ตอนที่ 1
8 ปีต่อมา...ประเทศอังกฤษ
ออร์แลนโด้ โรคาซานเดอร์ ในวัย 41 ปี ที่ยังคงความหล่อเหลา ทรงเสน่ห์เอาไว้ภายใต้สีหน้าที่เย็นชา เดินออกจากลิฟต์ผ่านหน้าล็อบบีของบริษัท โรคาซานเดอร์ แอร์ไลน์ สายการบินยักษ์ใหญ่ที่มีน้องชายวัย 37 ปี นั่งเก้าอี้บริหารงานในตำแหน่งประธานใหญ่ แต่กลับหายหน้าหายตาไปเป็นพักๆ โดยทิ้งงานให้ตนกับพี่ชาย (แพททริกสัน) วัย 43 ปี ผลัดเปลี่ยนกันเข้าประชุมแทนเป็นว่าเล่น
“ไอ้เจคมันไปทำบ้าอยู่ที่ไหน?” คนที่ต้องเข้าประชุมด่วนแทน สบถถามทันทีที่เห็นคนสนิทเดินเข้ามาหา
“เอ่อ...คงจะไปหาคุณแดเนียลที่ประเทศไทยหรือไม่ก็อยู่ที่ดูไบมั้งครับ” อันโตนิโอ้ตอบเสียงอ่อน
“แต่นี่จะสองอาทิตย์แล้วนะ! มันจะโผล่หัวกลับมาทำงานเมื่อไหร่!” คนที่อยากใช้เวลาอยู่กับเมียบอกอย่างหัวเสีย 'ให้ตายสิ! ช่วงนี้ยิ่งมีข่าวระหองระแหงกับมิกิอยู่ด้วย'
“เดี๋ยวผมจะลองสืบในกลุ่มให้ครับ” อันโตนิโอ้รีบเสนอ
“ให้ไวเลย!” ออร์แลนโด้บอกก่อนจะเดินตรงออกไปยังรถที่บอดี้การ์ดนำมาจอดรอด้านบริษัท แล้วขับออกไปด้วยความเร็ว
เช้าวันต่อมา...ที่คฤหาสน์โรคาซานเดอร์
บรื้น...
เสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มของบูกันติเวย์ร่อน สีแดงโกเมน แล่นเข้ามาจอดที่ลานน้ำพุด้านหน้า ทำให้เลโอนาดท์กับมะลิฉัตรและหลานชายทั้งสาม ซึ่งกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่ข้างๆ สระว่ายน้ำทางปีกขวาของคฤหาสน์ หันไปมองตามๆ กัน
“พี่เจค!” สามหนุ่ม ซานเชส เรนเดล และจัสติน เอ่ยเรียกขึ้นพร้อมกันอย่างดีใจ เมื่อเห็นคุณอาสุดหล่อก้าวออกมาจากรถสปอร์ตสุดหรูด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีครับทุกคน” เจคอปในวัย 37 ปี ที่ใบหน้าหล่อเหลา คมเข้ม นัยตาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เอ๊ย! เจ้าเสน่ห์ กับความสูง 189 เซนติเมตร เอ่ยทักทายหลานชายและบิดามารดา
“ไงไอ้เสือ! นึกว่าอยู่ที่ดูไบซะอีก” เลโอนาดท์มองบุตรชายคนเล็กที่เดินยิ้มเรี่ยราดมาแต่ไกลอย่างขำๆ
“ครับ! พอดีผมมาทำธุระแล้วเห็นสามแสบเช็คอินที่นี่เลยแวะเข้ามาดูซะหน่อย” เจคอปตอบพร้อมกับยกมือขึ้นไฮไฟว์กับหลานรักเหมือนเช่นทุกครั้ง
“เจค! ทานอะไรมาหรือยังล่ะลูก” มะลิฉัตรถามบุตรชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“ยังเลยครับ! ผมตั้งใจจะมาฝากท้องที่นี่แหละ” เจคอปเอ่ยพร้อมกับเข้าไปกอดมารดาอย่างออดอ้อน ก่อนจะมองหาผู้ใหญ่ทั้งสองที่ปกติจะอยู่ด้วยกับบิดาและมารดา “แล้วอาธีรกับน้าพิล่ะครับ?”
“กลับไทยจ้ะ ไปแจกทุนการศึกษาให้เด็กๆ บนดอย” มะลิฉัตรตอบพลางรู้สึกคิดถึงเพื่อนรักขึ้นมานิดๆ
“เพิ่งมาถึงอังกฤษเหรอครับพี่เจค!” จัสตินถามคุณอาหนุ่มสุดหล่อ
“มาถึงเป็นอาทิตย์แล้ว แต่พี่เจคเพิ่งจะมาหาคุณปู่คุณย่าน่ะจัส!” ซานเชสหันไปตอบแทน
“ใช่ๆ เมื่อเช้าตอนเราไลน์ถามพี่เจคยังบุ่มบู้มกับสาวที่โรงแรมอยู่เลย” เรนเดลบอกก่อนจะหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
“ว้าว! เด็ดไหมครับพี่เจค” จัสตินถามอย่างตื่นเต้น ทั้งที่ยังไม่เข้าใจในความหมายสักเท่าไหร่
“ไม่เด็ดหรอก! พี่เจคบอกว่างั้นๆ” เรนเดลตอบแทน เพราะได้ไลน์ไปถามผู้เป็นอามาก่อนแล้ว
“โอ้พระเจ้า! ถ้าทานข้าวเสร็จแล้วเข้าไปคุยกับแม่ในห้องทำงานของพ่อนะ!” มะลิฉัตรตาโตขึ้นมาทันทีทันใดกับคำพูดของหลานชายที่คุยกันไปมาอย่างสนุก ราวกับเป็นเรื่องธรรมดา แต่เธอรับไม่ได้ที่บุตรชายพูดเรื่องแบบนี้กับสามหนุ่มที่เพิ่งจะอายุได้เพียงเจ็ดขวบ!
“ครับ” เจคอปหน้าเจื่อนไปทันใด รีบส่งซิกให้สามหนุ่มหยุดพูดนอกเรื่อง แล้วเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ กับบิดา
“เพิ่มอีกที่!” เลโอนาดท์หันไปบอกเด็กรับใช้ที่ยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟ
“ค่ะท่าน” สาวรับใช้พยักหน้ารับเบาก่อนจะเดินออกไปจัดเตรียมอาหารเพิ่มให้กับหนุ่มหล่อที่ยังคงสถานะโสด คนสุดท้ายของโรคาซานเดอร์
“แล้วนี่...ป๋ากับเฮียเอาสามแสบมาทิ้งไว้ให้พ่อกับแม่เหรอครับ!” เจคอปชวนคุย
“ไม่ได้เอามาทิ้งครับ คือป๋าบอกว่าจะทำน้องต้องใช้เวลา เลยให้ผมกับเชสมาอยู่ที่นี่ช่วงปิดเทอม” เรนเดลตอบยิ้มๆ
“แต่จัสอาสามาอยู่เองครับ เพราะอยากให้แด๊ดทำน้องสาวน่ารักๆ ให้ เดี๋ยวน้อยหน้าเชสกับเรน!” จัสตินบอกก่อนจะตักข้าวต้มทรงเครื่องทานอย่างเอร็ดอร่อย
“ฮ่าๆๆ” เจคอปปล่อยหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างชอบใจ กับคำตอบซื่อๆ หลานชาย
เลโอนาดท์และมะลิฉัตรหันไปมองหน้ากันอย่างรู้สึกอึ้งๆ ที่รู้สาเหตุการมาพักของหลานชายทั้งสาม
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...หลังจากที่เจคอปถูกมารดาเรียกไปต่อว่าเรื่องที่เสี้ยม เอ๊ย! สอนหลานชายทั้งสาม ให้มีความคิดเกินวัย รวมไปถึงเรื่องพกถุงยางอนามัย บลาๆๆ จนหน้าชา ปากสั่น รีบเอ่ยขอตัวพาสามแสบจอมแก่แดดไปขับรถเที่ยวเล่นทันที
“เฮ้อ...” มะลิฉัตรกับเลโอนาดท์ถอนหายใจพร้อมๆ กัน ขณะมองตามหลังของบุตรชายคนเล็กที่ไม่ว่าจะสอนจะบอกอะไรไป อีกฝ่ายจะยิ้มรับด้วยสีหน้าชื่นมื่น แต่ก็ไม่เคยจำหรือปฏิบัติตามที่รับปากได้เลยสักครั้ง
“ไปก่อนนะครับคุณปู่ คุณย่า” สามแสบที่นั่งอยู่ในรถหรู ลดกระจกรถลงแล้วพากันโบกมือให้คุณปู่กับคุณย่า
“จ้า...เที่ยวให้สนุกนะ” มะลิฉัตรรีบโบกมือตอบ
“เจอกันตอนเย็น” เลโอนาดท์ตะโกนบอกและส่งยิ้มให้หลานๆ
“ครับ!” สามแสบขานรับแล้วกดกระจกรถขึ้นเช่นเดิม
“ไปก่อนนะครับ” เจคอปตะโกนบอกบิดามารดา ก่อนจะขับรถออกไปอย่างอารมณ์ดี ท่ามกลางบอดี้การ์ดที่ขับรถตามประกบหน้าและหลัง
“เฮ้อ...พิกับคุณธีจะกลับจากไทยเมื่อไหร่นะคะ” มะลิฉัตรมองตามรถที่แล่นออกไปครู่หนึ่งก่อนจะหันไปคุยกับสามี
“อืม...ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมว่าจะพาหลานๆ ไปเที่ยวไทย คุณว่าดีไหม?” เลโอนาดท์ถามความเห็น เพราะนัดกับโดมินิกเอาไว้ว่าจะไปปั่นจักรยานเล่นที่ไร่สิรันยากรณ์ ซึ่งปัจจุบันได้สร้างเส้นทางเชื่อมกับไร่ผลไม้อื่นเข้าด้วยกัน ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาพักผ่อนอยู่ไม่ขาดสาย
“ดีค่ะ” มะลิฉัตรขานรับอย่างดีใจ เพราะไม่ได้กลับไปเที่ยวไทยมานานแล้ว จึงอยากจะพาหลานๆ ไปกิน ไปเที่ยวตามไร่ต่างๆ ที่อยู่ในอำเภอแม่รินให้ทั่วๆ กับเพื่อนรักอย่างพิมาลา ที่ได้มาเกี่ยวดองเป็นครอบครัวใหญ่ ทำให้นึกไปถึงวันวานที่เคยเป็นเด็กกำพร้า ซึ่งเติบโต เล่าเรียนและทำงานมาด้วยกัน พบเจออุปสรรคมากมาย ทั้งถูกเพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้งจนเกือบจะถูกไล่ออก
แต่กระนั้น...เธอกับเพื่อนสาวก็จับมือกันสู้มาโดยตลอด แม้จะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่ก็รักและผูกพันภายใต้คำว่าเด็กบ้านเดือนแรม สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย ทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและความสุขของเด็กๆ นับสิบ ที่ไม่มีใครทราบที่ไปที่มาของตัวเอง
ชั่วโมงต่อมา...
รถหรู Rolls-R-oyce DAWN ปี 2017 แล่นเข้ามาจอด ยังบริเวณใกล้ๆ กับชายหาดของทะเลไบรตัน ทะเลที่ได้ฉายาว่า...London by the sea ตั้งอยู่ชายฝั่งทางตอนใต้ประเทศอังกฤษ ห่างจากกรุงลอนดอนเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
ร่างสูงของหนุ่มหล่อฉายา รอยยิ้มกระชากใจ ก้าวออกมาจากรถหรูราคาแพง ที่ลงทุนออดอ้อนผู้เป็นบิดา ขอเอามาขับพาสามหนุ่มออกเที่ยว
“ว้าว! สวัสดีครับสาวๆ” ซานเชสลดกระจกรถลงแล้วเอ่ยทักทายสองสาวที่เดินผ่านมาด้วยสีหน้าทะลึ่ง เอ๊ย! ทะเล้น
“ให้ตาย! นมหรือว่ามะพร้าวอะ?” จัสตินอุทานออกมาเบาๆ ขณะมองหน้าอกของสองสาวที่ใส่บิกินีตัวจิ๋วอย่างไม่วางตา
“พี่เจค! เรนอยากกินน้ำมะพร้าวฮะ!” เรนเดลที่นั่งอยู่เบาะหลังกับซานเชสเอ่ยสมทบด้วยสายตาเยิ้มๆ
“ใช่ๆ คอแห้งชะมัดเลย” จัสตินแอบกลืนน้ำลายตามอย่างกระหาย
“จุ๊ๆ อย่าเสียงดังสิ! เดี๋ยวพวกเธอก็คิดว่าเราสนใจหรอก จำที่อาสอนได้ไหม?” เจคอปหันไปเอ็ดสามแสบที่แสดงท่าทางสนใจสองสาวที่เดินผ่าน ทำให้พวกเธอหันมามองหน้าเขา พร้อมกับส่งสายตาเชิญ...และชวนไปต่อยังที่ไหนสักแห่ง
'หึ! หนังหน้าแบบนี้ไม่มีทางได้ขึ้นเตียงกับเขาหรอก!' คนหล่อเลือกได้มาตั้งแต่เกิด เอ่ยค่อนขอดในใจ
สามหนุ่มรีบยกมือขึ้นปิดปากราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรแสดงท่าทีสนอกสนใจ เพราะมันจะทำให้พวกเธอสำคัญตัวว่าสวย! จากนั้นก็จะนำพาเรื่องยุ่งยากตามมาแบบไม่จบไม่สิ้น
สองสาวที่เดินผ่าน หันมาส่งยิ้มหวานให้คนขับสุดหล่อที่เปิดประตูก้าวออกมาจากรถหรู ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อจำได้ว่าหนุ่มคนนี้คือทายาทคนสุดท้องของตระกูลโรคาซานเดอร์“พระเจ้า! นั่นคุณเจคอปใช่ไหมคะ?” สาวผมบลอนด์เอ่ยทักทายอย่างดีใจ“ครับ! ต้องขอโทษที่หลานๆ ของผมเสียมารยาท” เจอคอปกลอกตาก่อนจะหันไปตอบอย่างเสียไม่ได้“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่...สามหนุ่มน่ารักเหมือนกับคุณอาเลยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยชม“ขอบคุณครับ” เจคอปหัวเราะแบบแกนๆ ออกไปทางรำคาญนิดๆจัสตินก้าวลงจากรถเสร็จ ก็รีบเดินเข้าไปสะกิดแขนของผู้เป็นอา แล้วสื่อสารด้วยภาษาไทย “ข้างหน้ามีสาวสวยกว่าสองคนนี้อีกเยอะเลยครับ”“ใช่ครับ! มองใกล้ๆ แบบนี้ก็ไม่เห็นสวยเท่าไหร่เลย” ซานเชสที่ก้าวออกจากรถตามมาเอ่ยสมทบด้วยภาษาเดียวกัน พลางยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดอย่างรู้สึกผิดหวัง“ไปเถอะครับพี่เจค!” เรนเดลที่ออกจากรถเป็นคนสุดท้าย เข้าไปดึงแขนของผู้เป็นอาให้ออกเดินไปยังชายหาด ซึ่งมีสาวๆ มากมายกำลังหันมามองกันอย่างสนใจ“เอ่อ...ขอตัวก่อนนะครับ” เจคอปหันไปบอกราวกับคนมีมารยาทนักหนา!“ค่ะ/ค่ะ” สองสาวมองตามรู้สึกเสียดาย อยากจะตามไปพูดคุยต่อ แต่ก็ติดตรงที่ต้องรีบกล
วันต่อมา...ประเทศไทย หลังเครื่องบินส่วนตัวลงแตะที่รันเวย์ของสนามบิน เจคอปก็ขับรถตรงไปยังร้านอาหารเอื้องลานนา ที่อยู่ข้างๆ กับโรงแรมมะลิฉัตร แกรนด์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเหล่าบอดี้การ์ดที่เดินทางมาเฝ้าติดตามดูอยู่ห่างๆ ทันทีที่เข้าไปข้างในร้านอาหาร เจคอปก็ฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจเมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มของพนักงานเสิร์ฟสาวแสนสวย ที่ไม่ว่าเขาจะเดินทางไป กี่ประเทศ พบเจอกับดารา-นางแบบเป็นร้อยเป็นพัน แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้เขาเก็บเอาไปนอนฝันได้นอกจากสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า มารีอา อนันพิศสุทธิ์ อายุ 22 ปี สูง 161 เซนติเมตร สาวน้อยวัยสดใสดุจดอกไม้แรกแย้มที่กำลังเบ่งบาน เธอทำงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหารเอื้องลานนานมาเกือบสี่ปี ตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่งจนกระทั่งจะจบการศึกษาปริญญาตรี ซึ่งกำลังรอสอบเข้าทำงานที่โรงแรมใหญ่ระดับห้าดาวแห่งหนึ่งอยู่“สวัสดีค่ะ” มารีอายกรีบมือไหว้ เมื่อเห็นลูกค้าหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อ นัยน์ตาสีน้ำตาลอมเทา เข้ามานั่งยังโต๊ะซึ่งเป็นโซนที่เธอดูแลอยู่“พระเจ้า! หน้าอกใหญ่เป็นบ้า” เจคอปจ้องมองหน้าอกขนาดเกินตัวกับเอวที่เล็กคอดนั้นด้วยหัวใจสั่นๆ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย
ติ๊ดๆเจคอปที่กำลังมองตามบั้นท้ายงอนงาม กลอกตาอย่างเซ็งๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าของมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น พอก้มลงมองที่หน้าจอก็เห็นว่าเป็นสายของคนสนิทจึงรีบกดรับ [ว่าไง?][บอสครับ! คุณอลันเหวี่ยงใหญ่เลยครับ] คนที่เพิ่งจะประชุมเสร็จ ก็รีบเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวแล้วต่อสายหาผู้เป็นนายอย่างร้อนใจ[แกยังไม่ชินอีกเหรอ?] เจคอปถามราวกับเป็นเรื่องปกติ[แหม...ผมอยากให้บอสมาอยู่ด้วยจัง จะได้รู้ว่าวันนี้คุณอลันน่ากลัวขนาดไหน] คนที่ต้องรับหน้าแทนครั้งแล้วครั้งเล่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ[เอาน่าๆ เดี๋ยวสิ้นปีฉันจะเพิ่มโบนัสให้พิเศษ] เจคอปรีบบอก[แหมะ! ผมกลัวจะโดนคุณอลันฆ่าตายก่อนจะได้ใช้เงินโบนัสของบอสครับ] มาร์คเอ่ยประชดอย่างอดไม่ได้[ฮ่าๆๆ พี่ฉันก็ขึงขังไปงั้นแหละ เห็นโหดๆ แบบนั้นนะ จริงๆ แล้วกลัวเมียจะตาย กลับบ้านไปนี่เสียงอ่อนเสียงหวานเลย] คนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแสร้งเบี่ยงประเด็น เพราะกลัวว่าคนสนิทจะเกิดป๊อดขึ้นมา[ก็นั่นมันเมียนี่ครับ] มาร์คกลอกตาอย่างเพลียๆ กับคำปลอบของ ผู้เป็นนาย ที่ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะทำหลายๆ อย่างให้ยุ่งยากมากความไปทำไม กับอีแค่ชอบสาวคนหนึ่ง ทำไมไ
อัพเดตสถานะปัจจุบันของสมาชิก R&RR1111 {อ้อมกอดซาตานเฝ้ารัก} (แพท) แพททริกสัน โรคาซานเดอร์ อายุ 43 ปี สถานะปัจจุบัน แต่งงานแล้ว ภรรยาชื่อ พิมพลอย อายุ 30 ปี มีบุตรชายฝาแฝด ชื่อ... ซานเชส-เรนเดล อายุ 7 ขวบ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่อังกฤษ ดำรงตำแหน่งประธานใหญ่ของ Rocasander Corporation Group London ซึ่งมีทั้งโรงแรมและ ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงไวน์ภายใต้แบรนด์ โรคาซานเดอร์R8888 {อ้อมกอดอสูรไร้ใจ}(อลัน) ออร์แลนโด้ โรคาซานเดอร์ อายุ 41 ปี สถานะปัจจุบัน แต่งงานแล้ว ภรรยาชื่อ แพรณารา อายุ 30 ปี มีบุตรชายหนึ่งคน ชื่อ... จัสติน อายุ 7 ขวบ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่อังกฤษ ดำรงตำแหน่งประธานใหญ่บริษัท OLD.R Construction และยังดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วิลลาหรู เรือสำราญ บริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์รายใหญ่และยังเป็นเจ้าของไนต์คลับอีกหลายแห่งR2222 {อ้อมกอดเล่ห์จอมมาร}(ต้อม) แดเนียล เสกสรร ร็อฟเวลล์ อายุ 43 ปี สภานะปัจจุบัน แต่งงานแล้ว ภรรยาชื่อ แพรลานนา อายุ 30 ปี มีบุตรชายฝาแฝด ชื่อ... นักรบ (โรเจอร์) - ขุนพล (ริกเกอร์) อายุ 7 ขวบ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศไทย ดำรงตำแหน่งประธานใหญ่ ผู้กุมบังเหี