ผมไม่ใช่โลกิสักหน่อย] เจคอปกลอกตาอย่างเซ็งๆ ที่ถูกเปรียบกับเทพจอมซุกซนที่ชอบสร้างความวุ่นวาย

[มีอะไรก็ว่ามา กำลังยุ่งๆ อยู่]

[คือผมมีเรื่องจะขอรบกวนสักหน่อยครับ ตอนนี้ผมที่อยู่ร้านอาหารเอื้องลานนา สาขาที่กรุงเทพ]

[นายเห็นปะกาศของแพททริกแล้วใช่ไหม] ธนากรถามตัดบทเข้าเรื่องสำคัญ

[เห็นแล้วครับ ผมถึงโทรมาขอความเมตตาจากพ่อเลี้ยงเพื่อเห็นแก่...คลิปนั้น] คนเจ้าเล่ห์รีบรำลึกความหลัง

[ถ้าฉันช่วย! คลิปนั่นจะต้องถูกลบไปอย่างถาวร] คนที่มีมลทินจากการเมาไม่ได้สติเมื่อแปดปีก่อนรีบต่อรอง ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่มีใครรู้เรื่องที่เมาแล้วนอนหน้าห้องพัก แต่ตอนงานแต่งของเพชรดนัยกับฟ้ารดา เขาดันไปเจอตัวป่วนยืนเปิดดูคลิปในมือถือ ซึ่งมันทำให้รู้ความจริงว่าในคืนนั้น เขานอนอยู่ที่หน้าห้องพักแค่คนเดียว โดยที่เพชรดนัยและอีวานเพิ่งจะออกจากห้องมาก่อนหน้าที่เขาตื่นไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ

[ผมให้สัญญา] เจคอปให้คำมั่นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

[เฮ้อ...จะให้ช่วยอะไรก็ว่ามา]

คนเจ้าเล่ห์ฉีกยิ้ม ก่อนจะบอกความการต้องที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ       [ผมอยากให้...บลาๆ]

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status