“ทำไมล่ะ” เขาถามโดยที่ยังก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่
“ฉันแค่อยากรู้น่ะค่ะ ฉันว่าน่าสนใจ ฉันชอบกินช็อกโกแลตมาก”
คราวนี้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น ยิ้มบาง ยืดตัวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดูเหมือนเหนื่อยหน่ายกับคำถามแบบนี้ แต่นั่นทำให้โชติการู้ว่าตัวเองสำเร็จไปอีกหนึ่งขั้น เธอฟังเขาเริ่มตอบคำถามเหมือนกับบทสัมภาษณ์ที่เคยอ่านจากโซเชียลมีเดีย คิดว่าเขาคงตอบคำถามแบบนี้มาเป็นร้อยรอบ ระหว่างนั้นเธอก็ยกไวน์ขึ้นจิบ มองริมฝีปากหยักได้รูปที่ขยับตามการพูดจนเคลิ้ม เผลอจินตนาการว่าถูกริมฝีปากนี้รุกเร้าไปทั่วร่าง
ผมชายหนุ่มเป็นสีน้ำตาลเข้ม ตัดรองทรงสูง แต่ไม่ได้ใส่เจลให้ลุคเป็นธรรมชาติ ขับให้ใบหน้าคมดูหล่อน่าหลงใหลสะกดตาคนมอง โชติกามารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มือใหญ่ยกขึ้นเสยผม
คาร์ลหยุดพูด โน้มตัวมาข้างหน้า มุมปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์มองหญิงสาว
“น่าสนใจจังค่ะ” โชติกาไม่รู้จะพูดอะไร สิ่งที่เขาพูดไม่เข้าหัวเลยแม้แต่น้อย เพราะมัวแต่เคลิ้มมองเขาอยู่
“เหรอครับ” คาร์ลจ้องหญิงสาวด้วยสายตารู้ทัน วางปากกาลงบนโต๊ะ “คุณได้ยินสิ่งที่ผมพูดด้วยเหรอ ผมเห็นคุณเอาแต่เหม่อจ้องผม”
แค่ก ๆ ๆ โชติกาสำลักไวน์ที่กำลังจิบอยู่จนชายหนุ่มรีบลุกขึ้นมาช่วยลูบหลัง
“คือว่าฉันค่อนข้างทำหลายสิ่งในเวลาเดียวกันได้ดีค่ะ” เธอแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ยังไม่หยุดสำลักจึงรับแก้วไวน์มาค่อย ๆ จิบ รู้สึกแสบคอไปหมด
“แต่คงไม่ค่อยถนัดเรื่องกลืนน้ำลงคอใช่มั้ยครับ” คาร์ลเย้า กวาดตามองทั่วเรือนร่างหญิงสาวก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากอิ่มน่าจูบ
“นั่นขึ้นอยู่กับว่าอะไรอยู่ในปากฉันมากกว่าค่ะ” โชติกาส่งสายตาท้าทาย “คุณมักดูถูกผู้หญิงแบบนี้เหรอคะ หรือว่าเป็นเฉพาะกับฉัน”
“ต้องบอกว่าเฉพาะคนที่ทำให้ผมขึ้นมากกว่า”
“แล้วมีเยอะมั้ยคะคนแบบนั้น”
“หึ คุณคิดว่าไงล่ะ คงจะต้องโทษสัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวผม” คาร์ลหรี่ตาจ้องหญิงสาว
“เหมือนคุณกำลังบอกว่าคุณชอบให้ผู้หญิงเป็นเหยื่อส่วนคุณเป็นผู้ล่า” โชติกาแสยะมุมปากจ้องตายั่วชายหนุ่ม
“คำถามนี้จำเป็นสำหรับโครงการคุณมั้ยหรือว่าเป็นความอยากรู้ส่วนตัว”
“ไม่เกี่ยวกับสโมฯ หรอกค่ะ เป็นฉันเองที่อยากรู้มากกว่า เอ่อ…คุณแต่งงานรึยังคะ ฉันเห็นรูปคุณที่ถ่ายคู่กับผู้หญิงที่ยืนอมอมยิ้มอยู่ คุณกับเธอ...”
คำถามนี้เปลี่ยนอุณหภูมิในห้องที่กำลังสูงขึ้นเรื่อย ๆ ลดต่ำลงทันที
“ผมกำลังเฟลิร์ตกับคุณอยู่แบบนี้แต่คุณกลับคิดแบบนั้นอีกเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเย็น ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะการที่หญิงสาวคิดอย่างนั้นแสดงว่าเขาเป็นคนไม่ซื่อสัตย์หากกำลังมีคนคบหาอยู่ ซึ่งที่จริงแล้วเขายังโสด
“ขอโทษค่ะ” โชติกาหน้าเสีย รู้ตัวว่าพลาดไปเสียแล้ว
“การที่ผมยอมให้คุณสัมภาษณ์หมายความว่าคุณสามารถถามคำถามล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของผมได้งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นผมคงถอนต้องถอนสปอนเซอร์”
“ไม่ใช่ค่ะ ฉัน…คือฉัน…เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทางมหาวิทยาลัยเลยค่ะ ฉันแค่…อยากรู้เป็นการส่วนตัว” หญิงสาวสำนึกผิดตอบเสียงแผ่ว แต่ถูกชายหนุ่มกระชากตัวลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วก็ปล่อยมือไปหยิบโทรศัพท์มาต่อสาย โชติกาหวาดกลัวจึงถามออกไป “คุณโทรหาใครคะ”
“เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยน่ะสิ จะได้มาลากก้นสวย ๆ ของเธอออกไปซะ”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณกำลังเข้าใจผิด” โชติการีบร้องห้าม
“เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณกำลังเข้าใจผิด” โชติการีบร้องห้ามพยายามจะอธิบาย
“เข้าใจผิด แบบไหนล่ะ” ชายหนุ่มเสียดสีแต่หยุดรอฟัง อยากรู้ว่าสาวสวยคนนี้จะมีข้อแก้ตัวว่าอย่างไร
“ค่ะ ๆ คือว่า…ฉันยอมรับผิดทั้งหมด คือว่า…”
“พูดออกมา”
“ค่ะ สโมฯ ไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นคนมาสัมภาษณ์คุณ ที่จริงต้องเป็นเพื่อนฉันที่ได้รับหน้าที่นี้ เธอเป็นคนขี้เบื่อแล้วก็ชอบเซ็กซ์ เราเป็นรูมเมทกันฉันก็เหมือนโดนเป่าหูให้ชอบด้วยเหมือนกัน แต่ว่าฉันไม่ได้มีประสบการณ์มากเหมือนเธอ เราสองคนก็เล่นกันไปเรื่อย แต่ฉันมีครั้งแรกที่แย่มาก เอ่อ…ที่จริงฉันกับผู้ชายคนนั้นยังไม่ถึงขั้นนั้น เขาเสร็จคามือตัวเองก่อนที่จะได้ทำอะไรกันซะอีก ฉันยังไม่ทันจะถอดเสื้อผ้าเลยด้วยซ้ำ ฉันก็เลยยังเวอร์จิ้นอยู่ แล้วฉันก็เห็นรูปคุณในเน็ต ฉันว่าคุณดูฮอตมาก พอดีกับที่เพื่อนฉันต้องเอาเอกสารมาให้คุณเซ็น คือเธอเป็นพวกชอบคิดอะไรแผลง ๆ อยู่แล้วเลยบอกให้ฉันเป็นคนเอามาให้คุณเซ็นแทน แล้ว…เผื่อบางทีจะได้ยั่วให้คุณพาขึ้นเตียงได้สำเร็จ ฉันเองก็บ้าจี้ตามโดยไม่ทันคิด ฉันขอโทษค่ะ คุณไม่ต้องเรียก รปภ. มาลากตัวฉันออกไปหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันกลับเอง ขอแค่ว่าอย่ารายงานเรื่องนี้กับทางมหาลัยก็พอ เป็นฉันที่คิดน้อยเอง”
หญิงสาวอธิบายเสียยืดยาว แต่มีประโยคเดียวที่สะท้อนในหัวคาร์ล
“เธอยังเวอร์จิ้นอยู่เหรอ!” เขาโพล่งถามก่อนที่จะทันยั้งปาก ไม่คาดคิดว่าหญิงสาวที่อ่อยเขาจนมองถึงจุดประสงค์ได้อย่างง่ายดายจะยังไม่เคยผ่านมือชาย
โชติการู้สึกแย่มากเหมือนตอกย้ำ เธอไม่ได้เป็นคนเคร่งรักษาพรหมจรรย์ให้คนที่รักหรอก แต่ที่ยังอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้เป็นเพราะก่อนหน้านี้สมัยเรียนไม่ได้สนใจใคร พอมีโอกาสเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ แล้วมาคบเพื่อนอย่างนรียาเธอจึงอยากมีความรู้สึกแบบนั้นบ้าง แต่ว่าจะเสียตัวทั้งทีก็อยากมีประสบการณ์ที่น่าประทับใจจะได้ไม่รู้สึกเสียดาย
เสียงประตูห้องถูกกระแทกปิดโดยแรง ทำให้โชติกาต้องหรี่เสียงทีวีลงเพื่อเงี่ยหูฟังว่าใครเข้ามา คิดว่าจะนอนดูทีวีต่อหรือจะรีบเผ่นดีหากเป็นคนร้ายที่กำลังบุกรุกเข้ามา แต่คิดว่าเธอคิดมากไปเองเพราะตั้งแต่หน้าคอนโดยันประตูหน้าห้องมีระบบการป้องกันอย่างแน่นหนา แล้วเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังกึก ๆ ทำให้เธอรู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร“กลับมาแล้วเหรอ แนน?” หญิงสาวตะโกนถามออกไปนอกห้องเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นนรียา รูมเมทของเธอจริง ๆ“ยังไม่กลับ!” เสียงตอบกลับยียวนไม่สบอารมณ์“อย่ามากวนสิ” นรียาตะโกนตอบออกไป“เออ...ฉันกลับมาแล้ว” เพื่อนสาวโผล่หน้าที่ประตูห้องนอนก่อนเดินเข้ามาในห้อง“อ้าวทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ ไหนว่าไปกับโก้ไง” โชติกาแปลกใจเพราะผิดปกติ ถ้านรียาออกไปกับหนุ่ม ๆ หมายความว่าจะออกไปทั้งคืน ฟ้าไม่สว่างไม่กลับเพราะรายนี้ใช้ชีวิตเต็มที่ แต่ท่าทางที่ทิ้งตัวนอนบนเตียงทำให้พอคาดเดาอะไรได้ “แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”นรียาทิ้งตัวลงบนเตียง ถอนหายใจ “ห่วยแตก! หมอนั่นนะแก เล้าโลมฉันเป็นชั่วโมงจนฉันมีอารมณ์สุด ๆ แต่เวลาเอาเข้าจริง จิ้มฉันสองทีเสร็จ ยังไม่ทันจะรู้สึกอะไรเลย หงุดหงิดโว้ยยย!”“หูยยยยยเจ็บว่ะ” โชติกาส
โชติกาถูกปลุกด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก เธอดึงผ้าห่มคลุมโปงแล้วจะนอนต่อเพราะง่วงมากยังไม่อยากตื่น“ไม่ต้องเลยชะพลู ตื่นได้แล้ว ไม่งั้นจะเข้าเรียนสาย แกคงไม่อยากขาดเรียนคาบอาจารย์สุดหล่อหรอกใช่มั้ย”“สุดหล่อของแกน่ะสิแนน ฉันเฉย ๆ แต่ทำไมแกตื่นเช้าขนาดนี้อะ เพิ่งจะเจ็ดโมง”นรียาเบ้ปากหัวเราะ “โก้ส่งข้อความมาหาฉันแต่เช้าเลย บอกว่าเมื่อคืนมีความสุขมาก อยากชวนฉันไปเดทอีก”คราวนี้โชติกาหัวเราะบ้าง แล้วลุกไปอาบน้ำแต่ก็ไม่วายบ่น “ขี้เกียจไปเรียนอะ”“งั้นจะโดดมั้ย” นรียาหาแนวร่วมเพราะขี้เกียจเหมือนกัน“ไม่อะ เอาไว้วันอื่นดีกว่า”“ก็แค่นั้น งั้นแกก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว”**********โชติกาคิดว่าตัวเองโชคดีที่วันนี้ตัดสินใจไม่โดดเรียนเพราะอาจารย์มีควิซแบบไม่ได้บอกล่วงหน้า พอหมดคาบสุดท้ายเธอก็คิดจะกลับเลยเพราะวันนี้หนักทุกวิชาแม้จะเรียนแค่ครึ่งเช้า พอเดินออกมาถึงหน้าตึกก็ได้ยินเสียงทัก“จะกลับแล้วเหรอครับชะพลู”โชติกาหันไปมอง เห็นเป็นหนุ่มต่างคณะ เธอไม่รู้จักเขา แต่ก็ไม่ได้สนใจว่าเขารู้จักเธอได้อย่างไร คงเหมือนกับผู้ชายคนอื่นที่เข้าหาเธอ แล้วดูสายตาที่มองมา ไม่ได้จ้องที่หน้า แต่จ้องอยู่ที่หน้าอ
“จริง ยิ่งไปกว่านั้นนะ แกรู้มั้ยว่าใครจะได้เป็นคนไปติดต่อเรื่องงานเอกสาร”“อย่าบอกนะว่าเป็นแก”นรียาสะบัดบ๊อบอีกรอบแล้วทำหน้าเชิ่ด “แหงซะ ตอนนั้นฉันอยู่ที่สโมฯ พอดีเลยรีบคว้าโอกาสทองนี้ซะก่อน”“เกลียดแกว่ะ” โชติกาแกล้งค้อนเพื่อนจึงได้รับเสียงหัวเราะตอบ“แล้วแกจะรักฉัน เพราะฉันจะให้แกเป็นคนเอาไปให้เขาเซ็น พอเซ็นแล้วแกต้องขอเขาถ่ายรูปเอามาลงประชาสัมพันธ์หน้าเว็บมหาลัยด้วย”นรียายื่นเอกสารในมือให้ โชติการับมาอ่านดูคร่าว ๆ“แล้วฉันจะต้องไปให้เขาเซ็นวันไหนอะ”“ตามที่ทางนั้นบอกมาคือเขาว่างแค่วันนี้ตอนห้าโมงเย็น”“อะไรนะ!” โชติกาไม่คิดว่าจะกะทันหันขนาดนี้“เห็นว่าเขากำลังติดพันเรื่องสินค้าตัวใหม่อยู่หรืออะไรเนี่ยแหละ”โชติกาพยักหน้าเข้าใจ นรียาเลยต้องกระตุ้น“วันนี้วันศุกร์ รถติดโคตร ๆ ฉันว่าแกรีบไปตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า เอารถฉันไป” เธอยัดกุญแจรถใส่มือเพื่อน“เดี๋ยว ๆ แล้วฉันจะแต่งตัวยังไงดี” เอาจริงโชติกาก็อดตื่นเต้นไม่ได้ แค่เห็นรูปชายหนุ่มเมื่อคืนใจเธอก็สั่น ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าแค่เห็นก็ชอบ แน่นอนว่าให้ไปเจอเขาด้วยชุดนักศึกษาน่ะเหรอ ไม่มีทางซะหรอก“เชื่อมือฉันได้เลย” ว่าจบนรียาก็จูงมือเพื่อ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณคาร์ล และขอบคุณที่อุตส่าห์ยอมสละเวลาให้ฉันเข้าพบนะคะ”“พอดีผมรู้จักกับอธิการน่ะครับ เชิญนั่งก่อนครับ” ชายหนุ่มผายมือยังเก้าอี้ด้านหน้า“ขอบคุณค่ะ” โชติกาเลื่อนเก้าอีกหน้าโต๊ะทำงานออกนั่ง ส่วนชายหนุ่มเดินอ้อมกลับไปนั่งหลังโต๊ะ“ผมค่อนข้างจะยุ่งมาก ๆ ขอให้คุณอธิบายสั้น ๆ ได้มั้ยครับ” คาร์ลเอ่ยเข้าประเด็น“ค่ะ ฉันเข้าใจได้” โชติกาตอบแต่แกล้งไอหนัก ๆ หลาย ๆ ที หวังว่าชายหนุ่มจะสังเกตเห็น“คุณต้องการดื่มอะไรมั้ยครับ”เยส!อย่างน้อยเขาก็แสดงให้เห็นว่ามีน้ำใจซึ่งเป็นข้อดี“ตอนนี้ขอเป็นน้ำผลไม้อะไรก็ได้ค่ะแต่ฉันชอบดื่มไวน์มากกว่า”“ไวน์เหรอครับ” คาร์ลชะงักไปครู่หนึ่งแล้วมองหญิงสาว“ขอโทษค่ะ พอดีฉันเวียนหัวที่ต้องฝ่ารถติดมาน่ะค่ะ”“อ้อครับ” คาร์ลพยักหน้ายิ้ม แล้วต่อสายหาผู้ช่วยด้านนอก เอ่ยชื่ออะไรสักอย่างน่าจะเป็นไวน์ฝรั่งเศส พอวางสายก็ถามหญิงสาว “เป็นไงครับ”“ขอบคุณค่ะ” โชติกายิ้มรับ ไม่รู้หรอกว่าไวน์อะไรเพราะปกติก็แค่ดื่ม ไม่ได้เสียเวลามาวิเคราะห์ชื่นชมรสชาติ จากนั้นก็เริ่มทำตัวเป็นการเป็นงานไม่ให้เขาจับได้ว่าเธอมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง “รบกวนคุณช่วยอ่านเอกสารนี่หน่อยค่ะ
“การได้วาดภาพถือเป็นการได้ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างลงในนั้น แต่ผมอยากรู้ว่าคุณได้แรงบันดาลใจมากจากไหน”โชติกาช้อนสายตามองชายหนุ่ม“จากเรื่องทั่วไปที่พบเจอในชีวิตประจำวันบวกกับจินตนาการนิดหน่อย ฉันชอบที่จะเอาสิ่งเหล่านั้นมาเสนอในมุมมองของฉัน อย่างเช่นลองนึกถึงภาพสุนัขสองตัวถูกขังอยู่ด้วยกันในฤดูผสมพันธุ์เป็นไงคะ”“อืม เป็นภาพที่ชัดเจนมาก” ชายหนุ่มพยักหน้าเมื่อเข้าสู่บทสนทนาเช่นนี้ บรรยากาศในห้องจากที่เคยราบเรียบผ่อนคลายเปลี่ยนมาเป็นเข้มข้นหนาหนัก สายตาที่ชายหนุ่มใช้มองหญิงสาวคล้ายมีเปลวเพลิงอยู่ในนั้น กวาดโลมเลียประเมินสิ่งที่สะดุดตาที่สุดบนตัวหญิงสาวโชติกาบังคับตัวเองให้อยู่นิ่งไม่บิดไปมาเพราะรู้สึกเสียวซ่านวูบโหวงท้องน้อยเมื่อถูกสายตามคมจ้องมอง รู้ว่าดึงความสนใจของซีอีโอหนุ่มได้สำเร็จ แต่ถ้าเทียบกันเธอไม่ใช่คู่ต่อกรของเขาเลยแม้แต่น้อยคาร์ลกำลังจะพูดบางอย่างแต่ถูกขัดจังหวะโดยเลขาฯ ที่นำไวน์เข้ามาเสิร์ฟ รู้สึกหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะแต่ไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไร เขาไม่ใช่คนที่ไม่พอใจอะไรก็ไปลงกับลูกน้อง“ขอบคุณค่ะ” โชติกากล่าวยิ้มให้เลขาฯ ชายหนุ่ม“คุณเบญครับ ผมกำลังคุยเรื่องสำคัญอยู่ อย่า