สามีเดินทางไกล ตงเยี่ยหรงไม่อยากห่างจากซ่างเป่าเหลียนสักเท่าใด ตัวนางก็ไม่ได้ทำให้เขาเป็นกังวล “เดินทางไกลเช่นนี้ เทียนเกอรักษาตัวด้วย” นางบอกเขาและมองดูม้าตัวโต กับสิ่งของต่างๆ ที่จัดเตรียมให้ชายหนุ่ม ยามนี้ใจโหวงพิกล แต่ก็ไม่คิดเอ่ยสิ่งใดที่จะทำให้เขาคิดมาก “ลูกเต่าน้อย ลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อใด ข้าจะมารับขวัญเขาทันที” “ได้ ข้าจะรอให้ท่านเรียกชื่อของเขาเป็นคนแรก หากไม่พบหน้าท่าน เด็กคนนี้จะไร้แซ่ ไร้ชื่อ” นางประกาศเช่นนั้น คนที่ยืนด้านหลังออกไป ก็อดใจคอไม่ดี เนื่องจากรู้ว่า สถานการณ์บ้านเมืองคับขันมาก แต่ซ่างเป่าเหลียนอ่านนิยายเรื่องนี้จบแล้ว อย่างไรตงเยี่ยหรงก็มีชีวิตรอด ส่วนเจ้าของร่างแม้ชีวิตพลิกผลัน แต่ก็อยู่จนวาระสุดท้ายของหน้านิยาย และนี่จะทำให้นางใช้ความรู้ ที่มีเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ส่วนตงเยี่ยหรงก็ปกป้องราษฎรและบ้านเมืองนั่นคือสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุด และยามนี้ สถานการณ์บีบบังคับเหลือเกิน ฟ่านเทียนโหวได้ยึดครองพื้นที่ต่างๆ ของแคว้นเจียงหนาน โดยเป็นฝ่ายหนุนหลังหลี่หว่านอี้ (องค์ชายสี่) ฝ่ายนั้นยอมพลีชีพทั้งพระชายาของตน รวมถึงลูกชา
ซุนหรานกับลู่เถียน หากนับเวลาแล้ว ตอนนี้เกือบสี่เดือนเศษที่ซ่างเป่าเหลียนมาอยู่เรือนบ้านสวน ซึ่งของใช้ต่างๆ นางมีครบ ถึงอย่างนั้นยังขาดบางส่วนที่ต้องการ เป็นเกลือบ้าง แป้งทำขนมบ้าง รวมถึงด้ายที่ใช้เย็บผ้า อนึ่งด้วยสิงตู้เหยายังเป็นเด็กสาว การให้นางได้ออกไปสูดอากาศด้านนอก ย่อมเป็นสิ่งที่ดี “เสี่ยวเหยาห้ามเหลวไหลเชียว ได้ของแล้วจงกลับทันที และอาซ่งสั่งสิ่งใด เจ้าต้องเชื่อฟังเขา” “แม่บ้านหวัง ข้าเป็นเด็กดี ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อคำสั่งสักครั้ง ไม่อย่างนั้นนายหญิงจะอนุญาต ให้ไปซื้อของหรือ” สิงตู้เหยาตอบ และมองไปยังท้องของซ่างเป่าเหลียน มันโตขึ้นมาก ด้วยเหตุนี้ ทุกอย่างจึงต้องรีบเตรียมการแต่เนิ่นๆ “นายหญิงเจ้าคะ บ่าวจะซื้อของเล่นมาไว้ให้คุณชายน้อยด้วย” สิงตู้เหยาว่าแล้วก็ล้วงเข้าไปในอกเสื้อ นางมีเงินอยู่จำนวนหนึ่ง เก็บไว้ตั้งแต่เริ่มทำงาน และมากพอจะซื้อสิ่งของได้ตามใจ “อย่าลำบากเลยเสี่ยวเหยา สิ่งใดที่เจ้าอยากได้ ซื้อให้ตนเถิด ส่วนลูกของข้านั้น หากประหยัดได้ นับว่าดี” แม้ได้ยินอย่างนั้น แต่สิงตู้เหยาอยากซื้อทั้งกำไรข้อมือ ข้อเท้า รวมถึงเส
ซ่างเป่าเหลียนออกจากเรือนบ้านสวนด้วยรถม้า และใช้เวลาเดินทางเพียงประเดี๋ยวเดียว ถ้ำดังกล่าวอยู่ไม่ไกลนัก แต่ลับตาคน ทั้งมีค่ายกลด้วย ยามนี้สิงตู้เหยาทำความสะอาดบาดแผลเบื้องตนให้เด็กทั้งสองแล้ว ฝ่ายลู่เถียนหลับสนิท กระนั้นยังมีน้ำตาไหลอาบข้างแก้ม ส่วนซุนหรานอาการน่าเป็นห่วง ซ่างเป่าเหลียนหยิบของออกมาจากหีบยาเทพธิดา นางต้องเอาลูกธนูออก และฉีดยาให้เขา ยามนั้นมีทั้งหวังตัน และสิงตู้เหยาเป็นลูกมือ ส่วนโจวซ่งดูต้นทางด้านนอก การรักษาเด็กทั้งคู่แม้จะยุ่งยากสักหน่อย แต่เป็นไปด้วยดี ซึ่งทั้งหวังตัน สิงตู้เหยานับว่าที่มีความก้าวหน้ายอดเยี่ยม ในการปฐมพยาบาล จึงผ่อนแรงของซ่างเป่าเหลียนไปได้มาก ทว่าตลอดเวลาที่ซ่างเป่าเหลียนวุ่นวายอยู่นั้น เสี่ยวซานสนุกที่นางเลี้ยง แสดงพฤติกรรมแปลกๆ เดี๋ยวเห่า ขู่ และวิ่งไปมาด้านนอก “คงมีบางสิ่งที่ผิดปกติ เสี่ยวเหยาออกไปดูด้านนอก และให้อาซ่งตรวจสอบทุกอย่างมากกว่าปกติ” หญิงสาวบอกอีกฝ่าย สิงตู้เหยารู้ว่าความต้องการของนางคือสิ่งใด ฝ่ายโจวซ่งได้รับข้อมูลจากนกพิราบสื่อสาร แจ้งว่ายามนี้มีการเคลื่อนไหวของไคซี เรื่องนี้
ข้อแลกเปลี่ยน นอกจากซุนหรานที่มีระเบิดผูกไว้กับร่างกาย คนในโรงเตี๊ยมอีกหลายคนก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากเด็กชาย และนั่นทำให้ซ่างเป่าเหลียนต้องตัดสินใจด่วนว่าจะทำเช่นไร “ฮูหยิน เสี่ยงอันตรายเกิดไป อีกอย่างแม้จะช่วยอีกฝ่ายให้คลอดสำเร็จ แต่ท่านจะถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ดี” ซ่างเป่าเหลียนพยักหน้าเข้าใจ และตอบหวังตัน “ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยถูกรั่วจิ้งจับเป็นตัวประกัน แต่ยามนี้นางคงต้องการตัวข้า นั่นทำให้รู้ว่าครรภ์นางมีปัญหาแน่นอน อีกอย่างจนกว่านางจะคลอด และเด็กปลอดภัยดี ข้าย่อมมีชีวิตอยู่ แม่บ้านหวังคิดว่า ช่วงเวลาดังกล่าว แม่ทัพตงจะทำการสำเร็จหรือไม่” หวังตันไม่อยากตอบเรื่องนี้ และนางโอดครวญว่า “อย่างไร ท่านจะเป็นตัวประกันฝ่ายฟ่านเทียนโหวไม่ได้” “ที่แม่บ้านหวังกล่าวมาถูกต้อง แต่ความปลอดภัยของข้า สำคัญก็ส่วนหนึ่ง แต่ไม่เท่ากับสิ่งที่แม่ทัพตงกำลังกระทำอยู่” “ฮูหยินหมายถึง...” “เมื่อข้าอยู่กับศัตรู ย่อมรักษาชีวิตตนกับเด็กในครรภ์ไว้ได้ ฟังแล้วอาจเป็นเรื่องน่าขัน แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องหนีไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจทำให้มีคนล้มตายมากมาย อีกอย่
รักษาไข้หวัด ซ่างเป่าเหลียนให้ความสนใจกับโรงสมุนไพรของรั่วจิ้งมาก เพราะมีทั้งสิ่งที่ช่วยรักษาโรคและทำให้เกิดพิษ นี่คือความสามารถของคนสกุลฟ่าน ซึ่งนับว่าใช้ประโยชน์ได้ดี ในช่วงนี้ นางยังดูแลรั่วจิ้งอย่างดี ไม่ได้คิดจะวางยา เพื่อให้อีกฝ่ายป่วยไข้ เหตุนี้รั่วจิ้งจึงมีอาการดีวันดีคืน หากสายตาของอีกฝ่ายยังพร่าเบลอ ส่วนการมองเห็นของซ่างเป่าเหลียน กลับมาดีขึ้นเป็นลำดับ ที่โรงสมุนไพรแห่งนี้ นับว่ามีงานให้ทำตลอด ซึ่งหากสำรวจให้ดี แพทย์ที่เห็นอยู่ในกลุ่ม บางคนมาจากค่ายทหารสกุลตง “นายหญิง คนพวกนั้นบ่าวจำได้” “อย่าได้เสียงดังไป ข้าก็รู้เหมือนกับเสี่ยวเหยา เหตุนี้ จึงทำให้แม่ทัพตงมีพิษตกค้างในร่างกาย คงเป็นเพราะมีสายลับของฟ่านเทียนโหวปะปนอยู่มิน้อย เจ้ารู้หรือไม่ ผู้ใดดูแลเรื่องเสบียง และยารักษาโรคของสกุลตง” สิงตู้เหยาคิดอยู่พักใหญ่ นางก็ร้องอ๋อ “หากจำไม่ผิด คุณชายห้าและสกุลเดิมของเขาเจ้าค่ะ” “เยี่ยงนั้น ทุกอย่างก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ยามนี้ การที่ข้ามาอยู่ที่นี่ นับว่าฟ้าลิขิตไว้ เอาล่ะ จากนี้เราต้องปรุงยาไว้หลายเทียบ เพื่อใช้
ไม่ยอมตกเป็นหมากของคนชั่ว ซ่างเป่าเหลียนไม่ได้ยังอยู่ที่ส่วนพักผ่อนของรั่วจิ้ง พอตกค่ำอีกฝ่ายหนาวสั่น ทั้งมีอาการเพ้อ นางมีไข้อ่อนๆ ได้กินยาแล้วดีขึ้นบ้าง ทว่ากลับมีเรื่องให้คิดมากมาย จึงทำให้ป่วยใจ แล้วส่งผลถึงร่างกาย “ฮูหยิน หากเกิดเรื่องร้ายกับนาง จะส่งผลถึงเราหรือไม่เจ้าคะ” คำถามจากหวังตัน ทำให้ซ่างเป่าเหลียนตระหนักได้ว่า ชีวิตทุกคนซึ่งอยู่ที่นี่ เป็นตายรั่วจิ้งล้วนเป็นผู้กำหนด “ขอแค่อย่าประมาท อีกอย่าง... เท่าที่ข้ารู้ อย่างไร รั่วจิ้งก็ไม่มีหมอคนอื่นช่วยนางได้ในยามนี้ และถึงจะหามาได้ก่อนนางคลอด ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ตัวข้ามีความรู้ไม่มากไม่น้อย แต่เชื่อว่า หากนางทำตามที่บอกไว้อย่างเคร่งครัด อย่างไรย่อมได้หลานให้แก่ฟ่านเทียนโหวแน่นอน” ซ่างเป่าเหลียนกล่าวจบ คนที่นางไม่อยากเห็นหน้าที่สุดในยามนี้ก็ปรากฏตัว ไคซีมีสีหน้าที่เครียด น้ำเสียงเขาที่สื่อสารกับซ่างเป่าเหลียนทำให้รู้ว่า มีแผนมากมายในใจ และเขาไม่อยากให้นางอยู่ที่นี่ “ข้าต้องการพูดคุยกับอาเหลียนเพียงลำพัง จงตามข้าไปเถิด” หญิงสาวหันไปส่งสัญญาณให้ หวังตันอีกฝ่าย ไม่ได้แสดงท่าทางตื่นต
ทั้งใต้หล้านี้ ข้ากลัวคนผู้เดียว หลายวันผ่านไปกระทั่งถึงช่วงเวลาที่รั่วจิ้งคลอด ความโกลาหลต่างๆ ก็เกิดขึ้น ภายนอกป้อมลับ มีกองกำลังจะบุกเข้ามา คือกลุ่มคนที่เครียดแค้นต่อไคซี และฟ่านเทียนโหว หากยังนับว่าดีที่ มีมือสังหารช่วยตึงกำลังไว้ ยามนั้นโจวซ่งได้ส่งสัญญาณขอหน่วยเสริม พร้อมจัดเตรียมรถม้าสำหรับการหลบหนีของซ่างเป่าเหลียน “ฮูหยิน นับแต่ก้าวจากค่ายทหารของแม่ทัพตงครั้งนั้น ไม่หน้าเชื่อว่า อยู่ที่ใดก็ต้องเดินทางเสมอ” ซ่างเป่าเหลียนหันมาทางหวังตันแล้วตอบว่า “ฟ้าลิขิตไว้เช่นนี้ จำที่ข้าบอกไว้ได้หรือไม่ เมื่อกลับเมืองหลวงเมื่อใด ที่นั่นทุกคนจะอยู่อย่างสงบ และไม่ต้องลำบากหลบหนีศัตรูแน่นอน” “ฮูหยินมั่นใจเช่นนั้น ว่าเราจะได้ไปเมืองหลวง ข้าก็ตั้งตารอจริงๆ ทว่ายามนี้ แคว้นเจียงหนานมีอี้อ๋องเป็นใหญ่ เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ หรือ” “ได้สิ แม่ทัพตงจะเป็นคนพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดี เขาไม่ลืมคำพูดที่ให้ไว้กับข้าแน่นอน” หญิงสาวว่า แล้วมองไปยังรั่วจิ้ง อีกฝ่ายซึ่งมีอาหารเจ็บครรภ์ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนสงบลง อีกทั้งนางใกล้คลอดเต็มที “ข
จางเจี้ยนสวมรอยเป็นไคซีต่อไป แล้วพาขบวนเล็กๆ ของซ่างเป่าเหลียนออกไปด้านนอกป้อมลับด้วยทางใต้ดิน การเดินทางไม่ได้ยาก หรือน่าหวาดหวั่นเกินไป เพราะมีอุโมงค์ยาวพาออกไปนอกพื้นที่ กระทั่งหมดเตรียมขึ้นรถม้าไปให้ไกลพื้นที่การต่อสู้ ร่างเด็กชายก็ปรากฏพร้อมมือสังหารกลุ่มหนึ่ง “เสี่ยวหรานหรอกหรือ” สิงตู้เหยาคันไม้คันมือ นางชอบเด็ก แต่เด็กปีศาจก่อเรื่องไม่หยุดหย่อนเช่นนี้ สมควรได้รับโทษ “หมอเหลียน ข้ารู้ว่าท่านอยู่ในรถม้า โปรดแสดงตัว และมอบน้องสาวให้ข้าเสียเถอะ” ฝ่ายสิงตู้เหยาเข้ามารายงานสถานการณ์ด้านนอกต่อนายหญิงที่รถม้า และขออนุญาต จัดการเด็กชาย “อย่าให้เกิดสิ่งใดรุนแรง เราต้องผ่านพื้นที่นี้ให้ได้ ลดการสูญเสีย เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง” ซ่างเป่าเหลียนบอกสิงตู้เหยา “บ่าวย่อมเชื่อฟังนายหญิง” พูดจบ สิงตู้เหยาจึงก้าวมาอยู่ตรงหน้าเด็กชาย “เสี่ยวหราน... น้องสาวเจ้านั้น นายหญิงส่งไปร่ำเรียนวิชาต่างๆ ที่สำนักนางชี บนเขาไป๋ซาน ไฉนยังมาตามที่นี่อีก และเท่าที่ข้าจำได้ เจ้าหายตัวไปพร้อมทำเรื่องผิดต่อนายหญิง” “เจี่ย
บอกรักลูกเมีย ไคซีไม่รู้ว่าเขาพลาดตรงไหน ทั้งที่หนีจากสกุลฟ่าน มาอยู่ในพื้นของตน และตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ สักระยะ ก่อนหาทางเดินทางไปให้ไกลจากอำนาจอี้อ๋อง หากสุดท้ายเขาก็ถูกแว้งกัดจนได้ ยามนี้พอกลับเข้าป้อมสกุลไค ก็ไม่มีเงาซ่างเป่าเหลียนแล้ว ส่วนรั่วจิ้งทั้งที่พึ่งคลอดลูก นางกับตัดช่องน้อยพอตัว คงเพราะกลัวมีภัยถึงตัวจึงชิงดื่มยาพิษตายตามพี่ชายไป ไคซีคลุ้มคลั่งหนัก เขาพาคนของตนที่ยังรอดชีวิต ออกตามหาซ่างเป่าเหลียน ใช้เวลาเข้าวันที่สาม คนของเขานั้นเหลือไม่ถึงยี่สิบชีวิต บ้างก็หลบหนีไป บ้างบาดเจ็บหนักจนทนพิษไม่ไหว ยามนี้ สิ่งที่เขาคาดไม่ถึง คณะของซ่างเป่าเหลียนเดินทางเข้าใกล้เมืองหลวงทุกที ซึ่งแทนที่จะถูกคนของอี้อ๋องเข้าสกัดแล้วจับกุม กลับกลายเป็นว่ารถม้าของนางผ่านทุกด่านได้อย่างไม่ติดขัด ความรู้สึกของชายหนุ่มยามนี้ เต็มไปด้วยความกลัว หรือเป็นไปได้ว่า แผ่นดินนี้สิ้นอี้อ๋องแล้ว ทั้งที่อีกฝ่ายพึ่งก้าวขึ้นบัลลังก์ได้ยังไม่ถึงครึ่งเดือนด้วยซ้ำ ไคซีมองไปยังรถม้าที่กำลังมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ และเขาก็เร่งฝีเท้าม้า ควบทะยานมันอย่างเอาเป็นเอาตายหวังสกัดไม่ให้ซ
จางเจี้ยนสวมรอยเป็นไคซีต่อไป แล้วพาขบวนเล็กๆ ของซ่างเป่าเหลียนออกไปด้านนอกป้อมลับด้วยทางใต้ดิน การเดินทางไม่ได้ยาก หรือน่าหวาดหวั่นเกินไป เพราะมีอุโมงค์ยาวพาออกไปนอกพื้นที่ กระทั่งหมดเตรียมขึ้นรถม้าไปให้ไกลพื้นที่การต่อสู้ ร่างเด็กชายก็ปรากฏพร้อมมือสังหารกลุ่มหนึ่ง “เสี่ยวหรานหรอกหรือ” สิงตู้เหยาคันไม้คันมือ นางชอบเด็ก แต่เด็กปีศาจก่อเรื่องไม่หยุดหย่อนเช่นนี้ สมควรได้รับโทษ “หมอเหลียน ข้ารู้ว่าท่านอยู่ในรถม้า โปรดแสดงตัว และมอบน้องสาวให้ข้าเสียเถอะ” ฝ่ายสิงตู้เหยาเข้ามารายงานสถานการณ์ด้านนอกต่อนายหญิงที่รถม้า และขออนุญาต จัดการเด็กชาย “อย่าให้เกิดสิ่งใดรุนแรง เราต้องผ่านพื้นที่นี้ให้ได้ ลดการสูญเสีย เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง” ซ่างเป่าเหลียนบอกสิงตู้เหยา “บ่าวย่อมเชื่อฟังนายหญิง” พูดจบ สิงตู้เหยาจึงก้าวมาอยู่ตรงหน้าเด็กชาย “เสี่ยวหราน... น้องสาวเจ้านั้น นายหญิงส่งไปร่ำเรียนวิชาต่างๆ ที่สำนักนางชี บนเขาไป๋ซาน ไฉนยังมาตามที่นี่อีก และเท่าที่ข้าจำได้ เจ้าหายตัวไปพร้อมทำเรื่องผิดต่อนายหญิง” “เจี่ย
ทั้งใต้หล้านี้ ข้ากลัวคนผู้เดียว หลายวันผ่านไปกระทั่งถึงช่วงเวลาที่รั่วจิ้งคลอด ความโกลาหลต่างๆ ก็เกิดขึ้น ภายนอกป้อมลับ มีกองกำลังจะบุกเข้ามา คือกลุ่มคนที่เครียดแค้นต่อไคซี และฟ่านเทียนโหว หากยังนับว่าดีที่ มีมือสังหารช่วยตึงกำลังไว้ ยามนั้นโจวซ่งได้ส่งสัญญาณขอหน่วยเสริม พร้อมจัดเตรียมรถม้าสำหรับการหลบหนีของซ่างเป่าเหลียน “ฮูหยิน นับแต่ก้าวจากค่ายทหารของแม่ทัพตงครั้งนั้น ไม่หน้าเชื่อว่า อยู่ที่ใดก็ต้องเดินทางเสมอ” ซ่างเป่าเหลียนหันมาทางหวังตันแล้วตอบว่า “ฟ้าลิขิตไว้เช่นนี้ จำที่ข้าบอกไว้ได้หรือไม่ เมื่อกลับเมืองหลวงเมื่อใด ที่นั่นทุกคนจะอยู่อย่างสงบ และไม่ต้องลำบากหลบหนีศัตรูแน่นอน” “ฮูหยินมั่นใจเช่นนั้น ว่าเราจะได้ไปเมืองหลวง ข้าก็ตั้งตารอจริงๆ ทว่ายามนี้ แคว้นเจียงหนานมีอี้อ๋องเป็นใหญ่ เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ หรือ” “ได้สิ แม่ทัพตงจะเป็นคนพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดี เขาไม่ลืมคำพูดที่ให้ไว้กับข้าแน่นอน” หญิงสาวว่า แล้วมองไปยังรั่วจิ้ง อีกฝ่ายซึ่งมีอาหารเจ็บครรภ์ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนสงบลง อีกทั้งนางใกล้คลอดเต็มที “ข
ไม่ยอมตกเป็นหมากของคนชั่ว ซ่างเป่าเหลียนไม่ได้ยังอยู่ที่ส่วนพักผ่อนของรั่วจิ้ง พอตกค่ำอีกฝ่ายหนาวสั่น ทั้งมีอาการเพ้อ นางมีไข้อ่อนๆ ได้กินยาแล้วดีขึ้นบ้าง ทว่ากลับมีเรื่องให้คิดมากมาย จึงทำให้ป่วยใจ แล้วส่งผลถึงร่างกาย “ฮูหยิน หากเกิดเรื่องร้ายกับนาง จะส่งผลถึงเราหรือไม่เจ้าคะ” คำถามจากหวังตัน ทำให้ซ่างเป่าเหลียนตระหนักได้ว่า ชีวิตทุกคนซึ่งอยู่ที่นี่ เป็นตายรั่วจิ้งล้วนเป็นผู้กำหนด “ขอแค่อย่าประมาท อีกอย่าง... เท่าที่ข้ารู้ อย่างไร รั่วจิ้งก็ไม่มีหมอคนอื่นช่วยนางได้ในยามนี้ และถึงจะหามาได้ก่อนนางคลอด ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ตัวข้ามีความรู้ไม่มากไม่น้อย แต่เชื่อว่า หากนางทำตามที่บอกไว้อย่างเคร่งครัด อย่างไรย่อมได้หลานให้แก่ฟ่านเทียนโหวแน่นอน” ซ่างเป่าเหลียนกล่าวจบ คนที่นางไม่อยากเห็นหน้าที่สุดในยามนี้ก็ปรากฏตัว ไคซีมีสีหน้าที่เครียด น้ำเสียงเขาที่สื่อสารกับซ่างเป่าเหลียนทำให้รู้ว่า มีแผนมากมายในใจ และเขาไม่อยากให้นางอยู่ที่นี่ “ข้าต้องการพูดคุยกับอาเหลียนเพียงลำพัง จงตามข้าไปเถิด” หญิงสาวหันไปส่งสัญญาณให้ หวังตันอีกฝ่าย ไม่ได้แสดงท่าทางตื่นต
รักษาไข้หวัด ซ่างเป่าเหลียนให้ความสนใจกับโรงสมุนไพรของรั่วจิ้งมาก เพราะมีทั้งสิ่งที่ช่วยรักษาโรคและทำให้เกิดพิษ นี่คือความสามารถของคนสกุลฟ่าน ซึ่งนับว่าใช้ประโยชน์ได้ดี ในช่วงนี้ นางยังดูแลรั่วจิ้งอย่างดี ไม่ได้คิดจะวางยา เพื่อให้อีกฝ่ายป่วยไข้ เหตุนี้รั่วจิ้งจึงมีอาการดีวันดีคืน หากสายตาของอีกฝ่ายยังพร่าเบลอ ส่วนการมองเห็นของซ่างเป่าเหลียน กลับมาดีขึ้นเป็นลำดับ ที่โรงสมุนไพรแห่งนี้ นับว่ามีงานให้ทำตลอด ซึ่งหากสำรวจให้ดี แพทย์ที่เห็นอยู่ในกลุ่ม บางคนมาจากค่ายทหารสกุลตง “นายหญิง คนพวกนั้นบ่าวจำได้” “อย่าได้เสียงดังไป ข้าก็รู้เหมือนกับเสี่ยวเหยา เหตุนี้ จึงทำให้แม่ทัพตงมีพิษตกค้างในร่างกาย คงเป็นเพราะมีสายลับของฟ่านเทียนโหวปะปนอยู่มิน้อย เจ้ารู้หรือไม่ ผู้ใดดูแลเรื่องเสบียง และยารักษาโรคของสกุลตง” สิงตู้เหยาคิดอยู่พักใหญ่ นางก็ร้องอ๋อ “หากจำไม่ผิด คุณชายห้าและสกุลเดิมของเขาเจ้าค่ะ” “เยี่ยงนั้น ทุกอย่างก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ยามนี้ การที่ข้ามาอยู่ที่นี่ นับว่าฟ้าลิขิตไว้ เอาล่ะ จากนี้เราต้องปรุงยาไว้หลายเทียบ เพื่อใช้
ข้อแลกเปลี่ยน นอกจากซุนหรานที่มีระเบิดผูกไว้กับร่างกาย คนในโรงเตี๊ยมอีกหลายคนก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากเด็กชาย และนั่นทำให้ซ่างเป่าเหลียนต้องตัดสินใจด่วนว่าจะทำเช่นไร “ฮูหยิน เสี่ยงอันตรายเกิดไป อีกอย่างแม้จะช่วยอีกฝ่ายให้คลอดสำเร็จ แต่ท่านจะถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ดี” ซ่างเป่าเหลียนพยักหน้าเข้าใจ และตอบหวังตัน “ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยถูกรั่วจิ้งจับเป็นตัวประกัน แต่ยามนี้นางคงต้องการตัวข้า นั่นทำให้รู้ว่าครรภ์นางมีปัญหาแน่นอน อีกอย่างจนกว่านางจะคลอด และเด็กปลอดภัยดี ข้าย่อมมีชีวิตอยู่ แม่บ้านหวังคิดว่า ช่วงเวลาดังกล่าว แม่ทัพตงจะทำการสำเร็จหรือไม่” หวังตันไม่อยากตอบเรื่องนี้ และนางโอดครวญว่า “อย่างไร ท่านจะเป็นตัวประกันฝ่ายฟ่านเทียนโหวไม่ได้” “ที่แม่บ้านหวังกล่าวมาถูกต้อง แต่ความปลอดภัยของข้า สำคัญก็ส่วนหนึ่ง แต่ไม่เท่ากับสิ่งที่แม่ทัพตงกำลังกระทำอยู่” “ฮูหยินหมายถึง...” “เมื่อข้าอยู่กับศัตรู ย่อมรักษาชีวิตตนกับเด็กในครรภ์ไว้ได้ ฟังแล้วอาจเป็นเรื่องน่าขัน แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องหนีไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจทำให้มีคนล้มตายมากมาย อีกอย่
ซ่างเป่าเหลียนออกจากเรือนบ้านสวนด้วยรถม้า และใช้เวลาเดินทางเพียงประเดี๋ยวเดียว ถ้ำดังกล่าวอยู่ไม่ไกลนัก แต่ลับตาคน ทั้งมีค่ายกลด้วย ยามนี้สิงตู้เหยาทำความสะอาดบาดแผลเบื้องตนให้เด็กทั้งสองแล้ว ฝ่ายลู่เถียนหลับสนิท กระนั้นยังมีน้ำตาไหลอาบข้างแก้ม ส่วนซุนหรานอาการน่าเป็นห่วง ซ่างเป่าเหลียนหยิบของออกมาจากหีบยาเทพธิดา นางต้องเอาลูกธนูออก และฉีดยาให้เขา ยามนั้นมีทั้งหวังตัน และสิงตู้เหยาเป็นลูกมือ ส่วนโจวซ่งดูต้นทางด้านนอก การรักษาเด็กทั้งคู่แม้จะยุ่งยากสักหน่อย แต่เป็นไปด้วยดี ซึ่งทั้งหวังตัน สิงตู้เหยานับว่าที่มีความก้าวหน้ายอดเยี่ยม ในการปฐมพยาบาล จึงผ่อนแรงของซ่างเป่าเหลียนไปได้มาก ทว่าตลอดเวลาที่ซ่างเป่าเหลียนวุ่นวายอยู่นั้น เสี่ยวซานสนุกที่นางเลี้ยง แสดงพฤติกรรมแปลกๆ เดี๋ยวเห่า ขู่ และวิ่งไปมาด้านนอก “คงมีบางสิ่งที่ผิดปกติ เสี่ยวเหยาออกไปดูด้านนอก และให้อาซ่งตรวจสอบทุกอย่างมากกว่าปกติ” หญิงสาวบอกอีกฝ่าย สิงตู้เหยารู้ว่าความต้องการของนางคือสิ่งใด ฝ่ายโจวซ่งได้รับข้อมูลจากนกพิราบสื่อสาร แจ้งว่ายามนี้มีการเคลื่อนไหวของไคซี เรื่องนี้
ซุนหรานกับลู่เถียน หากนับเวลาแล้ว ตอนนี้เกือบสี่เดือนเศษที่ซ่างเป่าเหลียนมาอยู่เรือนบ้านสวน ซึ่งของใช้ต่างๆ นางมีครบ ถึงอย่างนั้นยังขาดบางส่วนที่ต้องการ เป็นเกลือบ้าง แป้งทำขนมบ้าง รวมถึงด้ายที่ใช้เย็บผ้า อนึ่งด้วยสิงตู้เหยายังเป็นเด็กสาว การให้นางได้ออกไปสูดอากาศด้านนอก ย่อมเป็นสิ่งที่ดี “เสี่ยวเหยาห้ามเหลวไหลเชียว ได้ของแล้วจงกลับทันที และอาซ่งสั่งสิ่งใด เจ้าต้องเชื่อฟังเขา” “แม่บ้านหวัง ข้าเป็นเด็กดี ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อคำสั่งสักครั้ง ไม่อย่างนั้นนายหญิงจะอนุญาต ให้ไปซื้อของหรือ” สิงตู้เหยาตอบ และมองไปยังท้องของซ่างเป่าเหลียน มันโตขึ้นมาก ด้วยเหตุนี้ ทุกอย่างจึงต้องรีบเตรียมการแต่เนิ่นๆ “นายหญิงเจ้าคะ บ่าวจะซื้อของเล่นมาไว้ให้คุณชายน้อยด้วย” สิงตู้เหยาว่าแล้วก็ล้วงเข้าไปในอกเสื้อ นางมีเงินอยู่จำนวนหนึ่ง เก็บไว้ตั้งแต่เริ่มทำงาน และมากพอจะซื้อสิ่งของได้ตามใจ “อย่าลำบากเลยเสี่ยวเหยา สิ่งใดที่เจ้าอยากได้ ซื้อให้ตนเถิด ส่วนลูกของข้านั้น หากประหยัดได้ นับว่าดี” แม้ได้ยินอย่างนั้น แต่สิงตู้เหยาอยากซื้อทั้งกำไรข้อมือ ข้อเท้า รวมถึงเส
สามีเดินทางไกล ตงเยี่ยหรงไม่อยากห่างจากซ่างเป่าเหลียนสักเท่าใด ตัวนางก็ไม่ได้ทำให้เขาเป็นกังวล “เดินทางไกลเช่นนี้ เทียนเกอรักษาตัวด้วย” นางบอกเขาและมองดูม้าตัวโต กับสิ่งของต่างๆ ที่จัดเตรียมให้ชายหนุ่ม ยามนี้ใจโหวงพิกล แต่ก็ไม่คิดเอ่ยสิ่งใดที่จะทำให้เขาคิดมาก “ลูกเต่าน้อย ลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อใด ข้าจะมารับขวัญเขาทันที” “ได้ ข้าจะรอให้ท่านเรียกชื่อของเขาเป็นคนแรก หากไม่พบหน้าท่าน เด็กคนนี้จะไร้แซ่ ไร้ชื่อ” นางประกาศเช่นนั้น คนที่ยืนด้านหลังออกไป ก็อดใจคอไม่ดี เนื่องจากรู้ว่า สถานการณ์บ้านเมืองคับขันมาก แต่ซ่างเป่าเหลียนอ่านนิยายเรื่องนี้จบแล้ว อย่างไรตงเยี่ยหรงก็มีชีวิตรอด ส่วนเจ้าของร่างแม้ชีวิตพลิกผลัน แต่ก็อยู่จนวาระสุดท้ายของหน้านิยาย และนี่จะทำให้นางใช้ความรู้ ที่มีเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ส่วนตงเยี่ยหรงก็ปกป้องราษฎรและบ้านเมืองนั่นคือสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุด และยามนี้ สถานการณ์บีบบังคับเหลือเกิน ฟ่านเทียนโหวได้ยึดครองพื้นที่ต่างๆ ของแคว้นเจียงหนาน โดยเป็นฝ่ายหนุนหลังหลี่หว่านอี้ (องค์ชายสี่) ฝ่ายนั้นยอมพลีชีพทั้งพระชายาของตน รวมถึงลูกชา