เสียงประตูห้องถูกกระแทกปิดโดยแรง ทำให้โชติกาต้องหรี่เสียงทีวีลงเพื่อเงี่ยหูฟังว่าใครเข้ามา คิดว่าจะนอนดูทีวีต่อหรือจะรีบเผ่นดีหากเป็นคนร้ายที่กำลังบุกรุกเข้ามา แต่คิดว่าเธอคิดมากไปเองเพราะตั้งแต่หน้าคอนโดยันประตูหน้าห้องมีระบบการป้องกันอย่างแน่นหนา แล้วเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังกึก ๆ ทำให้เธอรู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร
“กลับมาแล้วเหรอ แนน?” หญิงสาวตะโกนถามออกไปนอกห้องเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นนรียา รูมเมทของเธอจริง ๆ
“ยังไม่กลับ!” เสียงตอบกลับยียวนไม่สบอารมณ์
“อย่ามากวนสิ” นรียาตะโกนตอบออกไป
“เออ...ฉันกลับมาแล้ว” เพื่อนสาวโผล่หน้าที่ประตูห้องนอนก่อนเดินเข้ามาในห้อง
“อ้าวทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ ไหนว่าไปกับโก้ไง” โชติกาแปลกใจเพราะผิดปกติ ถ้านรียาออกไปกับหนุ่ม ๆ หมายความว่าจะออกไปทั้งคืน ฟ้าไม่สว่างไม่กลับเพราะรายนี้ใช้ชีวิตเต็มที่ แต่ท่าทางที่ทิ้งตัวนอนบนเตียงทำให้พอคาดเดาอะไรได้ “แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
นรียาทิ้งตัวลงบนเตียง ถอนหายใจ “ห่วยแตก! หมอนั่นนะแก เล้าโลมฉันเป็นชั่วโมงจนฉันมีอารมณ์สุด ๆ แต่เวลาเอาเข้าจริง จิ้มฉันสองทีเสร็จ ยังไม่ทันจะรู้สึกอะไรเลย หงุดหงิดโว้ยยย!”
“หูยยยยยเจ็บว่ะ” โชติกาสูดปาก เอื้อมมือไปบีบมือเพื่อนด้วยความเห็นอกเห็นใจ “แล้วพอเสร็จแล้วเขาได้ทำอะไรให้แกต่อป่าว แบบเลียหรือใช้นิ้วให้อะ”
“ทำอะไรล่ะแก เสร็จแล้วก็หลับเป็นตาย” นรียาเสียงเซ็งสุด ๆ เพราะมันทำให้เธออารมณ์ค้าง
“แล้วแกทำไง คงค้างหน้าดูอะดิ” สีหน้าเห็นใจสุด ๆ
“ก็เออดิ ฉันเลยเข้าไปช่วยตัวเองในห้องน้ำไง พอดีไปเห็นสบู่กับแชมพูแบรนด์แพงก็เลยใช้จนหมดเลย หมอนั่นพอตื่นมาจะได้ไม่มีใช้ ว่าแต่แกกับอาร์ตเหอะ คงไม่เหมือนฉันหรอกมั้ง” นรียาบ่นเสร็จก็ถามเพื่อนบ้างเพราะออกไปเดทกับผู้ชายเหมือนกัน
เหอะ! โชติกากรอกตามองบนทำหน้าเซ็งจัด “แกเห็นว่าไงล่ะ ฉันใส่ชุดนอนนั่งอยู่นี่เนี่ย ฉันกลับมาถึงเป็นชั่วโมงแล้วย่ะ”
“เฮ้ยยยย จริ๊งงงง! แกด้วยเหรอ” นรียาลุกมาจ้องหน้าเพื่อนด้วยความอยากรู้
“เออ แต่แกยังดี อย่างน้อยก็ได้ทำกับโก้ แต่ฉันเนี่ยสิ ทำได้แค่ถอดบราออก” เล่ามาถึงตรงนี้นรียาก็กลั้นขำไม่อยู่โชติกาจึงปรามเสียงเซ็ง “ไม่ขำนะแก”
“ก็มันตลกนี่นา ฉันเคยบอกแล้วว่านมแกน่ะเป็นอาวุธ ผู้ชายเห็นถึงกับเข่าอ่อน อย่างอาร์ตนั่นไง…” คนพูดเสียงสั่นเพราะขำตอนนึกภาพตามจึงหยุดแล้วค่อยพูดต่อ “แค่เห็นนมแกก็แตกก่อนเสียบ ฮ่า ๆ ๆ ๆ” พูดจบก็ยกมือกุมท้องหัวเราะเสียงดัง
ผัวะ!
นรียาถูกเพื่อนป้าบเข้าให้
“พอเลยแนน แล้วเรื่องวันวางเลนทงวาเลนไทน์อะไรนั่นก็ไม่ต้องพูดแล้วนะ ฉันบอกอาร์ตไปแล้วให้ไปชวนคนอื่นไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน ฉันขอผ่าน พอเห็นหน้าแล้วเสียอารมณ์ สรุปว่าวันแห่งคู่รักฉันคงอยู่คนเดียวอีกตามเคย”
“ได้ไงแก ต้องหาดุ้นใหม่มาย้อมใจสิถึงจะถูก” นรียาที่เป็นสาวหัวสมัยใหม่และรักสนุกรีบเชียร์ให้เพื่อนเสียตัวเต็มที่ ถือคติว่าเกิดมามีชีวิตเดียวต้องใช้ให้คุ้ม
“แกคิดว่าผู้ชายในม. เราจะมีใครเจ๋งจริงอย่างที่ปากว่ากันมั้ยอะ”
“ขี้โม้ทั้งนั้นแหละฉันว่า ฉันเจอมาเกือบครึ่ง” นรียาส่ายหน้า “ไม่ได้เรื่องเลยสักคน”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ”
“ฉันเบื่อพวกเด็กมหาลัยแล้ว อยากลองแนวผู้ใหญ่วัยทำงานมากกว่า น่าจะแซ่บกว่า”
“แล้วแกรู้ได้ไง”
“นิยายแทบทุกเรื่องพระเอกโคแก่จะแซ่บ แล้วแกไม่เคยสงสัยเหรอว่าทำไมผู้หญิงสาว ๆ ถึงชอบคบคนแก่กว่า”
“เพราะเงินไง อย่างข่าวเมื่อสองวันก่อนที่ปู่อายุเจ็ดสิบโดนสาวยี่สิบหลอกต่างงานเพราะหวังสมบัติ”
“ฉันบอกว่าคนแก่กว่า ไม่ใช่วัตถุโบราณย่ะยัยชะพลู”
“เออถูกของแก” โชติกาคล้อยตาม จึงลองเสิร์ชหาหนุ่มสุดฮ็อตอายุสามสิบดูเล่น ๆ แล้วสายตาก็สะดุดกับบุคคลที่อยู่ในอันดับแรกของลิสต์จึงสะกิดเพื่อน
“แนนแกดูนี่ดิ”
เธอโชว์หน้าจอรูปภาพของชายที่เว็บไซต์ระบุว่าเป็นซีอีโอของลอเรลี่ช็อกโกแลต ซึ่งเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในไทยและยังติดอันดับโลกให้นรียาดู
“ต่อไปนี้ถ้าฉันเห็นโฆษณาช็อกโกแลตเขาฉันจะต้องน้ำลายสอแน่เลยแก”
“คาร์ล เฟรเดอริก ลูกครึ่งไทยเยอรมัน หล่อฮอตมากกกกกกก” นรียาเห็นแล้วหวีดตามก่อนกระแซะไหล่เพื่อน “น้ำลายสอเพราะช็อกโกแลตหรือเจ้าของกันแน่ยะชะพลู”
“แน่นอนว่าเพราะเจ้าของสิยะ”
“แต่น่าเสียดายอะที่คนหล่อ ๆ แบบนี้คงไม่โสด” นรียาส่ายหัวเสียดาย
“แกรู้ได้ไง”
“คิดดูนะแก เขาหล่อรวยขนาดนี้จะเหลือเรอะ”
“คงจะไม่แบบที่แกว่าจริง ๆ” โชติกาเลื่อนดูรูปชายหนุ่มเรื่อย ๆ แล้วสะดุดตากับรูปหนึ่ง “แกดูนี่ดิ” เธอชี้รูปชายหนุ่มกับสาวสวยคนหนึ่งที่กำลังดูดอมยิ้มอยู่ พวกเขาน่าจะเพิ่งออกมาจากคลับแล้วหยุดยืนถ่ายรูปด้วยกัน ในรูปชายหนุ่มกำลังจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาชื่นชม
“ชัวร์เลยแก ผู้หญิงปกติที่ไหนจะยืนโพสต์ท่าถ่ายรูปแบบนั้น ต้องเป็นเพราะอยากเอาใจผู้ไง”
“เออนั่นดิ เสียดายอะแก”
“นี่แต่มาคิดดูนะ เขาอาจจะโสดอยู่ก็ได้ใครจะรู้”
“อ้าว ยังไง”
“ก็แบบแม่คนนี้อาจจะแค่ชั่วคราวไง ฉันว่าเขาเนี่ยแหละเหมาะสุด ลุยโลดเลยแก”
นรียาพูดจบก็ถอดเสื้อผ้าออก โชติกาถลึงตาใส่ตอนเธอปีนขึ้นเตียงมาโดยทั้งตัวสวมกางเกงในตัวเดียว
“พูดเหมือนง่าย ฉันจะไปหาเขาได้ที่ไหน”
“เข้าหาตรง ๆ เลยแก”
“เอ๊ะแกนี่! ฉันได้ถูกคนของเขาจับโยนออกมาสิ” โชติกาเหนื่อยใจกับเพื่อน ยิ่งพูดยิ่งเลอะเทอะ เธอจึงปิดมือถือวางที่โต๊ะหัวเตียง นอนหันหลังให้ แต่ก็ต้องถอนใจด้วยความรำคาญเมื่อรู้สึกถึงมือที่ลูบไล้ตรงขาอ่อน
“หยุดแนน!”
“นิดเดียวเองชะพลู”
“ไม่เอา คืนนี้ไม่มีอารมณ์”
“แกนี่เคร่งเกิ๊นชะพลูเอ๊ย”
โชติกาถูกปลุกด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก เธอดึงผ้าห่มคลุมโปงแล้วจะนอนต่อเพราะง่วงมากยังไม่อยากตื่น“ไม่ต้องเลยชะพลู ตื่นได้แล้ว ไม่งั้นจะเข้าเรียนสาย แกคงไม่อยากขาดเรียนคาบอาจารย์สุดหล่อหรอกใช่มั้ย”“สุดหล่อของแกน่ะสิแนน ฉันเฉย ๆ แต่ทำไมแกตื่นเช้าขนาดนี้อะ เพิ่งจะเจ็ดโมง”นรียาเบ้ปากหัวเราะ “โก้ส่งข้อความมาหาฉันแต่เช้าเลย บอกว่าเมื่อคืนมีความสุขมาก อยากชวนฉันไปเดทอีก”คราวนี้โชติกาหัวเราะบ้าง แล้วลุกไปอาบน้ำแต่ก็ไม่วายบ่น “ขี้เกียจไปเรียนอะ”“งั้นจะโดดมั้ย” นรียาหาแนวร่วมเพราะขี้เกียจเหมือนกัน“ไม่อะ เอาไว้วันอื่นดีกว่า”“ก็แค่นั้น งั้นแกก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว”**********โชติกาคิดว่าตัวเองโชคดีที่วันนี้ตัดสินใจไม่โดดเรียนเพราะอาจารย์มีควิซแบบไม่ได้บอกล่วงหน้า พอหมดคาบสุดท้ายเธอก็คิดจะกลับเลยเพราะวันนี้หนักทุกวิชาแม้จะเรียนแค่ครึ่งเช้า พอเดินออกมาถึงหน้าตึกก็ได้ยินเสียงทัก“จะกลับแล้วเหรอครับชะพลู”โชติกาหันไปมอง เห็นเป็นหนุ่มต่างคณะ เธอไม่รู้จักเขา แต่ก็ไม่ได้สนใจว่าเขารู้จักเธอได้อย่างไร คงเหมือนกับผู้ชายคนอื่นที่เข้าหาเธอ แล้วดูสายตาที่มองมา ไม่ได้จ้องที่หน้า แต่จ้องอยู่ที่หน้าอ
“จริง ยิ่งไปกว่านั้นนะ แกรู้มั้ยว่าใครจะได้เป็นคนไปติดต่อเรื่องงานเอกสาร”“อย่าบอกนะว่าเป็นแก”นรียาสะบัดบ๊อบอีกรอบแล้วทำหน้าเชิ่ด “แหงซะ ตอนนั้นฉันอยู่ที่สโมฯ พอดีเลยรีบคว้าโอกาสทองนี้ซะก่อน”“เกลียดแกว่ะ” โชติกาแกล้งค้อนเพื่อนจึงได้รับเสียงหัวเราะตอบ“แล้วแกจะรักฉัน เพราะฉันจะให้แกเป็นคนเอาไปให้เขาเซ็น พอเซ็นแล้วแกต้องขอเขาถ่ายรูปเอามาลงประชาสัมพันธ์หน้าเว็บมหาลัยด้วย”นรียายื่นเอกสารในมือให้ โชติการับมาอ่านดูคร่าว ๆ“แล้วฉันจะต้องไปให้เขาเซ็นวันไหนอะ”“ตามที่ทางนั้นบอกมาคือเขาว่างแค่วันนี้ตอนห้าโมงเย็น”“อะไรนะ!” โชติกาไม่คิดว่าจะกะทันหันขนาดนี้“เห็นว่าเขากำลังติดพันเรื่องสินค้าตัวใหม่อยู่หรืออะไรเนี่ยแหละ”โชติกาพยักหน้าเข้าใจ นรียาเลยต้องกระตุ้น“วันนี้วันศุกร์ รถติดโคตร ๆ ฉันว่าแกรีบไปตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า เอารถฉันไป” เธอยัดกุญแจรถใส่มือเพื่อน“เดี๋ยว ๆ แล้วฉันจะแต่งตัวยังไงดี” เอาจริงโชติกาก็อดตื่นเต้นไม่ได้ แค่เห็นรูปชายหนุ่มเมื่อคืนใจเธอก็สั่น ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าแค่เห็นก็ชอบ แน่นอนว่าให้ไปเจอเขาด้วยชุดนักศึกษาน่ะเหรอ ไม่มีทางซะหรอก“เชื่อมือฉันได้เลย” ว่าจบนรียาก็จูงมือเพื่อ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณคาร์ล และขอบคุณที่อุตส่าห์ยอมสละเวลาให้ฉันเข้าพบนะคะ”“พอดีผมรู้จักกับอธิการน่ะครับ เชิญนั่งก่อนครับ” ชายหนุ่มผายมือยังเก้าอี้ด้านหน้า“ขอบคุณค่ะ” โชติกาเลื่อนเก้าอีกหน้าโต๊ะทำงานออกนั่ง ส่วนชายหนุ่มเดินอ้อมกลับไปนั่งหลังโต๊ะ“ผมค่อนข้างจะยุ่งมาก ๆ ขอให้คุณอธิบายสั้น ๆ ได้มั้ยครับ” คาร์ลเอ่ยเข้าประเด็น“ค่ะ ฉันเข้าใจได้” โชติกาตอบแต่แกล้งไอหนัก ๆ หลาย ๆ ที หวังว่าชายหนุ่มจะสังเกตเห็น“คุณต้องการดื่มอะไรมั้ยครับ”เยส!อย่างน้อยเขาก็แสดงให้เห็นว่ามีน้ำใจซึ่งเป็นข้อดี“ตอนนี้ขอเป็นน้ำผลไม้อะไรก็ได้ค่ะแต่ฉันชอบดื่มไวน์มากกว่า”“ไวน์เหรอครับ” คาร์ลชะงักไปครู่หนึ่งแล้วมองหญิงสาว“ขอโทษค่ะ พอดีฉันเวียนหัวที่ต้องฝ่ารถติดมาน่ะค่ะ”“อ้อครับ” คาร์ลพยักหน้ายิ้ม แล้วต่อสายหาผู้ช่วยด้านนอก เอ่ยชื่ออะไรสักอย่างน่าจะเป็นไวน์ฝรั่งเศส พอวางสายก็ถามหญิงสาว “เป็นไงครับ”“ขอบคุณค่ะ” โชติกายิ้มรับ ไม่รู้หรอกว่าไวน์อะไรเพราะปกติก็แค่ดื่ม ไม่ได้เสียเวลามาวิเคราะห์ชื่นชมรสชาติ จากนั้นก็เริ่มทำตัวเป็นการเป็นงานไม่ให้เขาจับได้ว่าเธอมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง “รบกวนคุณช่วยอ่านเอกสารนี่หน่อยค่ะ
“การได้วาดภาพถือเป็นการได้ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างลงในนั้น แต่ผมอยากรู้ว่าคุณได้แรงบันดาลใจมากจากไหน”โชติกาช้อนสายตามองชายหนุ่ม“จากเรื่องทั่วไปที่พบเจอในชีวิตประจำวันบวกกับจินตนาการนิดหน่อย ฉันชอบที่จะเอาสิ่งเหล่านั้นมาเสนอในมุมมองของฉัน อย่างเช่นลองนึกถึงภาพสุนัขสองตัวถูกขังอยู่ด้วยกันในฤดูผสมพันธุ์เป็นไงคะ”“อืม เป็นภาพที่ชัดเจนมาก” ชายหนุ่มพยักหน้าเมื่อเข้าสู่บทสนทนาเช่นนี้ บรรยากาศในห้องจากที่เคยราบเรียบผ่อนคลายเปลี่ยนมาเป็นเข้มข้นหนาหนัก สายตาที่ชายหนุ่มใช้มองหญิงสาวคล้ายมีเปลวเพลิงอยู่ในนั้น กวาดโลมเลียประเมินสิ่งที่สะดุดตาที่สุดบนตัวหญิงสาวโชติกาบังคับตัวเองให้อยู่นิ่งไม่บิดไปมาเพราะรู้สึกเสียวซ่านวูบโหวงท้องน้อยเมื่อถูกสายตามคมจ้องมอง รู้ว่าดึงความสนใจของซีอีโอหนุ่มได้สำเร็จ แต่ถ้าเทียบกันเธอไม่ใช่คู่ต่อกรของเขาเลยแม้แต่น้อยคาร์ลกำลังจะพูดบางอย่างแต่ถูกขัดจังหวะโดยเลขาฯ ที่นำไวน์เข้ามาเสิร์ฟ รู้สึกหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะแต่ไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไร เขาไม่ใช่คนที่ไม่พอใจอะไรก็ไปลงกับลูกน้อง“ขอบคุณค่ะ” โชติกากล่าวยิ้มให้เลขาฯ ชายหนุ่ม“คุณเบญครับ ผมกำลังคุยเรื่องสำคัญอยู่ อย่า
“ทำไมล่ะ” เขาถามโดยที่ยังก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่“ฉันแค่อยากรู้น่ะค่ะ ฉันว่าน่าสนใจ ฉันชอบกินช็อกโกแลตมาก”คราวนี้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น ยิ้มบาง ยืดตัวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดูเหมือนเหนื่อยหน่ายกับคำถามแบบนี้ แต่นั่นทำให้โชติการู้ว่าตัวเองสำเร็จไปอีกหนึ่งขั้น เธอฟังเขาเริ่มตอบคำถามเหมือนกับบทสัมภาษณ์ที่เคยอ่านจากโซเชียลมีเดีย คิดว่าเขาคงตอบคำถามแบบนี้มาเป็นร้อยรอบ ระหว่างนั้นเธอก็ยกไวน์ขึ้นจิบ มองริมฝีปากหยักได้รูปที่ขยับตามการพูดจนเคลิ้ม เผลอจินตนาการว่าถูกริมฝีปากนี้รุกเร้าไปทั่วร่างผมชายหนุ่มเป็นสีน้ำตาลเข้ม ตัดรองทรงสูง แต่ไม่ได้ใส่เจลให้ลุคเป็นธรรมชาติ ขับให้ใบหน้าคมดูหล่อน่าหลงใหลสะกดตาคนมอง โชติกามารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มือใหญ่ยกขึ้นเสยผมคาร์ลหยุดพูด โน้มตัวมาข้างหน้า มุมปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์มองหญิงสาว“น่าสนใจจังค่ะ” โชติกาไม่รู้จะพูดอะไร สิ่งที่เขาพูดไม่เข้าหัวเลยแม้แต่น้อย เพราะมัวแต่เคลิ้มมองเขาอยู่“เหรอครับ” คาร์ลจ้องหญิงสาวด้วยสายตารู้ทัน วางปากกาลงบนโต๊ะ “คุณได้ยินสิ่งที่ผมพูดด้วยเหรอ ผมเห็นคุณเอาแต่เหม่อจ้องผม”แค่ก ๆ ๆ โชติกาสำลักไวน์ที่กำลังจิบอยู่จนชายหนุ่มรีบลุกขึ้นมาช่วย