วันต่อมา...ประเทศไทย
หลังเครื่องบินส่วนตัวลงแตะที่รันเวย์ของสนามบิน เจคอปก็ขับรถตรงไปยังร้านอาหารเอื้องลานนา ที่อยู่ข้างๆ กับโรงแรมมะลิฉัตร แกรนด์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเหล่าบอดี้การ์ดที่เดินทางมาเฝ้าติดตามดูอยู่ห่างๆ
ทันทีที่เข้าไปข้างในร้านอาหาร เจคอปก็ฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจเมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มของพนักงานเสิร์ฟสาวแสนสวย ที่ไม่ว่าเขาจะเดินทางไป กี่ประเทศ พบเจอกับดารา-นางแบบเป็นร้อยเป็นพัน แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้เขาเก็บเอาไปนอนฝันได้นอกจากสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
มารีอา อนันพิศสุทธิ์ อายุ 22 ปี สูง 161 เซนติเมตร สาวน้อยวัยสดใสดุจดอกไม้แรกแย้มที่กำลังเบ่งบาน เธอทำงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหารเอื้องลานนานมาเกือบสี่ปี ตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่งจนกระทั่งจะจบการศึกษาปริญญาตรี ซึ่งกำลังรอสอบเข้าทำงานที่โรงแรมใหญ่ระดับห้าดาวแห่งหนึ่งอยู่
“สวัสดีค่ะ” มารีอายกรีบมือไหว้ เมื่อเห็นลูกค้าหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อ นัยน์ตาสีน้ำตาลอมเทา เข้ามานั่งยังโต๊ะซึ่งเป็นโซนที่เธอดูแลอยู่
“พระเจ้า! หน้าอกใหญ่เป็นบ้า” เจคอปจ้องมองหน้าอกขนาดเกินตัวกับเอวที่เล็กคอดนั้นด้วยหัวใจสั่นๆ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างรู้สึกกระหาย
“คะ...คุณว่าอะไรนะ?” มารีอารู้สึกหวาดกลัวชายหนุ่มตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก พลัน! ภาพข่าวสยองขวัญ คดีฆ่าหั่นศพที่กำลังดังครึกโครมก็ผุดขึ้นมาในหัว พยานหลายปากที่พบเห็น ต่างให้การเป็นเสียงเดียวกันว่า...ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวต่างชาติ หน้าตาดี อายุราวๆ 35-40 ปี ซึ่งมันก็ตรงกับคนที่นั่งส่งสายตาแวววาวมาให้เธอในตอนนี้ซะเหลือเกิน
“เอ่อ...ผมพูดว่าคุณน่ารักเป็นบ้าน่ะครับ” เจคอปอึกอักรีบออกตัว เพราะดันเผลอพูดสิ่งที่คิดเอาไว้ในใจออกมา
“แต่เมื่อกี้ฉันได้ยินคุณพูดว่า หน้าอกใหญ่เป็นบ้า” มารีอาเอ่ยท้วงเสียงแข็ง
“โอ้พระเจ้า! ผมพูดแบบนั้นออกไปจริงๆ เหรอครับ?” ชายหนุ่ม ฉีกยิ้มกลบเกลื่อน หลังสาวเจ้าทวนประโยคที่น่าอับอายให้ฟังอีกครั้ง
“ใช่! ฉันก็ได้ยินแบบนั้นนะ” ชายวัยหกสิบที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ ช่วยยืนยันอีกเสียง
“ว้าว!” เจคอปหันไปยิ้มให้กับพยาน ก่อนจะหันไปเอ่ยกับสาวเจ้าอย่างจำนน “ผมขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดอะไรแบบนั้นออกมาจริงๆ”
“โอเคค่ะ! คุณจะสั่งอาหารหรือยังคะ?” มารีอาถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มราวกับกำลังเก็บรายละเอียดของคนร้าย
“คุณพอจะช่วยแนะนำให้ผมหน่อยได้ไหมครับ” เจคอปส่งยิ้มให้สาวตรงหน้าอย่างรู้สึกความเก้อเขิน
มารีอาฝืนยิ้มตอบบางๆ เตรียมจะเอ่ย “เมนูแนะนำของร้านก็มี...”
“คุณอายุเท่าไหร่?”
“22 ค่ะ คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ?” มารีอาบอกก่อนจะทำหน้าตกใจ! เมื่อนึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงที่เป็นเหยื่อทั้งสามคนก็ล้วนแต่อายุ 22 เท่าๆ กับเธอ
“เปล่าครับ แค่ถามดูเฉยๆ” เจคอปฉีกยิ้มกว้างราวกับหุ่นของบริษัททะยานขึ้นสามสิบจุดในระยะเวลาไม่กี่นาที
“ให้ตายสิ! ฉันนึกว่าหนูอายุ 17 นะเนี่ย?” ชายวัยหกสิบยกมือขึ้นทาบอก ก่อนจะมองสำรวจใบหน้าจิ้มลิ้มที่อ่อนเยาว์อย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ขอบคุณพระเจ้าที่มีคนคิดเหมือนผม” เจคอปบอกพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“เอ่อ...” มารีอาปาดเหงื่อที่ไหลลู่ตรงขมับทิ้งด้วยมือไม้สั่นๆ ขณะที่ฉากฆาตกรรมต่างๆ ผุดขึ้นมาในจินตนาการของเธออย่างต่อเนื่อง
“คุณช่วยสั่งอะไรก็ได้ให้ผมทานสักสองสามอย่างสิครับ!” เจคอปรีบบอกเพราะกลัวว่าสาวเจ้าจะโกรธ แล้วให้พนักงานคนอื่นมาดูแลโต๊ะที่ตนนั่งแทน
“ดะ...ได้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวตอบก่อนจะรีบเดินตรงไปยังเคาท์เตอร์ด้วยสีหน้าตื่นๆ
เจอคอปมองตามเรืองร่างบอบอบางที่เต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งที่น่าทะนุถนอม ด้วยหัวใจสั่นๆ กับทุกก้าวที่สาวเจ้าเดิน มันทำให้เขาอยากจะวิ่งเข้าไปอุ้มเธอ แล้วพาไปกระทำชำเราที่ไหนสักแห่งให้หนำใจ สาสมกับที่เธอทำให้เขาต้องนั่งเครื่องบินไปบินไปมาเหมือนคนบ้าอยู่แบบนี้ เพราะสามปีที่ผ่านมาเขาเอาแต่เฝ้ามองดูเธออยู่ห่างๆ ให้คนตามดูแลอยู่เงียบๆ จนกระทั่งเธอใกล้จะเรียนจบ เขาก็เริ่มอยู่ไม่สุข ไม่อยากทำตัวเหมือนออร์แลนโด้ที่พอเจอหน้าปุ๊บ!
ก็ลากไปทำเมีย มันดิบเถื่อนเกินไป มันต้องแบบแพททริกสันกับ พิมพลอยถึงจะโรแมนติกและประทับใจ ยกเว้นเรื่องที่โดนยิงจนเกือบจะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ซึ่ง! เขาจะไม่ขอเจอะเจอสถานการณ์นั้น
คนที่คิดเองเออเองโดยลืมไปว่าแพททริกสันกับพิมพลอยนั้น ต่างฝ่ายก็ต่างมีใจให้กัน แต่กับตนนั้น! สาวเจ้าแทบจะไม่ได้รับรู้หรือว่ารู้สึกใดๆ นอกเหนือไปจากฆาตกรโรคจิตที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังอยู่ในขณะนี้
สายสุณีรีบสะกิดเพื่อนสาว หลังเห็นลูกค้าหนุ่มหล่อเอาแต่มองตามราวกับว่าทั้งร้านมีแค่มารีอาอยู่คนเดียว
“รีอา! ฝรั่งคนนั้นต้องชอบแกแน่ๆ เลย”
“บ้า! อีตานั่นน่ากลัวจะตาย” มารีอาบอกพลางเบ้ปากใส่เพื่อนนิดๆ
“น่ากลัวบ้าบออะไรฮะแก หล่อจนเปล่งประกายลำแสงฆ่าผู้ชายในร้านตายไปหลายคนซะขนาดนั้น เป็นฉันจะรีบตะคลุบเลย” สายสุณียิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับความหล่อบาดตาบาดใจของหนุ่มลูกครึ่งที่พูดไทยได้ชัดถ้อยชัดคำ จนทำให้คนที่ไม่เก่งภาษาอย่างเธอสื่อสารได้อย่างไม่ต้องเขินอาย
“งั้นแกก็รีบไปตะคลุบซะสิ” มารีอาส่ายอย่างหน้าเพลียๆ กับท่าทีของเพื่อนสาว
“จ้า! ถ้าฉันปลีกตัวไปได้นะ แกแหกตาดูลูกค้าที่โซนฉันซะก่อน” สายสุณีบอกพลางยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นอย่างสุดเซ็ง เพราะคนหล่อบาดจิตไม่ยอมมานั่งตรงโซนที่เธอให้บริการ
มารีอาหัวเราะเบาๆ กับสีหน้าของเพื่อนสาว ก่อนจะตกใจกับเสียงกริ่งเตือนอาหารออกที่ดังขึ้นติดๆ กัน
ติ้งๆ ติ้งๆ
“เขาให้มาเสิร์ฟ ไม่ใช่มาหาผัว!” สาทรชะโงกหน้าออกมาจากบานประตูขนาด 30X30 ซม. ที่กั้นระหว่างภายในร้านอาหารกับในครัว ก่อนจะส่งเมนูที่เพิ่งจะทำเสร็จให้กับน้องสาวที่ชอบพูดจาราวกับสาวร่านสวาทก็ไม่ปาน
“โห...ปากแบบนี้ ไม่น่าเกิดมาเป็นพี่เป็นน้องกันเลย” สายสุณีถลึงตาใส่พี่ชายจอมปากเสีย
“น้องแรดๆ อย่างแก ฉันก็ไม่อยากนับญาติเหมือนกัน” สาทรตอบอย่างไม่สนใจ
“ฝากเอาไว้ก่อน! เดี๋ยวเลิกงานเมื่อไหร่จะเข้าไปกระทืบถึงในครัวเลยคอยดู” สายสุณีคาดโทษพี่ชายก่อนจะยกอาหารใส่ถาดไปเสิร์ฟ
“เออ! อยากตายก็เข้ามา” สาทรบอกตามหลังด้วยน้ำเสียงท้าทาย
สายสุณีที่เดินไปได้หลายก้าว หันกลับมาส่งสายตาพิฆาตรให้ ก่อนจะปรับสีหน้าแล้วฉีกยิ้มให้กับลูกค้าตามโต๊ะที่เดินผ่าน
“คิกๆๆ” มารีอาหัวเราะเบาๆ กับการสนทนาระหว่างพี่น้องที่ค่อนข้างจะฮาร์ทคอร์ไปสักนิด แต่มันคือเรื่องปกติที่เธอเจอมาตลอดหลายปี จึงไม่ได้ตกใจกับน้ำเสียงและคำพูดที่ทั้งสองสาดใส่กัน
“เอ่อ...น้องรีอาอย่าไปทำตามที่อีส้มมันพูดนะจ๊ะ” สาทรเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงพร้อมกับส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้สาวในฝัน
“ค่ะพี่ทร” มารีอายิ้มบางๆ ให้เชฟใหญ่ของร้านอย่างอายๆ
“เดี๋ยวเลิกงานพี่ไปส่งกลับห้องนะ” สาทรพยายามจะสานสัมพันธ์ให้พัฒนาไปไกลกว่าพี่ชายของเพื่อน
“เลิกงานแล้วรีอาว่าจะไปหาอะไรกินกับส้มน่ะค่ะ” มารีอารีบบอก เพราะตั้งใจว่าจะไปสังสรรค์เบาๆ กับเพื่อนสาว หลังจากที่นัดกันมาแล้วหลายวัน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที
“พี่ไปด้วยคนสิ!” สาทรยิ้มกว้างขึ้นมาทันใด เมื่อมองเห็นโอกาสงามๆ ‘หึ! อย่างแรกเราต้องมอมเหล้าอีส้มก่อน จากนั้นค่อยจีบน้องรีอา’
“ได้ค่ะ รีอาขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” มารีอาส่งยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินไปยกเบียร์สดที่บาร์เทรนเดอร์ส่งให้ นำไปเสิร์ฟลูกค้า
เจคอปหน้าตึงขึ้นมานิดๆ เมื่อเห็นเชฟหนุ่มคุยกับสาวที่ตนหมายตา
“รีอา! ผมขอ Stella เพิ่มแก้วหนึ่งครับ” คนที่เริ่มตาขวางแต่กลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ทั้งที่ภายในใจนั้นรุ่มร้อนจนอยากจะลุกไปเตะเชฟของร้านให้รู้แล้วรู้รอด
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” มารีอาพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินกลับไปที่บาร์เครื่องดื่ม แล้วบอกบาร์เทรนเดอร์ให้กดเบียร์สดให้
ติ๊ดๆเจคอปที่กำลังมองตามบั้นท้ายงอนงาม กลอกตาอย่างเซ็งๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าของมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น พอก้มลงมองที่หน้าจอก็เห็นว่าเป็นสายของคนสนิทจึงรีบกดรับ [ว่าไง?][บอสครับ! คุณอลันเหวี่ยงใหญ่เลยครับ] คนที่เพิ่งจะประชุมเสร็จ ก็รีบเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวแล้วต่อสายหาผู้เป็นนายอย่างร้อนใจ[แกยังไม่ชินอีกเหรอ?] เจคอปถามราวกับเป็นเรื่องปกติ[แหม...ผมอยากให้บอสมาอยู่ด้วยจัง จะได้รู้ว่าวันนี้คุณอลันน่ากลัวขนาดไหน] คนที่ต้องรับหน้าแทนครั้งแล้วครั้งเล่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ[เอาน่าๆ เดี๋ยวสิ้นปีฉันจะเพิ่มโบนัสให้พิเศษ] เจคอปรีบบอก[แหมะ! ผมกลัวจะโดนคุณอลันฆ่าตายก่อนจะได้ใช้เงินโบนัสของบอสครับ] มาร์คเอ่ยประชดอย่างอดไม่ได้[ฮ่าๆๆ พี่ฉันก็ขึงขังไปงั้นแหละ เห็นโหดๆ แบบนั้นนะ จริงๆ แล้วกลัวเมียจะตาย กลับบ้านไปนี่เสียงอ่อนเสียงหวานเลย] คนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแสร้งเบี่ยงประเด็น เพราะกลัวว่าคนสนิทจะเกิดป๊อดขึ้นมา[ก็นั่นมันเมียนี่ครับ] มาร์คกลอกตาอย่างเพลียๆ กับคำปลอบของ ผู้เป็นนาย ที่ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะทำหลายๆ อย่างให้ยุ่งยากมากความไปทำไม กับอีแค่ชอบสาวคนหนึ่ง ทำไมไ
อัพเดตสถานะปัจจุบันของสมาชิก R&RR1111 {อ้อมกอดซาตานเฝ้ารัก} (แพท) แพททริกสัน โรคาซานเดอร์ อายุ 43 ปี สถานะปัจจุบัน แต่งงานแล้ว ภรรยาชื่อ พิมพลอย อายุ 30 ปี มีบุตรชายฝาแฝด ชื่อ... ซานเชส-เรนเดล อายุ 7 ขวบ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่อังกฤษ ดำรงตำแหน่งประธานใหญ่ของ Rocasander Corporation Group London ซึ่งมีทั้งโรงแรมและ ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงไวน์ภายใต้แบรนด์ โรคาซานเดอร์R8888 {อ้อมกอดอสูรไร้ใจ}(อลัน) ออร์แลนโด้ โรคาซานเดอร์ อายุ 41 ปี สถานะปัจจุบัน แต่งงานแล้ว ภรรยาชื่อ แพรณารา อายุ 30 ปี มีบุตรชายหนึ่งคน ชื่อ... จัสติน อายุ 7 ขวบ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่อังกฤษ ดำรงตำแหน่งประธานใหญ่บริษัท OLD.R Construction และยังดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วิลลาหรู เรือสำราญ บริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์รายใหญ่และยังเป็นเจ้าของไนต์คลับอีกหลายแห่งR2222 {อ้อมกอดเล่ห์จอมมาร}(ต้อม) แดเนียล เสกสรร ร็อฟเวลล์ อายุ 43 ปี สภานะปัจจุบัน แต่งงานแล้ว ภรรยาชื่อ แพรลานนา อายุ 30 ปี มีบุตรชายฝาแฝด ชื่อ... นักรบ (โรเจอร์) - ขุนพล (ริกเกอร์) อายุ 7 ขวบ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศไทย ดำรงตำแหน่งประธานใหญ่ ผู้กุมบังเหี
ตอนที่ 18 ปีต่อมา...ประเทศอังกฤษ ออร์แลนโด้ โรคาซานเดอร์ ในวัย 41 ปี ที่ยังคงความหล่อเหลา ทรงเสน่ห์เอาไว้ภายใต้สีหน้าที่เย็นชา เดินออกจากลิฟต์ผ่านหน้าล็อบบีของบริษัท โรคาซานเดอร์ แอร์ไลน์ สายการบินยักษ์ใหญ่ที่มีน้องชายวัย 37 ปี นั่งเก้าอี้บริหารงานในตำแหน่งประธานใหญ่ แต่กลับหายหน้าหายตาไปเป็นพักๆ โดยทิ้งงานให้ตนกับพี่ชาย (แพททริกสัน) วัย 43 ปี ผลัดเปลี่ยนกันเข้าประชุมแทนเป็นว่าเล่น“ไอ้เจคมันไปทำบ้าอยู่ที่ไหน?” คนที่ต้องเข้าประชุมด่วนแทน สบถถามทันทีที่เห็นคนสนิทเดินเข้ามาหา“เอ่อ...คงจะไปหาคุณแดเนียลที่ประเทศไทยหรือไม่ก็อยู่ที่ดูไบมั้งครับ” อันโตนิโอ้ตอบเสียงอ่อน“แต่นี่จะสองอาทิตย์แล้วนะ! มันจะโผล่หัวกลับมาทำงานเมื่อไหร่!” คนที่อยากใช้เวลาอยู่กับเมียบอกอย่างหัวเสีย 'ให้ตายสิ! ช่วงนี้ยิ่งมีข่าวระหองระแหงกับมิกิอยู่ด้วย'“เดี๋ยวผมจะลองสืบในกลุ่มให้ครับ” อันโตนิโอ้รีบเสนอ“ให้ไวเลย!” ออร์แลนโด้บอกก่อนจะเดินตรงออกไปยังรถที่บอดี้การ์ดนำมาจอดรอด้านบริษัท แล้วขับออกไปด้วยความเร็วเช้าวันต่อมา...ที่คฤหาสน์โรคาซานเดอร์ บรื้น...เสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มของบูกันติเวย์ร่อน สีแดงโกเมน
สองสาวที่เดินผ่าน หันมาส่งยิ้มหวานให้คนขับสุดหล่อที่เปิดประตูก้าวออกมาจากรถหรู ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อจำได้ว่าหนุ่มคนนี้คือทายาทคนสุดท้องของตระกูลโรคาซานเดอร์“พระเจ้า! นั่นคุณเจคอปใช่ไหมคะ?” สาวผมบลอนด์เอ่ยทักทายอย่างดีใจ“ครับ! ต้องขอโทษที่หลานๆ ของผมเสียมารยาท” เจอคอปกลอกตาก่อนจะหันไปตอบอย่างเสียไม่ได้“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่...สามหนุ่มน่ารักเหมือนกับคุณอาเลยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยชม“ขอบคุณครับ” เจคอปหัวเราะแบบแกนๆ ออกไปทางรำคาญนิดๆจัสตินก้าวลงจากรถเสร็จ ก็รีบเดินเข้าไปสะกิดแขนของผู้เป็นอา แล้วสื่อสารด้วยภาษาไทย “ข้างหน้ามีสาวสวยกว่าสองคนนี้อีกเยอะเลยครับ”“ใช่ครับ! มองใกล้ๆ แบบนี้ก็ไม่เห็นสวยเท่าไหร่เลย” ซานเชสที่ก้าวออกจากรถตามมาเอ่ยสมทบด้วยภาษาเดียวกัน พลางยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดอย่างรู้สึกผิดหวัง“ไปเถอะครับพี่เจค!” เรนเดลที่ออกจากรถเป็นคนสุดท้าย เข้าไปดึงแขนของผู้เป็นอาให้ออกเดินไปยังชายหาด ซึ่งมีสาวๆ มากมายกำลังหันมามองกันอย่างสนใจ“เอ่อ...ขอตัวก่อนนะครับ” เจคอปหันไปบอกราวกับคนมีมารยาทนักหนา!“ค่ะ/ค่ะ” สองสาวมองตามรู้สึกเสียดาย อยากจะตามไปพูดคุยต่อ แต่ก็ติดตรงที่ต้องรีบกล